Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๔๙๕] ๑๒. ทสพฺราหฺมณชาตกวณฺณนา
[495] 12. Dasabrāhmaṇajātakavaṇṇanā
ราชา อโวจ วิธุรนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อสทิสทานํ อารพฺภ กเถสิฯ ตํ อฎฺฐกนิปาเต อาทิตฺตชาตเก (ชา. ๑.๘.๖๙ อาทโย) วิตฺถาริตเมวฯ ราชา กิร ตํ ทานํ ททโนฺต สตฺถารํ เชฎฺฐกํ กตฺวา ปญฺจ ภิกฺขุสตานิ วิจินิตฺวา คณฺหิตฺวา มหาขีณาสวานํเยว อทาสิฯ อถสฺส คุณกถํ กเถนฺตา ‘‘อาวุโส, ราชา อสทิสทานํ ททโนฺต วิจินิตฺวา มหปฺผลฎฺฐาเน อทาสี’’ติ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฎฺฐาเปสุํฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, ยํ โกสลราชา มาทิสสฺส พุทฺธสฺส อุปฎฺฐาโก หุตฺวา วิเจยฺยทานํ เทติ, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปเนฺน พุเทฺธปิ วิเจยฺยทานํ อทํสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Rājāavoca vidhuranti idaṃ satthā jetavane viharanto asadisadānaṃ ārabbha kathesi. Taṃ aṭṭhakanipāte ādittajātake (jā. 1.8.69 ādayo) vitthāritameva. Rājā kira taṃ dānaṃ dadanto satthāraṃ jeṭṭhakaṃ katvā pañca bhikkhusatāni vicinitvā gaṇhitvā mahākhīṇāsavānaṃyeva adāsi. Athassa guṇakathaṃ kathentā ‘‘āvuso, rājā asadisadānaṃ dadanto vicinitvā mahapphalaṭṭhāne adāsī’’ti dhammasabhāyaṃ kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘anacchariyaṃ, bhikkhave, yaṃ kosalarājā mādisassa buddhassa upaṭṭhāko hutvā viceyyadānaṃ deti, porāṇakapaṇḍitā anuppanne buddhepi viceyyadānaṃ adaṃsū’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต กุรุรเฎฺฐ อินฺทปตฺถนคเร ยุธิฎฺฐิลโคโตฺต โกรโพฺย นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิฯ ตสฺส วิธุโร นาม อมโจฺจ อตฺถญฺจ ธมฺมญฺจ อนุสาสติฯ ราชา สกลชมฺพุทีปํ โขเภตฺวา มหาทานํ เทติฯ ตํ คเหตฺวา ภุญฺชเนฺตสุ เอโกปิ ปญฺจสีลมตฺตํ รกฺขโนฺต นาม นตฺถิ, สเพฺพ ทุสฺสีลาว, ทานํ ราชานํ น โตเสติฯ ราชา ‘‘วิเจยฺยทานํ มหปฺผล’’นฺติ สีลวนฺตานํ ทาตุกาโม หุตฺวา จิเนฺตสิ ‘‘วิธุรปณฺฑิเตน สทฺธิํ มนฺตยิสฺสามี’’ติฯ โส ตํ อุปฎฺฐานํ อาคตํ อาสเน นิสีทาเปตฺวา ปญฺหํ ปุจฺฉิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อุปฑฺฒคาถมาห –
Atīte kururaṭṭhe indapatthanagare yudhiṭṭhilagotto korabyo nāma rājā rajjaṃ kāresi. Tassa vidhuro nāma amacco atthañca dhammañca anusāsati. Rājā sakalajambudīpaṃ khobhetvā mahādānaṃ deti. Taṃ gahetvā bhuñjantesu ekopi pañcasīlamattaṃ rakkhanto nāma natthi, sabbe dussīlāva, dānaṃ rājānaṃ na toseti. Rājā ‘‘viceyyadānaṃ mahapphala’’nti sīlavantānaṃ dātukāmo hutvā cintesi ‘‘vidhurapaṇḍitena saddhiṃ mantayissāmī’’ti. So taṃ upaṭṭhānaṃ āgataṃ āsane nisīdāpetvā pañhaṃ pucchi. Tamatthaṃ pakāsento satthā upaḍḍhagāthamāha –
๒๒๒.
222.
‘‘ราชา อโวจ วิธุรํ, ธมฺมกาโม ยุธิฎฺฐิโล’’ติ;
‘‘Rājā avoca vidhuraṃ, dhammakāmo yudhiṭṭhilo’’ti;
ปรโต รโญฺญ จ วิธุรสฺส จ วจนปฎิวจนํ โหติ –
Parato rañño ca vidhurassa ca vacanapaṭivacanaṃ hoti –
‘‘พฺราหฺมเณ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
‘‘Brāhmaṇe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๒๓.
223.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๒๔.
224.
‘‘ทุลฺลภา พฺราหฺมณา เทว, สีลวโนฺต พหุสฺสุตา;
‘‘Dullabhā brāhmaṇā deva, sīlavanto bahussutā;
วิรตา เมถุนา ธมฺมา, เย เต ภุเญฺชยฺยุ โภชนํฯ
Viratā methunā dhammā, ye te bhuñjeyyu bhojanaṃ.
๒๒๕.
225.
‘‘ทส ขลุ มหาราช, ยา ตา พฺราหฺมณชาติโย;
‘‘Dasa khalu mahārāja, yā tā brāhmaṇajātiyo;
เตสํ วิภงฺคํ วิจยํ, วิตฺถาเรน สุโณหิ เมฯ
Tesaṃ vibhaṅgaṃ vicayaṃ, vitthārena suṇohi me.
๒๒๖.
226.
‘‘ปสิพฺพเก คเหตฺวาน, ปุเณฺณ มูลสฺส สํวุเต;
‘‘Pasibbake gahetvāna, puṇṇe mūlassa saṃvute;
โอสธิกาโย คเนฺถนฺติ, นฺหาปยนฺติ ชปนฺติ จฯ
Osadhikāyo ganthenti, nhāpayanti japanti ca.
๒๒๗.
227.
‘‘ติกิจฺฉกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Tikicchakasamā rāja, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๒๘.
228.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๒๙.
229.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๓๐.
230.
‘‘กิงฺกิณิกาโย คเหตฺวา, โฆเสนฺติ ปุรโตปิ เต;
‘‘Kiṅkiṇikāyo gahetvā, ghosenti puratopi te;
เปสนานิปิ คจฺฉนฺติ, รถจริยาสุ สิกฺขเรฯ
Pesanānipi gacchanti, rathacariyāsu sikkhare.
๒๓๑.
231.
‘‘ปริจารกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Paricārakasamā rāja, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๓๒.
232.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๓๓.
233.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๓๔.
234.
‘‘กมณฺฑลุํ คเหตฺวาน, วงฺกทณฺฑญฺจ พฺราหฺมณา;
‘‘Kamaṇḍaluṃ gahetvāna, vaṅkadaṇḍañca brāhmaṇā;
ปจฺจุเปสฺสนฺติ ราชาโน, คาเมสุ นิคเมสุ จ;
Paccupessanti rājāno, gāmesu nigamesu ca;
นาทิเนฺน วุฎฺฐหิสฺสาม, คามมฺหิ วา วนมฺหิ วาฯ
Nādinne vuṭṭhahissāma, gāmamhi vā vanamhi vā.
๒๓๕.
235.
‘‘นิคฺคาหกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Niggāhakasamā rāja, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๓๖.
236.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๓๗.
237.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๓๘.
238.
‘‘ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมา, ปงฺกทนฺตา รชสฺสิรา;
‘‘Parūḷhakacchanakhalomā, paṅkadantā rajassirā;
โอกิณฺณา รชเรณูหิ, ยาจกา วิจรนฺติ เตฯ
Okiṇṇā rajareṇūhi, yācakā vicaranti te.
๒๓๙.
239.
‘‘ขาณุฆาตสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Khāṇughātasamā rāja, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๔๐.
240.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๔๑.
241.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๔๒.
242.
‘‘หรีตกํ อามลกํ, อมฺพํ ชมฺพุํ วิภีตกํ;
‘‘Harītakaṃ āmalakaṃ, ambaṃ jambuṃ vibhītakaṃ;
ลพุชํ ทนฺตโปณานิ, เพลุวา พทรานิ จฯ
Labujaṃ dantapoṇāni, beluvā badarāni ca.
๒๔๓.
243.
‘‘ราชายตนํ อุจฺฉุปุฎํ, ธูมเนตฺตํ มธุอญฺชนํ;
‘‘Rājāyatanaṃ ucchupuṭaṃ, dhūmanettaṃ madhuañjanaṃ;
อุจฺจาวจานิ ปณิยานิ, วิปเณนฺติ ชนาธิปฯ
Uccāvacāni paṇiyāni, vipaṇenti janādhipa.
๒๔๔.
244.
‘‘วาณิชกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Vāṇijakasamā rāja, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๔๕.
245.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๔๖.
246.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๔๗.
247.
‘‘กสิวาณิชฺชํ กาเรนฺติ, โปสยนฺติ อเชฬเก;
‘‘Kasivāṇijjaṃ kārenti, posayanti ajeḷake;
กุมาริโย ปเวจฺฉนฺติ, วิวาหนฺตาวหนฺติ จฯ
Kumāriyo pavecchanti, vivāhantāvahanti ca.
๒๔๘.
248.
‘‘สมา อมฺพฎฺฐเวเสฺสหิ, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Samā ambaṭṭhavessehi, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๔๙.
249.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๕๐.
250.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๕๑.
251.
‘‘นิกฺขิตฺตภิกฺขํ ภุญฺชนฺติ, คาเมเสฺวเก ปุโรหิตา;
‘‘Nikkhittabhikkhaṃ bhuñjanti, gāmesveke purohitā;
พหู เต ปริปุจฺฉนฺติ, อณฺฑเจฺฉทา นิลญฺฉกาฯ
Bahū te paripucchanti, aṇḍacchedā nilañchakā.
๒๕๒.
252.
‘‘ปสูปิ ตตฺถ หญฺญนฺติ, มหิํสา สูกรา อชา;
‘‘Pasūpi tattha haññanti, mahiṃsā sūkarā ajā;
โคฆาตกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Goghātakasamā rāja, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๕๓.
253.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๕๔.
254.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๕๕.
255.
‘‘อสิจมฺมํ คเหตฺวาน, ขคฺคํ ปคฺคยฺห พฺราหฺมณา;
‘‘Asicammaṃ gahetvāna, khaggaṃ paggayha brāhmaṇā;
เวสฺสปเถสุ ติฎฺฐนฺติ, สตฺถํ อพฺพาหยนฺติปิฯ
Vessapathesu tiṭṭhanti, satthaṃ abbāhayantipi.
๒๕๖.
256.
‘‘สมา โคปนิสาเทหิ, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Samā gopanisādehi, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๕๗.
257.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๕๘.
258.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๕๙.
259.
‘‘อรเญฺญ กุฎิกํ กตฺวา, กุฎานิ การยนฺติ เต;
‘‘Araññe kuṭikaṃ katvā, kuṭāni kārayanti te;
สสพิฬาเร พาเธนฺติ, อาโคธา มจฺฉกจฺฉปํฯ
Sasabiḷāre bādhenti, āgodhā macchakacchapaṃ.
๒๖๐.
260.
‘‘เต ลุทฺทกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Te luddakasamā rāja, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๖๑.
261.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๖๒.
262.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphalaṃ.
๒๖๓.
263.
‘‘อเญฺญ ธนสฺส กามา หิ, เหฎฺฐามเญฺจ ปสกฺกิตา;
‘‘Aññe dhanassa kāmā hi, heṭṭhāmañce pasakkitā;
ราชาโน อุปริ นฺหายนฺติ, โสมยาเค อุปฎฺฐิเตฯ
Rājāno upari nhāyanti, somayāge upaṭṭhite.
๒๖๔.
264.
‘‘มลมชฺชกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Malamajjakasamā rāja, tepi vuccanti brāhmaṇā;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเสฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase.
๒๖๕.
265.
‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมญฺญา, (อิติ ราชา โกรโพฺย)
‘‘Apetā te ca brahmaññā, (iti rājā korabyo)
น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;
Na te vuccanti brāhmaṇā;
อเญฺญ วิธุร ปริเยส, สีลวเนฺต พหุสฺสุเตฯ
Aññe vidhura pariyesa, sīlavante bahussute.
๒๖๖.
266.
‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุเญฺชยฺยุ โภชนํ;
‘‘Virate methunā dhammā, ye me bhuñjeyyu bhojanaṃ;
ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติฯ
Dakkhiṇaṃ samma dassāma, yattha dinnaṃ mahapphala’’nti.
ตตฺถ สีลวเนฺตติ มเคฺคนาคตสีเลฯ พหุสฺสุเตติ ปฎิเวธพหุสฺสุเตฯ ทกฺขิณนฺติ ทานํฯ เย เตติ เย ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา ตว ทานํ ภุเญฺชยฺยุํ, เต ทุลฺลภาฯ พฺราหฺมณชาติโยติ พฺราหฺมณกุลานิฯ เตสํ วิภงฺคํ วิจยนฺติ เตสํ พฺราหฺมณานํ วิภงฺคํ มม ปญฺญาย วิจิตภาวํ วิตฺถาเรน สุโณหิฯ สํวุเตติ พทฺธมุเขฯ โอสธิกาโย คเนฺถนฺตีติ ‘‘อิทํ อิมสฺส โรคสฺส เภสชฺชํ, อิทํ อิมสฺส โรคสฺส เภสชฺช’’นฺติ เอวํ สิโลเก พนฺธิตฺวา มนุสฺสานํ เทนฺติฯ นฺหาปยนฺตีติ นหาปนํ นาม กโรนฺติฯ ชปนฺติ จาติ ภูตวิชฺชํ ปริวเตฺตนฺติฯ ติกิจฺฉกสมาติ เวชฺชสทิสาฯ เตปิ วุจฺจนฺตีติ เตปิ ‘‘พฺราหฺมณา วา มยํ, อพฺราหฺมณา วา’’ติ อชานิตฺวา เวชฺชกเมฺมน ชีวิกํ กเปฺปนฺตา โวหาเรน ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติฯ อกฺขาตา เตติ อิเม เต มยา เวชฺชพฺราหฺมณา นาม อกฺขาตาฯ นิปตามเสติ วเทหิ ทานิ, กิํ ตาทิเส พฺราหฺมเณ นิปตาม, นิมนฺตนตฺถาย อุปสงฺกมาม, อตฺถิ เต เอเตหิ อโตฺถติ ปุจฺฉติฯ พฺรหฺมญฺญาติ พฺราหฺมณธมฺมโตฯ น เต วุจฺจนฺตีติ เต พาหิตปาปตาย พฺราหฺมณา นาม น วุจฺจนฺติฯ
Tattha sīlavanteti maggenāgatasīle. Bahussuteti paṭivedhabahussute. Dakkhiṇanti dānaṃ. Ye teti ye dhammikā samaṇabrāhmaṇā tava dānaṃ bhuñjeyyuṃ, te dullabhā. Brāhmaṇajātiyoti brāhmaṇakulāni. Tesaṃ vibhaṅgaṃ vicayanti tesaṃ brāhmaṇānaṃ vibhaṅgaṃ mama paññāya vicitabhāvaṃ vitthārena suṇohi. Saṃvuteti baddhamukhe. Osadhikāyo ganthentīti ‘‘idaṃ imassa rogassa bhesajjaṃ, idaṃ imassa rogassa bhesajja’’nti evaṃ siloke bandhitvā manussānaṃ denti. Nhāpayantīti nahāpanaṃ nāma karonti. Japanti cāti bhūtavijjaṃ parivattenti. Tikicchakasamāti vejjasadisā. Tepi vuccantīti tepi ‘‘brāhmaṇā vā mayaṃ, abrāhmaṇā vā’’ti ajānitvā vejjakammena jīvikaṃ kappentā vohārena ‘‘brāhmaṇā’’ti vuccanti. Akkhātā teti ime te mayā vejjabrāhmaṇā nāma akkhātā. Nipatāmaseti vadehi dāni, kiṃ tādise brāhmaṇe nipatāma, nimantanatthāya upasaṅkamāma, atthi te etehi atthoti pucchati. Brahmaññāti brāhmaṇadhammato. Na te vuccantīti te bāhitapāpatāya brāhmaṇā nāma na vuccanti.
กิงฺกิณิกาโยติ มหาราช, อปเรปิ พฺราหฺมณา อตฺตโน พฺราหฺมณธมฺมํ ฉเฑฺฑตฺวา ชีวิกตฺถาย ราชราชมหามตฺตานํ ปุรโต กํสตาเฬ คเหตฺวา วาเทนฺตา คายนฺตา คจฺฉนฺติฯ เปสนานิปีติ ทาสกมฺมกรา วิย เปสนานิปิ คจฺฉนฺติฯ รถจริยาสูติ รถสิปฺปํ สิกฺขนฺติฯ ปริจารกสมาติ ทาสกมฺมกรสทิสาฯ วงฺกทณฺฑนฺติ วงฺกทณฺฑกฎฺฐํฯ ปจฺจุเปสฺสนฺติ ราชาโนติ ราชราชมหามเตฺต ปฎิจฺจ อาคมฺม สนฺธาย อุปเสวนฺติฯ คาเมสุ นิคเมสุ จาติ เตสํ นิเวสนทฺวาเร นิสีทนฺติฯ นิคฺคาหกสมาติ นิคฺคหการเกหิ พลิสาธกราชปุริเสหิ สมาฯ ยถา เต ปุริสา ‘‘อคฺคเหตฺวา น คมิสฺสามา’’ติ นิคฺคหํ กตฺวา คณฺหนฺติเยว, ตถา ‘‘คาเม วา วเน วา อลทฺธา มรนฺตาปิ น วุฎฺฐหิสฺสามา’’ติ อุปวสนฺติฯ เตปีติ เตปิ พลิสาธกสทิสา ปาปธมฺมาฯ
Kiṅkiṇikāyoti mahārāja, aparepi brāhmaṇā attano brāhmaṇadhammaṃ chaḍḍetvā jīvikatthāya rājarājamahāmattānaṃ purato kaṃsatāḷe gahetvā vādentā gāyantā gacchanti. Pesanānipīti dāsakammakarā viya pesanānipi gacchanti. Rathacariyāsūti rathasippaṃ sikkhanti. Paricārakasamāti dāsakammakarasadisā. Vaṅkadaṇḍanti vaṅkadaṇḍakaṭṭhaṃ. Paccupessanti rājānoti rājarājamahāmatte paṭicca āgamma sandhāya upasevanti. Gāmesu nigamesu cāti tesaṃ nivesanadvāre nisīdanti. Niggāhakasamāti niggahakārakehi balisādhakarājapurisehi samā. Yathā te purisā ‘‘aggahetvā na gamissāmā’’ti niggahaṃ katvā gaṇhantiyeva, tathā ‘‘gāme vā vane vā aladdhā marantāpi na vuṭṭhahissāmā’’ti upavasanti. Tepīti tepi balisādhakasadisā pāpadhammā.
รชเรณูหีติ รเชหิ จ ปํสูหิ จ โอกิณฺณาฯ ยาจกาติ ธนยาจกาฯ ขาณุฆาตสมาติ มลีนสรีรตาย ฌามเขเตฺต ขาณุฆาตเกหิ ภูมิํ ขณิตฺวา ฌามขาณุกอุทฺธรณกมนุเสฺสหิ สมานา, ‘‘อคฺคเหตฺวา น คมิสฺสามา’’ติ นิจฺจลภาเวน ฐิตตฺตา นิขณิตฺวา ฐปิตวติขาณุกา วิยาติปิ อโตฺถฯ เตปีติ เตปิ ตถา ลทฺธํ ธนํ วฑฺฒิยา ปโยเชตฺวา ปุน ตเถว ฐิตตฺตา ทุสฺสีลา พฺราหฺมณาฯ
Rajareṇūhīti rajehi ca paṃsūhi ca okiṇṇā. Yācakāti dhanayācakā. Khāṇughātasamāti malīnasarīratāya jhāmakhette khāṇughātakehi bhūmiṃ khaṇitvā jhāmakhāṇukauddharaṇakamanussehi samānā, ‘‘aggahetvā na gamissāmā’’ti niccalabhāvena ṭhitattā nikhaṇitvā ṭhapitavatikhāṇukā viyātipi attho. Tepīti tepi tathā laddhaṃ dhanaṃ vaḍḍhiyā payojetvā puna tatheva ṭhitattā dussīlā brāhmaṇā.
อุจฺฉุปุฎนฺติ อุจฺฉุเญฺจว ผาณิตปุฎญฺจฯ มธุอญฺชนนฺติ มธุเญฺจว อญฺชนญฺจฯ อุจฺจาวจานีติ มหคฺฆอปฺปคฺฆานิฯ ปณิยานีติ ภณฺฑานิฯ วิปเณนฺตีติ วิกฺกิณนฺติฯ เตปีติ เตปิ อิมานิ เอตฺตกานิ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกกปฺปกา วาณิชกพฺราหฺมณาฯ โปสยนฺตีติ โครสวิกฺกเยน ชีวิกกปฺปนตฺถํ โปเสนฺติฯ ปเวจฺฉนฺตีติ อตฺตโน ธีตโร หิรญฺญสุวณฺณํ คเหตฺวา ปเรสํ เทนฺติฯ เต เอวํ ปเรสํ ททมานา วิวาหนฺติ นาม, อตฺตโน ปุตฺตานํ อตฺถาย คณฺหมานา อาวาหนฺติ นามฯ อมฺพฎฺฐเวเสฺสหีติ กุฎุมฺพิเกหิ เจว คหปตีหิ จ สมา, เตปิ โวหารวเสน ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติฯ
Ucchupuṭanti ucchuñceva phāṇitapuṭañca. Madhuañjananti madhuñceva añjanañca. Uccāvacānīti mahagghaappagghāni. Paṇiyānīti bhaṇḍāni. Vipaṇentīti vikkiṇanti. Tepīti tepi imāni ettakāni vikkiṇitvā jīvikakappakā vāṇijakabrāhmaṇā. Posayantīti gorasavikkayena jīvikakappanatthaṃ posenti. Pavecchantīti attano dhītaro hiraññasuvaṇṇaṃ gahetvā paresaṃ denti. Te evaṃ paresaṃ dadamānā vivāhanti nāma, attano puttānaṃ atthāya gaṇhamānā āvāhanti nāma. Ambaṭṭhavessehīti kuṭumbikehi ceva gahapatīhi ca samā, tepi vohāravasena ‘‘brāhmaṇā’’ti vuccanti.
นิกฺขิตฺตภิกฺขนฺติ คามปุโรหิตา หุตฺวา อตฺตโน อตฺถาย นิพทฺธภิกฺขํฯ พหู เตติ พหู ชนา เอเต คามปุโรหิเต นกฺขตฺตมุหุตฺตมงฺคลานิ ปุจฺฉนฺติฯ อณฺฑเจฺฉทา นิลญฺฉกาติ ภติํ คเหตฺวา พลิพทฺทานํ อณฺฑเจฺฉทกา เจว ติสูลาทิองฺกกรเณน ลญฺฉกา จ, ลกฺขณการกาติ อโตฺถฯ ตตฺถาติ เตสํ คามปุโรหิตานํ เคเหสุ มํสวิกฺกิณนตฺถํ เอเต ปสุอาทโยปิ หญฺญนฺติฯ เตปีติ เตปิ โคฆาตกสมา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติฯ
Nikkhittabhikkhanti gāmapurohitā hutvā attano atthāya nibaddhabhikkhaṃ. Bahū teti bahū janā ete gāmapurohite nakkhattamuhuttamaṅgalāni pucchanti. Aṇḍacchedā nilañchakāti bhatiṃ gahetvā balibaddānaṃ aṇḍacchedakā ceva tisūlādiaṅkakaraṇena lañchakā ca, lakkhaṇakārakāti attho. Tatthāti tesaṃ gāmapurohitānaṃ gehesu maṃsavikkiṇanatthaṃ ete pasuādayopi haññanti. Tepīti tepi goghātakasamā brāhmaṇāti vuccanti.
อสิจมฺมนฺติ อสิลฎฺฐิเญฺจว กณฺฑวารณญฺจฯ เวสฺสปเถสูติ วาณิชานํ คมนมเคฺคสุฯ สตฺถํ อพฺพาหยนฺตีติ สตฺถวาหานํ หตฺถโต สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ คเหตฺวา สเตฺถ โจราฎวิํ อติพาเหนฺติฯ โคปนิสาเทหีติ โคปาลเกหิ เจว นิสาเทหิ จ คามฆาตกโจเรหิ สมาติ วุตฺตํฯ เตปีติ เตปิ เอวรูปา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติฯ กุฎานิ การยนฺติ เตติ กูฎปาสาทีนิ โรเปนฺติฯ สสพิฬาเรติ สเส เจว พิฬาเร จฯ เอเตน ถลจเร มิเค ทเสฺสติฯ อาโคธา มจฺฉกจฺฉปนฺติ ถลเชสุ ตาว อาโคธโต มหเนฺต จ ขุทฺทเก จ ปาณโย พาเธนฺติ มาเรนฺติ, ชลเชสุ มจฺฉกจฺฉเปฯ เตปีติ เตปิ ลุทฺทกสมา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติฯ
Asicammanti asilaṭṭhiñceva kaṇḍavāraṇañca. Vessapathesūti vāṇijānaṃ gamanamaggesu. Satthaṃ abbāhayantīti satthavāhānaṃ hatthato satampi sahassampi gahetvā satthe corāṭaviṃ atibāhenti. Gopanisādehīti gopālakehi ceva nisādehi ca gāmaghātakacorehi samāti vuttaṃ. Tepīti tepi evarūpā brāhmaṇāti vuccanti. Kuṭāni kārayanti teti kūṭapāsādīni ropenti. Sasabiḷāreti sase ceva biḷāre ca. Etena thalacare mige dasseti. Āgodhā macchakacchapanti thalajesu tāva āgodhato mahante ca khuddake ca pāṇayo bādhenti mārenti, jalajesu macchakacchape. Tepīti tepi luddakasamā brāhmaṇāti vuccanti.
อเญฺญ ธนสฺส กามา หีติ อปเร พฺราหฺมณา ธนํ ปเตฺถนฺตาฯ เหฎฺฐามเญฺจ ปสกฺกิตาติ ‘‘กลิปวาหกมฺมํ กาเรสฺสามา’’ติ รตนมยํ มญฺจํ กาเรตฺวา ตสฺส เหฎฺฐา นิปนฺนา อจฺฉนฺติฯ อถ เนสํ โสมยาเค อุปฎฺฐิเต ราชาโน อุปริ นหายนฺติ, เต กิร โสมยาเค นิฎฺฐิเต อาคนฺตฺวา ตสฺมิํ มเญฺจ นิสีทนฺติฯ อถ เน อเญฺญ พฺราหฺมณา ‘‘กลิํ ปวาเหสฺสามา’’ติ นหาเปนฺติฯ รตนมโญฺจ เจว รโญฺญ ราชาลงฺกาโร จ สโพฺพ เหฎฺฐามเญฺจ นิปนฺนเสฺสว โหติฯ เตปีติ เตปิ มลมชฺชเกหิ นหาปิเตหิ สทิสา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติฯ
Aññedhanassa kāmā hīti apare brāhmaṇā dhanaṃ patthentā. Heṭṭhāmañce pasakkitāti ‘‘kalipavāhakammaṃ kāressāmā’’ti ratanamayaṃ mañcaṃ kāretvā tassa heṭṭhā nipannā acchanti. Atha nesaṃ somayāge upaṭṭhite rājāno upari nahāyanti, te kira somayāge niṭṭhite āgantvā tasmiṃ mañce nisīdanti. Atha ne aññe brāhmaṇā ‘‘kaliṃ pavāhessāmā’’ti nahāpenti. Ratanamañco ceva rañño rājālaṅkāro ca sabbo heṭṭhāmañce nipannasseva hoti. Tepīti tepi malamajjakehi nahāpitehi sadisā brāhmaṇāti vuccanti.
เอวญฺจิเม โวหารมตฺตพฺราหฺมเณ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ปรมตฺถพฺราหฺมเณ ทเสฺสโนฺต เทฺว คาถา อภาสิ –
Evañcime vohāramattabrāhmaṇe dassetvā idāni paramatthabrāhmaṇe dassento dve gāthā abhāsi –
๒๖๗.
267.
‘‘อตฺถิ โข พฺราหฺมณา เทว, สีลวโนฺต พหุสฺสุตา;
‘‘Atthi kho brāhmaṇā deva, sīlavanto bahussutā;
วิรตา เมถุนา ธมฺมา, เย เต ภุเญฺชยฺยุ โภชนํฯ
Viratā methunā dhammā, ye te bhuñjeyyu bhojanaṃ.
๒๖๘.
268.
‘‘เอกญฺจ ภตฺตํ ภุญฺชนฺติ, น จ มชฺชํ ปิวนฺติ เต;
‘‘Ekañca bhattaṃ bhuñjanti, na ca majjaṃ pivanti te;
อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส’’ติฯ
Akkhātā te mahārāja, tādise nipatāmase’’ti.
ตตฺถ สีลวโนฺตติ อริยสีเลน สมนฺนาคตาฯ พหุสฺสุตาติ ปฎิเวธพาหุสเจฺจน สมนฺนาคตาฯ ตาทิเสติ เอวรูเป พาหิตปาเป ปเจฺจกพุทฺธพฺราหฺมเณ นิมนฺตนตฺถาย อุปสงฺกมามาติฯ
Tattha sīlavantoti ariyasīlena samannāgatā. Bahussutāti paṭivedhabāhusaccena samannāgatā. Tādiseti evarūpe bāhitapāpe paccekabuddhabrāhmaṇe nimantanatthāya upasaṅkamāmāti.
ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘สมฺม วิธุร, เอวรูปา อคฺคทกฺขิเณยฺยา พฺราหฺมณา กหํ วสนฺตี’’ติ? อุตฺตรหิมวเนฺต นนฺทมูลกปพฺภาเร, มหาราชาติฯ ‘‘เตน หิ, ปณฺฑิต, ตว พเลน มยฺหํ เต พฺราหฺมเณ ปริเยสา’’ติ ตุฎฺฐมานโส คาถมาห –
Rājā tassa kathaṃ sutvā pucchi ‘‘samma vidhura, evarūpā aggadakkhiṇeyyā brāhmaṇā kahaṃ vasantī’’ti? Uttarahimavante nandamūlakapabbhāre, mahārājāti. ‘‘Tena hi, paṇḍita, tava balena mayhaṃ te brāhmaṇe pariyesā’’ti tuṭṭhamānaso gāthamāha –
๒๖๙.
269.
‘‘เอเต โข พฺราหฺมณา วิธุร, สีสวโนฺต พหุสฺสุตา;
‘‘Ete kho brāhmaṇā vidhura, sīsavanto bahussutā;
เอเต วิธุร ปริเยส, ขิปฺปญฺจ เน นิมนฺตยา’’ติฯ
Ete vidhura pariyesa, khippañca ne nimantayā’’ti.
มหาสโตฺต ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา ‘‘เตน หิ, มหาราช, นครํ อลงฺการาเปตฺวา สเพฺพ นครวาสิโน ทานํ ทตฺวา อุโปสถํ อธิฎฺฐาย สมาทินฺนสีลา โหนฺตู’’ติ เภริํ จราเปตฺวา ‘‘ตุเมฺหปิ สทฺธิํ ปริชเนน อุโปสถํ สมาทิยถา’’ติ วตฺวา สยํ ปาโตว ภุญฺชิตฺวา อุโปสถํ สมาทาย สายนฺหสมเย ชาติปุปฺผปุณฺณํ สุวณฺณสมุคฺคํ อาหราเปตฺวา รญฺญา สทฺธิํ ปญฺจปติฎฺฐิตํ ปติฎฺฐหิตฺวา ปเจฺจกพุทฺธานํ คุเณ อนุสฺสริตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘อุตฺตรหิมวเนฺต นนฺทมูลกปพฺภารวาสิโน ปญฺจสตา ปเจฺจกพุทฺธา เสฺว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ นิมเนฺตตฺวา อากาเส อฎฺฐ ปุปฺผมุฎฺฐิโย วิสฺสเชฺชสิฯ ตทา ตตฺถ ปญฺจสตา ปเจฺจกพุทฺธา วสนฺติ, ปุปฺผานิ คนฺตฺวา เตสํ อุปริ ปติํสุฯ เต อาวเชฺชนฺตา ตํ การณํ ญตฺวา ‘‘มาริสา, วิธุรปณฺฑิเตน นิมนฺติตมฺห, น โข ปเนส อิตฺตรสโตฺต, พุทฺธงฺกุโร เอส, อิมสฺมิํเยว กเปฺป พุโทฺธ ภวิสฺสติ, กริสฺสามสฺส สงฺคห’’นฺติ นิมนฺตนํ อธิวาสยิํสุฯ มหาสโตฺต ปุปฺผานํ อนาคมนสญฺญาย อธิวาสิตภาวํ ญตฺวา ‘‘มหาราช, เสฺว ปเจฺจกพุทฺธา อาคมิสฺสนฺติ, สกฺการสมฺมานํ กโรหี’’ติ อาหฯ ราชา ปุนทิวเส มหาสกฺการํ กตฺวา มหาตเล มหารหานิ อาสนานิ ปญฺญเปสิฯ ปเจฺจกพุทฺธา อโนตตฺตทเห กตสรีรปฎิชคฺคนา เวลํ สลฺลเกฺขตฺวา อากาเสนาคนฺตฺวา ราชงฺคเณ โอตริํสุฯ ราชา จ โพธิสโตฺต จ ปสนฺนมานสา เตสํ หตฺถโต ปตฺตานิ คเหตฺวา ปาสาทํ อาโรเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิํสุฯ ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน จ ปุนทิวสตฺถายาติ เอวํ สตฺต ทิวเส นิมเนฺตตฺวา มหาทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขาเร อทํสุฯ เต อนุโมทนํ กตฺวา อากาเสน ตเตฺถว คตา, ปริกฺขาราปิ เตหิ สทฺธิํเยว คตาฯ
Mahāsatto ‘‘sādhū’’ti tassa vacanaṃ sampaṭicchitvā ‘‘tena hi, mahārāja, nagaraṃ alaṅkārāpetvā sabbe nagaravāsino dānaṃ datvā uposathaṃ adhiṭṭhāya samādinnasīlā hontū’’ti bheriṃ carāpetvā ‘‘tumhepi saddhiṃ parijanena uposathaṃ samādiyathā’’ti vatvā sayaṃ pātova bhuñjitvā uposathaṃ samādāya sāyanhasamaye jātipupphapuṇṇaṃ suvaṇṇasamuggaṃ āharāpetvā raññā saddhiṃ pañcapatiṭṭhitaṃ patiṭṭhahitvā paccekabuddhānaṃ guṇe anussaritvā vanditvā ‘‘uttarahimavante nandamūlakapabbhāravāsino pañcasatā paccekabuddhā sve amhākaṃ bhikkhaṃ gaṇhantū’’ti nimantetvā ākāse aṭṭha pupphamuṭṭhiyo vissajjesi. Tadā tattha pañcasatā paccekabuddhā vasanti, pupphāni gantvā tesaṃ upari patiṃsu. Te āvajjentā taṃ kāraṇaṃ ñatvā ‘‘mārisā, vidhurapaṇḍitena nimantitamha, na kho panesa ittarasatto, buddhaṅkuro esa, imasmiṃyeva kappe buddho bhavissati, karissāmassa saṅgaha’’nti nimantanaṃ adhivāsayiṃsu. Mahāsatto pupphānaṃ anāgamanasaññāya adhivāsitabhāvaṃ ñatvā ‘‘mahārāja, sve paccekabuddhā āgamissanti, sakkārasammānaṃ karohī’’ti āha. Rājā punadivase mahāsakkāraṃ katvā mahātale mahārahāni āsanāni paññapesi. Paccekabuddhā anotattadahe katasarīrapaṭijagganā velaṃ sallakkhetvā ākāsenāgantvā rājaṅgaṇe otariṃsu. Rājā ca bodhisatto ca pasannamānasā tesaṃ hatthato pattāni gahetvā pāsādaṃ āropetvā nisīdāpetvā dakkhiṇodakaṃ datvā paṇītena khādanīyena bhojanīyena parivisiṃsu. Bhattakiccapariyosāne ca punadivasatthāyāti evaṃ satta divase nimantetvā mahādānaṃ datvā sattame divase sabbaparikkhāre adaṃsu. Te anumodanaṃ katvā ākāsena tattheva gatā, parikkhārāpi tehi saddhiṃyeva gatā.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, โกสลรโญฺญ มม อุปฎฺฐากสฺส สโต วิเจยฺยทานํ ทาตุํ, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปเนฺนปิ พุเทฺธ ทานํ อทํสุเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานโนฺท อโหสิ, วิธุรปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā ‘‘anacchariyaṃ, bhikkhave, kosalarañño mama upaṭṭhākassa sato viceyyadānaṃ dātuṃ, porāṇakapaṇḍitā anuppannepi buddhe dānaṃ adaṃsuyevā’’ti vatvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā rājā ānando ahosi, vidhurapaṇḍito pana ahameva ahosi’’nti.
ทสพฺราหฺมณชาตกวณฺณนา ทฺวาทสมาฯ
Dasabrāhmaṇajātakavaṇṇanā dvādasamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๔๙๕. ทสพฺราหฺมณชาตกํ • 495. Dasabrāhmaṇajātakaṃ