Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā |
๔๐. ทสฺสนวิสุทฺธิญาณนิเทฺทสวณฺณนา
40. Dassanavisuddhiñāṇaniddesavaṇṇanā
๙๑. ทสฺสนวิสุทฺธิญาณนิเทฺทเส สเพฺพ ธมฺมา เอกสงฺคหิตาติ สเพฺพ สงฺขตาสงฺขตา ธมฺมา เอเกน สงฺคหิตา ปริจฺฉินฺนาฯ ตถเฎฺฐนาติ ภูตเฎฺฐน, อตฺตโน อตฺตโน สภาววเสน วิชฺชมานเตฺถนาติ อโตฺถฯ อนตฺตเฎฺฐนาติ การกเวทกสงฺขาเตน อตฺตนา รหิตเฎฺฐนฯ สจฺจเฎฺฐนาติ อวิสํวาทกเฎฺฐน, อตฺตโน สภาวญฺญถตฺตาภาเวนาติ อโตฺถฯ ปฎิเวธเฎฺฐนาติ สภาวโต ญาเณน ปฎิวิชฺฌิตพฺพเฎฺฐนฯ อิธ โลกุตฺตรญาเณน อสโมฺมหโต อารมฺมณโต จ ปฎิเวโธ เวทิตโพฺพฯ อภิชานนเฎฺฐนาติ โลกิเกน ญาเณน อารมฺมณโต, โลกุตฺตเรน ญาเณน อสโมฺมหโต อารมฺมณโต จ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สภาวโต อภิชานิตพฺพเฎฺฐนฯ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิเญฺญยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖) หิ วุตฺตํฯ ปริชานนเฎฺฐนาติ วุตฺตนเยเนว โลกิยโลกุตฺตเรหิ ญาเณหิ สภาวโต อภิญฺญาตานํ ธมฺมานํ อนิจฺจาทิโต นิยฺยานาทิโต จ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานิตพฺพเฎฺฐนฯ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, ปริเญฺญยฺย’’นฺติ หิ วุตฺตํฯ ธมฺมเฎฺฐนาติ สภาวธารณาทินา ธมฺมเฎฺฐนฯ ธาตุเฎฺฐนาติ นิชฺชีวตาทินา ธาตุเฎฺฐนฯ ญาตเฎฺฐนาติ โลกิยโลกุตฺตเรหิ ญาเณหิ ญาตุํ สกฺกุเณยฺยเฎฺฐนฯ ยถา ทฎฺฐุํ สกฺกุเณยฺยาทินา อเตฺถน ‘‘ทิฎฺฐํ สุตํ มุตํ วิญฺญาตํ รูป’’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ญาตุํ สกฺกุเณยฺยโฎฺฐ ญาตโฎฺฐติ เวทิตโพฺพฯ สจฺฉิกิริยเฎฺฐนาติ อารมฺมณโต ปจฺจกฺขกาตพฺพเฎฺฐนฯ ผุสนเฎฺฐนาติ ปจฺจกฺขกตสฺส อารมฺมณโต ปุนปฺปุนํ ผุสิตพฺพเฎฺฐนฯ อภิสมยเฎฺฐนาติ โลกิเกน ญาเณน อภิสมาคนฺตพฺพเฎฺฐนฯ กิญฺจาปิ หิ ‘‘ตถเฎฺฐ ปญฺญา สจฺจวิวเฎฺฎ ญาณํ, อภิญฺญาปญฺญา ญาตเฎฺฐ ญาณํ, สจฺฉิกิริยาปญฺญา ผสฺสนเฎฺฐ ญาณ’’นฺติ เอเกกเมว ญาณํ วุตฺตํฯ อฎฺฐกถายญฺจ –
91. Dassanavisuddhiñāṇaniddese sabbe dhammā ekasaṅgahitāti sabbe saṅkhatāsaṅkhatā dhammā ekena saṅgahitā paricchinnā. Tathaṭṭhenāti bhūtaṭṭhena, attano attano sabhāvavasena vijjamānatthenāti attho. Anattaṭṭhenāti kārakavedakasaṅkhātena attanā rahitaṭṭhena. Saccaṭṭhenāti avisaṃvādakaṭṭhena, attano sabhāvaññathattābhāvenāti attho. Paṭivedhaṭṭhenāti sabhāvato ñāṇena paṭivijjhitabbaṭṭhena. Idha lokuttarañāṇena asammohato ārammaṇato ca paṭivedho veditabbo. Abhijānanaṭṭhenāti lokikena ñāṇena ārammaṇato, lokuttarena ñāṇena asammohato ārammaṇato ca tesaṃ tesaṃ dhammānaṃ sabhāvato abhijānitabbaṭṭhena. ‘‘Sabbaṃ, bhikkhave, abhiññeyya’’nti (saṃ. ni. 4.46) hi vuttaṃ. Parijānanaṭṭhenāti vuttanayeneva lokiyalokuttarehi ñāṇehi sabhāvato abhiññātānaṃ dhammānaṃ aniccādito niyyānādito ca paricchinditvā jānitabbaṭṭhena. ‘‘Sabbaṃ, bhikkhave, pariññeyya’’nti hi vuttaṃ. Dhammaṭṭhenāti sabhāvadhāraṇādinā dhammaṭṭhena. Dhātuṭṭhenāti nijjīvatādinā dhātuṭṭhena. Ñātaṭṭhenāti lokiyalokuttarehi ñāṇehi ñātuṃ sakkuṇeyyaṭṭhena. Yathā daṭṭhuṃ sakkuṇeyyādinā atthena ‘‘diṭṭhaṃ sutaṃ mutaṃ viññātaṃ rūpa’’nti vuttaṃ, evamidhāpi ñātuṃ sakkuṇeyyaṭṭho ñātaṭṭhoti veditabbo. Sacchikiriyaṭṭhenāti ārammaṇato paccakkhakātabbaṭṭhena. Phusanaṭṭhenāti paccakkhakatassa ārammaṇato punappunaṃ phusitabbaṭṭhena. Abhisamayaṭṭhenāti lokikena ñāṇena abhisamāgantabbaṭṭhena. Kiñcāpi hi ‘‘tathaṭṭhe paññā saccavivaṭṭe ñāṇaṃ, abhiññāpaññā ñātaṭṭhe ñāṇaṃ, sacchikiriyāpaññā phassanaṭṭhe ñāṇa’’nti ekekameva ñāṇaṃ vuttaṃ. Aṭṭhakathāyañca –
‘‘สมวาเย ขเณ กาเล, สมูเห เหตุทิฎฺฐิสุ;
‘‘Samavāye khaṇe kāle, samūhe hetudiṭṭhisu;
ปฎิลาเภ ปหาเน จ, ปฎิเวเธ จ ทิสฺสตี’’ติ ฯ –
Paṭilābhe pahāne ca, paṭivedhe ca dissatī’’ti . –
คาถาวณฺณนายํ อภิสมยสทฺทสฺส ปฎิเวธโตฺถ วุโตฺต, อิธ ปน ยถาวุเตฺตน อเตฺถน เตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํฯ อฎฺฐกถายเมว หิ โส โลกิยญาณวเสน ธมฺมาภิสมโย วุโตฺตติฯ
Gāthāvaṇṇanāyaṃ abhisamayasaddassa paṭivedhattho vutto, idha pana yathāvuttena atthena tesaṃ nānattaṃ veditabbaṃ. Aṭṭhakathāyameva hi so lokiyañāṇavasena dhammābhisamayo vuttoti.
กามจฺฉโนฺท นานตฺตนฺติ วิเกฺขปสพฺภาวโต นานารมฺมณตฺตา จ นานาสภาโวติ อโตฺถฯ เอวํ สพฺพกิเลสา เวทิตพฺพาฯ เนกฺขมฺมํ เอกตฺตนฺติ จิเตฺตกคฺคตาสพฺภาวโต นานารมฺมณวิเกฺขปาภาวโต จ เอกสภาวนฺติ อโตฺถฯ เอวํ สพฺพกุสลา เวทิตพฺพาฯ อิธ เปยฺยาเลน สํขิตฺตานํ พฺยาปาทาทีนํ อกุสลานํ ยถาวุเตฺตน อเตฺถน นานตฺตํ เวทิตพฺพํฯ วิตกฺกวิจาราทีนํ ปน เหฎฺฐิมานํ เหฎฺฐิมานํ อุปริมโต อุปริมโต โอฬาริกเฎฺฐน นานตฺตํ เวทิตพฺพํฯ ยสฺมา เอกสงฺคหิตนานเตฺตกตฺตานํ ปฎิเวโธ มคฺคกฺขเณ สจฺจปฎิเวเธน สิชฺฌติ, ตสฺมา ‘‘ปฎิเวโธ’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา สจฺจาภิสมยํ ทเสฺสสิฯ
Kāmacchando nānattanti vikkhepasabbhāvato nānārammaṇattā ca nānāsabhāvoti attho. Evaṃ sabbakilesā veditabbā. Nekkhammaṃ ekattanti cittekaggatāsabbhāvato nānārammaṇavikkhepābhāvato ca ekasabhāvanti attho. Evaṃ sabbakusalā veditabbā. Idha peyyālena saṃkhittānaṃ byāpādādīnaṃ akusalānaṃ yathāvuttena atthena nānattaṃ veditabbaṃ. Vitakkavicārādīnaṃ pana heṭṭhimānaṃ heṭṭhimānaṃ uparimato uparimato oḷārikaṭṭhena nānattaṃ veditabbaṃ. Yasmā ekasaṅgahitanānattekattānaṃ paṭivedho maggakkhaṇe saccapaṭivedhena sijjhati, tasmā ‘‘paṭivedho’’ti padaṃ uddharitvā saccābhisamayaṃ dassesi.
ปริญฺญา ปฎิเวธํ ปฎิวิชฺฌตีติ ปริญฺญาภิสมเยน อภิสเมติฯ เอส นโย เสเสสุฯ สจฺจาภิสมยกาลสฺมิญฺหิ มคฺคญาณสฺส เอกกฺขเณ ปริญฺญา, ปหานํ, สจฺฉิกิริยา, ภาวนาติ จตฺตาริ กิจฺจานิ โหนฺติฯ ยถา นาวา อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ จตฺตาริ กิจฺจานิ กโรติ, โอริมํ ตีรํ ปชหติ, โสตํ ฉินฺทติ, ภณฺฑํ วหติ, ปาริมํ ตีรํ อเปฺปติ, เอวเมว มคฺคญาณํ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสเมติ, ทุกฺขํ ปริญฺญาภิสมเยน อภิสเมติ, สมุทยํ ปหานาภิสมเยน อภิสเมติ, มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน อภิสเมติฯ กิํ วุตฺตํ โหติ? นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจวเสน จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปาปุณาติ ปสฺสติ ปฎิวิชฺฌตีติฯ ยถา โอริมํ ตีรํ ปชหติ, เอวํ มคฺคญาณํ ทุกฺขํ ปริชานาติฯ ยถา โสตํ ฉินฺทติ, เอวํ สมุทยํ ปชหติฯ ยถา ภณฺฑํ วหติ, เอวํ สหชาตาทิปจฺจยตาย มคฺคํ ภาเวติฯ ยถา ปาริมํ ตีรํ อเปฺปติ, เอวํ ปาริมตีรภูตํ นิโรธํ สจฺฉิกโรตีติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํฯ
Pariññā paṭivedhaṃ paṭivijjhatīti pariññābhisamayena abhisameti. Esa nayo sesesu. Saccābhisamayakālasmiñhi maggañāṇassa ekakkhaṇe pariññā, pahānaṃ, sacchikiriyā, bhāvanāti cattāri kiccāni honti. Yathā nāvā apubbaṃ acarimaṃ ekakkhaṇe cattāri kiccāni karoti, orimaṃ tīraṃ pajahati, sotaṃ chindati, bhaṇḍaṃ vahati, pārimaṃ tīraṃ appeti, evameva maggañāṇaṃ apubbaṃ acarimaṃ ekakkhaṇe cattāri saccāni abhisameti, dukkhaṃ pariññābhisamayena abhisameti, samudayaṃ pahānābhisamayena abhisameti, maggaṃ bhāvanābhisamayena abhisameti, nirodhaṃ sacchikiriyābhisamayena abhisameti. Kiṃ vuttaṃ hoti? Nirodhaṃ ārammaṇaṃ katvā kiccavasena cattāripi saccāni pāpuṇāti passati paṭivijjhatīti. Yathā orimaṃ tīraṃ pajahati, evaṃ maggañāṇaṃ dukkhaṃ parijānāti. Yathā sotaṃ chindati, evaṃ samudayaṃ pajahati. Yathā bhaṇḍaṃ vahati, evaṃ sahajātādipaccayatāya maggaṃ bhāveti. Yathā pārimaṃ tīraṃ appeti, evaṃ pārimatīrabhūtaṃ nirodhaṃ sacchikarotīti evaṃ upamāsaṃsandanaṃ veditabbaṃ.
ทสฺสนํ วิสุชฺฌตีติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสตมปฺปหาเนน ญาณทสฺสนํ วิสุทฺธิภาวํ ปาปุณาติฯ ทสฺสนํ วิสุทฺธนฺติ ตสฺส ตสฺส ผลสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ตสฺส ตสฺส มคฺคญาณสฺส กิจฺจสิทฺธิปฺปตฺติโต ญาณทสฺสนํ วิสุทฺธิภาวํ ปตฺตํ โหติฯ สพฺพธมฺมานํ เอกสงฺคหิตาย นานเตฺตกตฺตปฎิเวธปญฺญาย มคฺคผลญาเณหิ สิทฺธิโต อเนฺต มคฺคผลญาณานิ วุตฺตานิฯ
Dassanaṃvisujjhatīti taṃtaṃmaggavajjhakilesatamappahānena ñāṇadassanaṃ visuddhibhāvaṃ pāpuṇāti. Dassanaṃ visuddhanti tassa tassa phalassa uppādakkhaṇe tassa tassa maggañāṇassa kiccasiddhippattito ñāṇadassanaṃ visuddhibhāvaṃ pattaṃ hoti. Sabbadhammānaṃ ekasaṅgahitāya nānattekattapaṭivedhapaññāya maggaphalañāṇehi siddhito ante maggaphalañāṇāni vuttāni.
ทสฺสนวิสุทฺธิญาณนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dassanavisuddhiñāṇaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๔๐. ทสฺสนวิสุทฺธิญาณนิเทฺทโส • 40. Dassanavisuddhiñāṇaniddeso