Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi |
๓๗๘. ทรีมุขชาตกํ (๖-๑-๓)
378. Darīmukhajātakaṃ (6-1-3)
๑๔.
14.
ปโงฺก จ กามา ปลิโป จ กามา, ภยญฺจ เมตํ ติมูลํ ปวุตฺตํ;
Paṅko ca kāmā palipo ca kāmā, bhayañca metaṃ timūlaṃ pavuttaṃ;
รโช จ ธูโม จ มยา ปกาสิตา, หิตฺวา ตุวํ ปพฺพช พฺรหฺมทตฺตฯ
Rajo ca dhūmo ca mayā pakāsitā, hitvā tuvaṃ pabbaja brahmadatta.
๑๕.
15.
คธิโต 1 จ รโตฺต จ อธิมุจฺฉิโต จ, กาเมสฺวหํ พฺราหฺมณ ภิํสรูปํ;
Gadhito 2 ca ratto ca adhimucchito ca, kāmesvahaṃ brāhmaṇa bhiṃsarūpaṃ;
ตํ นุสฺสเห ชีวิกโตฺถ ปหาตุํ, กาหามิ ปุญฺญานิ อนปฺปกานิฯ
Taṃ nussahe jīvikattho pahātuṃ, kāhāmi puññāni anappakāni.
๑๖.
16.
โย อตฺถกามสฺส หิตานุกมฺปิโน, โอวชฺชมาโน น กโรติ สาสนํ;
Yo atthakāmassa hitānukampino, ovajjamāno na karoti sāsanaṃ;
อิทเมว เสโยฺย อิติ มญฺญมาโน, ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ มโนฺทฯ
Idameva seyyo iti maññamāno, punappunaṃ gabbhamupeti mando.
๑๗.
17.
โส โฆรรูปํ นิรยํ อุเปติ, สุภาสุภํ มุตฺตกรีสปูรํ;
So ghorarūpaṃ nirayaṃ upeti, subhāsubhaṃ muttakarīsapūraṃ;
สตฺตา สกาเย น ชหนฺติ คิทฺธา, เย โหนฺติ กาเมสุ อวีตราคาฯ
Sattā sakāye na jahanti giddhā, ye honti kāmesu avītarāgā.
๑๘.
18.
มีเฬฺหน ลิตฺตา รุหิเรน มกฺขิตา, เสเมฺหน ลิตฺตา อุปนิกฺขมนฺติ;
Mīḷhena littā ruhirena makkhitā, semhena littā upanikkhamanti;
ยํ ยญฺหิ กาเยน ผุสนฺติ ตาวเท, สพฺพํ อสาตํ ทุขเมว เกวลํฯ
Yaṃ yañhi kāyena phusanti tāvade, sabbaṃ asātaṃ dukhameva kevalaṃ.
๑๙.
19.
ทิสฺวา วทามิ น หิ อญฺญโต สวํ, ปุเพฺพนิวาสํ พหุกํ สรามิ;
Disvā vadāmi na hi aññato savaṃ, pubbenivāsaṃ bahukaṃ sarāmi;
จิตฺราหิ คาถาหิ สุภาสิตาหิ, ทรีมุโข นิชฺฌาปยิ สุเมธนฺติฯ
Citrāhi gāthāhi subhāsitāhi, darīmukho nijjhāpayi sumedhanti.
ทรีมุขชาตกํ ตติยํฯ
Darīmukhajātakaṃ tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā / [๓๗๘] ๓. ทรีมุขชาตกวณฺณนา • [378] 3. Darīmukhajātakavaṇṇanā