Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā

    ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา

    10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā

    กาเยนาติ หตฺถาทีสุ เยน เกนจิ สรีราวยเวน, อนฺตมโส ปาทงฺคุลิยาปิ คณฺหโนฺต กาเยน คณฺหาติ นามาติ เวทิตโพฺพฯ ทาเนปิ เอเสว นโยฯ กายปฺปฎิพเทฺธนาติ ปตฺตาทีสุ เยน เกนจิ สรีรสมฺพเทฺธน อุปกรเณนฯ ทาเนปิ เอเสว นโยฯ กฎจฺฉุอาทีสุ เยน เกนจิ อุปกรเณน ทินฺนํ กายปฺปฎิพเทฺธน ทินฺนํเยว โหติฯ อญฺญตเรนาติ กาเยน วา กายปฺปฎิพเทฺธน วา นิสฺสคฺคิเยน วาติ อโตฺถฯ ตตฺถ นิสฺสคฺคิเยนาติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๖๕) กายโต จ กายปฺปฎิพทฺธโต จ โมเจตฺวา หตฺถปาเส ฐิตสฺส กาเย วา กายปฺปฎิพเทฺธ วา ปาติยมานญฺหิ นิสฺสคฺคิเยน ปโยเคน ทินฺนํ นาม โหติฯ ตสฺสาติ ปฎิคฺคหิตกสฺสฯ วุตฺตวิปลฺลาสวเสนาติ วุตฺตสฺส ปฎิปกฺขวเสนฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ กายกายปฺปฎิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อญฺญตเรน ทิยฺยมาเน กาเยน วา กายปฺปฎิพเทฺธน วา คณฺหาติ, เอตํ ปฎิคฺคหิตํ นามาติฯ

    Kāyenāti hatthādīsu yena kenaci sarīrāvayavena, antamaso pādaṅguliyāpi gaṇhanto kāyena gaṇhāti nāmāti veditabbo. Dānepi eseva nayo. Kāyappaṭibaddhenāti pattādīsu yena kenaci sarīrasambaddhena upakaraṇena. Dānepi eseva nayo. Kaṭacchuādīsu yena kenaci upakaraṇena dinnaṃ kāyappaṭibaddhena dinnaṃyeva hoti. Aññatarenāti kāyena vā kāyappaṭibaddhena vā nissaggiyena vāti attho. Tattha nissaggiyenāti (pāci. aṭṭha. 265) kāyato ca kāyappaṭibaddhato ca mocetvā hatthapāse ṭhitassa kāye vā kāyappaṭibaddhe vā pātiyamānañhi nissaggiyena payogena dinnaṃ nāma hoti. Tassāti paṭiggahitakassa. Vuttavipallāsavasenāti vuttassa paṭipakkhavasena. Idaṃ vuttaṃ hoti – yaṃ kāyakāyappaṭibaddhanissaggiyānaṃ aññatarena diyyamāne kāyena vā kāyappaṭibaddhena vā gaṇhāti, etaṃ paṭiggahitaṃ nāmāti.

    สํหาริเมนาติ ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สํหาริเมน, อิมินา อสํหาริเม ผลเก วา ปาสาเณ วา ปฎิคฺคหณํ น รุหตีติ ทเสฺสติฯ ธาเรตุํ สมเตฺถนาติ สนฺธาเรตุํ โยเคฺคน, อิมินา สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปเณฺณสุ ปฎิคฺคหณํ น รุหตีติ ทเสฺสติฯ อตตฺถชาตกรุกฺขปเณฺณนาติ ชาตฎฺฐานโต จุเตน ปทุมินิปณฺณาทินา, อิมินา ปน มหเนฺตปิ ตตฺถชาตเก ปทุมินิปเณฺณ วา กิํสุกปณฺณาทิมฺหิ วา ปฎิคฺคเหตุํ น วฎฺฎติฯ น หิ ตํ กายปฺปฎิพทฺธสงฺขํ คจฺฉตีติ ทเสฺสติฯ ยถา จ ตตฺถชาตเก, เอวํ ขาณุเก พนฺธิตฺวา ฐปิตมญฺจาทิมฺหิปิฯ นนุ ปฎิพทฺธปฺปฎิพเทฺธนาปิ ปตฺตาธาราทินา ปฎิคฺคณฺหนฺตสฺส ปฎิคฺคหณํ รุหติ, อถ กสฺมา กายกายปฺปฎิพเทฺธหิเยว ปฎิคฺคหณํ อิธ วุตฺตํ, น ปฎิพทฺธปฺปฎิพเทฺธนาปีติ อาห ‘‘ปฎิพทฺธปฺปฎิพทฺธํ นาม อิธ นตฺถี’’ติฯ เกจิ ปน ‘‘อาธารเกน ปฎิคฺคหณํ กายปฺปฎิพทฺธปฺปฎิพเทฺธน ปฎิคฺคหณํ นาม โหติ, ตสฺมา น วฎฺฎตี’’ติ วทนฺติ, ตํ วจนมตฺตเมวฯ อตฺถโต ปน สพฺพมฺปิ ตํ กายปฺปฎิพทฺธเมว โหตีติ ทเสฺสติฯ

    Saṃhārimenāti thāmamajjhimena purisena saṃhārimena, iminā asaṃhārime phalake vā pāsāṇe vā paṭiggahaṇaṃ na ruhatīti dasseti. Dhāretuṃ samatthenāti sandhāretuṃ yoggena, iminā sukhumesu tintiṇikādipaṇṇesu paṭiggahaṇaṃ na ruhatīti dasseti. Atatthajātakarukkhapaṇṇenāti jātaṭṭhānato cutena paduminipaṇṇādinā, iminā pana mahantepi tatthajātake paduminipaṇṇe vā kiṃsukapaṇṇādimhi vā paṭiggahetuṃ na vaṭṭati. Na hi taṃ kāyappaṭibaddhasaṅkhaṃ gacchatīti dasseti. Yathā ca tatthajātake, evaṃ khāṇuke bandhitvā ṭhapitamañcādimhipi. Nanu paṭibaddhappaṭibaddhenāpi pattādhārādinā paṭiggaṇhantassa paṭiggahaṇaṃ ruhati, atha kasmā kāyakāyappaṭibaddhehiyeva paṭiggahaṇaṃ idha vuttaṃ, na paṭibaddhappaṭibaddhenāpīti āha ‘‘paṭibaddhappaṭibaddhaṃ nāma idha natthī’’ti. Keci pana ‘‘ādhārakena paṭiggahaṇaṃ kāyappaṭibaddhappaṭibaddhena paṭiggahaṇaṃ nāma hoti, tasmā na vaṭṭatī’’ti vadanti, taṃ vacanamattameva. Atthato pana sabbampi taṃ kāyappaṭibaddhameva hotīti dasseti.

    อกลฺลโกติ คิลาโนฯ มุเขน ปฎิคฺคณฺหาตีติ สหเตฺถน คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ อสโกฺกโนฺต มุเขน ปฎิคฺคณฺหาติฯ อภิหฎภาชนโต ปติตรชมฺปิ วฎฺฎติ อภิหฎตฺตาติ อธิปฺปาโหฯ

    Akallakoti gilāno. Mukhena paṭiggaṇhātīti sahatthena gahetvā paribhuñjituṃ asakkonto mukhena paṭiggaṇhāti. Abhihaṭabhājanato patitarajampi vaṭṭati abhihaṭattāti adhippāho.

    ตสฺมิํ ฐตฺวาติ ตาทิเส หตฺถปาเส ฐตฺวาฯ นฺติ ยํ ภารํฯ มชฺฌิโม ปุริโสติ ถามมชฺฌิมปุริโสฯ วินเย ปญฺญตฺตํ ทุกฺกฎํ วินยทุกฺกฎํฯ ตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวาติ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ วา อาสนสาลํ วา คนฺตฺวา ตํ ภิกฺขํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา, อิทญฺจ ปุพฺพาโภคสฺส อนุรูปวเสน วุตฺตํฯ ยสฺมา ปน ตํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมเตฺตน ตํสนฺตกํ นาม น โหติ, ตสฺมา วินาปิ ตสฺส ทานาทิํ ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ

    Tasmiṃ ṭhatvāti tādise hatthapāse ṭhatvā. Yanti yaṃ bhāraṃ. Majjhimo purisoti thāmamajjhimapuriso. Vinaye paññattaṃ dukkaṭaṃ vinayadukkaṭaṃ. Taṃ anupasampannassa datvāti piṇḍāya caritvā vihāraṃ vā āsanasālaṃ vā gantvā taṃ bhikkhaṃ anupasampannassa datvā, idañca pubbābhogassa anurūpavasena vuttaṃ. Yasmā pana taṃ ‘‘anupasampannassa dassāmī’’ti cittuppādamattena taṃsantakaṃ nāma na hoti, tasmā vināpi tassa dānādiṃ paṭiggahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati.

    อสฺสุเขฬสิงฺฆาณิกาทีสูติ เอตฺถ อสฺสุ นาม อกฺขิชลํฯ เขโฬ นาม ลาลาฯ สิงฺฆาณิกาติ อโนฺตสีสโต ปูติเสมฺหภาวํ อาปนฺนํ มตฺถลุงฺคํ คลิตฺวา ตาลุมตฺถกวิวเรน โอตริตฺวา นาสาปุเฎ ปูเรตฺวา ฐิตํ วุจฺจติ, อาทิสเทฺทน มุตฺตกรีสเสมฺหทนฺตมลอกฺขิคูถกณฺณคูถกานํ, สรีเร อุฎฺฐิตโลณสฺส จ คหณํฯ ฐานโตติ อกฺขิกูปาทิโตฯ อนฺตรา เจ คณฺหาติ, กิํ โหตีติ อาห ‘‘อุคฺคหิตกํ นาม โหตี’’ติ, ทุฎฺฐุ คหิตกํ นาม โหตีติ อโตฺถฯ ผลินินฺติ ผลวนฺตํฯ ตตฺถชาตกผลินิสาขาย วาติ ตสฺมิํ รุเกฺข ชาตาย ผลินิสาขาย วาฯ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฎนฺติ ‘‘น กตฺตพฺพ’’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา ทุฎฺฐุ อาจิณฺณํ จริตนฺติ ทุรุปจิณฺณํ, ตสฺมิํ ทุกฺกฎํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฎญฺจ อาปชฺชตีติ อโตฺถฯ

    Assukheḷasiṅghāṇikādīsūti ettha assu nāma akkhijalaṃ. Kheḷo nāma lālā. Siṅghāṇikāti antosīsato pūtisemhabhāvaṃ āpannaṃ matthaluṅgaṃ galitvā tālumatthakavivarena otaritvā nāsāpuṭe pūretvā ṭhitaṃ vuccati, ādisaddena muttakarīsasemhadantamalaakkhigūthakaṇṇagūthakānaṃ, sarīre uṭṭhitaloṇassa ca gahaṇaṃ. Ṭhānatoti akkhikūpādito. Antarā ce gaṇhāti, kiṃ hotīti āha ‘‘uggahitakaṃ nāma hotī’’ti, duṭṭhu gahitakaṃ nāma hotīti attho. Phalininti phalavantaṃ. Tatthajātakaphalinisākhāya vāti tasmiṃ rukkhe jātāya phalinisākhāya vā. Durupaciṇṇadukkaṭanti ‘‘na kattabba’’nti vāritassa katattā duṭṭhu āciṇṇaṃ caritanti durupaciṇṇaṃ, tasmiṃ dukkaṭaṃ durupaciṇṇadukkaṭañca āpajjatīti attho.

    อาหรียตีติ อาหาโร, อโชฺฌหริตพฺพํ ยํ กิญฺจิ, อิธ ปน จตฺตาริ กาลิกานิ อธิเปฺปตานีติ อาห ‘‘ยํ กิญฺจี’’ติอาทิฯ ตตฺถ อรุณุคฺคมนโต ยาว ฐิตมชฺฌนฺหิกา ภุญฺชิตพฺพโต ยาว กาโล อสฺสาติ ยาวกาลิกํฯ อรุณุคฺคมนโต ยาว ยามาวสานา ปิปาสาย สติ ปิปาสเจฺฉทนตฺถํ ปาตพฺพโต ยาโม กาโล อสฺสาติ ยามกาลิกํฯ ยาว สตฺตาหํ นิทหิตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพโต สตฺตาหํ กาโล อสฺสาติ สตฺตาหกาลิกํฯ ยาวชีวมฺปิ ปริหริตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพโต ยาว ชีวํ เอตสฺสาติ ยาวชีวิกํฯ เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิฯ

    Āharīyatīti āhāro, ajjhoharitabbaṃ yaṃ kiñci, idha pana cattāri kālikāni adhippetānīti āha ‘‘yaṃ kiñcī’’tiādi. Tattha aruṇuggamanato yāva ṭhitamajjhanhikā bhuñjitabbato yāva kālo assāti yāvakālikaṃ. Aruṇuggamanato yāva yāmāvasānā pipāsāya sati pipāsacchedanatthaṃ pātabbato yāmo kālo assāti yāmakālikaṃ. Yāva sattāhaṃ nidahitvā paribhuñjitabbato sattāhaṃ kālo assāti sattāhakālikaṃ. Yāvajīvampi pariharitvā paribhuñjitabbato yāva jīvaṃ etassāti yāvajīvikaṃ. Tenāha ‘‘tatthā’’tiādi.

    วนมูลปตฺตปุปฺผผลาทีติ เอตฺถ ตาว มูลํ นาม มูลกขารกจจฺจุตมฺพกาทีนํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถเญฺจว โภชนียตฺถญฺจ ผรณกํ สูเปยฺยปณฺณมูลํฯ ปตฺตํ นาม มูลกขารกจจฺจุตมฺพกาทีนํ ตาทิสํเยว ปตฺตํฯ ปุปฺผํ นาม มูลกขารกาทีนํ ตาทิสํเยว ปุปฺผํฯ ผลํ นาม ปนสลพุชาทีนํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถเญฺจว โภชนียตฺถญฺจ ผรณกํ ผลํฯ อาทิสเทฺทน กนฺทมูลาทีนํ คหณํฯ

    Vanamūlapattapupphaphalādīti ettha tāva mūlaṃ nāma mūlakakhārakacaccutambakādīnaṃ tesu tesu janapadesu pakatiāhāravasena manussānaṃ khādanīyatthañceva bhojanīyatthañca pharaṇakaṃ sūpeyyapaṇṇamūlaṃ. Pattaṃ nāma mūlakakhārakacaccutambakādīnaṃ tādisaṃyeva pattaṃ. Pupphaṃ nāma mūlakakhārakādīnaṃ tādisaṃyeva pupphaṃ. Phalaṃ nāma panasalabujādīnaṃ tesu tesu janapadesu pakatiāhāravasena manussānaṃ khādanīyatthañceva bhojanīyatthañca pharaṇakaṃ phalaṃ. Ādisaddena kandamūlādīnaṃ gahaṇaṃ.

    อมฺพปานนฺติ (มหาว. อฎฺฐ. ๓๐๐) อาเมหิ วา ปเกฺกหิ วา อเมฺพหิ กตปานํฯ ตตฺถ อาเมหิ กโรเนฺตน อมฺพตรุณาทีนิ ภินฺทิตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ตทหุปฎิคฺคหิเตหิ มธุสกฺกรกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพํฯ เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติฯ อนุปสมฺปเนฺนน กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฎิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนาปิ วฎฺฎติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฎฺฎติฯ เอส นโย สพฺพปาเนสุฯ

    Ambapānanti (mahāva. aṭṭha. 300) āmehi vā pakkehi vā ambehi katapānaṃ. Tattha āmehi karontena ambataruṇādīni bhinditvā udake pakkhipitvā ātape ādiccapākena pacitvā parissāvetvā tadahupaṭiggahitehi madhusakkarakappūrādīhi yojetvā kātabbaṃ. Evaṃ kataṃ purebhattameva kappati. Anupasampannena kataṃ labhitvā pana purebhattaṃ paṭiggahitaṃ purebhattaṃ sāmisaparibhogenāpi vaṭṭati, pacchābhattaṃ nirāmisaparibhogena yāva aruṇuggamanā vaṭṭati. Esa nayo sabbapānesu.

    เตสุ ปน ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํฯ โจจปานนฺติ อฎฺฐิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํฯ โมจปานนฺติ อนฎฺฐิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํฯ มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํฯ ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฎฺฎติ, สุทฺธํ น วฎฺฎติฯ มุทฺทิกาปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํ ฯ สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํฯ ผารุสกปานนฺติ ผารุสเกหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํฯ อิมินาว นเยน เวตฺตปานาทีนิ เวทิตพฺพานิฯ เอตานิ จ ปน สพฺพานิ ปานานิ อคฺคิปากานิ น วฎฺฎนฺติฯ เตนาห ‘‘สีโตทเกนา’’ติอาทิฯ อวเสเสสุปิ อนุญฺญาตผลปตฺตปุปฺผรเสสูติ ธญฺญผลปกฺกสากมธุกปุปฺผรสโต อวเสเสสุ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลรสํ ฐเปตฺวา ธญฺญผลรส’’นฺติอาทินา (มหาว. ๓๐๐) อนุญฺญาตเกสุ ผลปตฺตปุปฺผรเสสุปิฯ

    Tesu pana jambupānanti jambuphalehi katapānaṃ. Cocapānanti aṭṭhikehi kadaliphalehi katapānaṃ. Mocapānanti anaṭṭhikehi kadaliphalehi katapānaṃ. Madhukapānanti madhukānaṃ jātirasena katapānaṃ. Taṃ pana udakasambhinnaṃ vaṭṭati, suddhaṃ na vaṭṭati. Muddikāpānanti muddikā udake madditvā ambapānaṃ viya katapānaṃ . Sālūkapānanti rattuppalanīluppalādīnaṃ sālūke madditvā katapānaṃ. Phārusakapānanti phārusakehi ambapānaṃ viya katapānaṃ. Imināva nayena vettapānādīni veditabbāni. Etāni ca pana sabbāni pānāni aggipākāni na vaṭṭanti. Tenāha ‘‘sītodakenā’’tiādi. Avasesesupianuññātaphalapattapuppharasesūti dhaññaphalapakkasākamadhukapuppharasato avasesesu ‘‘anujānāmi, bhikkhave, sabbaṃ phalarasaṃ ṭhapetvā dhaññaphalarasa’’ntiādinā (mahāva. 300) anuññātakesu phalapattapuppharasesupi.

    ขาทนียตฺถนฺติ ขาทนีเยน กตฺตพฺพกิจฺจํฯ เนว ผรตีติ น นิปฺผาเทติฯ อนาหาเรปิ อุทเก อาหารสญฺญายาติ ‘‘อาหารํ อาหเรยฺยา’’ติ ปทสฺส ปทภาชเน (ปาจิ. ๒๖๕) วุตฺตมตฺถํ สมฺมา อสลฺลเกฺขตฺวา ‘‘อาหรียตีติ อาหาโร’’ติ อนาหาเรปิ อุทเก อาหารสญฺญาย กุกฺกุจฺจายนฺตานํทนฺตโปเน จ ‘‘มุขทฺวารํ อาหฎํ อิท’’นฺติ สญฺญายาติ มุขทฺวารํ อนาหฎมฺปิ ทนฺตโปนํ ‘‘มุขทฺวารํ อาหฎํ อิทํ ทนฺตโปน’’นฺติ วิปลฺลตฺถสญฺญาย กุกฺกุจฺจายนฺตานํฯ ยถาสุขํ ปาตุนฺติ ปฎิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฎิคฺคเหตฺวา วา ยถากามํ ปาตุํฯ ทนฺตโปนปริโภเคนาติ ทนฺตกฎฺฐปริโภเคน, ทนฺตโธวนาทินาติ อโตฺถ, อิมินา ตสฺส ปน รสํ คิลิตุํ น วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ

    Khādanīyatthanti khādanīyena kattabbakiccaṃ. Neva pharatīti na nipphādeti. Anāhārepi udake āhārasaññāyāti ‘‘āhāraṃ āhareyyā’’ti padassa padabhājane (pāci. 265) vuttamatthaṃ sammā asallakkhetvā ‘‘āharīyatīti āhāro’’ti anāhārepi udake āhārasaññāya kukkuccāyantānaṃ. Dantapone ca ‘‘mukhadvāraṃ āhaṭaṃ ida’’nti saññāyāti mukhadvāraṃ anāhaṭampi dantaponaṃ ‘‘mukhadvāraṃ āhaṭaṃ idaṃ dantapona’’nti vipallatthasaññāya kukkuccāyantānaṃ. Yathāsukhaṃ pātunti paṭiggahetvā vā appaṭiggahetvā vā yathākāmaṃ pātuṃ. Dantaponaparibhogenāti dantakaṭṭhaparibhogena, dantadhovanādināti attho, iminā tassa pana rasaṃ gilituṃ na vaṭṭatīti dasseti.

    จตฺตาริ มหาวิกฎานีติ คูถํ, มุตฺตํ, ฉาริกา, มตฺติกา (มหาว. ๒๖๘) จ ‘‘อาสยาทิวเสน วิรูปานิ ชาตานี’’ติ กตฺวา วิกฎานีติ วา อปกติโภชนตฺตา วิกฎานิ ‘‘วิรูปานิ ชาตานี’’ติ วา อโตฺถฯ สติ ปจฺจเยติ การเณ สติ, สปฺปทเฎฺฐติ อโตฺถฯ ธูมาทิอโพฺพหาริกาภาโวติ ธูมปุปฺผคนฺธทนฺตขยาทิอโพฺพหาริกาภาโวฯ

    Cattāri mahāvikaṭānīti gūthaṃ, muttaṃ, chārikā, mattikā (mahāva. 268) ca ‘‘āsayādivasena virūpāni jātānī’’ti katvā vikaṭānīti vā apakatibhojanattā vikaṭāni ‘‘virūpāni jātānī’’ti vā attho. Sati paccayeti kāraṇe sati, sappadaṭṭheti attho. Dhūmādiabbohārikābhāvoti dhūmapupphagandhadantakhayādiabbohārikābhāvo.

    ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    โภชนวโคฺค จตุโตฺถฯ

    Bhojanavaggo catuttho.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact