Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ทีฆ นิกาย (อฎฺฐกถา) • Dīgha nikāya (aṭṭhakathā)

    ๑๑. ทสุตฺตรสุตฺตวณฺณนา

    11. Dasuttarasuttavaṇṇanā

    ๓๕๐. เอวํ เม สุตนฺติ ทสุตฺตรสุตฺตํฯ ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา – อาวุโส ภิกฺขเวติ สาวกานํ อาลปนเมตํฯ พุทฺธา หิ ปริสํ อามนฺตยมานา ‘ภิกฺขเว’ติ วทนฺติฯ สาวกา สตฺถารํ อุจฺจฎฺฐาเน ฐเปสฺสามาติ สตฺถุ อาลปเนน อนาลปิตฺวา อาวุโสติ อาลปนฺติฯ เต ภิกฺขูติ เต ธมฺมเสนาปติํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา ภิกฺขูฯ เก ปน เต ภิกฺขูติ? อนิพทฺธวาสา ทิสาคมนียา ภิกฺขูฯ พุทฺธกาเล เทฺว วาเร ภิกฺขู สนฺนิปตนฺติ – อุปกฎฺฐวสฺสูปนายิกกาเล จ ปวารณกาเล จฯ อุปกฎฺฐวสฺสูปนายิกาย ทสปิ วีสติปิ ติํสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ ปญฺญาสมฺปิ ภิกฺขู วคฺคา วคฺคา กมฺมฎฺฐานตฺถาย อาคจฺฉนฺติฯ ภควา เตหิ สทฺธิํ สโมฺมทิตฺวา กสฺมา, ภิกฺขเว, อุปกฎฺฐาย วสฺสูปนายิกาย วิจรถาติ ปุจฺฉติฯ อถ เต ‘‘ภควา กมฺมฎฺฐานตฺถํ อาคตมฺห, กมฺมฎฺฐานํ โน เทถา’’ติ ยาจนฺติฯ

    350.Evaṃme sutanti dasuttarasuttaṃ. Tatrāyaṃ apubbapadavaṇṇanā – āvuso bhikkhaveti sāvakānaṃ ālapanametaṃ. Buddhā hi parisaṃ āmantayamānā ‘bhikkhave’ti vadanti. Sāvakā satthāraṃ uccaṭṭhāne ṭhapessāmāti satthu ālapanena anālapitvā āvusoti ālapanti. Te bhikkhūti te dhammasenāpatiṃ parivāretvā nisinnā bhikkhū. Ke pana te bhikkhūti? Anibaddhavāsā disāgamanīyā bhikkhū. Buddhakāle dve vāre bhikkhū sannipatanti – upakaṭṭhavassūpanāyikakāle ca pavāraṇakāle ca. Upakaṭṭhavassūpanāyikāya dasapi vīsatipi tiṃsampi cattālīsampi paññāsampi bhikkhū vaggā vaggā kammaṭṭhānatthāya āgacchanti. Bhagavā tehi saddhiṃ sammoditvā kasmā, bhikkhave, upakaṭṭhāya vassūpanāyikāya vicarathāti pucchati. Atha te ‘‘bhagavā kammaṭṭhānatthaṃ āgatamha, kammaṭṭhānaṃ no dethā’’ti yācanti.

    สตฺถา เตสํ จริยวเสน ราคจริตสฺส อสุภกมฺมฎฺฐานํ เทติฯ โทสจริตสฺส เมตฺตากมฺมฎฺฐานํ, โมหจริตสฺส อุเทฺทโส ปริปุจฺฉา – ‘กาเลน ธมฺมสฺสวนํ, กาเลน ธมฺมสากจฺฉา, อิทํ ตุยฺหํ สปฺปาย’นฺติ อาจิกฺขติฯ วิตกฺกจริตสฺส อานาปานสฺสติกมฺมฎฺฐานํ เทติฯ สทฺธาจริตสฺส ปสาทนียสุตฺตเนฺต พุทฺธสุโพธิํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฎิปตฺติญฺจ ปกาเสติฯ ญาณจริตสฺส อนิจฺจตาทิปฎิสํยุเตฺต คมฺภีเร สุตฺตเนฺต กเถติฯ เต กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา สเจ สปฺปายํ โหติ, ตเตฺถว วสนฺติฯ โน เจ โหติ, สปฺปายํ เสนาสนํ ปุจฺฉิตฺวา คจฺฉนฺติฯ เต ตตฺถ วสนฺตา เตมาสิกํ ปฎิปทํ คเหตฺวา ฆเฎตฺวา วายมนฺตา โสตาปนฺนาปิ โหนฺติ สกทาคามิโนปิ อนาคามิโนปิ อรหโนฺตปิฯ

    Satthā tesaṃ cariyavasena rāgacaritassa asubhakammaṭṭhānaṃ deti. Dosacaritassa mettākammaṭṭhānaṃ, mohacaritassa uddeso paripucchā – ‘kālena dhammassavanaṃ, kālena dhammasākacchā, idaṃ tuyhaṃ sappāya’nti ācikkhati. Vitakkacaritassa ānāpānassatikammaṭṭhānaṃ deti. Saddhācaritassa pasādanīyasuttante buddhasubodhiṃ dhammasudhammataṃ saṅghasuppaṭipattiñca pakāseti. Ñāṇacaritassa aniccatādipaṭisaṃyutte gambhīre suttante katheti. Te kammaṭṭhānaṃ gahetvā sace sappāyaṃ hoti, tattheva vasanti. No ce hoti, sappāyaṃ senāsanaṃ pucchitvā gacchanti. Te tattha vasantā temāsikaṃ paṭipadaṃ gahetvā ghaṭetvā vāyamantā sotāpannāpi honti sakadāgāminopi anāgāminopi arahantopi.

    ตโต วุตฺถวสฺสา ปวาเรตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภควา อหํ ตุมฺหากํ สนฺติเก กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปโตฺต…เป.… อหํ อคฺคผลํ อรหตฺต’’นฺติ ปฎิลทฺธคุณํ อาโรเจนฺติฯ ตตฺถ อิเม ภิกฺขู อุปกฎฺฐาย วสฺสูปนายิกาย อาคตาฯ เอวํ อาคนฺตฺวา คจฺฉเนฺต ปน ภิกฺขู ภควา อคฺคสาวกานํ สนฺติกํ เปเสติ, ยถาห ‘‘อปโลเกถ ปน, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน’’ติฯ ภิกฺขู จ วทนฺติ ‘‘กิํ นุ โข มยํ, ภเนฺต, อปโลเกม สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน’’ติ (สํ. นิ. ๓.๒)ฯ อถ เน ภควา เตสํ ทสฺสเน อุโยฺยเชสิฯ ‘‘เสวถ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน; ภชถ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนฯ ปณฺฑิตา ภิกฺขู อนุคฺคาหกา สพฺรหฺมจารีนํฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ชเนตา เอวํ สาริปุโตฺตฯ เสยฺยถาปิ ชาตสฺส อาปาเทตา เอวํ โมคฺคลฺลาโนฯ สาริปุโตฺต, ภิกฺขเว, โสตาปตฺติผเล วิเนติ, โมคฺคลฺลาโน อุตฺตมเตฺถ’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๑)ฯ

    Tato vutthavassā pavāretvā satthu santikaṃ gantvā ‘‘bhagavā ahaṃ tumhākaṃ santike kammaṭṭhānaṃ gahetvā sotāpattiphalaṃ patto…pe… ahaṃ aggaphalaṃ arahatta’’nti paṭiladdhaguṇaṃ ārocenti. Tattha ime bhikkhū upakaṭṭhāya vassūpanāyikāya āgatā. Evaṃ āgantvā gacchante pana bhikkhū bhagavā aggasāvakānaṃ santikaṃ peseti, yathāha ‘‘apaloketha pana, bhikkhave, sāriputtamoggallāne’’ti. Bhikkhū ca vadanti ‘‘kiṃ nu kho mayaṃ, bhante, apalokema sāriputtamoggallāne’’ti (saṃ. ni. 3.2). Atha ne bhagavā tesaṃ dassane uyyojesi. ‘‘Sevatha, bhikkhave, sāriputtamoggallāne; bhajatha, bhikkhave, sāriputtamoggallāne. Paṇḍitā bhikkhū anuggāhakā sabrahmacārīnaṃ. Seyyathāpi, bhikkhave, janetā evaṃ sāriputto. Seyyathāpi jātassa āpādetā evaṃ moggallāno. Sāriputto, bhikkhave, sotāpattiphale vineti, moggallāno uttamatthe’’ti (ma. ni. 3.371).

    ตทาปิ ภควา อิเมหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ปฎิสนฺถารํ กตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ อาสยํ อุปปริกฺขโนฺต ‘‘อิเม ภิกฺขู สาวกวิเนยฺยา’’ติ อทฺทสฯ สาวกวิเนยฺยา นาม เย พุทฺธานมฺปิ ธมฺมเทสนาย พุชฺฌนฺติ สาวกานมฺปิฯ พุทฺธวิเนยฺยา ปน สาวกา โพเธตุํ น สโกฺกนฺติฯ สาวกวิเนยฺยภาวํ ปน เอเตสํ ญตฺวา กตรสฺส ภิกฺขุโน เทสนาย พุชฺฌิสฺสนฺตีติ โอโลเกโนฺต สาริปุตฺตสฺสาติ ทิสฺวา เถรสฺส สนฺติกํ เปเสสิฯ เถโร เต ภิกฺขู ปุจฺฉิ ‘‘สตฺถุ สนฺติกํ คตตฺถ อาวุโส’’ติฯ ‘‘อาม, คตมฺห สตฺถารา ปน อเมฺห ตุมฺหากํ สนฺติกํ เปสิตา’’ติฯ ตโต เถโร ‘‘อิเม ภิกฺขู มยฺหํ เทสนาย พุชฺฌิสฺสนฺติ, กีทิสี นุ โข เตสํ เทสนา วฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตโนฺต ‘‘อิเม ภิกฺขู สมคฺคารามา, สามคฺคิรสสฺส ทีปิกา เนสํ เทสนา วฎฺฎตี’’ติ สนฺนิฎฺฐานํ กตฺวา ตถารูปํ เทสนํ เทเสตุกาโม ทสุตฺตรํ ปวกฺขามีติอาทิมาหฯ ตตฺถ ทสธา มาติกํ ฐเปตฺวา วิภโตฺตติ ทสุตฺตโร, เอกกโต ปฎฺฐาย ยาว ทสกา คโตติปิ ทสุตฺตโร, เอเกกสฺมิํ ปเพฺพ ทส ทส ปญฺหา วิเสสิตาติปิ ทสุตฺตโร, ตํ ทสุตฺตรํฯ ปวกฺขามีติ กเถสฺสามิฯ ธมฺมนฺติ สุตฺตํฯ นิพฺพานปตฺติยาติ นิพฺพานปฎิลาภตฺถายฯ ทุกฺขสฺสนฺตกิริยายาติ สกลสฺส วฎฺฎทุกฺขสฺส ปริยนฺตกรณตฺถํฯ สพฺพคนฺถปฺปโมจนนฺติ อภิชฺฌากายคนฺถาทีนํ สพฺพคนฺถานํ ปโมจนํฯ

    Tadāpi bhagavā imehi bhikkhūhi saddhiṃ paṭisanthāraṃ katvā tesaṃ bhikkhūnaṃ āsayaṃ upaparikkhanto ‘‘ime bhikkhū sāvakavineyyā’’ti addasa. Sāvakavineyyā nāma ye buddhānampi dhammadesanāya bujjhanti sāvakānampi. Buddhavineyyā pana sāvakā bodhetuṃ na sakkonti. Sāvakavineyyabhāvaṃ pana etesaṃ ñatvā katarassa bhikkhuno desanāya bujjhissantīti olokento sāriputtassāti disvā therassa santikaṃ pesesi. Thero te bhikkhū pucchi ‘‘satthu santikaṃ gatattha āvuso’’ti. ‘‘Āma, gatamha satthārā pana amhe tumhākaṃ santikaṃ pesitā’’ti. Tato thero ‘‘ime bhikkhū mayhaṃ desanāya bujjhissanti, kīdisī nu kho tesaṃ desanā vaṭṭatī’’ti cintento ‘‘ime bhikkhū samaggārāmā, sāmaggirasassa dīpikā nesaṃ desanā vaṭṭatī’’ti sanniṭṭhānaṃ katvā tathārūpaṃ desanaṃ desetukāmo dasuttaraṃ pavakkhāmītiādimāha. Tattha dasadhā mātikaṃ ṭhapetvā vibhattoti dasuttaro, ekakato paṭṭhāya yāva dasakā gatotipi dasuttaro, ekekasmiṃ pabbe dasa dasa pañhā visesitātipi dasuttaro, taṃ dasuttaraṃ. Pavakkhāmīti kathessāmi. Dhammanti suttaṃ. Nibbānapattiyāti nibbānapaṭilābhatthāya. Dukkhassantakiriyāyāti sakalassa vaṭṭadukkhassa pariyantakaraṇatthaṃ. Sabbaganthappamocananti abhijjhākāyaganthādīnaṃ sabbaganthānaṃ pamocanaṃ.

    อิติ เถโร เทสนํ อุจฺจํ กโรโนฺต ภิกฺขูนํ ตตฺถ เปมํ ชเนโนฺต เอวเมตํ อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ ธาเรตพฺพํ วาเจตพฺพํ มญฺญิสฺสนฺตีติ จตูหิ ปเทหิ วณฺณํ กเถสิ, ‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มโคฺค’’ติอาทินา นเยน เตสํ เตสํ สุตฺตานํ ภควา วิยฯ

    Iti thero desanaṃ uccaṃ karonto bhikkhūnaṃ tattha pemaṃ janento evametaṃ uggahetabbaṃ pariyāpuṇitabbaṃ dhāretabbaṃ vācetabbaṃ maññissantīti catūhi padehi vaṇṇaṃ kathesi, ‘‘ekāyano ayaṃ, bhikkhave, maggo’’tiādinā nayena tesaṃ tesaṃ suttānaṃ bhagavā viya.

    เอกธมฺมวณฺณนา

    Ekadhammavaṇṇanā

    ๓๕๑. (ก) ตตฺถ พหุกาโรติ พหูปกาโรฯ

    351. (Ka) tattha bahukāroti bahūpakāro.

    (ข) ภาเวตโพฺพติ วเฑฺฒตโพฺพฯ

    (Kha) bhāvetabboti vaḍḍhetabbo.

    (ค) ปริเญฺญโยฺยติ ตีหิ ปริญฺญาหิ ปริชานิตโพฺพฯ

    (Ga) pariññeyyoti tīhi pariññāhi parijānitabbo.

    (ฆ) ปหาตโพฺพติ ปหานานุปสฺสนาย ปชหิตโพฺพฯ

    (Gha) pahātabboti pahānānupassanāya pajahitabbo.

    (ง) หานภาคิโยติ อปายคามิปริหานาย สํวตฺตนโกฯ

    (Ṅa) hānabhāgiyoti apāyagāmiparihānāya saṃvattanako.

    (จ) วิเสสภาคิโยติ วิเสสคามิวิเสสาย สํวตฺตนโกฯ

    (Ca) visesabhāgiyoti visesagāmivisesāya saṃvattanako.

    (ฉ) ทุปฺปฎิวิโชฺฌติ ทุปฺปจฺจกฺขกโรฯ

    (Cha) duppaṭivijjhoti duppaccakkhakaro.

    (ช) อุปฺปาเทตโพฺพติ นิปฺผาเทตโพฺพฯ

    (Ja) uppādetabboti nipphādetabbo.

    (ฌ) อภิเญฺญโยฺยติ ญาตปริญฺญาย อภิชานิตโพฺพฯ

    (Jha) abhiññeyyoti ñātapariññāya abhijānitabbo.

    (ญ) สจฺฉิกาตโพฺพติ ปจฺจกฺขํ กาตโพฺพฯ

    (Ña) sacchikātabboti paccakkhaṃ kātabbo.

    เอวํ สพฺพตฺถ มาติกาสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อิติ อายสฺมา สาริปุโตฺต ยถา นาม ทโกฺข เวฬุกาโร สมฺมุขีภูตํ เวฬุํ เฉตฺวา นิคฺคณฺฐิํ กตฺวา ทสธา ขเณฺฑ กตฺวา เอกเมกํ ขณฺฑํ หีรํ หีรํ กโรโนฺต ผาเลติ, เอวเมว เตสํ ภิกฺขูนํ สปฺปายํ เทสนํ อุปปริกฺขิตฺวา ทสธา มาติกํ ฐเปตฺวา เอเกกโกฎฺฐาเส เอเกกปทํ วิภชโนฺต ‘‘กตโม เอโก ธโมฺม พหุกาโร, อปฺปมาโท กุสเลสุ ธเมฺมสูติ’’ติอาทินา นเยน เทสนํ วิตฺถาเรตุํ อารโทฺธฯ

    Evaṃ sabbattha mātikāsu attho veditabbo. Iti āyasmā sāriputto yathā nāma dakkho veḷukāro sammukhībhūtaṃ veḷuṃ chetvā niggaṇṭhiṃ katvā dasadhā khaṇḍe katvā ekamekaṃ khaṇḍaṃ hīraṃ hīraṃ karonto phāleti, evameva tesaṃ bhikkhūnaṃ sappāyaṃ desanaṃ upaparikkhitvā dasadhā mātikaṃ ṭhapetvā ekekakoṭṭhāse ekekapadaṃ vibhajanto ‘‘katamo eko dhammo bahukāro, appamādo kusalesu dhammesūti’’tiādinā nayena desanaṃ vitthāretuṃ āraddho.

    ตตฺถ อปฺปมาโท กุสเลสุ ธเมฺมสูติ สพฺพตฺถกํ อุปการกํ อปฺปมาทํ กเถสิฯ อยญฺหิ อปฺปมาโท นาม สีลปูรเณ, อินฺทฺริยสํวเร, โภชเน มตฺตญฺญุตาย, ชาคริยานุโยเค, สตฺตสุ สทฺธเมฺมสุ, วิปสฺสนาคพฺภํ คณฺหาปเน, อตฺถปฎิสมฺภิทาทีสุ, สีลกฺขนฺธาทิปญฺจธมฺมกฺขเนฺธสุ, ฐานาฎฺฐาเนสุ, มหาวิหารสมาปตฺติยํ, อริยสเจฺจสุ, สติปฎฺฐานาทีสุ, โพธิปกฺขิเยสุ, วิปสฺสนาญาณาทีสุ อฎฺฐสุ วิชฺชาสูติ สเพฺพสุ อนวชฺชเฎฺฐน กุสเลสุ ธเมฺมสุ พหูปกาโรฯ

    Tattha appamādo kusalesu dhammesūti sabbatthakaṃ upakārakaṃ appamādaṃ kathesi. Ayañhi appamādo nāma sīlapūraṇe, indriyasaṃvare, bhojane mattaññutāya, jāgariyānuyoge, sattasu saddhammesu, vipassanāgabbhaṃ gaṇhāpane, atthapaṭisambhidādīsu, sīlakkhandhādipañcadhammakkhandhesu, ṭhānāṭṭhānesu, mahāvihārasamāpattiyaṃ, ariyasaccesu, satipaṭṭhānādīsu, bodhipakkhiyesu, vipassanāñāṇādīsu aṭṭhasu vijjāsūti sabbesu anavajjaṭṭhena kusalesu dhammesu bahūpakāro.

    เตเนว นํ ภควา ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา…เป.… ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สเพฺพเต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา, อปฺปมาโท เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๓๙) นเยน หตฺถิปทาทีหิ โอปเมฺมหิ โอปเมโนฺต สํยุตฺตนิกาเย อปฺปมาทวเคฺค นานปฺปการํ โถเมติฯ ตํ สพฺพํ เอกปเทเนว สงฺคเหตฺวา เถโร อปฺปมาโท กุสเลสุ ธเมฺมสูติ อาหฯ ธมฺมปเท อปฺปมาทวเคฺคนาปิสฺส พหูปการตา ทีเปตพฺพาฯ อโสกวตฺถุนาปิ ทีเปตพฺพา –

    Teneva naṃ bhagavā ‘‘yāvatā, bhikkhave, sattā apadā vā…pe… tathāgato tesaṃ aggamakkhāyati. Evameva kho, bhikkhave, ye keci kusalā dhammā, sabbete appamādamūlakā appamādasamosaraṇā, appamādo tesaṃ dhammānaṃ aggamakkhāyatī’’tiādinā (saṃ. ni. 5.139) nayena hatthipadādīhi opammehi opamento saṃyuttanikāyeappamādavagge nānappakāraṃ thometi. Taṃ sabbaṃ ekapadeneva saṅgahetvā thero appamādo kusalesu dhammesūti āha. Dhammapade appamādavaggenāpissa bahūpakāratā dīpetabbā. Asokavatthunāpi dīpetabbā –

    (ก) อโสกราชา หิ นิโคฺรธสามเณรสฺส ‘‘อปฺปมาโท อมตปท’’นฺติ คาถํ สุตฺวา เอว ‘‘ติฎฺฐ, ตาต, มยฺหํ ตยา เตปิฎกํ พุทฺธวจนํ กถิต’’นฺติ สามเณเร ปสีทิตฺวา จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ กาเรสิฯ อิติ ถามสมฺปเนฺนน ภิกฺขุนา อปฺปมาทสฺส พหูปการตา ตีหิ ปิฎเกหิ ทีเปตฺวา กเถตพฺพาฯ ยํกิญฺจิ สุตฺตํ วา คาถํ วา อปฺปมาททีปนตฺถํ อาหรโนฺต ‘‘อฎฺฐาเน ฐตฺวา อาหรสิ, อติเตฺถน ปกฺขโนฺท’’ติ น วตฺตโพฺพฯ ธมฺมกถิกเสฺสเวตฺถ ถาโม จ พลญฺจ ปมาณํฯ

    (Ka) asokarājā hi nigrodhasāmaṇerassa ‘‘appamādo amatapada’’nti gāthaṃ sutvā eva ‘‘tiṭṭha, tāta, mayhaṃ tayā tepiṭakaṃ buddhavacanaṃ kathita’’nti sāmaṇere pasīditvā caturāsītivihārasahassāni kāresi. Iti thāmasampannena bhikkhunā appamādassa bahūpakāratā tīhi piṭakehi dīpetvā kathetabbā. Yaṃkiñci suttaṃ vā gāthaṃ vā appamādadīpanatthaṃ āharanto ‘‘aṭṭhāne ṭhatvā āharasi, atitthena pakkhando’’ti na vattabbo. Dhammakathikassevettha thāmo ca balañca pamāṇaṃ.

    (ข) กายคตาสตีติ อานาปานํ จตุอิริยาปโถ สติสมฺปชญฺญํ ทฺวตฺติํสากาโร จตุธาตุววตฺถานํ ทส อสุภา นว สิวถิกา จุณฺณิกมนสิกาโร เกสาทีสุ จตฺตาริ รูปชฺฌานานีติ เอตฺถ อุปฺปนฺนสติยา เอตํ อธิวจนํฯ สาตสหคตาติ ฐเปตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ อญฺญตฺถ สาตสหคตา โหติ สุขสมฺปยุตฺตา, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ

    (Kha) kāyagatāsatīti ānāpānaṃ catuiriyāpatho satisampajaññaṃ dvattiṃsākāro catudhātuvavatthānaṃ dasa asubhā nava sivathikā cuṇṇikamanasikāro kesādīsu cattāri rūpajjhānānīti ettha uppannasatiyā etaṃ adhivacanaṃ. Sātasahagatāti ṭhapetvā catutthajjhānaṃ aññattha sātasahagatā hoti sukhasampayuttā, taṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ.

    (ค) สาสโว อุปาทานิโยติ อาสวานเญฺจว อุปาทานานญฺจ ปจฺจยภูโตฯ อิติ เตภูมกธมฺมเมว นิยเมติฯ

    (Ga) sāsavo upādāniyoti āsavānañceva upādānānañca paccayabhūto. Iti tebhūmakadhammameva niyameti.

    (ฆ) อสฺมิมาโนติ รูปาทีสุ อสฺมีติ มาโนฯ

    (Gha) asmimānoti rūpādīsu asmīti māno.

    (ง) อโยนิโส มนสิกาโรติ อนิเจฺจ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน ปวโตฺต อุปฺปถมนสิกาโรฯ

    (Ṅa) ayoniso manasikāroti anicce niccantiādinā nayena pavatto uppathamanasikāro.

    (จ) วิปริยาเยน โยนิโส มนสิกาโร เวทิตโพฺพฯ

    (Ca) vipariyāyena yoniso manasikāro veditabbo.

    (ฉ) อานนฺตริโก เจโตสมาธีติ อญฺญตฺถ มคฺคานนฺตรํ ผลํ อานนฺตริโก เจโตสมาธิ นาม ฯ อิธ ปน วิปสฺสนานนฺตโร มโคฺค วิปสฺสนาย วา อนนฺตรตฺตา อตฺตโน วา อนนฺตรํ ผลทายกตฺตา อานนฺตริโก เจโตสมาธีติ อธิเปฺปโตฯ

    (Cha) ānantarikocetosamādhīti aññattha maggānantaraṃ phalaṃ ānantariko cetosamādhi nāma . Idha pana vipassanānantaro maggo vipassanāya vā anantarattā attano vā anantaraṃ phaladāyakattā ānantariko cetosamādhīti adhippeto.

    (ช) อกุปฺปํ ญาณนฺติ อญฺญตฺถ ผลปญฺญา อกุปฺปญาณํ นามฯ อิธ ปจฺจเวกฺขณปญฺญา อธิเปฺปตาฯ

    (Ja) akuppaṃ ñāṇanti aññattha phalapaññā akuppañāṇaṃ nāma. Idha paccavekkhaṇapaññā adhippetā.

    (ฌ) อาหารฎฺฐิติกาติ ปจฺจยฎฺฐิติกาฯ อยํ เอโก ธโมฺมติ เยน ปจฺจเยน ติฎฺฐนฺติ, อยํ เอโก ธโมฺม ญาตปริญฺญาย อภิเญฺญโยฺยฯ

    (Jha) āhāraṭṭhitikāti paccayaṭṭhitikā. Ayaṃ eko dhammoti yena paccayena tiṭṭhanti, ayaṃ eko dhammo ñātapariññāya abhiññeyyo.

    (ญ) อกุปฺปา เจโตวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติฯ

    (Ña) akuppācetovimuttīti arahattaphalavimutti.

    อิมสฺมิํ วาเร อภิญฺญาย ญาตปริญฺญา กถิตาฯ ปริญฺญาย ตีรณปริญฺญาฯ ปหาตพฺพสจฺฉิกาตเพฺพหิ ปหานปริญฺญาฯ ทุปฺปฎิวิโชฺฌติ เอตฺถ ปน มโคฺค กถิโตฯ สจฺฉิกาตโพฺพติ ผลํ กถิตํ, มโคฺค เอกสฺมิํเยว ปเท ลพฺภติฯ ผลํ ปน อเนเกสุปิ ลพฺภติเยวฯ

    Imasmiṃ vāre abhiññāya ñātapariññā kathitā. Pariññāya tīraṇapariññā. Pahātabbasacchikātabbehi pahānapariññā. Duppaṭivijjhoti ettha pana maggo kathito. Sacchikātabboti phalaṃ kathitaṃ, maggo ekasmiṃyeva pade labbhati. Phalaṃ pana anekesupi labbhatiyeva.

    ภูตาติ สภาวโต วิชฺชมานาฯ ตจฺฉาติ ยาถาวาฯ ตถาติ ยถา วุตฺตา ตถาสภาวาฯ อวิตถาติ ยถา วุตฺตา น ตถา น โหนฺติฯ อนญฺญถาติ วุตฺตปฺปการโต น อญฺญถาฯ สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธาติ ตถาคเตน โพธิปลฺลเงฺก นิสีทิตฺวา เหตุนา การเณน สยเมว อภิสมฺพุทฺธา ญาตา วิทิตา สจฺฉิกตาฯ อิมินา เถโร ‘‘อิเม ธมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, อหํ ปน ตุมฺหากํ รโญฺญ เลขวาจกสทิโส’’ติ ชินสุตฺตํ ทเสฺสโนฺต โอกปฺปนํ ชเนสิฯ

    Bhūtāti sabhāvato vijjamānā. Tacchāti yāthāvā. Tathāti yathā vuttā tathāsabhāvā. Avitathāti yathā vuttā na tathā na honti. Anaññathāti vuttappakārato na aññathā. Sammā tathāgatena abhisambuddhāti tathāgatena bodhipallaṅke nisīditvā hetunā kāraṇena sayameva abhisambuddhā ñātā viditā sacchikatā. Iminā thero ‘‘ime dhammā tathāgatena abhisambuddhā, ahaṃ pana tumhākaṃ rañño lekhavācakasadiso’’ti jinasuttaṃ dassento okappanaṃ janesi.

    เอกธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ekadhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    เทฺวธมฺมวณฺณนา

    Dvedhammavaṇṇanā

    ๓๕๒. (ก) อิเม เทฺว ธมฺมา พหุการาติ อิเม เทฺว สติสมฺปชญฺญา ธมฺมา สีลปูรณาทีสุ อปฺปมาโท วิย สพฺพตฺถ อุปการกา หิตาวหาฯ

    352. (Ka) ime dve dhammā bahukārāti ime dve satisampajaññā dhammā sīlapūraṇādīsu appamādo viya sabbattha upakārakā hitāvahā.

    (ข) สมโถ จ วิปสฺสนา จาติ อิเม เทฺว สงฺคีติสุเตฺต โลกิยโลกุตฺตรา กถิตาฯ อิมสฺมิํ ทสุตฺตรสุเตฺต ปุพฺพภาคา กถิตาฯ

    (Kha) samathoca vipassanā cāti ime dve saṅgītisutte lokiyalokuttarā kathitā. Imasmiṃ dasuttarasutte pubbabhāgā kathitā.

    (ฉ) สตฺตานํ สํกิเลสาย สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ อโยนิโส มนสิกาโร เหตุ เจว ปจฺจโย จ สตฺตานํ สํกิเลสาย, โยนิโส มนสิกาโร วิสุทฺธิยาฯ ตถา โทวจสฺสตา ปาปมิตฺตตา สํกิเลสาย; โสวจสฺสตา กลฺยาณมิตฺตตา วิสุทฺธิยาฯ ตถา ตีณิ อกุสลมูลานิ; ตีณิ กุสลมูลานิฯ จตฺตาโร โยคา จตฺตาโร วิสํโยคาฯ ปญฺจ เจโตขิลา ปญฺจินฺทฺริยานิฯ ฉ อคารวา ฉ คารวาฯ สตฺต อสทฺธมฺมา สตฺต สทฺธมฺมาฯ อฎฺฐ กุสีตวตฺถูนิ อฎฺฐ อารมฺภวตฺถูนิฯ นว อาฆาตวตฺถูนิ นว อาฆาตปฺปฎิวินยาฯ ทส อกุสลกมฺมปถา ทส กุสลกมฺมปถาติ เอวํ ปเภทา อิเม เทฺว ธมฺมา ทุปฺปฎิวิชฺฌาติ เวทิตพฺพาฯ

    (Cha) sattānaṃ saṃkilesāya sattānaṃ visuddhiyāti ayoniso manasikāro hetu ceva paccayo ca sattānaṃ saṃkilesāya, yoniso manasikāro visuddhiyā. Tathā dovacassatā pāpamittatā saṃkilesāya; sovacassatā kalyāṇamittatā visuddhiyā. Tathā tīṇi akusalamūlāni; tīṇi kusalamūlāni. Cattāro yogā cattāro visaṃyogā. Pañca cetokhilā pañcindriyāni. Cha agāravā cha gāravā. Satta asaddhammā satta saddhammā. Aṭṭha kusītavatthūni aṭṭha ārambhavatthūni. Nava āghātavatthūni nava āghātappaṭivinayā. Dasa akusalakammapathā dasa kusalakammapathāti evaṃ pabhedā ime dve dhammā duppaṭivijjhāti veditabbā.

    (ฌ) สงฺขตา ธาตูติ ปจฺจเยหิ กตา ปญฺจกฺขนฺธาฯ อสงฺขตา ธาตูติ ปจฺจเยหิ อกตํ นิพฺพานํฯ

    (Jha) saṅkhatā dhātūti paccayehi katā pañcakkhandhā. Asaṅkhatā dhātūti paccayehi akataṃ nibbānaṃ.

    (ญ) วิชฺชา จ วิมุตฺติ จาติ เอตฺถ วิชฺชาติ ติโสฺส วิชฺชาฯ วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลํฯ

    (Ña) vijjā ca vimutti cāti ettha vijjāti tisso vijjā. Vimuttīti arahattaphalaṃ.

    อิมสฺมิํ วาเร อภิญฺญาทีนิ เอกกสทิสาเนว, อุปฺปาเทตพฺพปเท ปน มโคฺค กถิโต, สจฺฉิกาตพฺพปเท ผลํฯ

    Imasmiṃ vāre abhiññādīni ekakasadisāneva, uppādetabbapade pana maggo kathito, sacchikātabbapade phalaṃ.

    เทฺวธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dvedhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ตโยธมฺมวณฺณนา

    Tayodhammavaṇṇanā

    ๓๕๓. (ฉ) กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺมนฺติ เอตฺถ เนกฺขมฺมนฺติ อนาคามิมโคฺค อธิเปฺปโตฯ โส หิ สพฺพโส กามานํ นิสฺสรณํฯ รูปานํ นิสฺสรณํ ยทิทํ อารุปฺปนฺติ เอตฺถ อารุเปฺปปิ อรหตฺตมโคฺคฯ ปุน อุปฺปตฺตินิวารณโต สพฺพโส รูปานํ นิสฺสรณํ นามฯ นิโรโธ ตสฺส นิสฺสรณนฺติ อิธ อรหตฺตผลํ นิโรโธติ อธิเปฺปตํฯ อรหตฺตผเลน หิ นิพฺพาเน ทิเฎฺฐ ปุน อายติํ สพฺพสงฺขารา น โหนฺตีติ อรหตฺตํ สงฺขตนิโรธสฺส ปจฺจยตฺตา นิโรโธติ วุตฺตํฯ

    353. (Cha) kāmānametaṃ nissaraṇaṃ yadidaṃ nekkhammanti ettha nekkhammanti anāgāmimaggo adhippeto. So hi sabbaso kāmānaṃ nissaraṇaṃ. Rūpānaṃ nissaraṇaṃ yadidaṃ āruppanti ettha āruppepi arahattamaggo. Puna uppattinivāraṇato sabbaso rūpānaṃ nissaraṇaṃ nāma. Nirodho tassanissaraṇanti idha arahattaphalaṃ nirodhoti adhippetaṃ. Arahattaphalena hi nibbāne diṭṭhe puna āyatiṃ sabbasaṅkhārā na hontīti arahattaṃ saṅkhatanirodhassa paccayattā nirodhoti vuttaṃ.

    (ช) อตีตํเส ญาณนฺติ อตีตํสารมฺมณํ ญาณํ อิตเรสุปิ เอเสว นโยฯ

    (Ja) atītaṃse ñāṇanti atītaṃsārammaṇaṃ ñāṇaṃ itaresupi eseva nayo.

    อิมสฺมิมฺปิ วาเร อภิญฺญาทโย เอกกสทิสาวฯ ทุปฺปฎิวิชฺฌปเท ปน มโคฺค กถิโต, สจฺฉิกาตเพฺพ ผลํฯ

    Imasmimpi vāre abhiññādayo ekakasadisāva. Duppaṭivijjhapade pana maggo kathito, sacchikātabbe phalaṃ.

    ตโยธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Tayodhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    จตฺตาโรธมฺมวณฺณนา

    Cattārodhammavaṇṇanā

    ๓๕๔. (ก) จตฺตาริ จกฺกานีติ เอตฺถ จกฺกํ นาม ทารุจกฺกํ, รตนจกฺกํ, ธมฺมจกฺกํ, อิริยาปถจกฺกํ, สมฺปตฺติจกฺกนฺติ ปญฺจวิธํฯ ตตฺถ ‘‘ยํ ปนิทํ สมฺม, รถการ, จกฺกํ ฉหิ มาเสหิ นิฎฺฐิตํ, ฉารตฺตูเนหี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๕) อิทํ ทารุจกฺกํฯ ‘‘ปิตรา ปวตฺติตํ จกฺกํ อนุปฺปวเตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๓๒) อิทํ รตนจกฺกํฯ ‘‘ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๓๙๙) อิทํ ธมฺมจกฺกํฯ ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) อิทํ อิริยาปถจกฺกํฯ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ ปวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) อิทํ สมฺปตฺติจกฺกํฯ อิธาปิ เอตเทว อธิเปฺปตํฯ

    354. (Ka) cattāri cakkānīti ettha cakkaṃ nāma dārucakkaṃ, ratanacakkaṃ, dhammacakkaṃ, iriyāpathacakkaṃ, sampatticakkanti pañcavidhaṃ. Tattha ‘‘yaṃ panidaṃ samma, rathakāra, cakkaṃ chahi māsehi niṭṭhitaṃ, chārattūnehī’’ti (a. ni. 3.15) idaṃ dārucakkaṃ. ‘‘Pitarā pavattitaṃ cakkaṃ anuppavattetī’’ti (a. ni. 5.132) idaṃ ratanacakkaṃ. ‘‘Pavattitaṃ cakka’’nti (ma. ni. 2.399) idaṃ dhammacakkaṃ. ‘‘Catucakkaṃ navadvāra’’nti (saṃ. ni. 1.29) idaṃ iriyāpathacakkaṃ. ‘‘Cattārimāni, bhikkhave, cakkāni, yehi samannāgatānaṃ devamanussānaṃ catucakkaṃ pavattatī’’ti (a. ni. 4.31) idaṃ sampatticakkaṃ. Idhāpi etadeva adhippetaṃ.

    ปติรูปเทสวาโสติ ยตฺถ จตโสฺส ปริสา สนฺทิสฺสนฺติ, เอวรูเป อนุจฺฉวิเก เทเส วาโสฯ สปฺปุริสูปนิสฺสโยติ พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ อวสฺสยนํ เสวนํ ภชนํฯ อตฺตสมฺมาปณิธีติ อตฺตโน สมฺมา ฐปนํ, สเจ ปน ปุเพฺพ อสฺสทฺธาทีหิ สมนฺนาคโต โหติ, ตานิ ปหาย สทฺธาทีสุ ปติฎฺฐาปนํฯ ปุเพฺพ จ กตปุญฺญตาติ ปุเพฺพ อุปจิตกุสลตาฯ อิทเมเวตฺถ ปมาณํฯ เยน หิ ญาณสมฺปยุตฺตจิเตฺตน กุสลํ กตํ โหติ, ตเทว กุสลํ ตํ ปุริสํ ปติรูปเทเส อุปเนติ, สปฺปุริเส ภชาเปสิ ฯ โส เอว จ ปุคฺคโล อตฺตานํ สมฺมา ฐเปติฯ จตูสุ อาหาเรสุ ปฐโม โลกิโยวฯ เสสา ปน ตโย สงฺคีติสุเตฺต โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตาฯ อิธ ปุพฺพภาเค โลกิยาฯ

    Patirūpadesavāsoti yattha catasso parisā sandissanti, evarūpe anucchavike dese vāso. Sappurisūpanissayoti buddhādīnaṃ sappurisānaṃ avassayanaṃ sevanaṃ bhajanaṃ. Attasammāpaṇidhīti attano sammā ṭhapanaṃ, sace pana pubbe assaddhādīhi samannāgato hoti, tāni pahāya saddhādīsu patiṭṭhāpanaṃ. Pubbe ca katapuññatāti pubbe upacitakusalatā. Idamevettha pamāṇaṃ. Yena hi ñāṇasampayuttacittena kusalaṃ kataṃ hoti, tadeva kusalaṃ taṃ purisaṃ patirūpadese upaneti, sappurise bhajāpesi . So eva ca puggalo attānaṃ sammā ṭhapeti. Catūsu āhāresu paṭhamo lokiyova. Sesā pana tayo saṅgītisutte lokiyalokuttaramissakā kathitā. Idha pubbabhāge lokiyā.

    (จ) กามโยควิสํโยคาทโย อนาคามิมคฺคาทิวเสน เวทิตพฺพาฯ

    (Ca) kāmayogavisaṃyogādayo anāgāmimaggādivasena veditabbā.

    (ฉ) หานภาคิยาทีสุ ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภี กามสหคตา สญฺญามนสิการา สมุทาจรนฺติ หานภาคิโย สมาธิฯ ตทนุธมฺมตา สติ สนฺติฎฺฐติ ฐิติภาคิโย สมาธิฯ วิตกฺกสหคตา สญฺญามนสิการา สมุทาจรนฺติ วิเสสภาคิโย สมาธิฯ นิพฺพิทาสหคตา สญฺญามนสิการา สมุทาจรนฺติ วิราคูปสญฺหิโต นิเพฺพธภาคิโย สมาธีติ อิมินา นเยน สพฺพสมาปตฺติโย วิตฺถาเรตฺวา อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ วิสุทฺธิมเคฺค ปนสฺส วินิจฺฉยกถา กถิตาวฯ

    (Cha) hānabhāgiyādīsu paṭhamassa jhānassa lābhī kāmasahagatā saññāmanasikārā samudācaranti hānabhāgiyo samādhi. Tadanudhammatā sati santiṭṭhati ṭhitibhāgiyo samādhi. Vitakkasahagatā saññāmanasikārā samudācaranti visesabhāgiyo samādhi. Nibbidāsahagatā saññāmanasikārā samudācaranti virāgūpasañhito nibbedhabhāgiyo samādhīti iminā nayena sabbasamāpattiyo vitthāretvā attho veditabbo. Visuddhimagge panassa vinicchayakathā kathitāva.

    อิมสฺมิมฺปิ วาเร อภิญฺญาทีนิ เอกกสทิสาเนวฯ อภิญฺญาปเท ปเนตฺถ มโคฺค กถิโตฯ สจฺฉิกาตพฺพปเท ผลํฯ

    Imasmimpi vāre abhiññādīni ekakasadisāneva. Abhiññāpade panettha maggo kathito. Sacchikātabbapade phalaṃ.

    จตฺตาโรธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Cattārodhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ปญฺจธมฺมวณฺณนา

    Pañcadhammavaṇṇanā

    ๓๕๕. (ข) ปีติผรณตาทีสุ ปีติํ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปญฺญา ปีติผรณตา นามฯ สุขํ ผรมานํ อุปฺปชฺชตีติ ตีสุ ฌาเนสุ ปญฺญา สุขผรณตา นามฯ ปเรสํ เจโต ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ เจโตปริยปญฺญา เจโตผรณตา นามฯ อาโลกผรเณ อุปฺปชฺชตีติ ทิพฺพจกฺขุปญฺญา อาโลกผรณตา นามฯ ปจฺจเวกฺขณญาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ นามฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปญฺญา ปีติผรณตา, ตีสุ ฌาเนสุ ปญฺญา สุขผรณตาฯ ปรจิเตฺต ปญฺญา เจโตผรณตา, ทิพฺพจกฺขุ อาโลกผรณตาฯ ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฎฺฐิตสฺส ปจฺจเวกฺขณญาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๘๐๔)ฯ

    355. (Kha) pītipharaṇatādīsu pītiṃ pharamānā uppajjatīti dvīsu jhānesu paññā pītipharaṇatā nāma. Sukhaṃ pharamānaṃ uppajjatīti tīsu jhānesu paññā sukhapharaṇatā nāma. Paresaṃ ceto pharamānā uppajjatīti cetopariyapaññā cetopharaṇatā nāma. Ālokapharaṇe uppajjatīti dibbacakkhupaññā ālokapharaṇatā nāma. Paccavekkhaṇañāṇaṃ paccavekkhaṇanimittaṃ nāma. Vuttampi cetaṃ ‘‘dvīsu jhānesu paññā pītipharaṇatā, tīsu jhānesu paññā sukhapharaṇatā. Paracitte paññā cetopharaṇatā, dibbacakkhu ālokapharaṇatā. Tamhā tamhā samādhimhā vuṭṭhitassa paccavekkhaṇañāṇaṃ paccavekkhaṇanimitta’’nti (vibha. 804).

    ตตฺถ ปีติผรณตา สุขผรณตา เทฺว ปาทา วิยฯ เจโตผรณตา อาโลกผรณตา เทฺว หตฺถา วิยฯ อภิญฺญาปาทกชฺฌานํ มชฺฌิมกาโย วิย ฯ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ สีสํ วิยฯ อิติ อายสฺมา สาริปุตฺตเตฺถโร ปญฺจงฺคิกํ สมฺมาสมาธิํ องฺคปจฺจงฺคสมฺปนฺนํ ปุริสํ กตฺวา ทเสฺสสิฯ

    Tattha pītipharaṇatā sukhapharaṇatā dve pādā viya. Cetopharaṇatā ālokapharaṇatā dve hatthā viya. Abhiññāpādakajjhānaṃ majjhimakāyo viya . Paccavekkhaṇanimittaṃ sīsaṃ viya. Iti āyasmā sāriputtatthero pañcaṅgikaṃ sammāsamādhiṃ aṅgapaccaṅgasampannaṃ purisaṃ katvā dassesi.

    (ช) อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจ วาติอาทีสุ อรหตฺตผลสมาธิ อธิเปฺปโตฯ โส หิ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนสุโขฯ ปุริโม ปุริโม ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส สมาธิสุขสฺส ปจฺจยตฺตา อายติํ สุขวิปาโกฯ

    (Ja) ayaṃ samādhi paccuppannasukho ce vātiādīsu arahattaphalasamādhi adhippeto. So hi appitappitakkhaṇe sukhattā paccuppannasukho. Purimo purimo pacchimassa pacchimassa samādhisukhassa paccayattā āyatiṃ sukhavipāko.

    กิเลเสหิ อารกตฺตา อริโยฯ กามามิสวฎฺฎามิสโลกามิสานํ อภาวา นิรามิโสฯ พุทฺธาทีหิ มหาปุริเสหิ เสวิตตฺตา อกาปุริสเสวิโตฯ องฺคสนฺตตาย อารมฺมณสนฺตตาย สพฺพกิเลสทรถสนฺตตาย จ สโนฺตฯ อตปฺปนียเฎฺฐน ปณีโตฯ กิเลสปฎิปฺปสฺสทฺธิยา ลทฺธตฺตา กิเลสปฎิปฺปสฺสทฺธิภาวํ วา ลทฺธตฺตา ปฎิปฺปสฺสทฺธลโทฺธฯ ปฎิปฺปสฺสทฺธํ ปฎิปฺปสฺสทฺธีติ หิ อิทํ อตฺถโต เอกํฯ ปฎิปฺปสฺสทฺธกิเลเสน วา อรหตา ลทฺธตฺตา ปฎิปฺปสฺสทฺธลโทฺธฯ เอโกทิภาเวน อธิคตตฺตา เอโกทิภาวเมว วา อธิคตตฺตา เอโกทิภาวาธิคโตฯ อปฺปคุณสาสวสมาธิ วิย สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน จิเตฺตน ปจฺจนีกธเมฺม นิคฺคยฺห กิเลเส วาเรตฺวา อนธิคตตฺตา นสสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโตฯ ตญฺจ สมาธิํ สมาปชฺชโนฺต ตโต วา วุฎฺฐหโนฺต สติเวปุลฺลปตฺตตฺตาฯ สโตว สมาปชฺชติ สโต วุฎฺฐหติฯ ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน วา สโต สมาปชฺชติ สโต วุฎฺฐหติฯ ตสฺมา ยเทตฺถ ‘‘อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจว อายติญฺจ สุขวิปาโก’’ติ เอวํ ปจฺจเวกฺขมานสฺส ปจฺจตฺตํเยว อปรปฺปจฺจยํ ญาณํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เอกมงฺคํฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ เอวมิเมหิ ปญฺจหิ ปจฺจเวกฺขณญาเณหิ อยํ สมาธิ ‘‘ปญฺจญาณิโก สมฺมาสมาธี’’ติ วุโตฺตฯ

    Kilesehi ārakattā ariyo. Kāmāmisavaṭṭāmisalokāmisānaṃ abhāvā nirāmiso. Buddhādīhi mahāpurisehi sevitattā akāpurisasevito. Aṅgasantatāya ārammaṇasantatāya sabbakilesadarathasantatāya ca santo. Atappanīyaṭṭhena paṇīto. Kilesapaṭippassaddhiyā laddhattā kilesapaṭippassaddhibhāvaṃ vā laddhattā paṭippassaddhaladdho. Paṭippassaddhaṃ paṭippassaddhīti hi idaṃ atthato ekaṃ. Paṭippassaddhakilesena vā arahatā laddhattā paṭippassaddhaladdho. Ekodibhāvena adhigatattā ekodibhāvameva vā adhigatattā ekodibhāvādhigato. Appaguṇasāsavasamādhi viya sasaṅkhārena sappayogena cittena paccanīkadhamme niggayha kilese vāretvā anadhigatattā nasasaṅkhāraniggayhavāritagato. Tañca samādhiṃ samāpajjanto tato vā vuṭṭhahanto sativepullapattattā. Satova samāpajjati sato vuṭṭhahati. Yathāparicchinnakālavasena vā sato samāpajjati sato vuṭṭhahati. Tasmā yadettha ‘‘ayaṃ samādhi paccuppannasukho ceva āyatiñca sukhavipāko’’ti evaṃ paccavekkhamānassa paccattaṃyeva aparappaccayaṃ ñāṇaṃ uppajjati, taṃ ekamaṅgaṃ. Esa nayo sesesupi. Evamimehi pañcahi paccavekkhaṇañāṇehi ayaṃ samādhi ‘‘pañcañāṇiko sammāsamādhī’’ti vutto.

    อิมสฺมิํ วาเร วิเสสภาคิยปเท มโคฺค กถิโตฯ สจฺฉิกาตพฺพปเท ผลํฯ เสสํ ปุริมสทิสเมวฯ

    Imasmiṃ vāre visesabhāgiyapade maggo kathito. Sacchikātabbapade phalaṃ. Sesaṃ purimasadisameva.

    ฉธมฺมวณฺณนา

    Chadhammavaṇṇanā

    ๓๕๖. ฉเกฺกสุ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมวฯ ทุปฺปฎิวิชฺฌปเท ปเนตฺถ มโคฺค กถิโตฯ เสสํ ปุริมสทิสํฯ

    356. Chakkesu sabbaṃ uttānatthameva. Duppaṭivijjhapade panettha maggo kathito. Sesaṃ purimasadisaṃ.

    สตฺตธมฺมวณฺณนา

    Sattadhammavaṇṇanā

    ๓๕๗. (ญ) สมฺมปฺปญฺญาย สุทิฎฺฐา โหนฺตีติ เหตุนา นเยน วิปสฺสนาญาเณน สุทิฎฺฐา โหนฺติฯ กามาติ วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จ, เทฺวปิ สปริฬาหเฎฺฐน องฺคารกาสุ วิย สุทิฎฺฐา โหนฺติฯ วิเวกนินฺนนฺติ นิพฺพานนินฺนํฯ โปณํ ปพฺภารนฺติ นินฺนเสฺสตํ เววจนํฯ พฺยนฺตีภูตนฺติ นิยติภูตํฯ นิตฺตณฺหนฺติ อโตฺถฯ กุโต? สพฺพโส อาสวฎฺฐานีเยหิ ธเมฺมหิ เตภูมกธเมฺมหีติ อโตฺถฯ อิธ ภาเวตพฺพปเท มโคฺค กถิโตฯ เสสํ ปุริมสทิสเมวฯ

    357. (Ña) sammappaññāyasudiṭṭhā hontīti hetunā nayena vipassanāñāṇena sudiṭṭhā honti. Kāmāti vatthukāmā ca kilesakāmā ca, dvepi sapariḷāhaṭṭhena aṅgārakāsu viya sudiṭṭhā honti. Vivekaninnanti nibbānaninnaṃ. Poṇaṃ pabbhāranti ninnassetaṃ vevacanaṃ. Byantībhūtanti niyatibhūtaṃ. Nittaṇhanti attho. Kuto? Sabbaso āsavaṭṭhānīyehi dhammehi tebhūmakadhammehīti attho. Idha bhāvetabbapade maggo kathito. Sesaṃ purimasadisameva.

    อฎฺฐธมฺมวณฺณนา

    Aṭṭhadhammavaṇṇanā

    ๓๕๘. (ก) อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปญฺญายาติ สิกฺขตฺตยสงฺคหสฺส มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตาย ปุพฺพภาเค ตรุณสมถวิปสฺสนาปญฺญาย ฯ อฎฺฐงฺคิกสฺส วา มคฺคสฺส อาทิภูตาย สมฺมาทิฎฺฐิปญฺญายฯ ติพฺพนฺติ พลวํฯ หิโรตฺตปฺปนฺติ หิรี จ โอตฺตปฺปญฺจฯ เปมนฺติ เคหสฺสิตเปมํฯ คารโวติ ครุจิตฺตภาโวฯ ครุภาวนียญฺหิ อุปนิสฺสาย วิหรโต กิเลสา นุปฺปชฺชนฺติ โอวาทานุสาสนิํ ลภติฯ ตสฺมา ตํ นิสฺสาย วิหาโร ปญฺญาปฎิลาภสฺส ปจฺจโย โหติฯ

    358. (Ka) ādibrahmacariyikāya paññāyāti sikkhattayasaṅgahassa maggabrahmacariyassa ādibhūtāya pubbabhāge taruṇasamathavipassanāpaññāya . Aṭṭhaṅgikassa vā maggassa ādibhūtāya sammādiṭṭhipaññāya. Tibbanti balavaṃ. Hirottappanti hirī ca ottappañca. Pemanti gehassitapemaṃ. Gāravoti garucittabhāvo. Garubhāvanīyañhi upanissāya viharato kilesā nuppajjanti ovādānusāsaniṃ labhati. Tasmā taṃ nissāya vihāro paññāpaṭilābhassa paccayo hoti.

    (ฉ) อกฺขเณสุ ยสฺมา เปตา อสุรานํ อาวาหนํ คจฺฉนฺติ, วิวาหนํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา เปตฺติวิสเยเนว อสุรกาโย คหิโตติ เวทิตโพฺพฯ

    (Cha) akkhaṇesu yasmā petā asurānaṃ āvāhanaṃ gacchanti, vivāhanaṃ gacchanti, tasmā pettivisayeneva asurakāyo gahitoti veditabbo.

    (ช) อปฺปิจฺฉสฺสาติ เอตฺถ ปจฺจยอปฺปิโจฺฉ, อธิคมอปฺปิโจฺฉ, ปริยตฺติอปฺปิโจฺฉ, ธุตงฺคอปฺปิโจฺฉติ จตฺตาโร อปฺปิจฺฉาฯ ตตฺถ ปจฺจยอปฺปิโจฺฉ พหุํ เทเนฺต อปฺปํ คณฺหาติ, อปฺปํ เทเนฺต อปฺปตรํ วา คณฺหาติ, น วา คณฺหาติ, น อนวเสสคาหี โหติฯ อธิคมอปฺปิโจฺฉ มชฺฌนฺติกเตฺถโร วิย อตฺตโน อธิคมํ อเญฺญสํ ชานิตุํ น เทติฯ ปริยตฺติอปฺปิโจฺฉ เตปิฎโกปิ สมาโน น พหุสฺสุตภาวํ ชานาเปตุกาโม โหติ สาเกตติสฺสเตฺถโร วิยฯ ธุตงฺคอปฺปิโจฺฉ ธุตงฺคปริหรณภาวํ อเญฺญสํ ชานิตุํ น เทติ เทฺวภาติกเตฺถเรสุ เชฎฺฐกเตฺถโร วิยฯ วตฺถุ วิสุทฺธิมเคฺค กถิตํฯ อยํ ธโมฺมติ เอวํ สนฺตคุณนิคูหเนน จ ปจฺจยปฎิคฺคหเณ มตฺตญฺญุตาย จ อปฺปิจฺฉสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ นวโลกุตฺตรธโมฺม สมฺปชฺชติ, โน มหิจฺฉสฺสฯ เอวํ สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํฯ

    (Ja) appicchassāti ettha paccayaappiccho, adhigamaappiccho, pariyattiappiccho, dhutaṅgaappicchoti cattāro appicchā. Tattha paccayaappiccho bahuṃ dente appaṃ gaṇhāti, appaṃ dente appataraṃ vā gaṇhāti, na vā gaṇhāti, na anavasesagāhī hoti. Adhigamaappiccho majjhantikatthero viya attano adhigamaṃ aññesaṃ jānituṃ na deti. Pariyattiappiccho tepiṭakopi samāno na bahussutabhāvaṃ jānāpetukāmo hoti sāketatissatthero viya. Dhutaṅgaappiccho dhutaṅgapariharaṇabhāvaṃ aññesaṃ jānituṃ na deti dvebhātikattheresu jeṭṭhakatthero viya. Vatthu visuddhimagge kathitaṃ. Ayaṃ dhammoti evaṃ santaguṇanigūhanena ca paccayapaṭiggahaṇe mattaññutāya ca appicchassa puggalassa ayaṃ navalokuttaradhammo sampajjati, no mahicchassa. Evaṃ sabbattha yojetabbaṃ.

    สนฺตุฎฺฐสฺสาติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ตีหิ สโนฺตเสหิ สนฺตุฎฺฐสฺสฯ ปวิวิตฺตสฺสาติ กายจิตฺตอุปธิวิเวเกหิ วิวิตฺตสฺสฯ ตตฺถ กายวิเวโก นาม คณสงฺคณิกํ วิโนเทตฺวา อฎฺฐอารมฺภวตฺถุวเสน เอกีภาโวฯ เอกีภาวมเตฺตน ปน กมฺมํ น นิปฺผชฺชตีติ กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฎฺฐ สมาปตฺติโย นิพฺพเตฺตติ, อยํ จิตฺตวิเวโก นามฯ สมาปตฺติมเตฺตเนว กมฺมํ น นิปฺผชฺชตีติ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา สห ปฎิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ อุปธิวิเวโก นามฯ เตนาห ภควา – ‘‘กายวิเวโก จ วิเวกฎฺฐกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํฯ จิตฺตวิเวโก จ ปริสุทฺธจิตฺตานํ ปรมโวทานปฺปตฺตานํฯ อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตาน’’นฺติ (มหานิ. ๔๙)ฯ

    Santuṭṭhassāti catūsu paccayesu tīhi santosehi santuṭṭhassa. Pavivittassāti kāyacittaupadhivivekehi vivittassa. Tattha kāyaviveko nāma gaṇasaṅgaṇikaṃ vinodetvā aṭṭhaārambhavatthuvasena ekībhāvo. Ekībhāvamattena pana kammaṃ na nipphajjatīti kasiṇaparikammaṃ katvā aṭṭha samāpattiyo nibbatteti, ayaṃ cittaviveko nāma. Samāpattimatteneva kammaṃ na nipphajjatīti jhānaṃ pādakaṃ katvā saṅkhāre sammasitvā saha paṭisambhidāhi arahattaṃ pāpuṇāti, ayaṃ upadhiviveko nāma. Tenāha bhagavā – ‘‘kāyaviveko ca vivekaṭṭhakāyānaṃ nekkhammābhiratānaṃ. Cittaviveko ca parisuddhacittānaṃ paramavodānappattānaṃ. Upadhiviveko ca nirupadhīnaṃ puggalānaṃ visaṅkhāragatāna’’nti (mahāni. 49).

    สงฺคณิการามสฺสาติ คณสงฺคณิกาย เจว กิเลสสงฺคณิกาย จ รตสฺสฯ อารทฺธวีริยสฺสาติ กายิกเจตสิกวีริยวเสน อารทฺธวีริยสฺสฯ อุปฎฺฐิตสติสฺสาติ จตุสติปฎฺฐานวเสน อุปฎฺฐิตสติสฺสฯ สมาหิตสฺสาติ เอกคฺคจิตฺตสฺสฯ ปญฺญวโตติ กมฺมสฺสกตปญฺญาย ปญฺญวโตฯ นิปฺปปญฺจสฺสาติ วิคตมานตณฺหาทิฎฺฐิปปญฺจสฺสฯ

    Saṅgaṇikārāmassāti gaṇasaṅgaṇikāya ceva kilesasaṅgaṇikāya ca ratassa. Āraddhavīriyassāti kāyikacetasikavīriyavasena āraddhavīriyassa. Upaṭṭhitasatissāti catusatipaṭṭhānavasena upaṭṭhitasatissa. Samāhitassāti ekaggacittassa. Paññavatoti kammassakatapaññāya paññavato. Nippapañcassāti vigatamānataṇhādiṭṭhipapañcassa.

    อิธ ภาเวตพฺพปเท มโคฺค กถิโตฯ เสสํ ปุริมสทิสเมวฯ

    Idha bhāvetabbapade maggo kathito. Sesaṃ purimasadisameva.

    นวธมฺมวณฺณนา

    Navadhammavaṇṇanā

    ๓๕๙. (ข) สีลวิสุทฺธีติ วิสุทฺธิํ ปาเปตุํ สมตฺถํ จตุปาริสุทฺธิสีลํฯ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ ปริสุทฺธภาวสฺส ปธานงฺคํฯ จิตฺตวิสุทฺธีติ วิปสฺสนาย ปทฎฺฐานภูตา อฎฺฐ ปคุณสมาปตฺติโยฯ ทิฎฺฐิวิสุทฺธีติ สปจฺจยนามรูปทสฺสนํฯ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธีติ ปจฺจยาการญาณํฯ อทฺธตฺตเยปิ หิ ปจฺจยวเสเนว ธมฺมา ปวตฺตนฺตีติ ปสฺสโต กงฺขํ วิตรติฯ มคฺคามคฺคญาณทสฺสนวิสุทฺธีติ โอภาสาทโย น มโคฺค, วีถิปฺปฎิปนฺนํ อุทยพฺพยญาณํ มโคฺคติ เอวํ มคฺคามเคฺค ญาณํฯ ปฎิปทาญาณทสฺสนวิสุทฺธีติ รถวินีเต วุฎฺฐานคามินิวิปสฺสนา กถิตา, อิธ ตรุณวิปสฺสนาฯ ญาณทสฺสนวิสุทฺธีติ รถวินีเต มโคฺค กถิโต, อิธ วุฎฺฐานคามินิวิปสฺสนาฯ เอตา ปน สตฺตปิ วิสุทฺธิโย วิตฺถาเรน วิสุทฺธิมเคฺค กถิตาฯ ปญฺญาติ อรหตฺตผลปญฺญาฯ วิมุตฺติปิ อรหตฺตผลวิมุตฺติเยวฯ

    359. (Kha) sīlavisuddhīti visuddhiṃ pāpetuṃ samatthaṃ catupārisuddhisīlaṃ. Pārisuddhipadhāniyaṅganti parisuddhabhāvassa padhānaṅgaṃ. Cittavisuddhīti vipassanāya padaṭṭhānabhūtā aṭṭha paguṇasamāpattiyo. Diṭṭhivisuddhīti sapaccayanāmarūpadassanaṃ. Kaṅkhāvitaraṇavisuddhīti paccayākārañāṇaṃ. Addhattayepi hi paccayavaseneva dhammā pavattantīti passato kaṅkhaṃ vitarati. Maggāmaggañāṇadassanavisuddhīti obhāsādayo na maggo, vīthippaṭipannaṃ udayabbayañāṇaṃ maggoti evaṃ maggāmagge ñāṇaṃ. Paṭipadāñāṇadassanavisuddhīti rathavinīte vuṭṭhānagāminivipassanā kathitā, idha taruṇavipassanā. Ñāṇadassanavisuddhīti rathavinīte maggo kathito, idha vuṭṭhānagāminivipassanā. Etā pana sattapi visuddhiyo vitthārena visuddhimagge kathitā. Paññāti arahattaphalapaññā. Vimuttipi arahattaphalavimuttiyeva.

    (ฉ) ธาตุนานตฺตํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ผสฺสนานตฺตนฺติ จกฺขาทิธาตุนานตฺตํ ปฎิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ อโตฺถฯ ผสฺสนานตฺตํ ปฎิจฺจาติ จกฺขุสมฺผสฺสาทินานตฺตํ ปฎิจฺจ ฯ เวทนานานตฺตนฺติ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิเวทนานานตฺตํฯ สญฺญานานตฺตํ ปฎิจฺจาติ กามสญฺญาทินานตฺตํ ปฎิจฺจฯ สงฺกปฺปนานตฺตนฺติ กามสงฺกปฺปาทินานตฺตํฯ สงฺกปฺปนานตฺตํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฉนฺทนานตฺตนฺติ สงฺกปฺปนานตฺตตาย รูเป ฉโนฺท สเทฺท ฉโนฺทติ เอวํ ฉนฺทนานตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ปริฬาหนานตฺตนฺติ ฉนฺทนานตฺตตาย รูปปริฬาโห สทฺทปริฬาโหติ เอวํ ปริฬาหนานตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ปริเยสนานานตฺตนฺติ ปริฬาหนานตฺตตาย รูปปริเยสนาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ลาภนานตฺตนฺติ ปริเยสนานานตฺตตาย รูปปฎิลาภาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ

    (Cha) dhātunānattaṃ paṭicca uppajjati phassanānattanti cakkhādidhātunānattaṃ paṭicca cakkhusamphassādinānattaṃ uppajjatīti attho. Phassanānattaṃ paṭiccāti cakkhusamphassādinānattaṃ paṭicca . Vedanānānattanti cakkhusamphassajādivedanānānattaṃ. Saññānānattaṃ paṭiccāti kāmasaññādinānattaṃ paṭicca. Saṅkappanānattanti kāmasaṅkappādinānattaṃ. Saṅkappanānattaṃ paṭicca uppajjati chandanānattanti saṅkappanānattatāya rūpe chando sadde chandoti evaṃ chandanānattaṃ uppajjati. Pariḷāhanānattanti chandanānattatāya rūpapariḷāho saddapariḷāhoti evaṃ pariḷāhanānattaṃ uppajjati. Pariyesanānānattanti pariḷāhanānattatāya rūpapariyesanādinānattaṃ uppajjati. Lābhanānattanti pariyesanānānattatāya rūpapaṭilābhādinānattaṃ uppajjati.

    (ช) สญฺญาสุ มรณสญฺญาติ มรณานุปสฺสนาญาเณ สญฺญาฯ อาหาเรปฎิกูลสญฺญาติ อาหารํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนสญฺญาฯ สพฺพโลเกอนภิรติสญฺญาติ สพฺพสฺมิํ วเฎฺฎ อุกฺกณฺฐนฺตสฺส อุปฺปนฺนสญฺญาฯ เสสา เหฎฺฐา กถิตา เอวฯ อิธ พหุการปเท มโคฺค กถิโตฯ เสสํ ปุริมสทิสเมวฯ

    (Ja) saññāsu maraṇasaññāti maraṇānupassanāñāṇe saññā. Āhārepaṭikūlasaññāti āhāraṃ pariggaṇhantassa uppannasaññā. Sabbalokeanabhiratisaññāti sabbasmiṃ vaṭṭe ukkaṇṭhantassa uppannasaññā. Sesā heṭṭhā kathitā eva. Idha bahukārapade maggo kathito. Sesaṃ purimasadisameva.

    ทสธมฺมวณฺณนา

    Dasadhammavaṇṇanā

    ๓๖๐. (ฌ) นิชฺชรวตฺถูนีติ นิชฺชรการณานิฯ มิจฺฉาทิฎฺฐิ นิชฺชิณฺณา โหตีติ อยํ เหฎฺฐา วิปสฺสนายปิ นิชฺชิณฺณา เอว ปหีนาฯ กสฺมา ปุน คหิตาติ อสมุจฺฉินฺนตฺตาฯ วิปสฺสนาย หิ กิญฺจาปิ ชิณฺณา, น ปน สมุจฺฉินฺนา, มโคฺค ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ สมุจฺฉินฺทติ, น ปุน วุฎฺฐาตุํ เทติฯ ตสฺมา ปุน คหิตาฯ เอวํ สพฺพปเทสุ นโย เนตโพฺพฯ

    360. (Jha) nijjaravatthūnīti nijjarakāraṇāni. Micchādiṭṭhi nijjiṇṇā hotīti ayaṃ heṭṭhā vipassanāyapi nijjiṇṇā eva pahīnā. Kasmā puna gahitāti asamucchinnattā. Vipassanāya hi kiñcāpi jiṇṇā, na pana samucchinnā, maggo pana uppajjitvā taṃ samucchindati, na puna vuṭṭhātuṃ deti. Tasmā puna gahitā. Evaṃ sabbapadesu nayo netabbo.

    เอตฺถ จ สมฺมาทิฎฺฐิปจฺจยา จตุสฎฺฐิ ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ กตเม จตุสฎฺฐิ? โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ อธิโมกฺขเฎฺฐน สทฺธินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, ปคฺคหเฎฺฐน วีริยินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, อนุสฺสรณเฎฺฐน สตินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, อวิเกฺขปเฎฺฐน สมาธินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, ทสฺสนเฎฺฐน ปญฺญินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, วิชานนเฎฺฐน มนินฺทฺริยํ, อภินนฺทนเฎฺฐน โสมนสฺสินฺทฺริยํ, ปวตฺตสนฺตติอธิปเตยฺยเฎฺฐน ชีวิตินฺทฺริยํ ปริปูเรติ…เป.… อรหตฺตผลกฺขเณ อธิโมกฺขเฎฺฐน สทฺธินฺทฺริยํ, ปวตฺตสนฺตติอธิปเตยฺยเฎฺฐน ชีวิตินฺทฺริยํ ปริปูเรตีติ เอวํ จตูสุ มเคฺคสุ จตูสุ ผเลสุ อฎฺฐ อฎฺฐ หุตฺวา จตุสฎฺฐิ ธมฺมา ปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ อิธ อภิเญฺญยฺยปเท มโคฺค กถิโตฯ เสสํ ปุริมสทิสเมวฯ

    Ettha ca sammādiṭṭhipaccayā catusaṭṭhi dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Katame catusaṭṭhi? Sotāpattimaggakkhaṇe adhimokkhaṭṭhena saddhindriyaṃ paripūreti, paggahaṭṭhena vīriyindriyaṃ paripūreti, anussaraṇaṭṭhena satindriyaṃ paripūreti, avikkhepaṭṭhena samādhindriyaṃ paripūreti, dassanaṭṭhena paññindriyaṃ paripūreti, vijānanaṭṭhena manindriyaṃ, abhinandanaṭṭhena somanassindriyaṃ, pavattasantatiadhipateyyaṭṭhena jīvitindriyaṃ paripūreti…pe… arahattaphalakkhaṇe adhimokkhaṭṭhena saddhindriyaṃ, pavattasantatiadhipateyyaṭṭhena jīvitindriyaṃ paripūretīti evaṃ catūsu maggesu catūsu phalesu aṭṭha aṭṭha hutvā catusaṭṭhi dhammā pāripūriṃ gacchanti. Idha abhiññeyyapade maggo kathito. Sesaṃ purimasadisameva.

    อิธ ฐตฺวา ปญฺหา สโมธาเนตพฺพาฯ ทสเก สตํ ปญฺหา กถิตาฯ เอกเก จ นวเก จ สตํ , ทุเก จ อฎฺฐเก จ สตํ, ติเก จ สตฺตเก จ สตํ, จตุเกฺก จ ฉเกฺก จ สตํ, ปญฺจเก ปญฺญาสาติ อฑฺฒฉฎฺฐานิ ปญฺหสตานิ กถิตานิ โหนฺติฯ

    Idha ṭhatvā pañhā samodhānetabbā. Dasake sataṃ pañhā kathitā. Ekake ca navake ca sataṃ , duke ca aṭṭhake ca sataṃ, tike ca sattake ca sataṃ, catukke ca chakke ca sataṃ, pañcake paññāsāti aḍḍhachaṭṭhāni pañhasatāni kathitāni honti.

    ‘‘อิทมโวจ อายสฺมา สาริปุโตฺต, อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุ’’นฺติ สาธุ, สาธูติ อภินนฺทนฺตา สิรสา สมฺปฎิจฺฉิํสุฯ ตาย จ ปน อตฺตมนตาย อิมเมว สุตฺตํ อาวชฺชมานา ปญฺจสตาปิ เต ภิกฺขู สห ปฎิสมฺภิทาหิ อคฺคผเล อรหเตฺต ปติฎฺฐหิํสูติฯ

    ‘‘Idamavoca āyasmā sāriputto, attamanā te bhikkhū āyasmato sāriputtassa bhāsitaṃ abhinandu’’nti sādhu, sādhūti abhinandantā sirasā sampaṭicchiṃsu. Tāya ca pana attamanatāya imameva suttaṃ āvajjamānā pañcasatāpi te bhikkhū saha paṭisambhidāhi aggaphale arahatte patiṭṭhahiṃsūti.

    สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฎฺฐกถาย

    Sumaṅgalavilāsiniyā dīghanikāyaṭṭhakathāya

    ทสุตฺตรสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dasuttarasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.

    นิฎฺฐิตา จ ปาถิกวคฺคสฺส วณฺณนาติฯ

    Niṭṭhitā ca pāthikavaggassa vaṇṇanāti.

    ปาถิกวคฺคฎฺฐกถา นิฎฺฐิตาฯ

    Pāthikavaggaṭṭhakathā niṭṭhitā.

    นิคมนกถา

    Nigamanakathā

    เอตฺตาวตา จ –

    Ettāvatā ca –

    อายาจิโต สุมงฺคล, ปริเวณนิวาสินา ถิรคุเณน;

    Āyācito sumaṅgala, pariveṇanivāsinā thiraguṇena;

    ทาฐานาคสงฺฆเตฺถเรน, เถรวํสนฺวเยนฯ

    Dāṭhānāgasaṅghattherena, theravaṃsanvayena.

    ทีฆาคมวรสฺส ทสพล, คุณคณปริทีปนสฺส อฎฺฐกถํ;

    Dīghāgamavarassa dasabala, guṇagaṇaparidīpanassa aṭṭhakathaṃ;

    ยํ อารภิํ สุมงฺคล, วิลาสินิํ นาม นาเมนฯ

    Yaṃ ārabhiṃ sumaṅgala, vilāsiniṃ nāma nāmena.

    สา หิ มหาฎฺฐกถาย, สารมาทาย นิฎฺฐิตา;

    Sā hi mahāṭṭhakathāya, sāramādāya niṭṭhitā;

    เอสา เอกาสีติปมาณาย, ปาฬิยา ภาณวาเรหิฯ

    Esā ekāsītipamāṇāya, pāḷiyā bhāṇavārehi.

    เอกูนสฎฺฐิมโตฺต, วิสุทฺธิมโคฺคปิ ภาณวาเรหิ;

    Ekūnasaṭṭhimatto, visuddhimaggopi bhāṇavārehi;

    อตฺถปฺปกาสนตฺถาย, อาคมานํ กโต ยสฺมาฯ

    Atthappakāsanatthāya, āgamānaṃ kato yasmā.

    ตสฺมา เตน สหา’ยํ, อฎฺฐกถา ภาณวารคณนาย;

    Tasmā tena sahā’yaṃ, aṭṭhakathā bhāṇavāragaṇanāya;

    สุปริมิตปริจฺฉินฺนํ, จตฺตาลีสสตํ โหติฯ

    Suparimitaparicchinnaṃ, cattālīsasataṃ hoti.

    สพฺพํ จตฺตาลีสาธิกสต, ปริมาณํ ภาณวารโต เอวํ;

    Sabbaṃ cattālīsādhikasata, parimāṇaṃ bhāṇavārato evaṃ;

    สมยํ ปกาสยนฺติํ, มหาวิหาเร นิวาสินํฯ

    Samayaṃ pakāsayantiṃ, mahāvihāre nivāsinaṃ.

    มูลกฎฺฐกถาสาร, มาทาย มยา อิมํ กโรเนฺตน;

    Mūlakaṭṭhakathāsāra, mādāya mayā imaṃ karontena;

    ยํ ปุญฺญมุปจิตํ เตน, โหตุ สโพฺพ สุขี โลโกติฯ

    Yaṃ puññamupacitaṃ tena, hotu sabbo sukhī lokoti.

    ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฎิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนโชฺฌคาหณสมเตฺถน ปญฺญาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฎกปริยตฺติปฺปเภเท สาฎฺฐกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฎิหตญาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุเตฺตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฎิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิญฺญาทิปฺปเภทคุณปฎิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธเมฺม สุปฺปติฎฺฐิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธเยฺยน เถเรน กตา อยํ สุมงฺคลวิลาสินี นาม ทีฆนิกายฎฺฐกถา –

    Paramavisuddhasaddhābuddhivīriyapaṭimaṇḍitena sīlācārajjavamaddavādiguṇasamudayasamuditena sakasamayasamayantaragahanajjhogāhaṇasamatthena paññāveyyattiyasamannāgatena tipiṭakapariyattippabhede sāṭṭhakathe satthusāsane appaṭihatañāṇappabhāvena mahāveyyākaraṇena karaṇasampattijanitasukhaviniggatamadhurodāravacanalāvaṇṇayuttena yuttamuttavādinā vādīvarena mahākavinā pabhinnapaṭisambhidāparivāre chaḷabhiññādippabhedaguṇapaṭimaṇḍite uttarimanussadhamme suppatiṭṭhitabuddhīnaṃ theravaṃsappadīpānaṃ therānaṃ mahāvihāravāsīnaṃ vaṃsālaṅkārabhūtena vipulavisuddhabuddhinā buddhaghosoti garūhi gahitanāmadheyyena therena katā ayaṃ sumaṅgalavilāsinī nāma dīghanikāyaṭṭhakathā –

    ตาว ติฎฺฐตุ โลกสฺมิํ, โลกนิตฺถรเณสินํ;

    Tāva tiṭṭhatu lokasmiṃ, lokanittharaṇesinaṃ;

    ทเสฺสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ ทิฎฺฐิวิสุทฺธิยาฯ

    Dassentī kulaputtānaṃ, nayaṃ diṭṭhivisuddhiyā.

    ยาว พุโทฺธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;

    Yāva buddhoti nāmampi, suddhacittassa tādino;

    โลกมฺหิ โลกเชฎฺฐสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติฯ

    Lokamhi lokajeṭṭhassa, pavattati mahesinoti.

    สุมงฺคลวิลาสินี นาม

    Sumaṅgalavilāsinī nāma

    ทีฆนิกายฎฺฐกถา นิฎฺฐิตาฯ

    Dīghanikāyaṭṭhakathā niṭṭhitā.




    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ทีฆนิกาย • Dīghanikāya / ๑๑. ทสุตฺตรสุตฺตํ • 11. Dasuttarasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ทีฆนิกาย (ฎีกา) • Dīghanikāya (ṭīkā) / ๑๑. ทสุตฺตรสุตฺตวณฺณนา • 11. Dasuttarasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact