Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา
10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā
๒๖๓. ทสมสิกฺขาปเท – จตูสุ ปจฺจเยสุ อนฺตมโส ทนฺตกฎฺฐมฺปิ สพฺพํ ปํสุกูลเมว อสฺสาติ สพฺพปํสุกูลิโกฯ โส กิร สุสาเน ฉฑฺฑิตภาชนเมว ปตฺตํ กตฺวา ตตฺถ ฉฑฺฑิตโจฬเกเหว จีวรํ กตฺวา ตตฺถ ฉฑฺฑิตมญฺจปีฐกานิเยว คเหตฺวา ปริภุญฺชติฯ อยฺยโวสาฎิตกานีติ เอตฺถ อยฺยา วุจฺจนฺติ กาลงฺกตา ปิติปิตามหาฯ โวสาฎิตกานิ วุจฺจนฺติ เตสํ อตฺถาย สุสานาทีสุ ฉฑฺฑิตกานิ ขาทนียโภชนียานิ; มนุสฺสา กิร กาลงฺกเต ญาตเก อุทฺทิสฺส ยํ เตสํ สชีวกาเล ปิยํ โหติ, ตํ เอเตสุ สุสานาทีสุ ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ กตฺวา ‘‘ญาตกา โน ปริภุญฺชนฺตูติ ฐเปนฺติฯ โส ภิกฺขุ ตํ คเหตฺวา ภุญฺชติ, อญฺญํ ปณีตมฺปิ ทิยฺยมานํ น อิจฺฉติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘สุสาเนปิ รุกฺขมูเลปิ อุมฺมาเรปิ อยฺยโวสาฎิตกานิ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชตี’’ติฯ เถโรติ ถิโร ฆนพโทฺธฯ วฐโรติ ถูโล; ถูโล จ ฆนสรีโร จายํ ภิกฺขูติ วุตฺตํ โหติฯ มนุสฺสมํสํ มเญฺญ ขาทตีติ มนุสฺสมํสํ ขาทตีติ นํ สลฺลเกฺขม; มนุสฺสมํสํ ขาทนฺตา หิ อีทิสา ภวนฺตีติ อยํ เตสํ อธิปฺปาโยฯ
263. Dasamasikkhāpade – catūsu paccayesu antamaso dantakaṭṭhampi sabbaṃ paṃsukūlameva assāti sabbapaṃsukūliko. So kira susāne chaḍḍitabhājanameva pattaṃ katvā tattha chaḍḍitacoḷakeheva cīvaraṃ katvā tattha chaḍḍitamañcapīṭhakāniyeva gahetvā paribhuñjati. Ayyavosāṭitakānīti ettha ayyā vuccanti kālaṅkatā pitipitāmahā. Vosāṭitakāni vuccanti tesaṃ atthāya susānādīsu chaḍḍitakāni khādanīyabhojanīyāni; manussā kira kālaṅkate ñātake uddissa yaṃ tesaṃ sajīvakāle piyaṃ hoti, taṃ etesu susānādīsu piṇḍaṃ piṇḍaṃ katvā ‘‘ñātakā no paribhuñjantūti ṭhapenti. So bhikkhu taṃ gahetvā bhuñjati, aññaṃ paṇītampi diyyamānaṃ na icchati. Tena vuttaṃ – ‘‘susānepi rukkhamūlepi ummārepi ayyavosāṭitakāni sāmaṃ gahetvā paribhuñjatī’’ti. Theroti thiro ghanabaddho. Vaṭharoti thūlo; thūlo ca ghanasarīro cāyaṃ bhikkhūti vuttaṃ hoti. Manussamaṃsaṃ maññe khādatīti manussamaṃsaṃ khādatīti naṃ sallakkhema; manussamaṃsaṃ khādantā hi īdisā bhavantīti ayaṃ tesaṃ adhippāyo.
๒๖๔. อุทกทนฺตโปเน กุกฺกุจฺจายนฺตีติ เอตฺถ เต ภิกฺขู ‘‘อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหเรยฺยา’’ติ ปทสฺส สมฺมา อตฺถํ อสลฺลเกฺขตฺวา กุกฺกุจฺจายิสุํ, ภควา ปน ยถาอุปฺปนฺนสฺส วตฺถุสฺส วเสน ปิตา วิย ทารเก เต ภิกฺขู สญฺญาเปโนฺต อนุปญฺญตฺติํ ฐเปสิฯ
264.Udakadantapone kukkuccāyantīti ettha te bhikkhū ‘‘adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āhareyyā’’ti padassa sammā atthaṃ asallakkhetvā kukkuccāyisuṃ, bhagavā pana yathāuppannassa vatthussa vasena pitā viya dārake te bhikkhū saññāpento anupaññattiṃ ṭhapesi.
๒๖๕. อทินฺนนฺติ กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา คณฺหนฺตสฺส กายกายปฎิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อญฺญตรวเสน น ทินฺนํฯ เอตเทว หิ สนฺธาย ปทภาชเน ‘‘อทินฺนํ นาม อปฺปฎิคฺคหิตกํ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํฯ ทุติยปาราชิเก ปน ‘‘อทินฺนํ นาม ปรปริคฺคหิตกํ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํฯ ทินฺนนฺติ อิทํ ปน ตเสฺสว อทินฺนสฺส ปฎิปกฺขวเสน ลกฺขณทสฺสนตฺถํ อุทฺธฎํฯ นิเทฺทเส จสฺส ‘‘กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทเนฺต’’ติ เอวํ อญฺญสฺมิํ ททมาเน ‘‘หตฺถปาเส ฐิโต กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา ปฎิคฺคณฺหาตีติ ตํ เอวํ ทิยฺยมานํ อนฺตมโส รถเรณุมฺปิ สเจ ปุเพฺพ วุตฺตลกฺขเณ หตฺถปาเส ฐิโต กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา ปฎิคฺคณฺหาติ, เอตํ เอวํ ปฎิคฺคหิตํ ทินฺนํ นาม วุจฺจติฯ น ‘‘อิทํ คณฺห, อิทํ ตว โหตู’’ติอาทิวจเนน นิสฺสฎฺฐํฯ
265.Adinnanti kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā gaṇhantassa kāyakāyapaṭibaddhanissaggiyānaṃ aññataravasena na dinnaṃ. Etadeva hi sandhāya padabhājane ‘‘adinnaṃ nāma appaṭiggahitakaṃ vuccatī’’ti vuttaṃ. Dutiyapārājike pana ‘‘adinnaṃ nāma parapariggahitakaṃ vuccatī’’ti vuttaṃ. Dinnanti idaṃ pana tasseva adinnassa paṭipakkhavasena lakkhaṇadassanatthaṃ uddhaṭaṃ. Niddese cassa ‘‘kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā nissaggiyena vā dente’’ti evaṃ aññasmiṃ dadamāne ‘‘hatthapāse ṭhito kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā paṭiggaṇhātīti taṃ evaṃ diyyamānaṃ antamaso rathareṇumpi sace pubbe vuttalakkhaṇe hatthapāse ṭhito kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā paṭiggaṇhāti, etaṃ evaṃ paṭiggahitaṃ dinnaṃ nāma vuccati. Na ‘‘idaṃ gaṇha, idaṃ tava hotū’’tiādivacanena nissaṭṭhaṃ.
ตตฺถ กาเยนาติ หตฺถาทีสุ เยน เกนจิ สรีราวยเวน; อนฺตมโส ปาทงฺคุลิยาปิ ทิยฺยมานํ กาเยน ทินฺนํ นาม โหติ, ปฎิคฺคหเณปิ เอเสว นโยฯ เยน เกนจิ หิ สรีราวยเวน คหิตํ กาเยน คหิตเมว โหติฯ สเจปิ นตฺถุกรณิยา ทิยฺยมานํ นาสาปุเฎน อกลฺลโก วา มุเขน ปฎิคฺคณฺหาติฯ อาโภคมตฺตเมว หิ เอตฺถ ปมาณนฺติ อยํ นโย มหาปจฺจริยํ วุโตฺตฯ กายปฎิพเทฺธนาติ กฎจฺฉุอาทีสุ เยน เกนจิ อุปกรเณน ทินฺนํ กายปฎิพเทฺธน ทินฺนํ นาม โหติฯ ปฎิคฺคหเณปิ เอเสว นโยฯ เยน เกนจิ สรีรปฎิพเทฺธน ปตฺตถาลกาทินา คหิตํ กายปฎิพเทฺธน คหิตเมว โหติฯ นิสฺสคฺคิเยนาติ กายโต จ กายปฎิพทฺธโต จ โมเจตฺวา หตฺถปาเส ฐิตสฺส กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา ปาติยมานมฺปิ นิสฺสคฺคิเยน ปโยเคน ทินฺนํ นาม โหติฯ อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนาฯ
Tattha kāyenāti hatthādīsu yena kenaci sarīrāvayavena; antamaso pādaṅguliyāpi diyyamānaṃ kāyena dinnaṃ nāma hoti, paṭiggahaṇepi eseva nayo. Yena kenaci hi sarīrāvayavena gahitaṃ kāyena gahitameva hoti. Sacepi natthukaraṇiyā diyyamānaṃ nāsāpuṭena akallako vā mukhena paṭiggaṇhāti. Ābhogamattameva hi ettha pamāṇanti ayaṃ nayo mahāpaccariyaṃ vutto. Kāyapaṭibaddhenāti kaṭacchuādīsu yena kenaci upakaraṇena dinnaṃ kāyapaṭibaddhena dinnaṃ nāma hoti. Paṭiggahaṇepi eseva nayo. Yena kenaci sarīrapaṭibaddhena pattathālakādinā gahitaṃ kāyapaṭibaddhena gahitameva hoti. Nissaggiyenāti kāyato ca kāyapaṭibaddhato ca mocetvā hatthapāse ṭhitassa kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā pātiyamānampi nissaggiyena payogena dinnaṃ nāma hoti. Ayaṃ tāva pāḷivaṇṇanā.
อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – ปญฺจเงฺคหิ ปฎิคฺคหณํ รุหติ – ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุจฺจารณมตฺตํ โหติ, หตฺถปาโส ปญฺญายติ, อภิหาโร ปญฺญายติ, เทโว วา มนุโสฺส วา ติรจฺฉานคโต วา กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทติ, ตํ เจ ภิกฺขุ กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา ปฎิคฺคณฺหาติฯ เอวํ ปญฺจหเงฺคหิ ปฎิคฺคหณํ รุหติฯ
Ayaṃ panettha pāḷimuttakavinicchayo – pañcaṅgehi paṭiggahaṇaṃ ruhati – thāmamajjhimassa purisassa uccāraṇamattaṃ hoti, hatthapāso paññāyati, abhihāro paññāyati, devo vā manusso vā tiracchānagato vā kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā nissaggiyena vā deti, taṃ ce bhikkhu kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā paṭiggaṇhāti. Evaṃ pañcahaṅgehi paṭiggahaṇaṃ ruhati.
ตตฺถ ฐิตนิสินฺนนิปนฺนานํ ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว หตฺถปาโส เวทิตโพฺพฯ สเจ ปน ทายกปฎิคฺคาหเกสุ เอโก อากาเส โหติ, เอโก ภูมิยํ, ภูมฎฺฐสฺส จ สีเสน อากาสฎฺฐสฺส จ ฐเปตฺวา ทาตุํ วา คเหตุํ วา ปสาริตหตฺถํ, ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมเนฺตน หตฺถปาสปฺปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํฯ สเจปิ เอโก กูเป โหติ, เอโก กูปตเฎ, เอโก วา ปน รุเกฺข, เอโก ปถวิยํ, วุตฺตนเยเนว หตฺถปาสปฺปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํฯ เอวรูเป หตฺถปาเส ฐตฺวา สเจปิ ปกฺขี มุขตุณฺฑเกน วา หตฺถี วา โสณฺฑาย คเหตฺวา ปุปฺผํ วา ผลํ วา เทติ, ปฎิคฺคหณํ รุหติฯ สเจ ปน อทฺธฎฺฐมรตนสฺสาปิ หตฺถิโน ขเนฺธ นิสิโนฺน, เตน โสณฺฑาย ทิยฺยมานํ คณฺหาติ, วฎฺฎติเยวฯ
Tattha ṭhitanisinnanipannānaṃ pavāraṇasikkhāpade vuttanayeneva hatthapāso veditabbo. Sace pana dāyakapaṭiggāhakesu eko ākāse hoti, eko bhūmiyaṃ, bhūmaṭṭhassa ca sīsena ākāsaṭṭhassa ca ṭhapetvā dātuṃ vā gahetuṃ vā pasāritahatthaṃ, yaṃ āsannataraṃ aṅgaṃ, tassa orimantena hatthapāsappamāṇaṃ paricchinditabbaṃ. Sacepi eko kūpe hoti, eko kūpataṭe, eko vā pana rukkhe, eko pathaviyaṃ, vuttanayeneva hatthapāsappamāṇaṃ paricchinditabbaṃ. Evarūpe hatthapāse ṭhatvā sacepi pakkhī mukhatuṇḍakena vā hatthī vā soṇḍāya gahetvā pupphaṃ vā phalaṃ vā deti, paṭiggahaṇaṃ ruhati. Sace pana addhaṭṭhamaratanassāpi hatthino khandhe nisinno, tena soṇḍāya diyyamānaṃ gaṇhāti, vaṭṭatiyeva.
เอโก พหูนิ ภตฺตพฺยญฺชนภาชนานิ สีเส กตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ฐิตโกว คณฺหถาติ วทติ, น ตาว อภิหาโร ปญฺญายติ, ตสฺมา น คเหตพฺพํฯ สเจ ปน อีสกมฺปิ โอนมติ, ภิกฺขุนา หตฺถํ ปสาเรตฺวา เหฎฺฐิมภาชนํ เอกเทเสนาปิ สมฺปฎิจฺฉิตพฺพํฯ เอตฺตาวตา สพฺพภาชนานิ ปฎิคฺคหิตานิ โหนฺติ, ตโต ปฎฺฐาย โอโรเปตฺวา วา อุคฺฆาเฎตฺวา วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ คเหตฺวา ภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ สภตฺตปจฺฉิอาทิมฺหิ ปน เอกภาชเน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, กาเชน ภตฺตํ หรโนฺตปิ สเจ กาชํ โอนาเมตฺวา เทติ, วฎฺฎติฯ ติํสหโตฺถ เวณุ โหติ, เอกสฺมิํ อเนฺต คุฬกุโมฺภ พโทฺธ, เอกสฺมิํ สปฺปิกุโมฺภ, ตเญฺจ ปฎิคฺคณฺหาติ, สพฺพํ ปฎิคฺคหิตเมวฯ อุจฺฉุยนฺตโทณิโต ปคฺฆรนฺตเมว รสํ คณฺหถาติ วทติ, อภิหาโร น ปญฺญายตีติ น คเหตโพฺพฯ สเจ ปน กสฎํ ฉเฑฺฑตฺวา หเตฺถน อุสฺสิญฺจิตฺวา อุสฺสิญฺจิตฺวา เทติ, วฎฺฎติฯ
Eko bahūni bhattabyañjanabhājanāni sīse katvā bhikkhussa santikaṃ āgantvā ṭhitakova gaṇhathāti vadati, na tāva abhihāro paññāyati, tasmā na gahetabbaṃ. Sace pana īsakampi onamati, bhikkhunā hatthaṃ pasāretvā heṭṭhimabhājanaṃ ekadesenāpi sampaṭicchitabbaṃ. Ettāvatā sabbabhājanāni paṭiggahitāni honti, tato paṭṭhāya oropetvā vā ugghāṭetvā vā yaṃ icchati, taṃ gahetvā bhuñjituṃ vaṭṭati. Sabhattapacchiādimhi pana ekabhājane vattabbameva natthi, kājena bhattaṃ harantopi sace kājaṃ onāmetvā deti, vaṭṭati. Tiṃsahattho veṇu hoti, ekasmiṃ ante guḷakumbho baddho, ekasmiṃ sappikumbho, tañce paṭiggaṇhāti, sabbaṃ paṭiggahitameva. Ucchuyantadoṇito paggharantameva rasaṃ gaṇhathāti vadati, abhihāro na paññāyatīti na gahetabbo. Sace pana kasaṭaṃ chaḍḍetvā hatthena ussiñcitvā ussiñcitvā deti, vaṭṭati.
พหู ปตฺตา มเญฺจ วา ปีเฐ วา กฎสารเก วา โทณิยํ วา ผลเก วา ฐปิตา โหนฺติ, ยตฺถ ฐิตสฺส ทายโก หตฺถปาเส โหติ, ตตฺถ ฐตฺวา ปฎิคฺคหณสญฺญาย มญฺจาทีนิ องฺคุลิยาปิ ผุสิตฺวา ฐิเตน วา นิสิเนฺนน วา นิปเนฺนน วา ยํ เตสุ ปเตฺตสุ ทิยฺยติ, ตํ สพฺพํ ปฎิคฺคหิตํ โหติฯ สเจปิ ปฎิคฺคเหสฺสามีติ มญฺจาทีนิ อารุหิตฺวา นิสีทติ, วฎฺฎติเยว ฯ สเจ ปน มญฺจาทีนิ หเตฺถน คเหตฺวา มเญฺจ นิสีทติ, วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ
Bahū pattā mañce vā pīṭhe vā kaṭasārake vā doṇiyaṃ vā phalake vā ṭhapitā honti, yattha ṭhitassa dāyako hatthapāse hoti, tattha ṭhatvā paṭiggahaṇasaññāya mañcādīni aṅguliyāpi phusitvā ṭhitena vā nisinnena vā nipannena vā yaṃ tesu pattesu diyyati, taṃ sabbaṃ paṭiggahitaṃ hoti. Sacepi paṭiggahessāmīti mañcādīni āruhitvā nisīdati, vaṭṭatiyeva . Sace pana mañcādīni hatthena gahetvā mañce nisīdati, vattabbameva natthi.
ปถวิยํ ปน สเจปิ กุจฺฉิยา กุจฺฉิํ อาหจฺจ ฐิตา โหนฺติ, ยํ ยํ องฺคุลิยา วา สูจิยา วา ผุสิตฺวา นิสิโนฺน โหติ, ตตฺถ ตตฺถ ทิยฺยมานเมว ปฎิคฺคหิตํ โหติฯ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ มหากฎสารหตฺถตฺถรณาทีสุ ฐปิตปเตฺต ปฎิคฺคหณํ น รุหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ หตฺถปาสาติกฺกมํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ หตฺถปาเส ปน สติ ยตฺถ กตฺถจิ วฎฺฎติ อญฺญตฺร ตตฺถชาตกาฯ
Pathaviyaṃ pana sacepi kucchiyā kucchiṃ āhacca ṭhitā honti, yaṃ yaṃ aṅguliyā vā sūciyā vā phusitvā nisinno hoti, tattha tattha diyyamānameva paṭiggahitaṃ hoti. ‘‘Yattha katthaci mahākaṭasārahatthattharaṇādīsu ṭhapitapatte paṭiggahaṇaṃ na ruhatī’’ti vuttaṃ, taṃ hatthapāsātikkamaṃ sandhāya vuttanti veditabbaṃ. Hatthapāse pana sati yattha katthaci vaṭṭati aññatra tatthajātakā.
ตตฺถชาตเก ปน ปทุมินิปเณฺณ วา กิํสุกปณฺณาทิมฺหิ วา น วฎฺฎติฯ น หิ ตํ กายปฎิพทฺธสงฺขฺยํ คจฺฉติฯ ยถา จ ตตฺถชาตเก; เอวํ ขาณุเก พนฺธิตฺวา ฐปิตมญฺจาทิมฺหิ อสํหาริเม ผลเก วา ปาสาเณ วา น รุหติเยว, เตปิ หิ ตตฺถชาตกสเงฺขปุปคา โหนฺติฯ ภูมิยํ อตฺถเตสุ สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปเณฺณสุปิ ปฎิคฺคหณํ น รุหติ, น หิ ตานิ สนฺธาเรตุํ สมตฺถานีติฯ มหเนฺตสุ ปน ปทุมินิปณฺณาทีสุ รุหติฯ สเจ หตฺถปาสํ อติกฺกมฺม ฐิโต ทีฆทณฺฑเกน อุฬุเงฺกน เทติ, อาคนฺตฺวา เทหีติ วตฺตโพฺพฯ วจนํ อสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ปเตฺต อากิรติเยว, ปุน ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ ทูเร ฐตฺวา ภตฺตปิณฺฑํ ขิปเนฺตปิ เอเสว นโยฯ
Tatthajātake pana paduminipaṇṇe vā kiṃsukapaṇṇādimhi vā na vaṭṭati. Na hi taṃ kāyapaṭibaddhasaṅkhyaṃ gacchati. Yathā ca tatthajātake; evaṃ khāṇuke bandhitvā ṭhapitamañcādimhi asaṃhārime phalake vā pāsāṇe vā na ruhatiyeva, tepi hi tatthajātakasaṅkhepupagā honti. Bhūmiyaṃ atthatesu sukhumesu tintiṇikādipaṇṇesupi paṭiggahaṇaṃ na ruhati, na hi tāni sandhāretuṃ samatthānīti. Mahantesu pana paduminipaṇṇādīsu ruhati. Sace hatthapāsaṃ atikkamma ṭhito dīghadaṇḍakena uḷuṅkena deti, āgantvā dehīti vattabbo. Vacanaṃ asutvā vā anādiyitvā vā patte ākiratiyeva, puna paṭiggahetabbaṃ. Dūre ṭhatvā bhattapiṇḍaṃ khipantepi eseva nayo.
สเจ ปตฺตตฺถวิกโต นีหริยมาเน ปเตฺต รชนจุณฺณานิ โหนฺติ, สติ อุทเก โธวิตโพฺพ, อสติ รชนจุณฺณํ ปุจฺฉิตฺวา ปฎิคฺคเหตฺวา วา ปิณฺฑาย จริตพฺพํฯ สเจ ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส รชํ ปตติ, ปฎิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา คณฺหิตพฺพาฯ อปฺปฎิคฺคเหตฺวา คณฺหโต วินยทุกฺกฎํฯ ตํ ปน ปุน ปฎิคฺคเหตฺวา ภุญฺชโต อนาปตฺติฯ สเจ ปน ‘‘ปฎิคฺคเหตฺวา เทถา’’ติ วุเตฺต วจนํ อสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ภิกฺขํ เทนฺติเยว, วินยทุกฺกฎํ นตฺถิ, ปุน ปฎิคฺคเหตฺวา อญฺญา ภิกฺขา คเหตพฺพาฯ
Sace pattatthavikato nīhariyamāne patte rajanacuṇṇāni honti, sati udake dhovitabbo, asati rajanacuṇṇaṃ pucchitvā paṭiggahetvā vā piṇḍāya caritabbaṃ. Sace piṇḍāya carantassa rajaṃ patati, paṭiggahetvā bhikkhā gaṇhitabbā. Appaṭiggahetvā gaṇhato vinayadukkaṭaṃ. Taṃ pana puna paṭiggahetvā bhuñjato anāpatti. Sace pana ‘‘paṭiggahetvā dethā’’ti vutte vacanaṃ asutvā vā anādiyitvā vā bhikkhaṃ dentiyeva, vinayadukkaṭaṃ natthi, puna paṭiggahetvā aññā bhikkhā gahetabbā.
สเจ มหาวาโต ตโต ตโต รชํ ปาเตติ, น สกฺกา โหติ ภิกฺขํ คเหตุํ, ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ สุทฺธจิเตฺตน อาโภคํ กตฺวา คณฺหิตุํ วฎฺฎติฯ เอวํ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ วา อาสนสาลํ วา คนฺตฺวา ตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ปุน เตน ทินฺนํ วา ตสฺส วิสฺสาเสน วา ปฎิคฺคเหตฺวา ภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ
Sace mahāvāto tato tato rajaṃ pāteti, na sakkā hoti bhikkhaṃ gahetuṃ, ‘‘anupasampannassa dassāmī’’ti suddhacittena ābhogaṃ katvā gaṇhituṃ vaṭṭati. Evaṃ piṇḍāya caritvā vihāraṃ vā āsanasālaṃ vā gantvā taṃ anupasampannassa datvā puna tena dinnaṃ vā tassa vissāsena vā paṭiggahetvā bhuñjituṃ vaṭṭati.
สเจ ภิกฺขาจาเร สรชํ ปตฺตํ ภิกฺขุสฺส เทติ, โส วตฺตโพฺพ – ‘‘อิมํ ปฎิคฺคเหตฺวา ภิกฺขํ วา คเณฺหยฺยาสิ, ปริภุเญฺชยฺยาสิ วา’’ติ เตน ตถา กาตพฺพํฯ สเจ รชํ อุปริ อุปฺปิลวติ, กญฺชิกํ ปวาเหตฺวา เสสํ ภุญฺชิตพฺพํฯ สเจ อโนฺต ปวิฎฺฐํ โหติ, ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ อนุปสมฺปเนฺน อสติ หตฺถโต อโมเจเนฺตน, ยตฺถ อนุปสมฺปโนฺน อตฺถิ ตตฺถ เนตฺวา ปฎิคฺคเหตพฺพํ ฯ สุกฺขภเตฺต ปติตรชํ อปเนตฺวา ภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ สเจ อติสุขุมํ โหติ, อุปริภเตฺตน สทฺธิํ อปเนตพฺพํ, ปฎิคฺคเหตฺวา วา ภุญฺชิตพฺพํฯ ยาคุํ วา สูปํ วา ปุรโต ฐเปตฺวา อาลุเลนฺตานํ ภาชนโต ผุสิตานิ อุคฺคนฺตฺวา ปเตฺต ปตนฺติ, ปโตฺต ปฎิคฺคเหตโพฺพฯ
Sace bhikkhācāre sarajaṃ pattaṃ bhikkhussa deti, so vattabbo – ‘‘imaṃ paṭiggahetvā bhikkhaṃ vā gaṇheyyāsi, paribhuñjeyyāsi vā’’ti tena tathā kātabbaṃ. Sace rajaṃ upari uppilavati, kañjikaṃ pavāhetvā sesaṃ bhuñjitabbaṃ. Sace anto paviṭṭhaṃ hoti, paṭiggahetabbaṃ. Anupasampanne asati hatthato amocentena, yattha anupasampanno atthi tattha netvā paṭiggahetabbaṃ . Sukkhabhatte patitarajaṃ apanetvā bhuñjituṃ vaṭṭati. Sace atisukhumaṃ hoti, uparibhattena saddhiṃ apanetabbaṃ, paṭiggahetvā vā bhuñjitabbaṃ. Yāguṃ vā sūpaṃ vā purato ṭhapetvā ālulentānaṃ bhājanato phusitāni uggantvā patte patanti, patto paṭiggahetabbo.
อุฬุเงฺกน อาหริตฺวา เทนฺตานํ ปฐมตรํ อุฬุงฺกโต เถวา ปเตฺต ปตนฺติ, สุปติตา, อภิหฎตฺตา โทโส นตฺถิฯ สเจปิ จรุเกน ภเตฺต อากิริยมาเน จรุกโต มสิ วา ฉาริกา วา ปตติ, อภิหฎตฺตา เนวตฺถิ โทโสฯ อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ทิยฺยมานํ ปตฺตโต อุปฺปติตฺวา อิตรสฺส ปเตฺต ปตติ, สุปติตํฯ ปฎิคฺคหิตเมว หิ ตํ โหติฯ
Uḷuṅkena āharitvā dentānaṃ paṭhamataraṃ uḷuṅkato thevā patte patanti, supatitā, abhihaṭattā doso natthi. Sacepi carukena bhatte ākiriyamāne carukato masi vā chārikā vā patati, abhihaṭattā nevatthi doso. Anantarassa bhikkhuno diyyamānaṃ pattato uppatitvā itarassa patte patati, supatitaṃ. Paṭiggahitameva hi taṃ hoti.
สเจ ชชฺฌริสาขาทิํ ผาเลตฺวา เอกสฺส ภิกฺขุโน เทนฺตานํ สาขโต ผุสิตานิ อญฺญสฺส ปเตฺต ปตนฺติ, ปโตฺต ปฎิคฺคเหตโพฺพฯ ยสฺส ปตฺตสฺส อุปริ ผาเลนฺติ, ตสฺส ปเตฺต ปติเตสุ ทาตุกามตาย อภิหฎตฺตา โทโส นตฺถิฯ ปายาสสฺส ปูเรตฺวา ปตฺตํ เทนฺติ, อุณฺหตฺตา เหฎฺฐา คเหตุํ น สโกฺกติ, มุขวฎฺฎิยาปิ คเหตุํ วฎฺฎติฯ สเจ ตถาปิ น สโกฺกติ, อาธารเกน คณฺหิตโพฺพฯ
Sace jajjharisākhādiṃ phāletvā ekassa bhikkhuno dentānaṃ sākhato phusitāni aññassa patte patanti, patto paṭiggahetabbo. Yassa pattassa upari phālenti, tassa patte patitesu dātukāmatāya abhihaṭattā doso natthi. Pāyāsassa pūretvā pattaṃ denti, uṇhattā heṭṭhā gahetuṃ na sakkoti, mukhavaṭṭiyāpi gahetuṃ vaṭṭati. Sace tathāpi na sakkoti, ādhārakena gaṇhitabbo.
อาสนสาลาย ปตฺตํ คเหตฺวา นิสิโนฺน ภิกฺขุ นิทฺทํ โอกฺกโนฺต โหติ, เนว อาหริยมานํ น ทิยฺยมานํ ชานาติ, อปฺปฎิคฺคหิตํ โหติฯ สเจ ปน อาโภคํ กตฺวา นิสิโนฺน โหติ, วฎฺฎติฯ สเจปิ โส หเตฺถน อาธารกํ มุญฺจิตฺวา ปาเทน เปเลฺลตฺวา นิทฺทายติ, วฎฺฎติเยวฯ ปาเทน อาธารกํ อกฺกมิตฺวา ปฎิคฺคณฺหนฺตสฺส ปน ชาครนฺตสฺสปิ อนาทรปฎิคฺคหณํ โหติ, ตสฺมา น กาตพฺพํฯ เกจิ เอวํ อาธารเกน ปฎิคฺคหณํ กายปฎิพทฺธปฎิพเทฺธน ปฎิคฺคหณํ นาม โหติ, ตสฺมา น วฎฺฎตีติ วทนฺติฯ ตํ เตสํ วจนมตฺตเมวฯ อตฺถโต ปน สพฺพเมฺปตํ กายปฎิพทฺธเมว โหติฯ กายสํสเคฺคปิ เจส นโย ทสฺสิโตวฯ ยมฺปิ ภิกฺขุสฺส ทิยฺยมานํ ปตติ, ตมฺปิ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ ตตฺริทํ สุตฺตํ –
Āsanasālāya pattaṃ gahetvā nisinno bhikkhu niddaṃ okkanto hoti, neva āhariyamānaṃ na diyyamānaṃ jānāti, appaṭiggahitaṃ hoti. Sace pana ābhogaṃ katvā nisinno hoti, vaṭṭati. Sacepi so hatthena ādhārakaṃ muñcitvā pādena pelletvā niddāyati, vaṭṭatiyeva. Pādena ādhārakaṃ akkamitvā paṭiggaṇhantassa pana jāgarantassapi anādarapaṭiggahaṇaṃ hoti, tasmā na kātabbaṃ. Keci evaṃ ādhārakena paṭiggahaṇaṃ kāyapaṭibaddhapaṭibaddhena paṭiggahaṇaṃ nāma hoti, tasmā na vaṭṭatīti vadanti. Taṃ tesaṃ vacanamattameva. Atthato pana sabbampetaṃ kāyapaṭibaddhameva hoti. Kāyasaṃsaggepi cesa nayo dassitova. Yampi bhikkhussa diyyamānaṃ patati, tampi sāmaṃ gahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati. Tatridaṃ suttaṃ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ทิยฺยมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติ (จูฬว. ๒๗๓)ฯ
‘‘Anujānāmi, bhikkhave, yaṃ diyyamānaṃ patati, taṃ sāmaṃ gahetvā paribhuñjituṃ pariccattaṃ taṃ, bhikkhave, dāyakehī’’ti (cūḷava. 273).
อิทญฺจ ปน สุตฺตํ เนยฺยตฺถํฯ ตสฺมา เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตโพฺพ – ยํ ทิยฺยมานํ ทายกสฺส หตฺถโต ปริคฬิตฺวา สุทฺธาย วา ภูมิยา ปทุมินิปณฺณวตฺถกฎสารกาทีสุ วา ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ ยํ ปน สรชาย ภูมิยา ปตติ, ตํ รชํ ปุญฺฉิตฺวา วา โธวิตฺวา วา ปฎิคฺคเหตฺวา วา ปริภุญฺชิตพฺพํฯ สเจ ปน ปวฎฺฎนฺตํ อญฺญสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คจฺฉติ, เตน อาหราเปตุมฺปิ วฎฺฎติฯ สเจ ตํ ภิกฺขุํ วทติ ‘‘ตฺวํเยว ขาทา’’ติ ตสฺสาปิ ขาทิตุํ วฎฺฎติฯ อนาณเตฺตน ปน เตน น คเหตพฺพํฯ อนาณเตฺตนาปิ ‘‘อิตรสฺส ทสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฎฺฎตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํฯ กสฺมา ปเนตํ อิตรสฺส ภิกฺขุโน คเหตุํ น วฎฺฎตีติ? ภควตา อนนุญฺญาตตฺตาฯ ภควตา หิ ‘‘สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุ’’นฺติ วทเนฺตน ยเสฺสว ตํ ทิยฺยมานํ ปตติ, ตสฺส อปฺปฎิคฺคหิตกมฺปิ ตํ คเหตฺวา ปริโภโค อนุญฺญาโตฯ ‘‘ปริจฺจตฺตํ ตํ ภิกฺขเว ทายเกหี’’ติ วจเนน ปเนตฺถ ปรสนฺตกาภาโว ทีปิโตฯ ตสฺมา อญฺญสฺส สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ น วฎฺฎติ, ตสฺส ปน อาณตฺติยา วฎฺฎตีติ อยํ กิเรตฺถ อธิปฺปาโยฯ
Idañca pana suttaṃ neyyatthaṃ. Tasmā evamettha adhippāyo veditabbo – yaṃ diyyamānaṃ dāyakassa hatthato parigaḷitvā suddhāya vā bhūmiyā paduminipaṇṇavatthakaṭasārakādīsu vā patati, taṃ sāmaṃ gahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati. Yaṃ pana sarajāya bhūmiyā patati, taṃ rajaṃ puñchitvā vā dhovitvā vā paṭiggahetvā vā paribhuñjitabbaṃ. Sace pana pavaṭṭantaṃ aññassa bhikkhuno santikaṃ gacchati, tena āharāpetumpi vaṭṭati. Sace taṃ bhikkhuṃ vadati ‘‘tvaṃyeva khādā’’ti tassāpi khādituṃ vaṭṭati. Anāṇattena pana tena na gahetabbaṃ. Anāṇattenāpi ‘‘itarassa dassāmī’’ti gahetuṃ vaṭṭatīti kurundiyaṃ vuttaṃ. Kasmā panetaṃ itarassa bhikkhuno gahetuṃ na vaṭṭatīti? Bhagavatā ananuññātattā. Bhagavatā hi ‘‘sāmaṃ gahetvā paribhuñjitu’’nti vadantena yasseva taṃ diyyamānaṃ patati, tassa appaṭiggahitakampi taṃ gahetvā paribhogo anuññāto. ‘‘Pariccattaṃ taṃ bhikkhave dāyakehī’’ti vacanena panettha parasantakābhāvo dīpito. Tasmā aññassa sāmaṃ gahetvā paribhuñjituṃ na vaṭṭati, tassa pana āṇattiyā vaṭṭatīti ayaṃ kirettha adhippāyo.
ยสฺมา จ ตํ อปฺปฎิคฺคหิตกตฺตา อนุญฺญาตํ, ตสฺมา ยถาฐิตํเยว อนามสิตฺวา เกนจิ ปิทหิตฺวา ฐปิตํ ทุติยทิวเสปิ ปริภุญฺจิตุํ วฎฺฎติ, สนฺนิธิปจฺจยา อนาปตฺติฯ ปฎิคฺคเหตฺวา ปน ปริภุญฺชิตพฺพํฯ ตํทิวสํเยว หิ ตสฺส สามํ คเหตฺวา ปริโภโค อนุญฺญาโต, น ตโต ปรนฺติ อยมฺปิ กิเรตฺถ อธิปฺปาโยฯ
Yasmā ca taṃ appaṭiggahitakattā anuññātaṃ, tasmā yathāṭhitaṃyeva anāmasitvā kenaci pidahitvā ṭhapitaṃ dutiyadivasepi paribhuñcituṃ vaṭṭati, sannidhipaccayā anāpatti. Paṭiggahetvā pana paribhuñjitabbaṃ. Taṃdivasaṃyeva hi tassa sāmaṃ gahetvā paribhogo anuññāto, na tato paranti ayampi kirettha adhippāyo.
อิทานิ อโพฺพหาริกนโย วุจฺจติ – ภุญฺชนฺตานญฺหิ ทนฺตา ขิยฺยนฺติ, นขา ขิยฺยนฺติ, ปตฺตสฺส วโณฺณ ขิยฺยติ, สพฺพํ อโพฺพหาริกํฯ ยมฺปิ สตฺถเกน อุจฺฉุอาทีสุ ผาลิเตสุ มลํ ปญฺญายติ, เอตํ นวสมุฎฺฐิตํ นาม ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํฯ สตฺถกํ โธวิตฺวา ผาลิเตสุ มลํ น ปญฺญายติ, โลหคนฺธมตฺตํ โหติ, ตํ อโพฺพหาริกํฯ ยมฺปิ สตฺถกํ คเหตฺวา ปริหรนฺติ, เตน ผาลิเตปิ เอเสว นโยฯ น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตีติฯ มูลเภสชฺชาทีนิ ปิสนฺตานํ วา โกเฎฺฎนฺตานํ วา นิสทนิสทโปตกอุทุกฺขลมุสลาทีนิ ขิยฺยนฺติ, ปริหรณกวาสิํ ตาเปตฺวา เภสชฺชตฺถาย ตเกฺก วา ขีเร วา ปกฺขิปนฺติ, ตตฺถ นีลิกา ปญฺญายติฯ สตฺถเก วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโยฯ อามกตกฺกาทีสุ ปน สยํ น ปกฺขิปิตพฺพาฯ ปกฺขิปติ เจ, สามปากโต น มุจฺจติฯ
Idāni abbohārikanayo vuccati – bhuñjantānañhi dantā khiyyanti, nakhā khiyyanti, pattassa vaṇṇo khiyyati, sabbaṃ abbohārikaṃ. Yampi satthakena ucchuādīsu phālitesu malaṃ paññāyati, etaṃ navasamuṭṭhitaṃ nāma paṭiggahetvā paribhuñjitabbaṃ. Satthakaṃ dhovitvā phālitesu malaṃ na paññāyati, lohagandhamattaṃ hoti, taṃ abbohārikaṃ. Yampi satthakaṃ gahetvā pariharanti, tena phālitepi eseva nayo. Na hi taṃ paribhogatthāya pariharantīti. Mūlabhesajjādīni pisantānaṃ vā koṭṭentānaṃ vā nisadanisadapotakaudukkhalamusalādīni khiyyanti, pariharaṇakavāsiṃ tāpetvā bhesajjatthāya takke vā khīre vā pakkhipanti, tattha nīlikā paññāyati. Satthake vuttasadisova vinicchayo. Āmakatakkādīsu pana sayaṃ na pakkhipitabbā. Pakkhipati ce, sāmapākato na muccati.
เทเว วสฺสเนฺต ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส สรีรโต วา จีวรโต วา กิลิฎฺฐอุทกํ ปเตฺต ปตติ, ตํ ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ รุกฺขมูลาทีสุ ภุญฺชนฺตสฺส ปติเตปิ เอเสว นโยฯ สเจ ปน สตฺตาหํ วสฺสเนฺต เทเว สุทฺธํ อุทกํ โหติ, อโพฺภกาสโต วา ปตติ, วฎฺฎติฯ สามเณรสฺส โอทนํ เทเนฺตน ตสฺส ปตฺตคตํ อจฺฉุปเนฺตเนว ทาตโพฺพฯ ปโตฺต วาสฺส ปฎิคฺคเหตโพฺพฯ อปฺปฎิคฺคหิเต โอทนํ ฉุปิตฺวา ปุน อตฺตโน ปเตฺต โอทนํ คณฺหนฺตสฺส อุคฺคหิตโก โหติฯ
Deve vassante piṇḍāya carantassa sarīrato vā cīvarato vā kiliṭṭhaudakaṃ patte patati, taṃ paṭiggahetabbaṃ. Rukkhamūlādīsu bhuñjantassa patitepi eseva nayo. Sace pana sattāhaṃ vassante deve suddhaṃ udakaṃ hoti, abbhokāsato vā patati, vaṭṭati. Sāmaṇerassa odanaṃ dentena tassa pattagataṃ acchupanteneva dātabbo. Patto vāssa paṭiggahetabbo. Appaṭiggahite odanaṃ chupitvā puna attano patte odanaṃ gaṇhantassa uggahitako hoti.
สเจ ปน ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อาหร สามเณร ปตฺตํ, โอทนํ คณฺหา’’ติ วทติ, อิตโร จ ‘‘อลํ มยฺห’’นฺติ ปฎิกฺขิปติ, ปุน ตเวเวตํ มยา ปริจฺจตฺต’’นฺติ จ วุเตฺตปิ ‘‘น มยฺหํ เอเตนโตฺถ’’ติ วทติฯ สตกฺขตฺตุมฺปิ ปริจฺจชตุ, ยาว อตฺตโน หตฺถคตํ ปฎิคฺคหิตเมว โหติฯ
Sace pana dātukāmo hutvā ‘‘āhara sāmaṇera pattaṃ, odanaṃ gaṇhā’’ti vadati, itaro ca ‘‘alaṃ mayha’’nti paṭikkhipati, puna tavevetaṃ mayā pariccatta’’nti ca vuttepi ‘‘na mayhaṃ etenattho’’ti vadati. Satakkhattumpi pariccajatu, yāva attano hatthagataṃ paṭiggahitameva hoti.
สเจ ปน อาธารเก ฐิตํ นิรเปโกฺข ‘‘คณฺหา’’ติ วทติ, ปุน ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ สาเปโกฺข อาธารเก ปตฺตํ ฐเปตฺวา ‘‘เอโตฺต ปูวํ วา ภตฺตํ วา คณฺหา’’ติ สามเณรํ วทติ, สามเณโร หตฺถํ โธวิตฺวา สเจปิ สตกฺขตฺตุํ คเหตฺวา อตฺตโน ปตฺตคตํ อผุสโนฺตว อตฺตโน ปเตฺต ปกฺขิปติ, ปุน ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ ยทิ ปน อตฺตโน ปตฺตคตํ ผุสิตฺวา ตโต คณฺหาติ, สามเณรสนฺตเกน สํสฎฺฐํ โหติ, ปุน ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ เกจิ ปน ‘‘สเจปิ คยฺหมานํ ฉิชฺชิตฺวา ตตฺถ ปตติ, ปุน ปฎิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติฯ ตํ ‘‘เอกํ ภตฺตปิณฺฑํ คณฺห, เอกํ ปูวํ คณฺห, อิมสฺส คุฬปิณฺฑสฺส เอตฺตกํ ปเทสํ คณฺหา’’ติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุเตฺต เวทิตพฺพํฯ อิธ ปน ปริเจฺฉโท นตฺถิฯ ตสฺมา ยํ สามเณรสฺส ปเตฺต ปตติ, ตเทว ปฎิคฺคหณํ วิชหติฯ หตฺถคตํ ปน ยาว สามเณโร วา ‘‘อล’’นฺติ น โอรมติ, ภิกฺขุ วา น วาเรติ, ตาว ภิกฺขุเสฺสว สนฺตกํ, ตสฺมา ปฎิคฺคหณํ น วิชหติฯ
Sace pana ādhārake ṭhitaṃ nirapekkho ‘‘gaṇhā’’ti vadati, puna paṭiggahetabbaṃ. Sāpekkho ādhārake pattaṃ ṭhapetvā ‘‘etto pūvaṃ vā bhattaṃ vā gaṇhā’’ti sāmaṇeraṃ vadati, sāmaṇero hatthaṃ dhovitvā sacepi satakkhattuṃ gahetvā attano pattagataṃ aphusantova attano patte pakkhipati, puna paṭiggahaṇakiccaṃ natthi. Yadi pana attano pattagataṃ phusitvā tato gaṇhāti, sāmaṇerasantakena saṃsaṭṭhaṃ hoti, puna paṭiggahetabbaṃ. Keci pana ‘‘sacepi gayhamānaṃ chijjitvā tattha patati, puna paṭiggahetabba’’nti vadanti. Taṃ ‘‘ekaṃ bhattapiṇḍaṃ gaṇha, ekaṃ pūvaṃ gaṇha, imassa guḷapiṇḍassa ettakaṃ padesaṃ gaṇhā’’ti evaṃ paricchinditvā vutte veditabbaṃ. Idha pana paricchedo natthi. Tasmā yaṃ sāmaṇerassa patte patati, tadeva paṭiggahaṇaṃ vijahati. Hatthagataṃ pana yāva sāmaṇero vā ‘‘ala’’nti na oramati, bhikkhu vā na vāreti, tāva bhikkhusseva santakaṃ, tasmā paṭiggahaṇaṃ na vijahati.
สเจ อตฺตโน วา ภิกฺขูนํ วา ยาคุปจนกภาชเน เกสญฺจิ อตฺถาย โอทนํ ปกฺขิปติ, ‘‘สามเณร, ภาชนสฺส อุปริ หตฺถํ กโรหี’’ติ วตฺวา ตสฺส หเตฺถ ปกฺขิปิตพฺพํ, ตสฺส หตฺถโต ภาชเน ปติตญฺหิ ทุติยทิวเส ภาชนสฺส อกปฺปิยภาวํ น กโรติ, ปริจฺจตฺตตฺตาฯ สเจ เอวํ อกตฺวา ปกฺขิปติ, ปตฺตมิว ภาชนํ นิรามิสํ กตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํฯ ทายกา ยาคุกุฎํ ฐเปตฺวา คตา, ตํ ทหรสามเณโร ปฎิคฺคณฺหาเปตุํ น สโกฺกติ, ภิกฺขุ ปตฺตํ อุปนาเมติ, สามเณโร กุฎสฺส คีวํ ปตฺตสฺส มุขวฎฺฎิยํ ฐเปตฺวา อาวเชฺชติ, ปตฺตคตา ยาคุ ปฎิคฺคหิตาว โหติฯ อถ วา ภิกฺขุ ภูมิยํ หตฺถํ ฐเปติ, สามเณโร ปวเฎฺฎตฺวา ตตฺถ อาโรเปติ, วฎฺฎติฯ ปูวปจฺฉิภตฺตปจฺฉิอุจฺฉุภาราทีสุปิ เอเสว นโยฯ
Sace attano vā bhikkhūnaṃ vā yāgupacanakabhājane kesañci atthāya odanaṃ pakkhipati, ‘‘sāmaṇera, bhājanassa upari hatthaṃ karohī’’ti vatvā tassa hatthe pakkhipitabbaṃ, tassa hatthato bhājane patitañhi dutiyadivase bhājanassa akappiyabhāvaṃ na karoti, pariccattattā. Sace evaṃ akatvā pakkhipati, pattamiva bhājanaṃ nirāmisaṃ katvā paribhuñjitabbaṃ. Dāyakā yāgukuṭaṃ ṭhapetvā gatā, taṃ daharasāmaṇero paṭiggaṇhāpetuṃ na sakkoti, bhikkhu pattaṃ upanāmeti, sāmaṇero kuṭassa gīvaṃ pattassa mukhavaṭṭiyaṃ ṭhapetvā āvajjeti, pattagatā yāgu paṭiggahitāva hoti. Atha vā bhikkhu bhūmiyaṃ hatthaṃ ṭhapeti, sāmaṇero pavaṭṭetvā tattha āropeti, vaṭṭati. Pūvapacchibhattapacchiucchubhārādīsupi eseva nayo.
สเจ ปฎิคฺคหณูปคํ ภารํ เทฺว ตโย สามเณรา เทนฺติ, เอเกน วา พลวตา อุกฺขิตฺตํ เทฺว ตโย ภิกฺขู คณฺหนฺติ, วฎฺฎติฯ มญฺจสฺส วา ปีฐสฺส วา ปาเท เตลฆฎํ วา ผาณิตฆฎํ วา นวนีตฆฎํ วา ลเคฺคนฺติ, ภิกฺขุสฺส มเญฺจปิ ปีเฐปิ นิสีทิตุํ วฎฺฎติฯ อุคฺคหิตกํ นาม น โหติฯ
Sace paṭiggahaṇūpagaṃ bhāraṃ dve tayo sāmaṇerā denti, ekena vā balavatā ukkhittaṃ dve tayo bhikkhū gaṇhanti, vaṭṭati. Mañcassa vā pīṭhassa vā pāde telaghaṭaṃ vā phāṇitaghaṭaṃ vā navanītaghaṭaṃ vā laggenti, bhikkhussa mañcepi pīṭhepi nisīdituṃ vaṭṭati. Uggahitakaṃ nāma na hoti.
นาคทนฺตเก วา องฺกุสเก วา เทฺว เตลฆฎา ลคฺคิตา โหนฺติ, อุปริ ปฎิคฺคหิตโก เหฎฺฐา อปฺปฎิคฺคหิตโก, อุปริมํ คเหตุํ วฎฺฎติฯ เหฎฺฐา ปฎิคฺคหิตโก อุปริ อปฺปฎิคฺคหิตโก, อุปริมํ คเหตฺวา อิตรํ คณฺหโต อุปริโม อุคฺคหิตโก โหติฯ เหฎฺฐามเญฺจ อปฺปฎิคฺคหิตกํ เตลถาลกํ โหติ, ตํ เจ สมฺมชฺชโนฺต สมฺมุญฺชนิยา ฆเฎฺฎติ, อุคฺคหิตกํ น โหติฯ ปฎิคฺคหิตกํ คณฺหิสฺสามีติ อปฺปฎิคฺคหิตกํ คเหตฺวา ญตฺวา ปุน ฐเปติ, อุคฺคหิตกํ น โหติฯ พหิ นีหริตฺวา สญฺชานาติ, พหิ อฎฺฐเปตฺวา หริตฺวา ตเตฺถว ฐเปตพฺพํ, นตฺถิ โทโสฯ สเจ ปน ปุเพฺพ วิวริตฺวา ฐปิตํ น ปิทหิตพฺพํ; ยถา ปุเพฺพ ฐิตํ ตเถว ฐเปตพฺพํฯ สเจ พหิ ฐเปติ, ปุน น ฉุปิตพฺพํฯ
Nāgadantake vā aṅkusake vā dve telaghaṭā laggitā honti, upari paṭiggahitako heṭṭhā appaṭiggahitako, uparimaṃ gahetuṃ vaṭṭati. Heṭṭhā paṭiggahitako upari appaṭiggahitako, uparimaṃ gahetvā itaraṃ gaṇhato uparimo uggahitako hoti. Heṭṭhāmañce appaṭiggahitakaṃ telathālakaṃ hoti, taṃ ce sammajjanto sammuñjaniyā ghaṭṭeti, uggahitakaṃ na hoti. Paṭiggahitakaṃ gaṇhissāmīti appaṭiggahitakaṃ gahetvā ñatvā puna ṭhapeti, uggahitakaṃ na hoti. Bahi nīharitvā sañjānāti, bahi aṭṭhapetvā haritvā tattheva ṭhapetabbaṃ, natthi doso. Sace pana pubbe vivaritvā ṭhapitaṃ na pidahitabbaṃ; yathā pubbe ṭhitaṃ tatheva ṭhapetabbaṃ. Sace bahi ṭhapeti, puna na chupitabbaṃ.
เหฎฺฐาปาสาทํ โอโรหโนฺต นิเสฺสณิมเชฺฌ สญฺชานาติ, อโนกาสตฺตา อุทฺธํ วา อโธ วา หริตฺวา ฐเปตพฺพํฯ ปฎิคฺคหิตเก เตลาทิมฺหิ กณฺณกํ อุเฎฺฐติ, สิงฺคิเวราทิมฺหิ ฆนจุณฺณํ, ตํสมุฎฺฐานเมว นาเมตํ, ปุน ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ
Heṭṭhāpāsādaṃ orohanto nisseṇimajjhe sañjānāti, anokāsattā uddhaṃ vā adho vā haritvā ṭhapetabbaṃ. Paṭiggahitake telādimhi kaṇṇakaṃ uṭṭheti, siṅgiverādimhi ghanacuṇṇaṃ, taṃsamuṭṭhānameva nāmetaṃ, puna paṭiggahaṇakiccaṃ natthi.
ตาลํ วา นาฬิเกรํ วา อารุโฬฺห โยเตฺตน ผลปิณฺฑิํ โอตาเรตฺวา อุปริ ฐิโตว คณฺหถาติ วทติ, น คเหตพฺพํฯ สเจ อโญฺญ ภูมิยํ ฐิโต โยตฺตปาสเก คเหตฺวา อุกฺขิปิตฺวา เทติ, วฎฺฎติฯ สผลํ มหาสาขํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฎิคฺคณฺหาติ, ผลานิ ปฎิคฺคหิตาเนว โหนฺติ, ยถาสุขํ ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ
Tālaṃ vā nāḷikeraṃ vā āruḷho yottena phalapiṇḍiṃ otāretvā upari ṭhitova gaṇhathāti vadati, na gahetabbaṃ. Sace añño bhūmiyaṃ ṭhito yottapāsake gahetvā ukkhipitvā deti, vaṭṭati. Saphalaṃ mahāsākhaṃ kappiyaṃ kāretvā paṭiggaṇhāti, phalāni paṭiggahitāneva honti, yathāsukhaṃ paribhuñjituṃ vaṭṭati.
อโนฺตวติยํ ฐตฺวา วติํ ฉินฺทิตฺวา อุจฺฉุํ วา ติมฺพรูสกํ วา เทนฺติ, หตฺถปาเส สติ วฎฺฎติฯ วติทณฺฑเกสุ อปฺปหริตฺวา นิคฺคตํ คณฺหนฺตสฺส วฎฺฎติฯ ปหริตฺวา นิคฺคเต อฎฺฐกถาสุ โทโส น ทสฺสิโตฯ มยํ ปน ยํ ฐานํ ปหฎํ, ตโต สยํปติตเมว โหตีติ ตกฺกยามฯ ตสฺมิมฺปิ อฎฺฐตฺวา คจฺฉเนฺต ยุชฺชติ, สุงฺกฆาตโต ปวเฎฺฎตฺวา พหิปติตภณฺฑํ วิยฯ วติํ วา ปาการํ วา ลงฺฆาเปตฺวา เทนฺติ, สเจ ปน น ปุถุโล ปากาโร, อโนฺตปากาเร จ พหิปากาเร จ ฐิตสฺส หตฺถปาโส ปโหติ, หตฺถสตมฺปิ อุทฺธํ คนฺตฺวา สมฺปตฺตํ คเหตุํ วฎฺฎติฯ
Antovatiyaṃ ṭhatvā vatiṃ chinditvā ucchuṃ vā timbarūsakaṃ vā denti, hatthapāse sati vaṭṭati. Vatidaṇḍakesu appaharitvā niggataṃ gaṇhantassa vaṭṭati. Paharitvā niggate aṭṭhakathāsu doso na dassito. Mayaṃ pana yaṃ ṭhānaṃ pahaṭaṃ, tato sayaṃpatitameva hotīti takkayāma. Tasmimpi aṭṭhatvā gacchante yujjati, suṅkaghātato pavaṭṭetvā bahipatitabhaṇḍaṃ viya. Vatiṃ vā pākāraṃ vā laṅghāpetvā denti, sace pana na puthulo pākāro, antopākāre ca bahipākāre ca ṭhitassa hatthapāso pahoti, hatthasatampi uddhaṃ gantvā sampattaṃ gahetuṃ vaṭṭati.
ภิกฺขุ คิลานํ สามเณรํ ขเนฺธน วหติ, โส ผลาผลํ ทิสฺวา คเหตฺวา ขเนฺธ นิสิโนฺนว เทติ, วฎฺฎติฯ อปโร ภิกฺขุํ วหโนฺต ขเนฺธ นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน เทติ, วฎฺฎติเยวฯ
Bhikkhu gilānaṃ sāmaṇeraṃ khandhena vahati, so phalāphalaṃ disvā gahetvā khandhe nisinnova deti, vaṭṭati. Aparo bhikkhuṃ vahanto khandhe nisinnassa bhikkhuno deti, vaṭṭatiyeva.
ภิกฺขุ ผลินิํ สาขํ ฉายตฺถาย คเหตฺวา คจฺฉติ, ผลานิ ขาทิตุํ จิเตฺต อุปฺปเนฺน ปฎิคฺคหาเปตฺวา ขาทิตุํ วฎฺฎติฯ มจฺฉิกวารณตฺถํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฎิคฺคณฺหาติ, ขาทิตุกาโม เจ โหติ, มูลปฎิคฺคหณเมว วฎฺฎติ, ขาทนฺตสฺส นตฺถิ โทโสฯ
Bhikkhu phaliniṃ sākhaṃ chāyatthāya gahetvā gacchati, phalāni khādituṃ citte uppanne paṭiggahāpetvā khādituṃ vaṭṭati. Macchikavāraṇatthaṃ kappiyaṃ kāretvā paṭiggaṇhāti, khāditukāmo ce hoti, mūlapaṭiggahaṇameva vaṭṭati, khādantassa natthi doso.
ภิกฺขุ ปฎิคฺคหณารหํ ภณฺฑํ มนุสฺสานํ ยาเน ฐเปตฺวา มคฺคํ คจฺฉติ, ยานํ กทฺทเม ลคฺคติ, ทหโร จกฺกํ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, วฎฺฎติ, อุคฺคหิตกํ นาม น โหติฯ นาวาย ฐเปตฺวา นาวํ อริเตฺตน วา ปาเชติ, หเตฺถน วา กฑฺฒติ, วฎฺฎติฯ อุฬุเมฺปปิ เอเสว นโยฯ จาฎิยํ กุณฺฑเก วา ฐเปตฺวาปิ ตํ อนุปสมฺปเนฺนน คาหาเปตฺวา อนุปสมฺปนฺนํ พาหายํ คเหตฺวา ตริตุํ วฎฺฎติฯ ตสฺมิมฺปิ อสติ อนุปสมฺปนฺนํ คาหาเปตฺวา ตํ พาหายํ คเหตฺวา ตริตุํ วฎฺฎติฯ
Bhikkhu paṭiggahaṇārahaṃ bhaṇḍaṃ manussānaṃ yāne ṭhapetvā maggaṃ gacchati, yānaṃ kaddame laggati, daharo cakkaṃ gahetvā ukkhipati, vaṭṭati, uggahitakaṃ nāma na hoti. Nāvāya ṭhapetvā nāvaṃ arittena vā pājeti, hatthena vā kaḍḍhati, vaṭṭati. Uḷumpepi eseva nayo. Cāṭiyaṃ kuṇḍake vā ṭhapetvāpi taṃ anupasampannena gāhāpetvā anupasampannaṃ bāhāyaṃ gahetvā tarituṃ vaṭṭati. Tasmimpi asati anupasampannaṃ gāhāpetvā taṃ bāhāyaṃ gahetvā tarituṃ vaṭṭati.
อุปาสกา คมิกภิกฺขูนํ ปาเถยฺยตณฺฑุเล เทนฺติฯ สามเณรา ภิกฺขูนํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา อตฺตโน ตณฺฑุเล คเหตุํ น สโกฺกนฺติ, ภิกฺขู เตสํ ตณฺฑุเล คณฺหนฺติฯ สามเณรา อตฺตนา คหิตตณฺฑุเลสุ ขีเณสุ อิตเรหิ ตณฺฑุเลหิ ยาคุํ ปจิตฺวา สเพฺพสํ ปตฺตานิ ปฎิปาฎิยา ฐเปตฺวา ยาคุํ อากิรนฺติฯ ปณฺฑิโต สามเณโร อตฺตโน ปตฺตํ คเหตฺวา เถรสฺส เทติ, เถรสฺส ปตฺตํ อนุเถรสฺสาติ เอวํ สพฺพานิ ปริวเตฺตติ, สเพฺพหิ สามเณรสฺส สนฺตกํ ภุตฺตํ โหติ, วฎฺฎติฯ
Upāsakā gamikabhikkhūnaṃ pātheyyataṇḍule denti. Sāmaṇerā bhikkhūnaṃ taṇḍule gahetvā attano taṇḍule gahetuṃ na sakkonti, bhikkhū tesaṃ taṇḍule gaṇhanti. Sāmaṇerā attanā gahitataṇḍulesu khīṇesu itarehi taṇḍulehi yāguṃ pacitvā sabbesaṃ pattāni paṭipāṭiyā ṭhapetvā yāguṃ ākiranti. Paṇḍito sāmaṇero attano pattaṃ gahetvā therassa deti, therassa pattaṃ anutherassāti evaṃ sabbāni parivatteti, sabbehi sāmaṇerassa santakaṃ bhuttaṃ hoti, vaṭṭati.
สเจปิ สามเณโร อปณฺฑิโต โหติ, อตฺตโน ปเตฺต ยาคุํ สยเมว ปาตุํ อารภติ, ‘‘อาวุโส ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหี’’ติ เอวํ เถเรหิ ปฎิปาฎิยา ยาจิตฺวาปิ ปิวิตุํ วฎฺฎติ, สเพฺพหิ สามเณรสฺส สนฺตกเมว ภุตฺตํ โหติ, เนว อุคฺคหิตปจฺจยา น สนฺนิธิปจฺจยา วชฺชํ ผุสนฺติฯ เอตฺถ ปน มาตาปิตูนํ เตลาทีนิ ฉายาทีนํ อตฺถาย สาขาทีนิ จ หรนฺตานํ อิเมสญฺจ วิเสโส น ทิสฺสติฯ ตสฺมา การณํ อุปปริกฺขิตพฺพํฯ
Sacepi sāmaṇero apaṇḍito hoti, attano patte yāguṃ sayameva pātuṃ ārabhati, ‘‘āvuso tuyhaṃ yāguṃ mayhaṃ dehī’’ti evaṃ therehi paṭipāṭiyā yācitvāpi pivituṃ vaṭṭati, sabbehi sāmaṇerassa santakameva bhuttaṃ hoti, neva uggahitapaccayā na sannidhipaccayā vajjaṃ phusanti. Ettha pana mātāpitūnaṃ telādīni chāyādīnaṃ atthāya sākhādīni ca harantānaṃ imesañca viseso na dissati. Tasmā kāraṇaṃ upaparikkhitabbaṃ.
สามเณโร ภตฺตํ ปจิตุกาโม ตณฺฑุเล โธวิตฺวา นิจฺจาเลตุํ น สโกฺกติฯ ภิกฺขุนา ตณฺฑุเล จ ภาชนญฺจ ปฎิคฺคเหตฺวา ตณฺฑุเล โธวิตฺวา นิจฺจาเลตฺวา ภาชนํ อุทฺธนํ อาโรเปตพฺพํ, อคฺคิ น กาตโพฺพ, ปกฺกกาเล วิวริตฺวา ปกฺกภาโว ชานิตโพฺพฯ สเจ ทุปฺปกฺกํ โหติ, ปากตฺถาย ปิทหิตุํ น วฎฺฎติฯ รชสฺส วา ฉาริกาย วา อปตนตฺถาย วฎฺฎติ, ปกฺกกาเล อาโรเปตุมฺปิ ภุญฺชิตุมฺปิ วฎฺฎติ, ปุน ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ
Sāmaṇero bhattaṃ pacitukāmo taṇḍule dhovitvā niccāletuṃ na sakkoti. Bhikkhunā taṇḍule ca bhājanañca paṭiggahetvā taṇḍule dhovitvā niccāletvā bhājanaṃ uddhanaṃ āropetabbaṃ, aggi na kātabbo, pakkakāle vivaritvā pakkabhāvo jānitabbo. Sace duppakkaṃ hoti, pākatthāya pidahituṃ na vaṭṭati. Rajassa vā chārikāya vā apatanatthāya vaṭṭati, pakkakāle āropetumpi bhuñjitumpi vaṭṭati, puna paṭiggahaṇakiccaṃ natthi.
สามเณโร ปฎิพโล ปจิตุํ, ขโณ ปนสฺส นตฺถิ, กตฺถจิ คนฺตุกาโมฯ ภิกฺขุนา สตณฺฑุโลทกภาชนํ ปฎิคฺคเหตฺวา อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา อคฺคิํ ชาเลตฺวา คจฺฉาหีติ วตฺตโพฺพฯ ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว สพฺพํ กาตุํ วฎฺฎติฯ
Sāmaṇero paṭibalo pacituṃ, khaṇo panassa natthi, katthaci gantukāmo. Bhikkhunā sataṇḍulodakabhājanaṃ paṭiggahetvā uddhanaṃ āropetvā aggiṃ jāletvā gacchāhīti vattabbo. Tato paraṃ purimanayeneva sabbaṃ kātuṃ vaṭṭati.
ภิกฺขุ ยาคุอตฺถาย สุทฺธํ ภาชนํ อาโรเปตฺวา อุทกํ ตาเปติ, วฎฺฎติฯ ตเตฺต อุทเก สามเณโร ตณฺฑุเล ปกฺขิปติ, ตโต ปฎฺฐาย ภิกฺขุนา อคฺคิ น กาตโพฺพฯ ปกฺกยาคุํ ปฎิคฺคเหตฺวา ปาตุํ วฎฺฎติฯ
Bhikkhu yāguatthāya suddhaṃ bhājanaṃ āropetvā udakaṃ tāpeti, vaṭṭati. Tatte udake sāmaṇero taṇḍule pakkhipati, tato paṭṭhāya bhikkhunā aggi na kātabbo. Pakkayāguṃ paṭiggahetvā pātuṃ vaṭṭati.
สามเณโร ยาคุํ ปจติ, หตฺถกุกฺกุจฺจโก ภิกฺขุ กีฬโนฺต ภาชนํ อามสติ, ปิธานํ อามสติ , อุคฺคตํ เผณํ ฉินฺทิตฺวา หรติ, ตเสฺสว ปาตุํ น วฎฺฎติ, ทุรุปจิณฺณํ นาม โหติฯ สเจ ปน ทพฺพิํ วา อุฬุงฺกํ วา คเหตฺวา อนุกฺขิปโนฺต อาลุเฬติ, สเพฺพสํ น วฎฺฎติ, สามปากเญฺจว โหติ ทุรุปจิณฺณญฺจฯ สเจ อุกฺขิปติ, อุคฺคหิตกมฺปิ โหติฯ
Sāmaṇero yāguṃ pacati, hatthakukkuccako bhikkhu kīḷanto bhājanaṃ āmasati, pidhānaṃ āmasati , uggataṃ pheṇaṃ chinditvā harati, tasseva pātuṃ na vaṭṭati, durupaciṇṇaṃ nāma hoti. Sace pana dabbiṃ vā uḷuṅkaṃ vā gahetvā anukkhipanto āluḷeti, sabbesaṃ na vaṭṭati, sāmapākañceva hoti durupaciṇṇañca. Sace ukkhipati, uggahitakampi hoti.
ภิกฺขุนา ปิณฺฑาย จริตฺวา อาธารเก ปโตฺต ฐปิโต โหติ, ตตฺร เจ อโญฺญ โลลภิกฺขุ กีฬโนฺต ปตฺตํ อามสติ, ปตฺตปิธานํ อามสติ, ตเสฺสว ตโต ลทฺธํ ภตฺตํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปน ปตฺตํ อุกฺขิปิตฺวา ฐเปติ, สเพฺพสํ น วฎฺฎติฯ ตตฺถชาตกผลานิ สาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา จาเลติ, ตเสฺสว ตโต ลทฺธํ ผลํ น วฎฺฎติ, ทุรุปจิณฺณทุกฺกฎญฺจ อาปชฺชติฯ ผลรุกฺขํ ปน อปสฺสยิตุํ วา ตตฺถ กณฺฑเก วา พนฺธิตุํ วฎฺฎติ, ทุรุปจิณฺณํ น โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ
Bhikkhunā piṇḍāya caritvā ādhārake patto ṭhapito hoti, tatra ce añño lolabhikkhu kīḷanto pattaṃ āmasati, pattapidhānaṃ āmasati, tasseva tato laddhaṃ bhattaṃ na vaṭṭati. Sace pana pattaṃ ukkhipitvā ṭhapeti, sabbesaṃ na vaṭṭati. Tatthajātakaphalāni sākhāya vā valliyā vā gahetvā cāleti, tasseva tato laddhaṃ phalaṃ na vaṭṭati, durupaciṇṇadukkaṭañca āpajjati. Phalarukkhaṃ pana apassayituṃ vā tattha kaṇḍake vā bandhituṃ vaṭṭati, durupaciṇṇaṃ na hotīti mahāpaccariyaṃ vuttaṃ.
อรเญฺญ ปติตํ ปน อมฺพผลาทิํ ทิสฺวา สามเณรสฺส ทสฺสามีติ อาหริตฺวา ทาตุํ วฎฺฎติฯ สีหวิฆาสาทิํ ทิสฺวาปิ สามเณรสฺส ทสฺสามีติ ปฎิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฎิคฺคเหตฺวา วา อาหริตฺวา ทาตุํ วฎฺฎติฯ สเจ ปน สโกฺกติ วิตกฺกํ โสเธตุํ, ตโต ลทฺธํ ขาทิตุมฺปิ วฎฺฎติ, เนว อามกมํสปฎิคฺคหณปจฺจยา น อุคฺคหิตกปจฺจยา วชฺชํ ผุสติฯ
Araññe patitaṃ pana ambaphalādiṃ disvā sāmaṇerassa dassāmīti āharitvā dātuṃ vaṭṭati. Sīhavighāsādiṃ disvāpi sāmaṇerassa dassāmīti paṭiggahetvā vā appaṭiggahetvā vā āharitvā dātuṃ vaṭṭati. Sace pana sakkoti vitakkaṃ sodhetuṃ, tato laddhaṃ khāditumpi vaṭṭati, neva āmakamaṃsapaṭiggahaṇapaccayā na uggahitakapaccayā vajjaṃ phusati.
มาตาปิตูนํ อตฺถาย เตลาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉโต อนฺตรามเคฺค พฺยาธิ อุปฺปชฺชติ, ตโต ยํ อิจฺฉติ, ตํ ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ สเจ ปน มูเลปิ ปฎิคฺคหิตํ โหติ, ปุน ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ มาตาปิตูนํ ตณฺฑุเล อาหริตฺวา เทติ, เต ตโตเยว ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ตสฺส เทนฺติ, วฎฺฎติ สนฺนิธิปจฺจยา วา อุคฺคหิตกปจฺจยา วา โทโส นตฺถิฯ
Mātāpitūnaṃ atthāya telādīni gahetvā gacchato antarāmagge byādhi uppajjati, tato yaṃ icchati, taṃ paṭiggahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati. Sace pana mūlepi paṭiggahitaṃ hoti, puna paṭiggahaṇakiccaṃ natthi. Mātāpitūnaṃ taṇḍule āharitvā deti, te tatoyeva yāguādīni sampādetvā tassa denti, vaṭṭati sannidhipaccayā vā uggahitakapaccayā vā doso natthi.
ภิกฺขุ ปิทหิตฺวา อุทกํ ตาเปติ, ยาว ปริกฺขยา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ สเจ ปเนตฺถ ฉาริกา ปตติ, ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ ทีฆสณฺฑาเสน ถาลกํ คเหตฺวา เตลํ ปจนฺตสฺส ฉาริกา ปตติ, หเตฺถน อมุญฺจเนฺตเนว ปจิตฺวา โอตาเรตฺวา ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ สเจ องฺคาราปิ ทารูนิ วา ปฎิคฺคเหตฺวา ฐปิตานิ, มูลปฎิคฺคหณเมว วฎฺฎติฯ
Bhikkhu pidahitvā udakaṃ tāpeti, yāva parikkhayā paribhuñjituṃ vaṭṭati. Sace panettha chārikā patati, paṭiggahetabbaṃ. Dīghasaṇḍāsena thālakaṃ gahetvā telaṃ pacantassa chārikā patati, hatthena amuñcanteneva pacitvā otāretvā paṭiggahetabbaṃ. Sace aṅgārāpi dārūni vā paṭiggahetvā ṭhapitāni, mūlapaṭiggahaṇameva vaṭṭati.
ภิกฺขุ อุจฺฉุํ ขาทติ, สามเณโร ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติฯ ‘‘อิโต ฉินฺทิตฺวา คณฺหา’’ติ วุโตฺต คณฺหาติ, อวเสเส ปุน ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ คุฬปิณฺฑกํ ขาทนฺตสฺสาปิ เอเสว นโยฯ วุโตฺตกาสโต ฉินฺทิตฺวา คหิตาวเสสญฺหิ อชหิตปฎิคฺคหณเมว โหติฯ
Bhikkhu ucchuṃ khādati, sāmaṇero ‘‘mayhampi dethā’’ti vadati. ‘‘Ito chinditvā gaṇhā’’ti vutto gaṇhāti, avasese puna paṭiggahaṇakiccaṃ natthi. Guḷapiṇḍakaṃ khādantassāpi eseva nayo. Vuttokāsato chinditvā gahitāvasesañhi ajahitapaṭiggahaṇameva hoti.
ภิกฺขุ คุฬํ ภาเชโนฺต ปฎิคฺคเหตฺวา โกฎฺฐาเส กโรติ, ภิกฺขูปิ สามเณราปิ อาคนฺตฺวา เอกคหเณเนว เอกเมกํ โกฎฺฐาสํ คณฺหนฺติ , คหิตาวเสสํ ปฎิคฺคหิตเมว โหติฯ สเจ โลลสามเณโร คณฺหิตฺวา คณฺหิตฺวา ปุน ฐเปติ, ตสฺส คหิตาวเสสํ อปฺปฎิคฺคหิตกํ โหติฯ
Bhikkhu guḷaṃ bhājento paṭiggahetvā koṭṭhāse karoti, bhikkhūpi sāmaṇerāpi āgantvā ekagahaṇeneva ekamekaṃ koṭṭhāsaṃ gaṇhanti , gahitāvasesaṃ paṭiggahitameva hoti. Sace lolasāmaṇero gaṇhitvā gaṇhitvā puna ṭhapeti, tassa gahitāvasesaṃ appaṭiggahitakaṃ hoti.
ภิกฺขุ ธูมวฎฺฎิํ ปฎิคฺคเหตฺวา ธูมํ ปิวติ, มุขญฺจ กโณฺฐ จ มโนสิลาย ลิโตฺต วิย โหติ, ยาวกาลิกํ ภุญฺชิตุํ วฎฺฎติ, ยาวกาลิเกน ยาวชีวิกสํสเคฺค โทโส นตฺถิฯ
Bhikkhu dhūmavaṭṭiṃ paṭiggahetvā dhūmaṃ pivati, mukhañca kaṇṭho ca manosilāya litto viya hoti, yāvakālikaṃ bhuñjituṃ vaṭṭati, yāvakālikena yāvajīvikasaṃsagge doso natthi.
ปตฺตํ วา รชนํ วา ปจนฺตสฺส กณฺณนาสมุขจฺฉิเทฺทหิ ธูโม ปวิสติ, พฺยาธิปจฺจยา ปุปฺผํ วา ผลํ วา อุปสิงฺฆติ, อโพฺพหาริกตฺตา วฎฺฎติฯ ภตฺตุคฺคาโร ตาลุํ อาหจฺจ อโนฺตเยว ปวิสติ, อวิสยตฺตา วฎฺฎติฯ มุขํ ปวิฎฺฐํ ปน อโชฺฌหรโต วิกาเล อาปตฺติฯ ทนฺตนฺตเร ลคฺคสฺส อามิสสฺส รโส ปวิสติ, อาปตฺติเยวฯ สเจ สุขุมํ อามิสํ โหติ, รโส น ปญฺญายติ, อโพฺพหาริกปกฺขํ ภชติฯ
Pattaṃ vā rajanaṃ vā pacantassa kaṇṇanāsamukhacchiddehi dhūmo pavisati, byādhipaccayā pupphaṃ vā phalaṃ vā upasiṅghati, abbohārikattā vaṭṭati. Bhattuggāro tāluṃ āhacca antoyeva pavisati, avisayattā vaṭṭati. Mukhaṃ paviṭṭhaṃ pana ajjhoharato vikāle āpatti. Dantantare laggassa āmisassa raso pavisati, āpattiyeva. Sace sukhumaṃ āmisaṃ hoti, raso na paññāyati, abbohārikapakkhaṃ bhajati.
อุปกเฎฺฐ กาเล นิรุทกฎฺฐาเน ภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา กกฺขาเรตฺวา เทฺว ตโย เขฬปิเณฺฑ ปาเตตฺวา อุทกฎฺฐานํ คนฺตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตพฺพํฯ ปฎิคฺคเหตฺวา ฐปิตสิงฺคิเวราทีนํ องฺกุรา นิกฺขมนฺติ, ปุน ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ โลเณ อสติ สมุโทฺททเกน โลณกิจฺจํ กาตุํ วฎฺฎติฯ ปฎิคฺคเหตฺวา ฐปิตํ โลโณทกํ โลณํ โหติ, โลณํ วา อุทกํ โหติ, รโส วา ผาณิตํ โหติ, ผาณิตํ วา รโส โหติ, มูลปฎิคฺคหณเมว วฎฺฎติฯ หิมกรกา อุทกคติกา เอวฯ ปริหาริเกน กตกฎฺฐินา อุทกํ ปสาเทนฺติ, ตํ อโพฺพหาริกํ, อามิเสน สทฺธิํ วฎฺฎติฯ อามิสคติเกหิ กปิตฺถผลาทีหิ ปสาทิตํ ปุเรภตฺตเมว วฎฺฎติฯ
Upakaṭṭhe kāle nirudakaṭṭhāne bhattaṃ bhuñjitvā kakkhāretvā dve tayo kheḷapiṇḍe pātetvā udakaṭṭhānaṃ gantvā mukhaṃ vikkhāletabbaṃ. Paṭiggahetvā ṭhapitasiṅgiverādīnaṃ aṅkurā nikkhamanti, puna paṭiggahaṇakiccaṃ natthi. Loṇe asati samuddodakena loṇakiccaṃ kātuṃ vaṭṭati. Paṭiggahetvā ṭhapitaṃ loṇodakaṃ loṇaṃ hoti, loṇaṃ vā udakaṃ hoti, raso vā phāṇitaṃ hoti, phāṇitaṃ vā raso hoti, mūlapaṭiggahaṇameva vaṭṭati. Himakarakā udakagatikā eva. Parihārikena katakaṭṭhinā udakaṃ pasādenti, taṃ abbohārikaṃ, āmisena saddhiṃ vaṭṭati. Āmisagatikehi kapitthaphalādīhi pasāditaṃ purebhattameva vaṭṭati.
โปกฺขรณีอาทีสุ อุทกํ พหลํ โหติ, วฎฺฎติฯ สเจ ปน มุเข จ หเตฺถ จ ลคฺคติ, น วฎฺฎติ, ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํฯ เขเตฺตสุ กสิตฎฺฐาเน พหลํ อุทกํ โหติ, ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ สเจ สนฺทิตฺวา กนฺทราทีนิ ปวิสิตฺวา นทิํ ปูเรติ, วฎฺฎติฯ กกุธโสพฺภาทโย โหนฺติ, รุกฺขโต ปติเตหิ ปุเปฺผหิ สญฺฉโนฺนทกา, สเจ ปุปฺผรโส น ปญฺญายติ, ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ ปริตฺตํ อุทกํ โหติ, รโส ปญฺญายติ, ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ ปพฺพตกนฺทราทีสุ กาฬวณฺณปณฺณสญฺฉนฺนอุทเกปิ เอเสว นโยฯ
Pokkharaṇīādīsu udakaṃ bahalaṃ hoti, vaṭṭati. Sace pana mukhe ca hatthe ca laggati, na vaṭṭati, paṭiggahetvā paribhuñjitabbaṃ. Khettesu kasitaṭṭhāne bahalaṃ udakaṃ hoti, paṭiggahetabbaṃ. Sace sanditvā kandarādīni pavisitvā nadiṃ pūreti, vaṭṭati. Kakudhasobbhādayo honti, rukkhato patitehi pupphehi sañchannodakā, sace puppharaso na paññāyati, paṭiggahaṇakiccaṃ natthi. Parittaṃ udakaṃ hoti, raso paññāyati, paṭiggahetabbaṃ. Pabbatakandarādīsu kāḷavaṇṇapaṇṇasañchannaudakepi eseva nayo.
ปานียฆเฎ สเรณุกานิ วา สวณฺฎขีรานิ วา ปุปฺผานิ ปกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ ปุปฺผานิ วา ปฎิคฺคเหตฺวา ปกฺขิปิตพฺพานิฯ ปาฎลิจมฺปกมลฺลิกา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ , วาสมตฺตํ ติฎฺฐติ ตํ อโพฺพหาริกํ, ทุติยทิวเสปิ อามิเสน สทฺธิํ วฎฺฎติฯ ภิกฺขุนา ฐปิตปุปฺผวาสิตกปานียโต สามเณโร ปานียํ คเหตฺวา ปีตาวเสสํ ตเตฺถว อากิรติ, ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ ปทุมสราทีสุ อุทกํ สนฺถริตฺวา ฐิตํ ปุปฺผเรณุํ ฆเฎน วิกฺขเมฺภตฺวา อุทกํ คเหตุํ วฎฺฎติฯ กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฎิคฺคเหตฺวา ฐปิตํ ทนฺตกฎฺฐํ โหติ, สเจ ตสฺส รสํ ปิวิตุกาโม, มูลปฎิคฺคหณเมว วฎฺฎติฯ อปฺปฎิคฺคเหตฺวา ฐปิตํ ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ อชานนฺตสฺส รเส ปวิเฎฺฐปิ อาปตฺติเยวฯ อจิตฺตกญฺหิ อิทํ สิกฺขาปทํฯ
Pānīyaghaṭe sareṇukāni vā savaṇṭakhīrāni vā pupphāni pakkhittāni honti, paṭiggahetabbaṃ. Pupphāni vā paṭiggahetvā pakkhipitabbāni. Pāṭalicampakamallikā pakkhittā honti , vāsamattaṃ tiṭṭhati taṃ abbohārikaṃ, dutiyadivasepi āmisena saddhiṃ vaṭṭati. Bhikkhunā ṭhapitapupphavāsitakapānīyato sāmaṇero pānīyaṃ gahetvā pītāvasesaṃ tattheva ākirati, paṭiggahetabbaṃ. Padumasarādīsu udakaṃ santharitvā ṭhitaṃ pupphareṇuṃ ghaṭena vikkhambhetvā udakaṃ gahetuṃ vaṭṭati. Kappiyaṃ kārāpetvā paṭiggahetvā ṭhapitaṃ dantakaṭṭhaṃ hoti, sace tassa rasaṃ pivitukāmo, mūlapaṭiggahaṇameva vaṭṭati. Appaṭiggahetvā ṭhapitaṃ paṭiggahetabbaṃ. Ajānantassa rase paviṭṭhepi āpattiyeva. Acittakañhi idaṃ sikkhāpadaṃ.
มหาภูเตสุ กิํ วฎฺฎติ, กิํ น วฎฺฎตีติ? ขีรํ ตาว วฎฺฎติ, กปฺปิยมํสขีรํ วา อกปฺปิยมํสขีรํ วา โหตุ, ปิวนฺตสฺส อนาปตฺติฯ อสฺสุ เขโฬ สิงฺฆาณิกา มุตฺตํ กรีสํ เสมฺหํ ทนฺตมลํ อกฺขิคูถโก กณฺณคูถโก สรีเร อุฎฺฐิตโลณนฺติ อิทํ สพฺพํ วฎฺฎติฯ ยํ ปเนตฺถ ฐานโต จวิตฺวา ปเตฺต วา หเตฺถ วา ปตติ, ตํ ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ องฺคลคฺคํ ปฎิคฺคหิตกเมวฯ อุณฺหํปายาสํ ภุญฺชนฺตสฺส เสโท องฺคุลิอนุสาเรน เอกาพโทฺธว หุตฺวา ปายาเส สนฺติฎฺฐติ, ปิณฺฑาย วา จรนฺตสฺส หตฺถโต ปตฺตสฺส มุขวฎฺฎิํโต วา ปตฺตตลํ โอโรหติ, เอตฺถ ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ ฌามมหาภูเตสุ อิทํ นาม น วฎฺฎตีติ นตฺถิ, ทุชฺฌาปิตํ ปน น วฎฺฎติฯ สุชฺฌาปิตํ มนุสฺสฎฺฐิมฺปิ จุณฺณํ กตฺวา เลเห อุปเนตุํ วฎฺฎติฯ
Mahābhūtesu kiṃ vaṭṭati, kiṃ na vaṭṭatīti? Khīraṃ tāva vaṭṭati, kappiyamaṃsakhīraṃ vā akappiyamaṃsakhīraṃ vā hotu, pivantassa anāpatti. Assu kheḷo siṅghāṇikā muttaṃ karīsaṃ semhaṃ dantamalaṃ akkhigūthako kaṇṇagūthako sarīre uṭṭhitaloṇanti idaṃ sabbaṃ vaṭṭati. Yaṃ panettha ṭhānato cavitvā patte vā hatthe vā patati, taṃ paṭiggahetabbaṃ. Aṅgalaggaṃ paṭiggahitakameva. Uṇhaṃpāyāsaṃ bhuñjantassa sedo aṅgulianusārena ekābaddhova hutvā pāyāse santiṭṭhati, piṇḍāya vā carantassa hatthato pattassa mukhavaṭṭiṃto vā pattatalaṃ orohati, ettha paṭiggahaṇakiccaṃ natthi. Jhāmamahābhūtesu idaṃ nāma na vaṭṭatīti natthi, dujjhāpitaṃ pana na vaṭṭati. Sujjhāpitaṃ manussaṭṭhimpi cuṇṇaṃ katvā lehe upanetuṃ vaṭṭati.
จตฺตาริ มหาวิกฎานิ อสติ กปฺปิยการเก สามมฺปิ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ เอตฺถ จ ทุพฺพโจปิ อสมโตฺถปิ กปฺปิยการโก อสนฺตปเกฺขเยว ติฎฺฐติฯ ฉาริกาย อสติ สุกฺขทารุํ ฌาเปตฺวา ฉาริกา คเหตพฺพาฯ สุกฺขทารุมฺหิ อสติ อลฺลทารุํ รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฎฺฎติฯ อิทํ ปน จตุพฺพิธมฺปิ มหาวิกฎํ กาโลทิสฺสํ นาม สปฺปทฎฺฐกฺขเณเยว วฎฺฎติฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ
Cattāri mahāvikaṭāni asati kappiyakārake sāmampi gahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati. Ettha ca dubbacopi asamatthopi kappiyakārako asantapakkheyeva tiṭṭhati. Chārikāya asati sukkhadāruṃ jhāpetvā chārikā gahetabbā. Sukkhadārumhi asati alladāruṃ rukkhato chinditvāpi kātuṃ vaṭṭati. Idaṃ pana catubbidhampi mahāvikaṭaṃ kālodissaṃ nāma sappadaṭṭhakkhaṇeyeva vaṭṭati. Sesamettha uttānameva.
เอฬกโลมสมุฎฺฐานํ – กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฎฺฐาติ, กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ , ติเวทนนฺติฯ
Eḷakalomasamuṭṭhānaṃ – kāyato ca kāyacittato ca samuṭṭhāti, kiriyaṃ, nosaññāvimokkhaṃ, acittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ, kāyakammaṃ, ticittaṃ , tivedananti.
ทนฺตโปนสิกฺขาปทํ ทสมํฯ
Dantaponasikkhāpadaṃ dasamaṃ.
สมโตฺต วณฺณนากฺกเมน โภชนวโคฺค จตุโตฺถฯ
Samatto vaṇṇanākkamena bhojanavaggo catuttho.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. โภชนวโคฺค • 4. Bhojanavaggo
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทํ • 10. Dantaponasikkhāpadaṃ