Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา

    10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā

    ๒๖๓. ทสเม อยฺยโวสาฎิตกานีติ ปิตุปิณฺฑเสฺสตํ อธิวจนํฯ อุมฺมาเรติ สุสาเน กตเคหสฺส อตฺตโน เคหสฺส วา อุมฺมาเรฯ ฆนพโทฺธติ ฆนมํเสน สมฺพโทฺธ, กถินสํหตสรีโรติ วุตฺตํ โหติฯ

    263. Dasame ayyavosāṭitakānīti pitupiṇḍassetaṃ adhivacanaṃ. Ummāreti susāne katagehassa attano gehassa vā ummāre. Ghanabaddhoti ghanamaṃsena sambaddho, kathinasaṃhatasarīroti vuttaṃ hoti.

    ๒๖๔. มุขทฺวารนฺติ คลนาฬิกํฯ อาหารนฺติ อโชฺฌหริตพฺพํ ยํกิญฺจิ ยาวกาลิกาทิํฯ อาหเรยฺยาติ มุขทฺวารํ ปเวเสยฺยฯ มุเขน วา ปวิฎฺฐํ โหตุ นาสิกาย วา, คเลน อโชฺฌหรณียตฺตา สพฺพมฺปิ ตํ มุขทฺวารํ ปเวสิตเมว โหติฯ ยสฺมา ปน เต ภิกฺขู อนาหาเรปิ อุทเก อาหารสญฺญาย ทนฺตโปเน จ มุขทฺวารํ อาหฎํ อิทนฺติ สญฺญาย กุกฺกุจฺจายิํสุ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เต ภิกฺขู อทินฺนํ…เป.… สมฺมา อตฺถํ อสลฺลเกฺขตฺวา กุกฺกุจฺจายิํสู’’ติฯ อุทกญฺหิ ยถาสุขํ ปาตุํ ทนฺตกฎฺฐญฺจ ทนฺตโปนปริโภเคน ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติ, ตสฺส ปน รสํ คิลิตุํ น วฎฺฎติฯ สเจปิ ทนฺตกฎฺฐรโส อชานนฺตสฺส อโนฺต ปวิสติ, ปาจิตฺติยเมวฯ อนโชฺฌหรเนฺตน ปน ทนฺตกฎฺฐํ วา โหตุ อญฺญํ วา, กิญฺจิ มุเข ปกฺขิปิตุํ วฎฺฎติฯ

    264.Mukhadvāranti galanāḷikaṃ. Āhāranti ajjhoharitabbaṃ yaṃkiñci yāvakālikādiṃ. Āhareyyāti mukhadvāraṃ paveseyya. Mukhena vā paviṭṭhaṃ hotu nāsikāya vā, galena ajjhoharaṇīyattā sabbampi taṃ mukhadvāraṃ pavesitameva hoti. Yasmā pana te bhikkhū anāhārepi udake āhārasaññāya dantapone ca mukhadvāraṃ āhaṭaṃ idanti saññāya kukkuccāyiṃsu, tasmā vuttaṃ ‘‘te bhikkhū adinnaṃ…pe… sammā atthaṃ asallakkhetvā kukkuccāyiṃsū’’ti. Udakañhi yathāsukhaṃ pātuṃ dantakaṭṭhañca dantaponaparibhogena paribhuñjituṃ vaṭṭati, tassa pana rasaṃ gilituṃ na vaṭṭati. Sacepi dantakaṭṭharaso ajānantassa anto pavisati, pācittiyameva. Anajjhoharantena pana dantakaṭṭhaṃ vā hotu aññaṃ vā, kiñci mukhe pakkhipituṃ vaṭṭati.

    ๒๖๕. อกลฺลโกติ คิลาโน สหตฺถา ปริภุญฺชิตุํ อสโกฺกโนฺต มุเขน ปฎิคฺคณฺหาติฯ อุจฺจารณมตฺตนฺติ อุกฺขิปนมตฺตํฯ เอกเทเสนปีติ องฺคุลิยาปิ ผุฎฺฐมเตฺตนฯ ตํ เจ ปฎิคฺคณฺหาติ, สพฺพํ ปฎิคฺคหิตเมวาติ เวณุโกฎิยา พนฺธิตฺวา ฐปิตตฺตาฯ สเจปิ ภูมิยํ ฐิตเมว ฆฎํ ทายเกน หตฺถปาเส ฐตฺวา ฆฎํ ทสฺสามีติ ทินฺนเวณุโกฎิคฺคหณวเสน ปฎิคฺคณฺหาติ, อุภยโกฎิพทฺธํ สพฺพมฺปิ ปฎิคฺคหิตเมว โหติฯ ภิกฺขุสฺส อตฺถาย อปีเฬตฺวา ปกติยา ปีฬิยมานอุจฺฉุรสํ สนฺธาย ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อภิหาโร น ปญฺญายตี’’ติ วุตฺตํฯ หตฺถปาเส ฐิตสฺส ปน ภิกฺขุสฺส อตฺถาย ปีฬิยมานา อุจฺฉุโต ปคฺฆรนฺตํ รสํ คณฺหิตุํ วฎฺฎติ, โทณิกาย สยํ ปคฺฆรนฺตํ อุจฺฉุรสํ มเชฺฌ อาวริตฺวา อาวริตฺวา วิสฺสชฺชิตมฺปิ คณฺหิตุํ วฎฺฎติฯ กตฺถจิ อฎฺฐกถาสุฯ

    265.Akallakoti gilāno sahatthā paribhuñjituṃ asakkonto mukhena paṭiggaṇhāti. Uccāraṇamattanti ukkhipanamattaṃ. Ekadesenapīti aṅguliyāpi phuṭṭhamattena. Taṃ ce paṭiggaṇhāti, sabbaṃ paṭiggahitamevāti veṇukoṭiyā bandhitvā ṭhapitattā. Sacepi bhūmiyaṃ ṭhitameva ghaṭaṃ dāyakena hatthapāse ṭhatvā ghaṭaṃ dassāmīti dinnaveṇukoṭiggahaṇavasena paṭiggaṇhāti, ubhayakoṭibaddhaṃ sabbampi paṭiggahitameva hoti. Bhikkhussa atthāya apīḷetvā pakatiyā pīḷiyamānaucchurasaṃ sandhāya ‘‘gaṇhathā’’ti vuttattā ‘‘abhihāro na paññāyatī’’ti vuttaṃ. Hatthapāse ṭhitassa pana bhikkhussa atthāya pīḷiyamānā ucchuto paggharantaṃ rasaṃ gaṇhituṃ vaṭṭati, doṇikāya sayaṃ paggharantaṃ ucchurasaṃ majjhe āvaritvā āvaritvā vissajjitampi gaṇhituṃ vaṭṭati. Katthaci aṭṭhakathāsu.

    อสํหาริเมติ ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อสํหาริเยฯ ‘‘ตินฺติณิกาทิปเณฺณสู’’ติ วจนโต สาขาสุ ปฎิคฺคหณํ รุหตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ ปุญฺฉิตฺวา ปฎิคฺคเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปุญฺฉิเต ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, ตสฺมา ปุญฺฉิตฺวา คเหตฺวาติ เอวมโตฺถ คเหตโพฺพ’’ติ วทนฺติฯ ปุญฺฉิตฺวา ปฎิคฺคเหตฺวา วาติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ ปเตฺต ปติตรชนจุณฺณญฺหิ อพฺภนฺตรปริโภคตฺถาย อปริหฎภาวโต ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ ปุพฺพาโภคสฺส อนุรูเปน ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา…เป.… วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ ยสฺมา ปน ตํ ‘‘อญฺญสฺส ทสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมเตฺตน ปรสนฺตกํ นาม น โหติ, ตสฺมา ตสฺส อทตฺวาปิ ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ

    Asaṃhārimeti thāmamajjhimena purisena asaṃhāriye. ‘‘Tintiṇikādipaṇṇesū’’ti vacanato sākhāsu paṭiggahaṇaṃ ruhatīti daṭṭhabbaṃ. Puñchitvā paṭiggahetvāti ettha ‘‘puñchite paṭiggahaṇakiccaṃ natthi, tasmā puñchitvā gahetvāti evamattho gahetabbo’’ti vadanti. Puñchitvā paṭiggahetvā vāti evamettha attho daṭṭhabbo. Patte patitarajanacuṇṇañhi abbhantaraparibhogatthāya aparihaṭabhāvato paṭiggahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati. Pubbābhogassa anurūpena ‘‘anupasampannassa datvā…pe… vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Yasmā pana taṃ ‘‘aññassa dassāmī’’ti cittuppādamattena parasantakaṃ nāma na hoti, tasmā tassa adatvāpi paṭiggahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati.

    ภิกฺขุสฺส เทตีติ อญฺญสฺส ภิกฺขุสฺส เทติฯ กญฺชิกนฺติ ขีรรสาทิํ ยํกิญฺจิ ทฺรวํ สนฺธาย วุตฺตํฯ หตฺถโต โมเจตฺวา ปุน คณฺหาติ, อุคฺคหิตกํ โหตีติ อาห ‘‘หตฺถโต อโมเจเนฺตเนวา’’ติฯ อาลุเลนฺตานนฺติ อาโลเลนฺตานํ, อยเมว วา ปาโฐฯ อาหริตฺวา ภูมิยํ ฐปิตตฺตา อภิหาโร นตฺถีติ อาห ‘‘ปโตฺต ปฎิคฺคเหตโพฺพ’’ติฯ ปฐมตรํ อุฬุงฺกโต เถวา ปเตฺต ปตนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ยถา ปฐมตรํ ปติตเถเว โทโส นตฺถิ, ตถา อากิริตฺวา อปเนนฺตานํ ปจฺฉา ปติตเถเวปิ อภิหฎตฺตา เนวตฺถิ โทโส’’ติ วทนฺติฯ จรุเกนาติ ขุทฺทกภาชเนนฯ มุขวฎฺฎิยาปิ คเหตุํ วฎฺฎตีติ มุขวฎฺฎิํ อุกฺขิปิตฺวา หเตฺถ ผุสาปิเต คณฺหิตุํ วฎฺฎติฯ เกจีติ อภยคิริวาสิโนฯ เอส นโยติ กายปฎิพทฺธปฎิพทฺธมฺปิ กายปฎิพทฺธเมวาติ อยํ นโยฯ ตถา จ ตตฺถ กายปฎิพเทฺธ ตํปฎิพเทฺธ จ ถุลฺลจฺจยเมว วุตฺตํฯ

    Bhikkhussa detīti aññassa bhikkhussa deti. Kañjikanti khīrarasādiṃ yaṃkiñci dravaṃ sandhāya vuttaṃ. Hatthato mocetvā puna gaṇhāti, uggahitakaṃ hotīti āha ‘‘hatthato amocentenevā’’ti. Ālulentānanti ālolentānaṃ, ayameva vā pāṭho. Āharitvā bhūmiyaṃ ṭhapitattā abhihāro natthīti āha ‘‘patto paṭiggahetabbo’’ti. Paṭhamataraṃ uḷuṅkato thevā patte patantīti ettha ‘‘yathā paṭhamataraṃ patitatheve doso natthi, tathā ākiritvā apanentānaṃ pacchā patitathevepi abhihaṭattā nevatthi doso’’ti vadanti. Carukenāti khuddakabhājanena. Mukhavaṭṭiyāpi gahetuṃ vaṭṭatīti mukhavaṭṭiṃ ukkhipitvā hatthe phusāpite gaṇhituṃ vaṭṭati. Kecīti abhayagirivāsino. Esa nayoti kāyapaṭibaddhapaṭibaddhampi kāyapaṭibaddhamevāti ayaṃ nayo. Tathā ca tattha kāyapaṭibaddhe taṃpaṭibaddhe ca thullaccayameva vuttaṃ.

    เตนาติ ยสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คตํ, เตนฯ ตสฺมาติ ยสฺมา มูลฎฺฐเสฺสว ปริโภโค อนุญฺญาโต, ตสฺมาฯ ตํ ทิวสํ หเตฺถน คเหตฺวา ทุติยทิวเส ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส อุคฺคหิตกปฎิคฺคหิตํ โหตีติ อาห ‘‘อนามสิตฺวา’’ติฯ อปฺปฎิคฺคหิตตฺตา ‘‘สนฺนิธิปจฺจยา อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํฯ อปฺปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส อทินฺนมุขทฺวาราปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘ปฎิคฺคเหตฺวา ปน ปริภุญฺชิตพฺพ’’นฺติฯ ‘‘ตํ ทิวสํ…เป.… น ตโต ปร’’นฺติ วจนโต ตํ ทิวสํ หเตฺถน คเหตฺวา วา อคฺคเหตฺวา วา ฐปิตํ ทุติยทิวเส อปฺปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส อทินฺนมุขทฺวาราปตฺติ โหติ, หเตฺถน คเหตฺวา ฐปิตํ ทุติยทิวเส ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส ปน อุคฺคหิตกปฎิคฺคหิตํ โหติฯ อปฺปฎิคฺคหิตเมว หิ หเตฺถน คเหตฺวา ฐปิตํฯ ‘‘สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุ’’นฺติ หิ วจนโต อปฺปฎิคฺคหิตเสฺสว ตสฺมิํ ทิวเส ปริโภโค อนุญฺญาโตฯ ตสฺมา ยํ วุตฺตํ คณฺฐิปเท ‘‘ตํ ทิยฺยมานํ ปตตีติ เอตฺถ ยถา คณโภชนาทีสุ คิลานาทีนํ กุกฺกุจฺจายนฺตานํ คณโภชนํ อนุญฺญาตํ, เอวมิธาปิ ภควตา ปฎิคฺคหิตเมว กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ อนุญฺญาต’’นฺติ, ตํ น คเหตพฺพํฯ ‘‘ตํ ทิยฺยมานํ ปตตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา จตูสุปิ กาลิเกสุ อยํ นโย เวทิตโพฺพฯ

    Tenāti yassa bhikkhuno santikaṃ gataṃ, tena. Tasmāti yasmā mūlaṭṭhasseva paribhogo anuññāto, tasmā. Taṃ divasaṃ hatthena gahetvā dutiyadivase paṭiggahetvā paribhuñjantassa uggahitakapaṭiggahitaṃ hotīti āha ‘‘anāmasitvā’’ti. Appaṭiggahitattā ‘‘sannidhipaccayā anāpattī’’ti vuttaṃ. Appaṭiggahetvā paribhuñjantassa adinnamukhadvārāpatti hotīti āha ‘‘paṭiggahetvā pana paribhuñjitabba’’nti. ‘‘Taṃ divasaṃ…pe… na tato para’’nti vacanato taṃ divasaṃ hatthena gahetvā vā aggahetvā vā ṭhapitaṃ dutiyadivase appaṭiggahetvā paribhuñjantassa adinnamukhadvārāpatti hoti, hatthena gahetvā ṭhapitaṃ dutiyadivase paṭiggahetvā paribhuñjantassa pana uggahitakapaṭiggahitaṃ hoti. Appaṭiggahitameva hi hatthena gahetvā ṭhapitaṃ. ‘‘Sāmaṃ gahetvā paribhuñjitu’’nti hi vacanato appaṭiggahitasseva tasmiṃ divase paribhogo anuññāto. Tasmā yaṃ vuttaṃ gaṇṭhipade ‘‘taṃ diyyamānaṃ patatīti ettha yathā gaṇabhojanādīsu gilānādīnaṃ kukkuccāyantānaṃ gaṇabhojanaṃ anuññātaṃ, evamidhāpi bhagavatā paṭiggahitameva kukkuccavinodanatthaṃ anuññāta’’nti, taṃ na gahetabbaṃ. ‘‘Taṃ diyyamānaṃ patatī’’ti avisesena vuttattā catūsupi kālikesu ayaṃ nayo veditabbo.

    สตฺถเกนาติ ปฎิคฺคหิตสตฺถเกนฯ กสฺมา ปเนตฺถ อุคฺคหิตปจฺจยา สนฺนิธิปจฺจยา วา โทโส น สิยาติ อาห ‘‘น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตี’’ติฯ อิมินาว พาหิรปริโภคตฺถํ สามํ คเหตฺวา อนุปสมฺปเนฺนน ทินฺนํ วา คเหตฺวา ปริหริตุํ วฎฺฎตีติ ทีเปติฯ ตสฺมา ปตฺตสมฺมกฺขนาทิอตฺถํ สามํ คเหตฺวา ปริหฎเตลาทิํ สเจ ปริภุญฺชิตุกาโม โหติ, ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส อนาปตฺติฯ อพฺภนฺตรปริโภคตฺถํ ปน สามํ คหิตํ ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส อุคฺคหิตกปฎิคฺคหิตํ โหติ, อปฺปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส อทินฺนมุขทฺวาราปตฺติ โหติ, อพฺภนฺตรปริโภคตฺถเมว อนุปสมฺปเนฺนน ทินฺนํ คเหตฺวา ปริหรนฺตสฺส สิงฺคีโลณกโปฺป วิย สนฺนิธิปจฺจยา อาปตฺติ โหติฯ เกจิ ปน ‘‘ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุจฺจารณมตฺตํ โหตีติอาทินา วุตฺตปญฺจงฺคสมฺปตฺติยา ปฎิคฺคหณสฺส รุหนโต พาหิรปริโภคตฺถมฺปิ สเจ อนุปสมฺปเนฺนน ทินฺนํ คณฺหาติ, ปฎิคฺคหิตเมวา’’ติ วทนฺติฯ เอวํ สติ อิธ พาหิรปริโภคตฺถํ อนุปสมฺปเนฺนน ทินฺนํ คเหตฺวา ปริหรนฺตสฺส สนฺนิธิปจฺจยา อาปตฺติ วตฺตพฺพา สิยา, ‘‘น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตี’’ติ จ น วตฺตพฺพํ, ตสฺมา พาหิรปริโภคตฺถํ คหิตํ ปฎิคฺคหิตํ นาม น โหตีติ เวทิตพฺพํฯ ยทิ เอวํ ปญฺจสุ ปฎิคฺคหณเงฺคสุ ‘‘ปริโภคตฺถายา’’ติ วิเสสนํ วตฺตพฺพนฺติ? น วตฺตพฺพํฯ ปฎิคฺคหณญฺหิ ปริโภคตฺถเมว โหตีติ ‘‘ปริโภคตฺถายา’’ติ วิสุํ อวตฺวา ‘‘ตเญฺจ ภิกฺขุ กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา ปฎิคฺคณฺหาตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํฯ อปเร ปน ‘‘สติปิ ปฎิคฺคหเณ ‘น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตี’ติ อิธ อปริโภคตฺถาย ปริหรเณ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ วทนฺติฯ อุทุกฺขลมุสลานิ ขิยฺยนฺตีติ เอตฺถ อุทุกฺขลมุสลานํ ขเยน ปิสิตโกฎฺฎิตเภสเชฺชสุ สเจ อาคนฺตุกวโณฺณ ปญฺญายติ, น วฎฺฎติฯ

    Satthakenāti paṭiggahitasatthakena. Kasmā panettha uggahitapaccayā sannidhipaccayā vā doso na siyāti āha ‘‘na hi taṃ paribhogatthāya pariharantī’’ti. Imināva bāhiraparibhogatthaṃ sāmaṃ gahetvā anupasampannena dinnaṃ vā gahetvā pariharituṃ vaṭṭatīti dīpeti. Tasmā pattasammakkhanādiatthaṃ sāmaṃ gahetvā parihaṭatelādiṃ sace paribhuñjitukāmo hoti, paṭiggahetvā paribhuñjantassa anāpatti. Abbhantaraparibhogatthaṃ pana sāmaṃ gahitaṃ paṭiggahetvā paribhuñjantassa uggahitakapaṭiggahitaṃ hoti, appaṭiggahetvā paribhuñjantassa adinnamukhadvārāpatti hoti, abbhantaraparibhogatthameva anupasampannena dinnaṃ gahetvā pariharantassa siṅgīloṇakappo viya sannidhipaccayā āpatti hoti. Keci pana ‘‘thāmamajjhimassa purisassa uccāraṇamattaṃ hotītiādinā vuttapañcaṅgasampattiyā paṭiggahaṇassa ruhanato bāhiraparibhogatthampi sace anupasampannena dinnaṃ gaṇhāti, paṭiggahitamevā’’ti vadanti. Evaṃ sati idha bāhiraparibhogatthaṃ anupasampannena dinnaṃ gahetvā pariharantassa sannidhipaccayā āpatti vattabbā siyā, ‘‘na hi taṃ paribhogatthāya pariharantī’’ti ca na vattabbaṃ, tasmā bāhiraparibhogatthaṃ gahitaṃ paṭiggahitaṃ nāma na hotīti veditabbaṃ. Yadi evaṃ pañcasu paṭiggahaṇaṅgesu ‘‘paribhogatthāyā’’ti visesanaṃ vattabbanti? Na vattabbaṃ. Paṭiggahaṇañhi paribhogatthameva hotīti ‘‘paribhogatthāyā’’ti visuṃ avatvā ‘‘tañce bhikkhu kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā paṭiggaṇhātī’’ti ettakameva vuttaṃ. Apare pana ‘‘satipi paṭiggahaṇe ‘na hi taṃ paribhogatthāya pariharantī’ti idha aparibhogatthāya pariharaṇe anāpatti vuttā’’ti vadanti. Udukkhalamusalāni khiyyantīti ettha udukkhalamusalānaṃ khayena pisitakoṭṭitabhesajjesu sace āgantukavaṇṇo paññāyati, na vaṭṭati.

    สุทฺธํ อุทกํ โหตีติ รุกฺขสาขาทีหิ คฬิตฺวา ปตนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ปโตฺต วาสฺส ปฎิคฺคเหตโพฺพติ เอตฺถาปิ ปตฺตคตํ ฉุปิตฺวา เทนฺตสฺส หตฺถลเคฺคน อามิเสน โทสาภาวตฺถํ ปตฺตปฎิคฺคหณนฺติ อพฺภนฺตรปริโภคตฺถเมว ปฎิคฺคหณํ เวทิตพฺพํฯ ยํ สามเณรสฺส ปเตฺต ปตติ…เป.… ปฎิคฺคหณํ น วิชหตีติ เอตฺถ ปุนปฺปุนํ คณฺหนฺตสฺส อตฺตโน ปเตฺต ปกฺขิตฺตเมว ‘‘อตฺตโน สนฺตก’’นฺติ สนฺนิฎฺฐานกรณโต หตฺถคตํ ปฎิคฺคหณํ น วิชหติ, ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ ปน คณฺหนฺตสฺส คหณสมเยเยว ‘‘อตฺตโน สนฺตก’’นฺติ สนฺนิฎฺฐานสฺส กตตฺตา หตฺถคตํ ปฎิคฺคหณํ วิชหติฯ เกสญฺจิ อตฺถาย โอทนํ ปกฺขิปตีติ เอตฺถ อนุปสมฺปนฺนสฺส อตฺถาย ปกฺขิปเนฺตปิ ‘‘อาคนฺตฺวา คณฺหิสฺสตี’’ติ สยเมว ปกฺขิปิตฺวา ฐปนโต ปฎิคฺคหณํ น วิชหติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส หเตฺถ ปกฺขิตฺตํ ปน อนุปสมฺปเนฺนเนว ฐปิตํ นาม โหตีติ ปฎิคฺคหณํ วิชหติ ปริจฺจตฺตภาวโตฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สามเณร…เป.… ปริจฺจตฺตตฺตา’’ติฯ

    Suddhaṃ udakaṃ hotīti rukkhasākhādīhi gaḷitvā patanaudakaṃ sandhāya vuttaṃ. Patto vāssa paṭiggahetabboti etthāpi pattagataṃ chupitvā dentassa hatthalaggena āmisena dosābhāvatthaṃ pattapaṭiggahaṇanti abbhantaraparibhogatthameva paṭiggahaṇaṃ veditabbaṃ. Yaṃ sāmaṇerassa patte patati…pe… paṭiggahaṇaṃ na vijahatīti ettha punappunaṃ gaṇhantassa attano patte pakkhittameva ‘‘attano santaka’’nti sanniṭṭhānakaraṇato hatthagataṃ paṭiggahaṇaṃ na vijahati, paricchinditvā dinnaṃ pana gaṇhantassa gahaṇasamayeyeva ‘‘attano santaka’’nti sanniṭṭhānassa katattā hatthagataṃ paṭiggahaṇaṃ vijahati. Kesañci atthāya odanaṃ pakkhipatīti ettha anupasampannassa atthāya pakkhipantepi ‘‘āgantvā gaṇhissatī’’ti sayameva pakkhipitvā ṭhapanato paṭiggahaṇaṃ na vijahati, anupasampannassa hatthe pakkhittaṃ pana anupasampanneneva ṭhapitaṃ nāma hotīti paṭiggahaṇaṃ vijahati pariccattabhāvato. Tena vuttaṃ ‘‘sāmaṇera…pe… pariccattattā’’ti.

    ปฎิคฺคหณูปคํ ภารํ นาม ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุเกฺขปารหํฯ กิญฺจาปิ อวิสฺสเชฺชตฺวาว อเญฺญน หเตฺถน ปิทหนฺตสฺส โทโส นตฺถิ, ตถาปิ น ปิทหิตพฺพนฺติ อฎฺฐกถาปมาเณเนว คเหตพฺพํฯ มจฺฉิกวารณตฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘สเจปิ สาขาย ลคฺครชํ ปเตฺต ปตติ, สุเขน ปริภุญฺชิตุํ สกฺกาติ สาขาย ปฎิคฺคหิตตฺตา อพฺภนฺตรปริโภคตฺถเมวิธ ปฎิคฺคหณนฺติ มูลปฎิคฺคหณเมว วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ อปเร ปน ‘‘มจฺฉิกวารณตฺถนฺติ เอตฺถ วจนมตฺตํ คเหตฺวา พาหิรปริโภคตฺถํ คหิต’’นฺติ วทนฺติฯ ตสฺมิมฺปิ อสตีติ จาฎิยา วา กุณฺฑเก วา อสติฯ อนุปสมฺปนฺนํ คาหาเปตฺวาติ ตํเยว อโชฺฌหรณียภณฺฑํ อนุปสมฺปเนฺนน คาหาเปตฺวาฯ เถรสฺส ปตฺตํ อนุเถรสฺสาติ เถรสฺส ปตฺตํ อตฺตนา คเหตฺวา อนุเถรสฺส เทติฯ ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหีติ เอตฺถ เอวํ วตฺวา สามเณรสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา อตฺตโนปิ ปตฺตํ ตสฺส เทติฯ เอตฺถ ปนาติ ปณฺฑิโต สามเณโรติอาทิปตฺตปริวตฺตนกถายฯ การณํ อุปปริกฺขิตพฺพนฺติ ยถา มาตุอาทีนํ เตลาทีนิ หรโนฺต ตถารูเป กิเจฺจ อนุปสมฺปเนฺนน อปริวเตฺตตฺวาว ปริภุญฺชิตุํ ลภติ, เอวมิธ ปตฺตปริวตฺตนํ อกตฺวา ปริภุญฺชิตุํ น ลภตีติ เอตฺถ การณํ วีมํสิตพฺพนฺติ อโตฺถฯ

    Paṭiggahaṇūpagaṃ bhāraṃ nāma thāmamajjhimassa purisassa ukkhepārahaṃ. Kiñcāpi avissajjetvāva aññena hatthena pidahantassa doso natthi, tathāpi na pidahitabbanti aṭṭhakathāpamāṇeneva gahetabbaṃ. Macchikavāraṇatthanti ettha ‘‘sacepi sākhāya laggarajaṃ patte patati, sukhena paribhuñjituṃ sakkāti sākhāya paṭiggahitattā abbhantaraparibhogatthamevidha paṭiggahaṇanti mūlapaṭiggahaṇameva vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Apare pana ‘‘macchikavāraṇatthanti ettha vacanamattaṃ gahetvā bāhiraparibhogatthaṃ gahita’’nti vadanti. Tasmimpi asatīti cāṭiyā vā kuṇḍake vā asati. Anupasampannaṃ gāhāpetvāti taṃyeva ajjhoharaṇīyabhaṇḍaṃ anupasampannena gāhāpetvā. Therassa pattaṃ anutherassāti therassa pattaṃ attanā gahetvā anutherassa deti. Tuyhaṃ yāguṃ mayhaṃ dehīti ettha evaṃ vatvā sāmaṇerassa pattaṃ gahetvā attanopi pattaṃ tassa deti. Ettha panāti paṇḍito sāmaṇerotiādipattaparivattanakathāya. Kāraṇaṃ upaparikkhitabbanti yathā mātuādīnaṃ telādīni haranto tathārūpe kicce anupasampannena aparivattetvāva paribhuñjituṃ labhati, evamidha pattaparivattanaṃ akatvā paribhuñjituṃ na labhatīti ettha kāraṇaṃ vīmaṃsitabbanti attho.

    เอตฺถ ปน ‘‘สามเณเรหิ คหิตตณฺฑุเลสุ ปริกฺขีเณสุ อวสฺสํ อมฺหากํ สามเณรา สงฺคหํ กโรนฺตีติ วิตกฺกุปฺปตฺติ สมฺภวติ, ตสฺมา ตํ ปริวเตฺตตฺวาว ปริภุญฺชิตพฺพํฯ มาตาปิตูนํ อตฺถาย ปน ฉายตฺถาย วา คหเณ ปริโภคาสา นตฺถิ, ตสฺมา ตํ วฎฺฎตี’’ติ การณํ วทนฺติฯ เตเนว อาจริยพุทฺธทตฺตเตฺถเรนปิ วุตฺตํ –

    Ettha pana ‘‘sāmaṇerehi gahitataṇḍulesu parikkhīṇesu avassaṃ amhākaṃ sāmaṇerā saṅgahaṃ karontīti vitakkuppatti sambhavati, tasmā taṃ parivattetvāva paribhuñjitabbaṃ. Mātāpitūnaṃ atthāya pana chāyatthāya vā gahaṇe paribhogāsā natthi, tasmā taṃ vaṭṭatī’’ti kāraṇaṃ vadanti. Teneva ācariyabuddhadattattherenapi vuttaṃ –

    ‘‘มาตาปิตูนมตฺถาย, เตลาทิหรโตปิ จ;

    ‘‘Mātāpitūnamatthāya, telādiharatopi ca;

    สาขํ ฉายาทิอตฺถาย, อิเมสํ น วิเสสติฯ

    Sākhaṃ chāyādiatthāya, imesaṃ na visesati.

    ‘‘ตสฺมา หิสฺส วิเสสสฺส, จิเนฺตตพฺพํ ตุ การณํ;

    ‘‘Tasmā hissa visesassa, cintetabbaṃ tu kāraṇaṃ;

    ตสฺส สาลยภาวํ ตุ, วิเสสํ ตกฺกยาม ต’’นฺติฯ

    Tassa sālayabhāvaṃ tu, visesaṃ takkayāma ta’’nti.

    อิทเมเวตฺถ ยุตฺตตรํ อวสฺสํ ตถาวิธวิตกฺกุปฺปตฺติยา สมฺภวโตฯ น สกฺกา หิ เอตฺถ วิตกฺกํ โสเธตุนฺติฯ มาตาทีนํ อตฺถาย หรเณ ปน นาวสฺสํ ตถาวิธวิตกฺกุปฺปตฺตีติ สกฺกา วิตกฺกํ โสเธตุํฯ ยตฺถ หิ วิตกฺกํ โสเธตุํ สกฺกา, ตตฺถ เนวตฺถิ โทโสฯ เตเนว วกฺขติ ‘‘สเจ ปน สโกฺกติ วิตกฺกํ โสเธตุํ, ตโต ลทฺธํ ขาทิตุมฺปิ วฎฺฎตี’’ติฯ

    Idamevettha yuttataraṃ avassaṃ tathāvidhavitakkuppattiyā sambhavato. Na sakkā hi ettha vitakkaṃ sodhetunti. Mātādīnaṃ atthāya haraṇe pana nāvassaṃ tathāvidhavitakkuppattīti sakkā vitakkaṃ sodhetuṃ. Yattha hi vitakkaṃ sodhetuṃ sakkā, tattha nevatthi doso. Teneva vakkhati ‘‘sace pana sakkoti vitakkaṃ sodhetuṃ, tato laddhaṃ khāditumpi vaṭṭatī’’ti.

    นิจฺจาเลตุํ น สโกฺกตีติ นิจฺจาเลตฺวา สกฺขรา อปเนตุํ น สโกฺกติฯ อาธารเก ปโตฺต ฐปิโต โหตีติ ปฎิคฺคเหตพฺพปตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ จาเลตีติ วินา การณํ จาเลติฯ สติปิ การเณ ภิกฺขูนํ ปริโภคารหํ จาเลตุํ น วฎฺฎติฯ กิญฺจาปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมนุสฺสิกาพาเธ อามกมํสํ อามกโลหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๔) ตาทิเส อาพาเธ อตฺตโน อตฺถาย อามกมํสปฎิคฺคหณํ อนุญฺญาตํ, ‘‘อามกมํสปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหตี’’ติ จ สามญฺญโต ปฎิกฺขิตฺตํ, ตถาปิ อตฺตโน อญฺญสฺส วา ภิกฺขุโน อตฺถาย อคฺคหิตตฺตา ‘‘สีหวิฆาสาทิํ…เป.… วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ สโกฺกติ วิตกฺกํ โสเธตุนฺติ มยฺหมฺปิ เทตีติ วิตกฺกสฺส อนุปฺปนฺนภาวํ สลฺลเกฺขตุํ สโกฺกติ, สามเณรสฺส ทสฺสามีติ สุทฺธจิเตฺตน มยา คหิตนฺติ วา สลฺลเกฺขตุํ สโกฺกติฯ

    Niccāletuṃ na sakkotīti niccāletvā sakkharā apanetuṃ na sakkoti. Ādhārake patto ṭhapitohotīti paṭiggahetabbapattaṃ sandhāya vuttaṃ. Cāletīti vinā kāraṇaṃ cāleti. Satipi kāraṇe bhikkhūnaṃ paribhogārahaṃ cāletuṃ na vaṭṭati. Kiñcāpi ‘‘anujānāmi, bhikkhave, amanussikābādhe āmakamaṃsaṃ āmakalohita’’nti (mahāva. 264) tādise ābādhe attano atthāya āmakamaṃsapaṭiggahaṇaṃ anuññātaṃ, ‘‘āmakamaṃsapaṭiggahaṇā paṭivirato hotī’’ti ca sāmaññato paṭikkhittaṃ, tathāpi attano aññassa vā bhikkhuno atthāya aggahitattā ‘‘sīhavighāsādiṃ…pe… vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Sakkoti vitakkaṃ sodhetunti mayhampi detīti vitakkassa anuppannabhāvaṃ sallakkhetuṃ sakkoti, sāmaṇerassa dassāmīti suddhacittena mayā gahitanti vā sallakkhetuṃ sakkoti.

    สเจ ปน มูเลปิ ปฎิคฺคหิตํ โหตีติ เอตฺถ ‘‘คเหตฺวา คเต มยฺหมฺปิ ทเทยฺยุนฺติ สญฺญาย สเจ ปฎิคฺคหิตํ โหตี’’ติ วทนฺติฯ โกฎฺฐาเส กโรตีติ ภิกฺขุสามเณรา จ อตฺตโน อตฺตโน อภิรุจิตํ โกฎฺฐาสํ คณฺหนฺตูติ สเพฺพสํ สมเก โกฎฺฐาเส กโรติฯ คหิตาวเสสนฺติ สามเณเรหิ คหิตโกฎฺฐาสโต อวเสสํฯ คณฺหิตฺวาติ ‘‘มยฺหํ อิทํ คณฺหิสฺสามี’’ติ คเหตฺวาฯ อิธ คหิตาวเสสํ นาม เตน คณฺหิตฺวา ปุน ฐปิตํฯ ปฎิคฺคเหตฺวาติ ตทหุ ปฎิคฺคเหตฺวาฯ เตเนว ‘‘ยาวกาลิเกน ยาวชีวิกสํสเคฺค โทโส นตฺถี’’ติ วุตฺตํฯ สเจ ปน ปุริมทิวเส ปฎิคฺคเหตฺวา ฐปิตา โหติ, สามิเสน มุเขน ตสฺสา วฎฺฎิยา ธูมํ ปิวิตุํ น วฎฺฎติฯ สมุโทฺททเกนาติ อปฺปฎิคฺคหิตสมุโทฺททเกนฯ ยสฺมา กตกฎฺฐิ อุทกํ ปสาเทตฺวา วิสุํ ติฎฺฐติ, ตสฺมา ‘‘อโพฺพหาริก’’นฺติ วุตฺตํฯ ลคฺคตีติ มุเข หเตฺถ จ อุทเก สุเกฺข เสตวณฺณํ ทเสฺสนฺตํ ลคฺคติฯ ปานียํ คเหตฺวาติ อตฺตโนเยว อตฺถาย คเหตฺวาฯ สเจ ปน ปีตาวเสสํ ตเตฺถว อากิริสฺสามีติ คณฺหาติ, ปุน ปฎิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิฯ วิกฺขเมฺภตฺวาติ วิยูหิตฺวา, อปเนตฺวาติ อโตฺถฯ

    Sace pana mūlepi paṭiggahitaṃ hotīti ettha ‘‘gahetvā gate mayhampi dadeyyunti saññāya sace paṭiggahitaṃ hotī’’ti vadanti. Koṭṭhāse karotīti bhikkhusāmaṇerā ca attano attano abhirucitaṃ koṭṭhāsaṃ gaṇhantūti sabbesaṃ samake koṭṭhāse karoti. Gahitāvasesanti sāmaṇerehi gahitakoṭṭhāsato avasesaṃ. Gaṇhitvāti ‘‘mayhaṃ idaṃ gaṇhissāmī’’ti gahetvā. Idha gahitāvasesaṃ nāma tena gaṇhitvā puna ṭhapitaṃ. Paṭiggahetvāti tadahu paṭiggahetvā. Teneva ‘‘yāvakālikena yāvajīvikasaṃsagge doso natthī’’ti vuttaṃ. Sace pana purimadivase paṭiggahetvā ṭhapitā hoti, sāmisena mukhena tassā vaṭṭiyā dhūmaṃ pivituṃ na vaṭṭati. Samuddodakenāti appaṭiggahitasamuddodakena. Yasmā katakaṭṭhi udakaṃ pasādetvā visuṃ tiṭṭhati, tasmā ‘‘abbohārika’’nti vuttaṃ. Laggatīti mukhe hatthe ca udake sukkhe setavaṇṇaṃ dassentaṃ laggati. Pānīyaṃ gahetvāti attanoyeva atthāya gahetvā. Sace pana pītāvasesaṃ tattheva ākirissāmīti gaṇhāti, puna paṭiggahaṇakiccaṃ natthi. Vikkhambhetvāti viyūhitvā, apanetvāti attho.

    มหาภูเตสูติ สรีรนิสฺสิเตสุ มหาภูเตสุฯ ปตตีติ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปตติฯ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปติตเมว หิ ปฎิคฺคเหตพฺพํ, น อิตรํฯ อลฺลทารุํ รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฎฺฎตีติ เอตฺถ มตฺติกตฺถาย ปถวิํ ขณิตุมฺปิ วฎฺฎตีติ เวทิตพฺพํฯ สปฺปทฎฺฐกฺขเณเยว วฎฺฎตีติ อสติ กปฺปิยการเก สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติ, อญฺญทา ปฎิคฺคหาเปตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ อปฺปฎิคฺคหิตตา, อนนุญฺญาตตา, ธูมาทิอโพฺพหาริกาภาโว, อโชฺฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ

    Mahābhūtesūti sarīranissitesu mahābhūtesu. Patatīti vicchinditvā patati. Vicchinditvā patitameva hi paṭiggahetabbaṃ, na itaraṃ. Alladāruṃ rukkhato chinditvāpi kātuṃ vaṭṭatīti ettha mattikatthāya pathaviṃ khaṇitumpi vaṭṭatīti veditabbaṃ. Sappadaṭṭhakkhaṇeyeva vaṭṭatīti asati kappiyakārake sāmaṃ gahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati, aññadā paṭiggahāpetvā paribhuñjitabbaṃ. Sesamettha uttānameva. Appaṭiggahitatā, ananuññātatā, dhūmādiabbohārikābhāvo, ajjhoharaṇanti imāni panettha cattāri aṅgāni.

    ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    นิฎฺฐิโต โภชนวโคฺค จตุโตฺถฯ

    Niṭṭhito bhojanavaggo catuttho.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. โภชนวโคฺค • 4. Bhojanavaggo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Dantaponasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทํ • 10. Dantaponasikkhāpadaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact