Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā |
ทาสวตฺถุกถา
Dāsavatthukathā
๙๗. น ภิกฺขเว ทาโสติ เอตฺถ จตฺตาโร ทาสา – อโนฺตชาโต, ธนกฺกีโต, กรมรานีโต, สามํ ทาสพฺยํ อุปคโตติฯ ตตฺถ อโนฺตชาโต นาม ชาติทาโส ฆรทาสิยา ปุโตฺตฯ ธนกฺกีโต นาม มาตาปิตูนํ สนฺติกา ปุโตฺต วา สามิกานํ สนฺติกา ทาโส วา ธนํ ทตฺวา ทาสจาริตฺตํ อาโรเปตฺวา กีโตฯ เอเต เทฺวปิ น ปพฺพาเชตพฺพาฯ ปพฺพาเชเนฺตน ตตฺถ ตตฺถ จาริตฺตวเสน อทาสํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺพาฯ
97.Na bhikkhave dāsoti ettha cattāro dāsā – antojāto, dhanakkīto, karamarānīto, sāmaṃ dāsabyaṃ upagatoti. Tattha antojāto nāma jātidāso gharadāsiyā putto. Dhanakkīto nāma mātāpitūnaṃ santikā putto vā sāmikānaṃ santikā dāso vā dhanaṃ datvā dāsacārittaṃ āropetvā kīto. Ete dvepi na pabbājetabbā. Pabbājentena tattha tattha cārittavasena adāsaṃ katvā pabbājetabbā.
กรมรานีโต นาม ติโรรฎฺฐํ วิโลปํ วา กตฺวา อุปลาเปตฺวา วา ติโรรฎฺฐโต ภุชิสฺสมานุสกานิ อาหรนฺติ, อโนฺตรเฎฺฐเยว วา กตาปราธํ กิญฺจิ คามํ ราชา ‘‘วิลุมฺปถา’’ติ อาณาเปติ, ตโต มานุสกานิปิ อาหรนฺติฯ ตตฺถ สเพฺพ ปุริสา ทาสา, อิตฺถิโย ทาสิโยฯ เอวรูโป กรมรานีโต ทาโส เยหิ อานีโต, เตสํ สนฺติเก วสโนฺต วา พนฺธนาคาเร พโทฺธ วา ปุริเสหิ รกฺขิยมาโน วา น ปพฺพาเชตโพฺพฯ ปลายิตฺวา ปน คโต, คตฎฺฐาเน ปพฺพาเชตโพฺพฯ รญฺญา ตุเฎฺฐน ‘‘กรมรานีตเก มุญฺจถา’’ติ วตฺวา วา สพฺพสาธารเณน วา นเยน พนฺธนา โมเกฺข กเต ปพฺพาเชตโพฺพวฯ
Karamarānīto nāma tiroraṭṭhaṃ vilopaṃ vā katvā upalāpetvā vā tiroraṭṭhato bhujissamānusakāni āharanti, antoraṭṭheyeva vā katāparādhaṃ kiñci gāmaṃ rājā ‘‘vilumpathā’’ti āṇāpeti, tato mānusakānipi āharanti. Tattha sabbe purisā dāsā, itthiyo dāsiyo. Evarūpo karamarānīto dāso yehi ānīto, tesaṃ santike vasanto vā bandhanāgāre baddho vā purisehi rakkhiyamāno vā na pabbājetabbo. Palāyitvā pana gato, gataṭṭhāne pabbājetabbo. Raññā tuṭṭhena ‘‘karamarānītake muñcathā’’ti vatvā vā sabbasādhāraṇena vā nayena bandhanā mokkhe kate pabbājetabbova.
สามํ ทาสพฺยํ อุปคโต นาม ชีวิตเหตุ วา อารกฺขเหตุ วา ‘‘อหํ เต ทาโส’’ติ สยเมว ทาสภาวํ อุปคโตฯ ราชูนํ หตฺถิอสฺสโคมหิํสโคปกาทโย วิย, ตาทิโส ทาโส น ปพฺพาเชตโพฺพฯ รโญฺญ วณฺณทาสีนํ ปุตฺตา โหนฺติ อมจฺจปุตฺตสทิสา, เตปิ น ปพฺพาเชตพฺพาฯ ภุชิสฺสิตฺถิโย อสํยตา วณฺณทาสีหิ สทฺธิํ วิจรนฺติ, ตาสํ ปุเตฺต ปพฺพาเชตุํ วฎฺฎติฯ สเจ สยเมว ปณฺณํ อาโรเปนฺติ, น วฎฺฎติฯ ภฎิปุตฺตกคณาทีนํ ทาสาปิ เตหิ อทินฺนา น ปพฺพาเชตพฺพาฯ วิหาเรสุ ราชูหิ อารามิกทาสา นาม ทินฺนา โหนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ น วฎฺฎติฯ ภุชิเสฺส ปน กตฺวา ปพฺพาเชตุํ วฎฺฎติฯ มหาปจฺจริยํ ‘‘อโนฺตชาตธนกฺกีตเก อาเนตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อารามิเก เทมาติ เทนฺติ, ตกฺกํ สีเส อาสิตฺตกสทิสาว โหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อารามิกํ เทมาติ กปฺปิยโวหาเรน เทนฺติ, เยน เกนจิ โวหาเรน ทิโนฺน โหตุ, เนว ปพฺพาเชตโพฺพ’’ติ วุตฺตํฯ ทุคฺคตมนุสฺสา สงฺฆํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามาติ วิหาเร กปฺปิยการกา โหนฺติ, เอเตปิ ปพฺพาเชตุํ วฎฺฎติฯ ยสฺส มาตาปิตโร ทาสา, มาตา เอว วา ทาสี, ปิตา อทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฎฺฎติฯ ยสฺส ปน มาตา อทาสี, ปิตา ทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฎฺฎติฯ ภิกฺขุสฺส ญาตกา วา อุปฎฺฐากา วา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, ตุมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กริสฺสตี’’ติ อตฺตโนวาสฺส ทาโส อตฺถิ, ภุชิโสฺส กโตว ปพฺพาเชตโพฺพฯ สามิกา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, สเจ อภิรมิสฺสติ, อทาโส วิพฺภมิสฺสติ เจ, อมฺหากํ ทาโสว ภวิสฺสตีติ อยํ ตาวกาลิโก นาม, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฎฺฎตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํฯ นิสฺสามิกทาโส โหติ, โสปิ ภุชิโสฺส กโตว ปพฺพาเชตโพฺพฯ อชานโนฺต ปพฺพาเชตฺวา วา อุปสมฺปาเทตฺวา วา ปจฺฉา ชานาติ, ภุชิสฺสํ กาตุเมว วฎฺฎติฯ
Sāmaṃ dāsabyaṃ upagato nāma jīvitahetu vā ārakkhahetu vā ‘‘ahaṃ te dāso’’ti sayameva dāsabhāvaṃ upagato. Rājūnaṃ hatthiassagomahiṃsagopakādayo viya, tādiso dāso na pabbājetabbo. Rañño vaṇṇadāsīnaṃ puttā honti amaccaputtasadisā, tepi na pabbājetabbā. Bhujissitthiyo asaṃyatā vaṇṇadāsīhi saddhiṃ vicaranti, tāsaṃ putte pabbājetuṃ vaṭṭati. Sace sayameva paṇṇaṃ āropenti, na vaṭṭati. Bhaṭiputtakagaṇādīnaṃ dāsāpi tehi adinnā na pabbājetabbā. Vihāresu rājūhi ārāmikadāsā nāma dinnā honti, tepi pabbājetuṃ na vaṭṭati. Bhujisse pana katvā pabbājetuṃ vaṭṭati. Mahāpaccariyaṃ ‘‘antojātadhanakkītake ānetvā bhikkhusaṅghassa ārāmike demāti denti, takkaṃ sīse āsittakasadisāva honti, te pabbājetuṃ vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Kurundiyaṃ pana ‘‘ārāmikaṃ demāti kappiyavohārena denti, yena kenaci vohārena dinno hotu, neva pabbājetabbo’’ti vuttaṃ. Duggatamanussā saṅghaṃ nissāya jīvissāmāti vihāre kappiyakārakā honti, etepi pabbājetuṃ vaṭṭati. Yassa mātāpitaro dāsā, mātā eva vā dāsī, pitā adāso, taṃ pabbājetuṃ na vaṭṭati. Yassa pana mātā adāsī, pitā dāso, taṃ pabbājetuṃ vaṭṭati. Bhikkhussa ñātakā vā upaṭṭhākā vā dāsaṃ denti ‘‘imaṃ pabbājetha, tumhākaṃ veyyāvaccaṃ karissatī’’ti attanovāssa dāso atthi, bhujisso katova pabbājetabbo. Sāmikā dāsaṃ denti ‘‘imaṃ pabbājetha, sace abhiramissati, adāso vibbhamissati ce, amhākaṃ dāsova bhavissatīti ayaṃ tāvakāliko nāma, taṃ pabbājetuṃ na vaṭṭatī’’ti kurundiyaṃ vuttaṃ. Nissāmikadāso hoti, sopi bhujisso katova pabbājetabbo. Ajānanto pabbājetvā vā upasampādetvā vā pacchā jānāti, bhujissaṃ kātumeva vaṭṭati.
อิมสฺส จ อตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อิทํ วตฺถุํ วทนฺติ – เอกา กิร กุลทาสี เอเกน สทฺธิํ อนุราธปุรา ปลายิตฺวา โรหเณ วสมานา ปุตฺตํ ปฎิลภิ, โส ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก อโหสิฯ อเถกทิวสํ มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กิํ อุปาสิเก ตุมฺหากํ ภาตา วา ภคินี วา นตฺถิ, น กญฺจิ ญาตกํ ปสฺสามี’’ติฯ ‘‘ตาต, อหํ อนุราธปุเร กุลทาสี, ตว ปิตรา สทฺธิํ ปลายิตฺวา อิธ วสามี’’ติฯ สีลวา ภิกฺขุ ‘‘อสุทฺธา กิร เม ปพฺพชฺชา’’ติ สํเวคํ ลภิตฺวา มาตรํ ตสฺส กุลสฺส นามโคตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา อนุราธปุรํ อาคมฺม ตสฺส กุลสฺส ฆรทฺวาเร อฎฺฐาสิฯ ‘‘อติจฺฉถ ภเนฺต’’ติ วุเตฺตปิ นาติกฺกมิ, เต อาคนฺตฺวา ‘‘กิํ ภเนฺต’’ติ ปุจฺฉิํสุฯ ‘‘ตุมฺหากํ อิตฺถนฺนามา ทาสี ปลาตา อตฺถี’’ติ? อตฺถิ ภเนฺตฯ อหํ ตสฺสา ปุโตฺต, สเจ มํ ตุเมฺห อนุชานาถ, ปพฺพชฺชํ ลภามิ, ตุเมฺห มยฺหํ สามิกาติ ฯ เต หฎฺฐตุฎฺฐา หุตฺวา ‘‘สุทฺธา ภเนฺต ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ตํ ภุชิสฺสํ กตฺวา มหาวิหาเร วสาเปสุํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปฎิชคฺคนฺตาฯ เถโร ตํ กุลํ นิสฺสาย วสมาโนเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติฯ
Imassa ca atthassa pakāsanatthaṃ idaṃ vatthuṃ vadanti – ekā kira kuladāsī ekena saddhiṃ anurādhapurā palāyitvā rohaṇe vasamānā puttaṃ paṭilabhi, so pabbajitvā upasampannakāle lajjī kukkuccako ahosi. Athekadivasaṃ mātaraṃ pucchi – ‘‘kiṃ upāsike tumhākaṃ bhātā vā bhaginī vā natthi, na kañci ñātakaṃ passāmī’’ti. ‘‘Tāta, ahaṃ anurādhapure kuladāsī, tava pitarā saddhiṃ palāyitvā idha vasāmī’’ti. Sīlavā bhikkhu ‘‘asuddhā kira me pabbajjā’’ti saṃvegaṃ labhitvā mātaraṃ tassa kulassa nāmagottaṃ pucchitvā anurādhapuraṃ āgamma tassa kulassa gharadvāre aṭṭhāsi. ‘‘Aticchatha bhante’’ti vuttepi nātikkami, te āgantvā ‘‘kiṃ bhante’’ti pucchiṃsu. ‘‘Tumhākaṃ itthannāmā dāsī palātā atthī’’ti? Atthi bhante. Ahaṃ tassā putto, sace maṃ tumhe anujānātha, pabbajjaṃ labhāmi, tumhe mayhaṃ sāmikāti . Te haṭṭhatuṭṭhā hutvā ‘‘suddhā bhante tumhākaṃ pabbajjā’’ti taṃ bhujissaṃ katvā mahāvihāre vasāpesuṃ catūhi paccayehi paṭijaggantā. Thero taṃ kulaṃ nissāya vasamānoyeva arahattaṃ pāpuṇīti.
ทาสวตฺถุกถา นิฎฺฐิตาฯ
Dāsavatthukathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๓๔. ทาสวตฺถุ • 34. Dāsavatthu
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ราชภฎาทิวตฺถุกถาวณฺณนา • Rājabhaṭādivatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อิณายิกทาสวตฺถุกถาวณฺณนา • Iṇāyikadāsavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ทาสวตฺถุกถาวณฺณนา • Dāsavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๓๔. ทาสวตฺถุกถา • 34. Dāsavatthukathā