Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā

    ๙. ทานสุตฺตวณฺณนา

    9. Dānasuttavaṇṇanā

    ๙๘. นวเม ทานนฺติ ทาตพฺพํ, สวตฺถุกา วา เจตนา ทานํ, สมฺปตฺติปริจฺจาคเสฺสตํ อธิวจนํฯ อามิสทานนฺติ จตฺตาโร ปจฺจยา เทยฺยภาววเสน อามิสทานํ นามฯ เต หิ ตณฺหาทีหิ อามสิตพฺพโต อามิสนฺติ วุจฺจนฺติฯ เตสํ วา ปริจฺจาคเจตนา อามิสทานํฯ ธมฺมทานนฺติ อิเธกโจฺจ ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม วิญฺญุครหิตา, อิเม วิญฺญุปฺปสตฺถา; อิเม สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, อิเม หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ กุสลากุสลกมฺมปเถ วิภชโนฺต กมฺมกมฺมวิปาเก อิธโลกปรโลเก ปจฺจกฺขโต ทเสฺสโนฺต วิย ปากฎํ กโรโนฺต อกุสเลหิ ธเมฺมหิ นิวตฺตาเปโนฺต, กุสเลสุ ธเมฺมสุ ปติฎฺฐาเปโนฺต, ธมฺมํ เทเสติ, อิทํ ธมฺมทานํฯ โย ปน ‘‘อิเม ธมฺมา อภิเญฺญยฺยา , อิเม ปริเญฺญยฺยา, อิเม ปหาตพฺพา, อิเม สจฺฉิกาตพฺพา, อิเม ภาเวตพฺพา’’ติ สจฺจานิ วิภาเวโนฺต อมตาธิคมาย ปฎิปตฺติธมฺมํ เทเสติ, อิทํ สิขาปฺปตฺตํ ธมฺมทานํ นามฯ เอตทคฺคนฺติ เอตํ อคฺคํฯ ยทิทนฺติ ยํ อิทํ ธมฺมทานํ วุตฺตํ, เอตํ อิเมสุ ทฺวีสุ ทาเนสุ อคฺคํ เสฎฺฐํ อุตฺตมํฯ วิวฎฺฎคามิธมฺมทานญฺหิ นิสฺสาย สพฺพานตฺถโต ปริมุจฺจติ, สกลํ วฎฺฎทุกฺขํ อติกฺกมติฯ โลกิยํ ปน ธมฺมทานํ สเพฺพสํ ทานานํ นิทานํ สพฺพสมฺปตฺตีนํ มูลํฯ เตนาห –

    98. Navame dānanti dātabbaṃ, savatthukā vā cetanā dānaṃ, sampattipariccāgassetaṃ adhivacanaṃ. Āmisadānanti cattāro paccayā deyyabhāvavasena āmisadānaṃ nāma. Te hi taṇhādīhi āmasitabbato āmisanti vuccanti. Tesaṃ vā pariccāgacetanā āmisadānaṃ. Dhammadānanti idhekacco ‘‘ime dhammā kusalā, ime dhammā akusalā, ime dhammā sāvajjā, ime dhammā anavajjā, ime viññugarahitā, ime viññuppasatthā; ime samattā samādinnā ahitāya dukkhāya saṃvattanti, ime hitāya sukhāya saṃvattantī’’ti kusalākusalakammapathe vibhajanto kammakammavipāke idhalokaparaloke paccakkhato dassento viya pākaṭaṃ karonto akusalehi dhammehi nivattāpento, kusalesu dhammesu patiṭṭhāpento, dhammaṃ deseti, idaṃ dhammadānaṃ. Yo pana ‘‘ime dhammā abhiññeyyā , ime pariññeyyā, ime pahātabbā, ime sacchikātabbā, ime bhāvetabbā’’ti saccāni vibhāvento amatādhigamāya paṭipattidhammaṃ deseti, idaṃ sikhāppattaṃ dhammadānaṃ nāma. Etadagganti etaṃ aggaṃ. Yadidanti yaṃ idaṃ dhammadānaṃ vuttaṃ, etaṃ imesu dvīsu dānesu aggaṃ seṭṭhaṃ uttamaṃ. Vivaṭṭagāmidhammadānañhi nissāya sabbānatthato parimuccati, sakalaṃ vaṭṭadukkhaṃ atikkamati. Lokiyaṃ pana dhammadānaṃ sabbesaṃ dānānaṃ nidānaṃ sabbasampattīnaṃ mūlaṃ. Tenāha –

    ‘‘สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ, สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ;

    ‘‘Sabbadānaṃ dhammadānaṃ jināti, sabbarasaṃ dhammaraso jināti;

    สพฺพรติํ ธมฺมรตี ชินาติ, ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาตี’’ติฯ (ธ. ป. ๓๕๔) –

    Sabbaratiṃ dhammaratī jināti, taṇhakkhayo sabbadukkhaṃ jinātī’’ti. (dha. pa. 354) –

    อภยทานเมตฺถ ธมฺมทาเนเนว สงฺคหิตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Abhayadānamettha dhammadāneneva saṅgahitanti daṭṭhabbaṃ.

    สาธารณโภคิตาธิปฺปาเยน อตฺตนา ปริภุญฺชิตพฺพโต จตุปจฺจยโต สยเมว อภุญฺชิตฺวา ปเรสํ สํวิภชนํ อามิสสํวิภาโคฯ สาธารณโภคิตาธิปฺปาเยเนว อตฺตนา วิทิตสฺส อธิคตสฺส ธมฺมสฺส อโปฺปสฺสุโกฺก อหุตฺวา ปเรสํ อุปเทโส ธมฺมสํวิภาโคฯ จตูหิ ปจฺจเยหิ จตูหิ จ สงฺคหวตฺถูหิ ปเรสํ อนุคฺคณฺหนํ อนุกมฺปนํ อามิสานุคฺคโหฯ วุตฺตนเยเนว ธเมฺมน ปเรสํ อนุคฺคณฺหนํ อนุกมฺปนํ ธมฺมานุคฺคโหฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

    Sādhāraṇabhogitādhippāyena attanā paribhuñjitabbato catupaccayato sayameva abhuñjitvā paresaṃ saṃvibhajanaṃ āmisasaṃvibhāgo. Sādhāraṇabhogitādhippāyeneva attanā viditassa adhigatassa dhammassa appossukko ahutvā paresaṃ upadeso dhammasaṃvibhāgo. Catūhi paccayehi catūhi ca saṅgahavatthūhi paresaṃ anuggaṇhanaṃ anukampanaṃ āmisānuggaho. Vuttanayeneva dhammena paresaṃ anuggaṇhanaṃ anukampanaṃ dhammānuggaho. Sesaṃ vuttanayameva.

    คาถาสุ ยมาหุ ทานํ ปรมนฺติ ยํ ทานํ จิตฺตเขตฺตเทยฺยธมฺมานํ อุฬารภาเวน ปรมํ อุตฺตมํ, โภคสมฺปตฺติอาทีนํ วา ปูรณโต ผลนโต, ปรสฺส วา โลภมจฺฉริยาทิกสฺส ปฎิปกฺขสฺส มทฺทนโต หิํสนโต ‘‘ปรม’’นฺติ พุทฺธา ภควโนฺต อาหุฯ อนุตฺตรนฺติ ยํ ทานํ เจตนาทิสมฺปตฺติยา สาติสยปวตฺติยา อคฺคภาเวน อคฺควิปากตฺตา จ อุตฺตรรหิตํ อนุตฺตรภาวสาธนํ จาติ อาหุฯ ยํ สํวิภาคนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘ปรมํ อนุตฺตร’’นฺติ ปททฺวยํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํฯ อวณฺณยีติ กิตฺตยิ, ‘‘โภชนํ, ภิกฺขเว, ททมาโน ทายโก ปฎิคฺคาหกานํ ปญฺจ ฐานานิ เทตี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๕.๓๗), ‘‘เอวํ เจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ชาเนยฺยุํ ทานสํวิภาคสฺส วิปาก’’นฺติอาทินา (อิติวุ. ๒๖) จ ปสํสยิฯ ยถา ปน ทานํ สํวิภาโค จ ปรมํ อนุตฺตรญฺจ โหติ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘อคฺคมฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อคฺคมฺหีติ สีลาทิคุณวิเสสโยเคน เสเฎฺฐ อนุตฺตเร ปุญฺญเกฺขเตฺต สมฺมาสมฺพุเทฺธ อริยสเงฺฆ จฯ ปสนฺนจิโตฺตติ กมฺมผลสทฺธาย รตนตฺตยสทฺธาย จ จิตฺตํ ปสาเทโนฺต โอกเปฺปโนฺตฯ จิตฺตสมฺปตฺติยา หิ เขตฺตสมฺปตฺติยา จ ปริเตฺตปิ เทยฺยธเมฺม ทานํ มหานุภาวํ โหติ มหาชุติกํ มหาวิปฺผารํฯ วุตฺตเญฺหตํ –

    Gāthāsu yamāhu dānaṃ paramanti yaṃ dānaṃ cittakhettadeyyadhammānaṃ uḷārabhāvena paramaṃ uttamaṃ, bhogasampattiādīnaṃ vā pūraṇato phalanato, parassa vā lobhamacchariyādikassa paṭipakkhassa maddanato hiṃsanato ‘‘parama’’nti buddhā bhagavanto āhu. Anuttaranti yaṃ dānaṃ cetanādisampattiyā sātisayapavattiyā aggabhāvena aggavipākattā ca uttararahitaṃ anuttarabhāvasādhanaṃ cāti āhu. Yaṃ saṃvibhāganti etthāpi ‘‘paramaṃ anuttara’’nti padadvayaṃ ānetvā yojetabbaṃ. Avaṇṇayīti kittayi, ‘‘bhojanaṃ, bhikkhave, dadamāno dāyako paṭiggāhakānaṃ pañca ṭhānāni detī’’tiādinā (a. ni. 5.37), ‘‘evaṃ ce, bhikkhave, sattā jāneyyuṃ dānasaṃvibhāgassa vipāka’’ntiādinā (itivu. 26) ca pasaṃsayi. Yathā pana dānaṃ saṃvibhāgo ca paramaṃ anuttarañca hoti, taṃ dassetuṃ ‘‘aggamhī’’tiādi vuttaṃ. Tattha aggamhīti sīlādiguṇavisesayogena seṭṭhe anuttare puññakkhette sammāsambuddhe ariyasaṅghe ca. Pasannacittoti kammaphalasaddhāya ratanattayasaddhāya ca cittaṃ pasādento okappento. Cittasampattiyā hi khettasampattiyā ca parittepi deyyadhamme dānaṃ mahānubhāvaṃ hoti mahājutikaṃ mahāvipphāraṃ. Vuttañhetaṃ –

    ‘‘นตฺถิ จิเตฺต ปสนฺนมฺหิ, อปฺปกา นาม ทกฺขิณา;

    ‘‘Natthi citte pasannamhi, appakā nāma dakkhiṇā;

    ตถาคเต วา สมฺพุเทฺธ, อถ วา ตสฺส สาวเก’’ติฯ (วิ. ว. ๘๐๔; เนตฺติ. ๙๕);

    Tathāgate vā sambuddhe, atha vā tassa sāvake’’ti. (vi. va. 804; netti. 95);

    วิญฺญูติ สปฺปโญฺญฯ ปชานนฺติ สมฺมเทว ทานผลํ ทานานิสํสํ ปชานโนฺตฯ โก น ยเชถ กาเลติ ยุตฺตปฺปตฺตกาเล โก นาม ทานํ น ทเทยฺย? สทฺธา, เทยฺยธโมฺม, ปฎิคฺคาหกาติ อิเมสํ ติณฺณํ สมฺมุขิภูตกาเลเยว หิ ทานํ สมฺภวติ, น อญฺญถา, ปฎิคฺคาหกานํ วา ทาตุํ ยุตฺตกาเลฯ

    Viññūti sappañño. Pajānanti sammadeva dānaphalaṃ dānānisaṃsaṃ pajānanto. Ko na yajetha kāleti yuttappattakāle ko nāma dānaṃ na dadeyya? Saddhā, deyyadhammo, paṭiggāhakāti imesaṃ tiṇṇaṃ sammukhibhūtakāleyeva hi dānaṃ sambhavati, na aññathā, paṭiggāhakānaṃ vā dātuṃ yuttakāle.

    เอวํ ปฐมคาถาย อามิสทานสํวิภาคานุคฺคเห ทเสฺสตฺวา อิทานิ ธมฺมทานสํวิภาคานุคฺคเห ทเสฺสตุํ ‘‘เย เจว ภาสนฺตี’’ติ ทุติยคาถมาหฯ ตตฺถ อุภยนฺติ ‘‘ภาสนฺติ สุณนฺตี’’ติ วุตฺตา เทสกา ปฎิคฺคาหกาติ อุภยํฯ อยํ ปเนตฺถ สเงฺขปโตฺถ – เย สุคตสฺส ภควโต สาสเน สทฺธเมฺม ปสนฺนจิตฺตา วิมุตฺตายตนสีเส ฐตฺวา เทเสนฺติ ปฎิคฺคณฺหนฺติ จ, เตสํ เทสกปฎิคฺคาหกานํ โส ธมฺมทานธมฺมสํวิภาคธมฺมานุคฺคหสงฺขาโต อโตฺถฯ ปรมตฺถสาธนโต ปรโมฯ ตณฺหาสํกิเลสาทิสพฺพสํกิเลสมลวิโสธเนน วิสุชฺฌติฯ กีทิสานํ? เย อปฺปมตฺตา สุคตสฺส สาสเนฯ เย จ –

    Evaṃ paṭhamagāthāya āmisadānasaṃvibhāgānuggahe dassetvā idāni dhammadānasaṃvibhāgānuggahe dassetuṃ ‘‘ye ceva bhāsantī’’ti dutiyagāthamāha. Tattha ubhayanti ‘‘bhāsanti suṇantī’’ti vuttā desakā paṭiggāhakāti ubhayaṃ. Ayaṃ panettha saṅkhepattho – ye sugatassa bhagavato sāsane saddhamme pasannacittā vimuttāyatanasīse ṭhatvā desenti paṭiggaṇhanti ca, tesaṃ desakapaṭiggāhakānaṃ so dhammadānadhammasaṃvibhāgadhammānuggahasaṅkhāto attho. Paramatthasādhanato paramo. Taṇhāsaṃkilesādisabbasaṃkilesamalavisodhanena visujjhati. Kīdisānaṃ? Ye appamattā sugatassa sāsane. Ye ca –

    ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

    ‘‘Sabbapāpassa akaraṇaṃ, kusalassa upasampadā;

    สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติฯ (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓) –

    Sacittapariyodapanaṃ, etaṃ buddhāna sāsana’’nti. (dī. ni. 2.90; dha. pa. 183) –

    สเงฺขปโต เอวํ ปกาสิเต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน โอวาเท อนุสิฎฺฐิยํ อปฺปมตฺตา อธิสีลสิกฺขาทโย สกฺกจฺจํ สมฺปาเทนฺติฯ เตสํ วิสุชฺฌติ, อรหตฺตผลวิสุทฺธิยา อติวิย โวทายตีติฯ

    Saṅkhepato evaṃ pakāsite sammāsambuddhassa sāsane ovāde anusiṭṭhiyaṃ appamattā adhisīlasikkhādayo sakkaccaṃ sampādenti. Tesaṃ visujjhati, arahattaphalavisuddhiyā ativiya vodāyatīti.

    นวมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Navamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๙. ทานสุตฺตํ • 9. Dānasuttaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact