Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ทีฆนิกาย (ฎีกา) • Dīghanikāya (ṭīkā)

    ๑๑. ทสุตฺตรสุตฺตวณฺณนา

    11. Dasuttarasuttavaṇṇanā

    ๓๕๐. อาวุโส ภิกฺขเวติ สาวกานํ อาลปนนฺติ สาวกานํ อามนฺตนวเสน อาลปนสมุทาจาโร, น เกวลํ ‘‘ภิกฺขเว’’ติ, โส ปน พุทฺธานํ อาลปนํฯ เตนาห ‘‘พุทฺธา หี’’ติอาทิฯ สตฺถุสมุทาจารวเสน อสมุทาจาโร เอเวตฺถ สตฺถุ อุจฺจฎฺฐาเน ฐปนํฯ สมฺปติ อาคตตฺตา กตฺถจิ น นิพโทฺธ วาโส เอเตสนฺติ อนิพทฺธวาสา, อเนฺตวาสิกาฯ กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา สปฺปายเสนาสนํ คเวสนฺตา ยํ กิญฺจิ ทิสํ คจฺฉนฺตีติ ทิสาคมนียาฯ อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทเสฺสตุํ ‘‘พุทฺธกาเล’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

    350.Āvusobhikkhaveti sāvakānaṃ ālapananti sāvakānaṃ āmantanavasena ālapanasamudācāro, na kevalaṃ ‘‘bhikkhave’’ti, so pana buddhānaṃ ālapanaṃ. Tenāha ‘‘buddhā hī’’tiādi. Satthusamudācāravasena asamudācāro evettha satthu uccaṭṭhāne ṭhapanaṃ. Sampati āgatattā katthaci na nibaddho vāso etesanti anibaddhavāsā, antevāsikā. Kammaṭṭhānaṃ gahetvā sappāyasenāsanaṃ gavesantā yaṃ kiñci disaṃ gacchantīti disāgamanīyā. Idāni tamatthaṃ vitthārato dassetuṃ ‘‘buddhakāle’’tiādi vuttaṃ.

    อสุภกมฺมฎฺฐานนฺติ เอกาทสวิธํ อสุภกมฺมฎฺฐานํฯ ตตฺถาปิ ปุคฺคลเวมตฺตตํ ญตฺวา ตทนุรูปํ ตทนุรูปเมว เทติฯ โมหจริตสฺสปิ กามํ อานาปานสฺสติกมฺมฎฺฐานํ สปฺปายํ, กมฺมฎฺฐานภาวนาย ปน ภาชนภูตํ กาตุํ สโมฺมหวิคมาย ปฐมํ อุเทฺทสปริปุจฺฉาธมฺมสฺสวนธมฺมสากจฺฉาสุ นิโยเชตโพฺพติ วุตฺตํ ‘‘โมหจริตสฺส…เป.… อาจิกฺขตี’’ติฯ สทฺธาจริตสฺส วิเสสโต ปุริมา ฉ อนุสฺสติโย สปฺปายา, ตาสํ ปน อนุยุญฺชเน อยํ ปุพฺพภาคปฎิปตฺตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘ปสาทนียสุตฺตเนฺต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ญาณจริตสฺสาติ พุทฺธิจริตสฺส, ตสฺส ปน มรณสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, จตุธาตุววตฺถานํ, อาหาเรปฎิกูลสญฺญา วิเสสโต สปฺปายา, เตสํ ปน อุปการธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘อนิจฺจตาทิ…เป.… กเถตี’’ติ วุตฺตํฯ ตเตฺถวาติ สตฺถุ สนฺติเก เอวฯ เตมาสิกํ ปฎิปทนฺติ ตีหิ มาเสหิ สนฺนิฎฺฐาเปตพฺพํ ปฎิปทํฯ

    Asubhakammaṭṭhānanti ekādasavidhaṃ asubhakammaṭṭhānaṃ. Tatthāpi puggalavemattataṃ ñatvā tadanurūpaṃ tadanurūpameva deti. Mohacaritassapi kāmaṃ ānāpānassatikammaṭṭhānaṃ sappāyaṃ, kammaṭṭhānabhāvanāya pana bhājanabhūtaṃ kātuṃ sammohavigamāya paṭhamaṃ uddesaparipucchādhammassavanadhammasākacchāsu niyojetabboti vuttaṃ ‘‘mohacaritassa…pe… ācikkhatī’’ti. Saddhācaritassa visesato purimā cha anussatiyo sappāyā, tāsaṃ pana anuyuñjane ayaṃ pubbabhāgapaṭipattīti dassetuṃ ‘‘pasādanīyasuttante’’tiādi vuttaṃ. Ñāṇacaritassāti buddhicaritassa, tassa pana maraṇassati, upasamānussati, catudhātuvavatthānaṃ, āhārepaṭikūlasaññā visesato sappāyā, tesaṃ pana upakāradhammadassanatthaṃ ‘‘aniccatādi…pe… kathetī’’ti vuttaṃ. Tatthevāti satthu santike eva. Temāsikaṃ paṭipadanti tīhi māsehi sanniṭṭhāpetabbaṃ paṭipadaṃ.

    อิเม ภิกฺขูติ อิมิสฺสา ธมฺมเทสนาย ภาชนภูตา ภิกฺขูฯ ‘‘เอวํ อาคนฺตฺวา คจฺฉเนฺต ปน ภิกฺขู’’ติ อิทํ ‘‘พุทฺธกาเล’’ติอาทินา ตทุเทฺทสิกวเสน วุตฺตภิกฺขู สนฺธาย วุตฺตํ, น ‘‘อิเม ภิกฺขู’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตภิกฺขูฯ เตนาห ‘‘เปเสตี’’ติฯ อปโลเกถาติ อาปุจฺฉถฯ ‘‘ปณฺฑิตา’’ติอาทิ เสวนภชเนสุ การณวจนํฯ ‘‘โสตาปตฺติผเล วิเนตี’’ติอาทิ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํฯ อายสฺมา หิ ธมฺมเสนาปติ ภิกฺขู เยภุเยฺยน โสตาปตฺติผลํ ปาเปตฺวา วิสฺสเชฺชติ ‘‘เอวเมเต นิยตา สโมฺพธิปรายณา’’ติฯ อายสฺมา ปน มหาโมคฺคลฺลาโน ‘‘สพฺพาปิ ภวูปปตฺติ ชิคุจฺฉิตพฺพาวา’’ติ ภิกฺขู เยภุเยฺยน อุตฺตมตฺถํเยว ปาเปติฯ

    Ime bhikkhūti imissā dhammadesanāya bhājanabhūtā bhikkhū. ‘‘Evaṃ āgantvā gacchantepana bhikkhū’’ti idaṃ ‘‘buddhakāle’’tiādinā taduddesikavasena vuttabhikkhū sandhāya vuttaṃ, na ‘‘ime bhikkhū’’ti anantaraṃ vuttabhikkhū. Tenāha ‘‘pesetī’’ti. Apalokethāti āpucchatha. ‘‘Paṇḍitā’’tiādi sevanabhajanesu kāraṇavacanaṃ. ‘‘Sotāpattiphale vinetī’’tiādi yebhuyyavasena vuttaṃ. Āyasmā hi dhammasenāpati bhikkhū yebhuyyena sotāpattiphalaṃ pāpetvā vissajjeti ‘‘evamete niyatā sambodhiparāyaṇā’’ti. Āyasmā pana mahāmoggallāno ‘‘sabbāpi bhavūpapatti jigucchitabbāvā’’ti bhikkhū yebhuyyena uttamatthaṃyeva pāpeti.

    สาวเกหิ วิเนตุํ สกฺกุเณยฺยา สาวกเวเนยฺยา นาม น สาวเกเหว วิเนตพฺพาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สาวกเวเนยฺยา นามา’’ติอาทิฯ ทสธา มาติกํ ฐเปตฺวาติ เอกกโต ปฎฺฐาย ยาว ทสกา ทสธา ทสธา มาติกํ ฐเปตฺวา วิภโตฺตติ ทสุตฺตโรฯ ทสุตฺตโร คโตติปิ ทสุตฺตโรติ เอกกโต ปฎฺฐาย ยาว ทสกา ทสหิ อุตฺตโร อธิโก หุตฺวา คโต ปวโตฺตติปิ ทสุตฺตโรฯ เอเกกสฺมิํ ปเพฺพติ เอกกโต ปฎฺฐาย ยาว ทสกา ทสสุ ปเพฺพสุ เอเกกสฺมิํ ปเพฺพฯ ทส ทส ปญฺหาติ ‘‘กตโม ธโมฺม พหุกาโร อปฺปมาโท กุสเลสุ ธเมฺมสู’’ติอาทินา ทส ทส ปญฺหาฯ วิเสสิตาติ วิสฺสชฺชิตาฯ ทสุตฺตรํ ปวกฺขามีติ เทสิยมานํ เทสนํ นามกิตฺตนมุเขน ปฎิชานาติ วณฺณภณนตฺถํฯ ปวกฺขามีติ ปกาเรหิ วกฺขามิฯ ตถา เหตฺถ ปญฺญาสาธิกานํ ปญฺจนฺนํ ปญฺหสตานํ วเสน เทสนา ปวตฺตาฯ ธมฺมนฺติ อิธ ธมฺม-สโทฺท ปริยตฺติปริยาโย ‘‘อิธ ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๗๓) วิยฯ สุตฺตลกฺขโณ จายํ ธโมฺมติ อาห ‘‘ธมฺมนฺติ สุตฺต’’นฺติฯ สฺวายํ ธโมฺม ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชมานสฺส นิพฺพานาวโหฯ ตโต เอว วฎฺฎทุกฺขสมุเจฺฉทาย โหติ, ส จายมสฺส อานุภาโว สเพฺพสํ ขนฺธานํ ปโมจนุปายภาวโตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘นิพฺพานปฺปตฺติยา’’ติอาทิมาหฯ เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพานปฺปตฺติยา’’ติอาทิฯ

    Sāvakehi vinetuṃ sakkuṇeyyā sāvakaveneyyā nāma na sāvakeheva vinetabbāti dassento āha ‘‘sāvakaveneyyā nāmā’’tiādi. Dasadhā mātikaṃ ṭhapetvāti ekakato paṭṭhāya yāva dasakā dasadhā dasadhā mātikaṃ ṭhapetvā vibhattoti dasuttaro. Dasuttaro gatotipi dasuttaroti ekakato paṭṭhāya yāva dasakā dasahi uttaro adhiko hutvā gato pavattotipi dasuttaro. Ekekasmiṃ pabbeti ekakato paṭṭhāya yāva dasakā dasasu pabbesu ekekasmiṃ pabbe. Dasa dasa pañhāti ‘‘katamo dhammo bahukāro appamādo kusalesu dhammesū’’tiādinā dasa dasa pañhā. Visesitāti vissajjitā. Dasuttaraṃ pavakkhāmīti desiyamānaṃ desanaṃ nāmakittanamukhena paṭijānāti vaṇṇabhaṇanatthaṃ. Pavakkhāmīti pakārehi vakkhāmi. Tathā hettha paññāsādhikānaṃ pañcannaṃ pañhasatānaṃ vasena desanā pavattā. Dhammanti idha dhamma-saddo pariyattipariyāyo ‘‘idha bhikkhu dhammaṃ pariyāpuṇātī’’tiādīsu (a. ni. 5.73) viya. Suttalakkhaṇo cāyaṃ dhammoti āha ‘‘dhammantisutta’’nti. Svāyaṃ dhammo yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjamānassa nibbānāvaho. Tato eva vaṭṭadukkhasamucchedāya hoti, sa cāyamassa ānubhāvo sabbesaṃ khandhānaṃ pamocanupāyabhāvatoti dassento ‘‘nibbānappattiyā’’tiādimāha. Tena vuttaṃ ‘‘nibbānappattiyā’’tiādi.

    อุจฺจํ กโรโนฺตติ อุทคฺคํ อุฬารํ ปณีตํ กตฺวา ทเสฺสโนฺต, ปคฺคณฺหโนฺตติ อโตฺถฯ เปมํ ชเนโนฺตติ ภตฺติํ อุปฺปาเทโนฺตฯ อิทญฺจ เทสนาย ปคฺคณฺหนํ พุทฺธานมฺปิ อาจิณฺณํ เอวาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘เอกายโน’’ติอาทิมาหฯ

    Uccaṃ karontoti udaggaṃ uḷāraṃ paṇītaṃ katvā dassento, paggaṇhantoti attho. Pemaṃ janentoti bhattiṃ uppādento. Idañca desanāya paggaṇhanaṃ buddhānampi āciṇṇaṃ evāti dassento ‘‘ekāyano’’tiādimāha.

    เอกธมฺมวณฺณนา

    Ekadhammavaṇṇanā

    ๓๕๑. (ก) การ-สโทฺท อุป-สเทฺทน วินาปิ อุปการตฺถํ วทติ, ‘‘พหุการา, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร ปุตฺตาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๒.๓๔) วิยาติ อาห ‘‘พหุกาโรติ พหูปกาโร’’ติฯ

    351. (Ka) kāra-saddo upa-saddena vināpi upakāratthaṃ vadati, ‘‘bahukārā, bhikkhave, mātāpitaro puttāna’’ntiādīsu (a. ni. 2.34) viyāti āha ‘‘bahukāroti bahūpakāro’’ti.

    (ข) วฑฺฒเน วุเตฺต นานนฺตริยตาย อุปฺปาทนํ วุตฺตเมว โหตีติ ‘‘ภาเวตโพฺพติ วเฑฺฒตโพฺพ’’ติ วุโตฺตฯ อุปฺปาทนปุพฺพิกา หิ วฑฺฒนาติฯ นนุ จ ‘‘เอโก ธโมฺม อุปฺปาเทตโพฺพ’’ติ อุปฺปาทนํ เปตฺถ วิสุํ คหิตํ เอวาติ? อญฺญวิสยตฺตา ตสฺส นายํ วิโรโธฯ ตถา หิ ‘‘เอโก ธโมฺม ปริเญฺญโยฺย’’ติ ตีหิปิ ปริญฺญาหิ ปริเญฺญยฺยตํ วตฺวาปิ ‘‘เอโก ธโมฺม ปหาตโพฺพ’’ติ ปหาตพฺพตา วุตฺตาฯ

    (Kha) vaḍḍhane vutte nānantariyatāya uppādanaṃ vuttameva hotīti ‘‘bhāvetabboti vaḍḍhetabbo’’ti vutto. Uppādanapubbikā hi vaḍḍhanāti. Nanu ca ‘‘eko dhammo uppādetabbo’’ti uppādanaṃ pettha visuṃ gahitaṃ evāti? Aññavisayattā tassa nāyaṃ virodho. Tathā hi ‘‘eko dhammo pariññeyyo’’ti tīhipi pariññāhi pariññeyyataṃ vatvāpi ‘‘eko dhammo pahātabbo’’ti pahātabbatā vuttā.

    (ค) ตีหิ ปริญฺญาหีติ ญาตตีรณปหานปริญฺญาหิฯ

    (Ga) tīhi pariññāhīti ñātatīraṇapahānapariññāhi.

    (ฆ) ปหานานุปสฺสนายาติ ปชหนวเสน ปวตฺตาย อนุปสฺสนายฯ มิสฺสกวเสน เจตํ อนุปสฺสนาคหณํ ทฎฺฐพฺพํฯ

    (Gha) pahānānupassanāyāti pajahanavasena pavattāya anupassanāya. Missakavasena cetaṃ anupassanāgahaṇaṃ daṭṭhabbaṃ.

    (ง) สีลสมฺปทาทีนํ ปริหานาวโห ปริหานาย สํวตฺตนโกฯ

    (Ṅa) sīlasampadādīnaṃ parihānāvaho parihānāya saṃvattanako.

    (จ) ฌานาทิวิเสสํ คเมตีติ วิเสสคามีฯ

    (Ca) jhānādivisesaṃ gametīti visesagāmī.

    (ฉ) ทุปฺปจฺจกฺขกโรติ อนุปจิตญาณสมฺภาเรหิ ปจฺจกฺขํ กาตุํ อสกฺกุเณโยฺยฯ

    (Cha) duppaccakkhakaroti anupacitañāṇasambhārehi paccakkhaṃ kātuṃ asakkuṇeyyo.

    (ฌ) อภิชานิตโพฺพติ อภิมุขํ ญาเณน ชานิตโพฺพฯ

    (Jha) abhijānitabboti abhimukhaṃ ñāṇena jānitabbo.

    สพฺพตฺถ มาติกาสูติ ทุกาทิวเสน วุตฺตาสุ สพฺพาสุ มาติกาสุฯ เอตฺถ จ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ เต ภิกฺขู ภาวนาย นิโยเชตฺวา อุตฺตมเตฺถ ปติฎฺฐาเปตุกาโม ปฐมํ ตาว ภาวนาย อุปการธมฺมํ อุเทฺทสวเสน ทเสฺสโนฺต ‘‘เอโก ธโมฺม พหุกาโร’’ติ วตฺวา เตน อุปการเกน อุปกตฺตพฺพํ ทเสฺสโนฺต ‘‘เอโก ธโมฺม ภาเวตโพฺพ’’ติ อาหฯ อยญฺจ ภาวนา วิปสฺสนาวเสน อิจฺฉิตาติ อาห ‘‘เอโก ธโมฺม ปริเญฺญโยฺย’’ติฯ ปริญฺญา จ นาม ยาวเทว ปหาตพฺพปชหนตฺถาติ อาห ‘‘เอโก ธโมฺม ปหาตโพฺพ’’ติฯ ปชหเนฺตน จ หานภาคิยํ นีหริตฺวา วิเสสภาคิเย อวฎฺฐาตพฺพนฺติ อาห ‘‘เอโก ธโมฺม หานภาคิโย, เอโก ธโมฺม วิเสสภาคิโย’’ติฯ วิเสสภาคิเย อวฎฺฐานญฺจ ทุปฺปฎิวิชฺฌเนน, ทุปฺปฎิวิชฺฌปฎิวิชฺฌนเญฺจ อิชฺฌติ, นิปฺผาเทตพฺพนิปฺผาทนํ สิทฺธเมว โหตีติ อาห ‘‘เอโก ธโมฺม ทุปฺปฎิวิโชฺฌ, เอโก ธโมฺม อุปฺปาเทตโพฺพ’’ติฯ ตยิทํ ทฺวยํ อภิเญฺญยฺยาทิชานเนน โหตีติ อาห ‘‘เอโก ธโมฺม อภิเญฺญโยฺย’’ติฯ อภิเญฺญยฺยเญฺจ อภิญฺญาตํ, สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตเมว โหตีติฯ เอตฺตาวตา จ นิฎฺฐิตกิโจฺจว โหติ, นาสฺส อุตฺตริ กิญฺจิ กรณียนฺติ เอวํ ตาว มหาเถโร เอกกวเสน เตสํ ภิกฺขูนํ ปฎิปตฺติวิธิํ อุทฺทิสโนฺต อิมานิ ทส ปทานิ อิมินา อนุกฺกเมน อุทฺทิสิฯ

    Sabbattha mātikāsūti dukādivasena vuttāsu sabbāsu mātikāsu. Ettha ca āyasmā dhammasenāpati te bhikkhū bhāvanāya niyojetvā uttamatthe patiṭṭhāpetukāmo paṭhamaṃ tāva bhāvanāya upakāradhammaṃ uddesavasena dassento ‘‘eko dhammo bahukāro’’ti vatvā tena upakārakena upakattabbaṃ dassento ‘‘eko dhammo bhāvetabbo’’ti āha. Ayañca bhāvanā vipassanāvasena icchitāti āha ‘‘eko dhammo pariññeyyo’’ti. Pariññā ca nāma yāvadeva pahātabbapajahanatthāti āha ‘‘eko dhammo pahātabbo’’ti. Pajahantena ca hānabhāgiyaṃ nīharitvā visesabhāgiye avaṭṭhātabbanti āha ‘‘eko dhammo hānabhāgiyo, eko dhammo visesabhāgiyo’’ti. Visesabhāgiye avaṭṭhānañca duppaṭivijjhanena, duppaṭivijjhapaṭivijjhanañce ijjhati, nipphādetabbanipphādanaṃ siddhameva hotīti āha ‘‘eko dhammo duppaṭivijjho, eko dhammo uppādetabbo’’ti. Tayidaṃ dvayaṃ abhiññeyyādijānanena hotīti āha ‘‘eko dhammo abhiññeyyo’’ti. Abhiññeyyañce abhiññātaṃ, sacchikātabbaṃ sacchikatameva hotīti. Ettāvatā ca niṭṭhitakiccova hoti, nāssa uttari kiñci karaṇīyanti evaṃ tāva mahāthero ekakavasena tesaṃ bhikkhūnaṃ paṭipattividhiṃ uddisanto imāni dasa padāni iminā anukkamena uddisi.

    (ก) เอวํ อนิยมโต อุทฺทิฎฺฐธเมฺม สรูปโต นิยเมตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘กตโม เอโก ธโมฺม’’ติอาทินา เทสนํ อารภิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อิติ อายสฺมา สาริปุโตฺต’’ติอาทิฯ เอส นโย ทุกาทีสุฯ เวฬุกาโรติ เวโนฯ โส หิ เวฬุวิกาเรหิ กิลญฺชาทิกรเณน ‘‘เวฬุกาโร’’ติ วุโตฺตฯ อโนฺต, พหิ จ สพฺพคตคณฺฐิํ นีหรเณน นิคฺคณฺฐิํ กตฺวาฯ เอเกกโกฎฺฐาเสติ เอกกาทีสุ ทสสุ โกฎฺฐาเสสุ เอเกกสฺมิํ โกฎฺฐาเสฯ

    (Ka) evaṃ aniyamato uddiṭṭhadhamme sarūpato niyametvā dassetuṃ ‘‘katamo eko dhammo’’tiādinā desanaṃ ārabhi. Tena vuttaṃ ‘‘iti āyasmā sāriputto’’tiādi. Esa nayo dukādīsu. Veḷukāroti veno. So hi veḷuvikārehi kilañjādikaraṇena ‘‘veḷukāro’’ti vutto. Anto, bahi ca sabbagatagaṇṭhiṃ nīharaṇena niggaṇṭhiṃ katvā. Ekekakoṭṭhāseti ekakādīsu dasasu koṭṭhāsesu ekekasmiṃ koṭṭhāse.

    สพฺพตฺถกํ อุปการกนฺติ สพฺพตฺถกเมว สมฺมา ปฎิปตฺติยา อุปการวนฺตํฯ อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทเสฺสตุํ ‘‘อยญฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ วิปสฺสนาคพฺภํ คณฺหาปเนติ ยถา อุปริ วิปสฺสนา ปริปจฺจติ ติกฺขา วิสทา หุตฺวา มเคฺคน ฆเฎติ, เอวํ ปุพฺพภาควิปสฺสนาวฑฺฒเนฯ อตฺถปฎิสมฺภิทาทีสูติ อตฺถปฎิสมฺภิทาทีสุ นิปฺผาเทตเพฺพสุ, เตสํ สมฺภารสมฺภรณนฺติ อโตฺถฯ เอส นโย อิโต ปเรสุปิฯ ฐานาฎฺฐาเนสูติ ฐาเน, อฎฺฐาเน จ ชานิตเพฺพฯ มหาวิหารสมาปตฺติยนฺติ มหติยํ ฌานาทิวิหารสมาปตฺติยํฯ วิปสฺสนาญาณาทีสูติ อาทิ-สเทฺทน มโนมยิทฺธิ อาทิกานิ สงฺคณฺหาติฯ อฎฺฐสุ วิชฺชาสูติ อมฺพฎฺฐสุเตฺต (ที. นิ. ๑.๒๗๙) อาคตนยาสุ อฎฺฐสุ วิชฺชาสุฯ

    Sabbatthakaṃ upakārakanti sabbatthakameva sammā paṭipattiyā upakāravantaṃ. Idāni tamatthaṃ vitthārato dassetuṃ ‘‘ayañhī’’tiādi vuttaṃ. Vipassanāgabbhaṃ gaṇhāpaneti yathā upari vipassanā paripaccati tikkhā visadā hutvā maggena ghaṭeti, evaṃ pubbabhāgavipassanāvaḍḍhane. Atthapaṭisambhidādīsūti atthapaṭisambhidādīsu nipphādetabbesu, tesaṃ sambhārasambharaṇanti attho. Esa nayo ito paresupi. Ṭhānāṭṭhānesūti ṭhāne, aṭṭhāne ca jānitabbe. Mahāvihārasamāpattiyanti mahatiyaṃ jhānādivihārasamāpattiyaṃ. Vipassanāñāṇādīsūti ādi-saddena manomayiddhi ādikāni saṅgaṇhāti. Aṭṭhasu vijjāsūti ambaṭṭhasutte (dī. ni. 1.279) āgatanayāsu aṭṭhasu vijjāsu.

    เตเนว ภควา โถเมตีติ โยชนาฯ นฺติ อปฺปมาทํฯ

    Teneva bhagavā thometīti yojanā. Nanti appamādaṃ.

    ถามสมฺปเนฺนนาติ ญาณพลสมนฺนาคเตนฯ ทีเปตฺวาติ ‘‘เอวมฺปิ อปฺปมาโท กุสลานํ ธมฺมานํ สมฺปาทเน พหุปกาโร’’ติ ปกาเสตฺวาฯ ยํ กิญฺจิ อนวชฺชปกฺขิกมตฺถํ อปฺปมาเท ปกฺขิปิตฺวา กเถตุํ ยุตฺตนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘ยํ กิญฺจี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

    Thāmasampannenāti ñāṇabalasamannāgatena. Dīpetvāti ‘‘evampi appamādo kusalānaṃ dhammānaṃ sampādane bahupakāro’’ti pakāsetvā. Yaṃ kiñci anavajjapakkhikamatthaṃ appamāde pakkhipitvā kathetuṃ yuttanti dassetuṃ ‘‘yaṃ kiñcī’’tiādi vuttaṃ.

    (ข) กายคตาสตีติ รสฺสํ อกตฺวา นิเทฺทโส, นิเทฺทเสน วา เอตํ สมาสปทํ ทฎฺฐพฺพํฯ ‘‘อฎฺฐิกานิ ปุญฺชกิตานิ เตโรวสฺสิกานิ…เป.… ปูตีนิ จุณฺณิกชาตานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๗๙) เอวํ ปวตฺตมนสิกาโร ‘‘จุณฺณิกมนสิกาโร’’ติ วทนฺติฯ อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘จุณฺณิกอิริยาปเถสุ ปวตฺตมนสิกาโร’’ติฯ เอตฺถ อุปฺปนฺนสติยาติ เอตสฺมิํ ยถาวุเตฺต เอกูนติํสวิเธ ฐาเน อุปฺปนฺนาย สติยาฯ สุขสมฺปยุตฺตาติ นิปฺปริยายโต สุขสมฺปยุตฺตา, ปริยายโต ปน จตุตฺถชฺฌาเน อุเปกฺขาปิ ‘‘สุข’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ สนฺตสภาวตฺตาฯ

    (Kha) kāyagatāsatīti rassaṃ akatvā niddeso, niddesena vā etaṃ samāsapadaṃ daṭṭhabbaṃ. ‘‘Aṭṭhikāni puñjakitāni terovassikāni…pe… pūtīni cuṇṇikajātānī’’ti (dī. ni. 2.379) evaṃ pavattamanasikāro ‘‘cuṇṇikamanasikāro’’ti vadanti. Apare pana bhaṇanti ‘‘cuṇṇikairiyāpathesu pavattamanasikāro’’ti. Ettha uppannasatiyāti etasmiṃ yathāvutte ekūnatiṃsavidhe ṭhāne uppannāya satiyā. Sukhasampayuttāti nippariyāyato sukhasampayuttā, pariyāyato pana catutthajjhāne upekkhāpi ‘‘sukha’’nti vattabbataṃ labhati santasabhāvattā.

    (ค) ปจฺจยภูโต อารมฺมณาทิวิสโยปิ อารมฺมณภาเวน วโณ วิย อาสเว ปคฺฆรติ, โส สมฺปโยคสมฺภวาภาเวปิ สห อาสเวหีติ สาสโวฯ ตถา อุปาทานานํ หิโตติ อุปาทานิโยฯ อิตรถา ปน ปจฺจยภาเวน วิธิ ปฎิเกฺขโปฯ

    (Ga) paccayabhūto ārammaṇādivisayopi ārammaṇabhāvena vaṇo viya āsave paggharati, so sampayogasambhavābhāvepi saha āsavehīti sāsavo. Tathā upādānānaṃ hitoti upādāniyo. Itarathā pana paccayabhāvena vidhi paṭikkhepo.

    (ฆ) อสฺมีติ มาโนติ ‘‘อสฺมี’’ติ ปวโตฺต มาโนฯ

    (Gha) asmīti mānoti ‘‘asmī’’ti pavatto māno.

    (จ) วิปริยาเยนาติ ‘‘อนิเจฺจ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา นเยน ปวโตฺต ปถมนสิกาโรฯ

    (Ca) vipariyāyenāti ‘‘anicce anicca’’ntiādinā nayena pavatto pathamanasikāro.

    (ฉ) อิธ ปน วิปสฺสนานนฺตโร มโคฺค ‘‘อานนฺตริโก เจโตสมาธี’’ติ อธิเปฺปโตฯ กสฺมา? วิปสฺสนาย อนนฺตรตฺตา, อตฺตโน วา ปวตฺติยา อนนฺตรํ ผลทายกตฺตาฯ สทฺทตฺถโต ปน อนนฺตรํ ผลํ อนนฺตรํ, ตสฺมิํ อนนฺตเร นิยุตฺตา, ตํ วา อรหติ, อนนฺตรปโยชโนติ วา อานนฺตริโกฯ

    (Cha) idha pana vipassanānantaro maggo ‘‘ānantariko cetosamādhī’’ti adhippeto. Kasmā? Vipassanāya anantarattā, attano vā pavattiyā anantaraṃ phaladāyakattā. Saddatthato pana anantaraṃ phalaṃ anantaraṃ, tasmiṃ anantare niyuttā, taṃ vā arahati, anantarapayojanoti vā ānantariko.

    (ช) ผลนฺติ ผลปญฺญาฯ ปจฺจเวกฺขณปญฺญา อธิเปฺปตา อกุปฺปารมฺมณตายฯ

    (Ja) phalanti phalapaññā. Paccavekkhaṇapaññā adhippetā akuppārammaṇatāya.

    (ฌ) อตฺตโน ผลํ อาหรตีติ อาหาโร, ปจฺจโยติ อาห ‘‘อาหารฎฺฐิติกาติ ปจฺจยฎฺฐิติกา’’ติฯ อยํ เอโก ธโมฺมติ อยํ ปจฺจยสงฺขาโต เอโก ธโมฺมติ ปจฺจยตาสมเญฺญน เอกํ กตฺวา วทติฯ ญาตปริญฺญาย อภิญฺญายาติ ญาตปริญฺญาสงฺขาตาย อภิญฺญายฯ

    (Jha) attano phalaṃ āharatīti āhāro, paccayoti āha ‘‘āhāraṭṭhitikāti paccayaṭṭhitikā’’ti. Ayaṃ eko dhammoti ayaṃ paccayasaṅkhāto eko dhammoti paccayatāsamaññena ekaṃ katvā vadati. Ñātapariññāya abhiññāyāti ñātapariññāsaṅkhātāya abhiññāya.

    (ญ) อกุปฺปา เจโตวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ อกุปฺปภาเวน อุกฺกํสคตตฺตาฯ อญฺญถา สพฺพาปิ ผลสมาปตฺติโย อกุปฺปา เอว ปฎิปเกฺขหิ อโกปนียตฺตาฯ

    (Ña) akuppā cetovimuttīti arahattaphalavimutti akuppabhāvena ukkaṃsagatattā. Aññathā sabbāpi phalasamāpattiyo akuppā eva paṭipakkhehi akopanīyattā.

    อภิญฺญายาติ ‘‘อภิเญฺญโยฺย’’ติ เอตฺถ ลทฺธอภิญฺญายฯ ปริญฺญายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ปหาตพฺพสจฺฉิกาตเพฺพหีติ ปหาตพฺพสจฺฉิกาตพฺพปเทหิฯ ปหานปริญฺญาว กถิตา ปหานสจฺฉิกิริยานํ เอกาวารตาย ปริญฺญาย สเหว อิชฺฌนโตฯ สจฺฉิกาตโพฺพติ วิเสสโต ผลํ กถิตํฯ เอกสฺมิํเยว สตฺตเม เอว ปเท ลพฺภติฯ ผลํ ปน อเนเกสุปิ ปเทสุ ลพฺภติ ปฐมฎฺฐมนวมทสเมสุ ลพฺภนโตฯ ยสฺมา ตํ นิปฺปริยายโต ทสเม เอว ลพฺภติ, อิตเรสุ ปริยายโต ตสฺมา ‘‘ลพฺภติ เอวา’’ติ สาสงฺกํ วทติฯ

    Abhiññāyāti ‘‘abhiññeyyo’’ti ettha laddhaabhiññāya. Pariññāyāti etthāpi eseva nayo. Pahātabbasacchikātabbehīti pahātabbasacchikātabbapadehi. Pahānapariññāva kathitā pahānasacchikiriyānaṃ ekāvāratāya pariññāya saheva ijjhanato. Sacchikātabboti visesato phalaṃ kathitaṃ. Ekasmiṃyeva sattame eva pade labbhati. Phalaṃ pana anekesupi padesu labbhati paṭhamaṭṭhamanavamadasamesu labbhanato. Yasmā taṃ nippariyāyato dasame eva labbhati, itaresu pariyāyato tasmā ‘‘labbhati evā’’ti sāsaṅkaṃ vadati.

    สภาวโต วิชฺชมานาติ เยน พหุการาทิสภาเวน เทสิตา, เตน สภาเวน ปรมตฺถโต อุปลพฺภมานา ฯ ยาถาวาติ อวิปรีตาฯ ตถาสภาวาติ ตํสภาวาฯ น ตถา น โหนฺตีติ อวิตถตฺตา ตถาว โหนฺติฯ ตโต เอว วุตฺตปฺปการโต อญฺญถา น โหนฺตีติ ปญฺจหิปิ ปเทหิ เตสํ ธมฺมานํ ยถาภูตเมว วทติฯ สมฺมาติ ญาเยนฯ ยํ ปน ญาตํ, ตํ เหตุยุตฺตํ การณยุตฺตเมว โหตีติ อาห ‘‘เหตุนา การเณนา’’ติฯ โอกปฺปนํ ชเนสีติ ชินวจนภาเวน อภิปฺปสาทํ อุปฺปาเทสิฯ

    Sabhāvato vijjamānāti yena bahukārādisabhāvena desitā, tena sabhāvena paramatthato upalabbhamānā . Yāthāvāti aviparītā. Tathāsabhāvāti taṃsabhāvā. Na tathā na hontīti avitathattā tathāva honti. Tato eva vuttappakārato aññathā na hontīti pañcahipi padehi tesaṃ dhammānaṃ yathābhūtameva vadati. Sammāti ñāyena. Yaṃ pana ñātaṃ, taṃ hetuyuttaṃ kāraṇayuttameva hotīti āha ‘‘hetunā kāraṇenā’’ti. Okappanaṃ janesīti jinavacanabhāvena abhippasādaṃ uppādesi.

    เอกธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ekadhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    เทฺวธมฺมวณฺณนา

    Dvedhammavaṇṇanā

    ๓๕๒. (ก) ‘‘สพฺพตฺถา’’ ติ อิทํ ‘‘สีลปูรณาทีสู’’ติ เอเตน สทฺธิํ สมฺพนฺธิตพฺพํฯ ‘‘สีลปูรณาทีสุ สพฺพตฺถ อปฺปมาโท วิย อุปการกา’’ติ เอเตน สติสมฺปชญฺญานมฺปิ อปฺปมาทสฺส วิย สพฺพตฺถ อุปการกตา ปกาสิตา โหติ อตฺถโต นาติวิลกฺขณตฺตา ตโต เตสํฯ สติอวิปฺปวาโส หิ อปฺปมาโท, โส จ อตฺถโต สพฺพตฺถ อวิชหิตา สติ เอว, สา จ โข ญาณสมฺปยุตฺตา เอว ทฎฺฐพฺพา, อิตราย ตถารูปสมตฺถตาภาวโตฯ

    352. (Ka) ‘‘sabbatthā’’ ti idaṃ ‘‘sīlapūraṇādīsū’’ti etena saddhiṃ sambandhitabbaṃ. ‘‘Sīlapūraṇādīsu sabbattha appamādo viya upakārakā’’ti etena satisampajaññānampi appamādassa viya sabbattha upakārakatā pakāsitā hoti atthato nātivilakkhaṇattā tato tesaṃ. Satiavippavāso hi appamādo, so ca atthato sabbattha avijahitā sati eva, sā ca kho ñāṇasampayuttā eva daṭṭhabbā, itarāya tathārūpasamatthatābhāvato.

    (ข) เตสํ ปญฺจสตมตฺตานํ ภิกฺขูนํ ปุพฺพภาคปฎิปตฺติวเสน เทสิตตฺตา ปุพฺพภาคา กถิตาฯ

    (Kha) tesaṃ pañcasatamattānaṃ bhikkhūnaṃ pubbabhāgapaṭipattivasena desitattā pubbabhāgā kathitā.

    (ฉ) อโยนิโสมนสิกาโร สํกิเลสสฺส มูลการณภาเวน ปวโตฺต เหตุ, ปริพฺรูหนภาเวน ปวโตฺต ปจฺจโยฯ โยนิโสมนสิกาเรปิ เอเสว นโยฯ ยถา จ สตฺตานํ สํกิเลสาย, วิสุทฺธิยา จ ปจฺจยภูตา อโยนิโสมนสิกาโร, โยนิโสมนสิกาโรติ ‘‘อิเม เทฺว ธมฺมา ทุปฺปฎิวิชฺฌา’’ติ เอตฺถ นีหริตฺวา วุตฺตา, เอวํ อิเมหิ ธมฺมา นีหริตฺวา วตฺตพฺพาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตถา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อสุภชฺฌานาทโย จตฺตาโร วิสํโยคา นาม กามโยคาทิปฎิปกฺขภาวโต ฯ ‘‘เอวํ ปเภทา’’ติ อิมินา ‘‘อวิชฺชาภาคิโน ธมฺมา, วิชฺชาภาคิโน ธมฺมา, กณฺหา ธมฺมา, สุกฺกา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๐๑, ๑๐๔) เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ

    (Cha) ayonisomanasikāro saṃkilesassa mūlakāraṇabhāvena pavatto hetu, paribrūhanabhāvena pavatto paccayo. Yonisomanasikārepi eseva nayo. Yathā ca sattānaṃ saṃkilesāya, visuddhiyā ca paccayabhūtā ayonisomanasikāro, yonisomanasikāroti ‘‘ime dve dhammā duppaṭivijjhā’’ti ettha nīharitvā vuttā, evaṃ imehi dhammā nīharitvā vattabbāti dassento ‘‘tathā’’tiādimāha. Tattha asubhajjhānādayo cattāro visaṃyogā nāma kāmayogādipaṭipakkhabhāvato . ‘‘Evaṃ pabhedā’’ti iminā ‘‘avijjābhāgino dhammā, vijjābhāgino dhammā, kaṇhā dhammā, sukkā dhammā’’ti (dha. sa. 101, 104) evamādīnaṃ saṅgaho daṭṭhabbo.

    (ฌ) ปจฺจเยหิ สเมจฺจ สมฺภุยฺย กตตฺตา ปญฺจกฺขนฺธา สงฺขตา ธาตุฯ เกนจิ อนภิสงฺขตตฺตา นิพฺพานํ อสงฺขตา ธาตุฯ

    (Jha) paccayehi samecca sambhuyya katattā pañcakkhandhā saṅkhatā dhātu. Kenaci anabhisaṅkhatattā nibbānaṃ asaṅkhatā dhātu.

    (ญ) ติโสฺส วิชฺชา วิชฺชนเฎฺฐน, วิทิตกรณเฎฺฐน จ วิชฺชาฯ วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลํ ปฎิปกฺขโต สพฺพโส วิมุตฺตตฺตาฯ

    (Ña) tisso vijjā vijjanaṭṭhena, viditakaraṇaṭṭhena ca vijjā. Vimuttīti arahattaphalaṃ paṭipakkhato sabbaso vimuttattā.

    อภิญฺญาทีนีติ อภิญฺญาปญฺญาทีนิฯ เอกกสทิสาเนว ปุริมวาเร วิย วิภชฺช กเถตพฺพโตฯ มโคฺค กถิโตติ เอตฺถ ‘‘มโคฺคว กถิโต’’ติ เอวมตฺถํ อคฺคเหตฺวา ‘‘มโคฺค กถิโตวา’’ติ เอวมโตฺถ คเหตโพฺพ ‘‘อนุปฺปาเท ญาณ’’นฺติ อิมินา ผลสฺส คหิตตฺตาฯ สจฺฉิกาตพฺพปเท ผลํ กถิตนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘ผลเมว กถิต’’นฺติ อคฺคเหตฺวา ‘‘ผลํ กถิตเมวา’’ติ อโตฺถ คเหตโพฺพ วิชฺชาคฺคหเณน ตทญฺญสฺส สงฺคหิตตฺตาฯ เอส นโย อิโต ปเรสุปิ เอวรูเปสุ ฐาเนสุฯ

    Abhiññādīnīti abhiññāpaññādīni. Ekakasadisāneva purimavāre viya vibhajja kathetabbato. Maggo kathitoti ettha ‘‘maggova kathito’’ti evamatthaṃ aggahetvā ‘‘maggo kathitovā’’ti evamattho gahetabbo ‘‘anuppāde ñāṇa’’nti iminā phalassa gahitattā. Sacchikātabbapade phalaṃ kathitanti etthāpi ‘‘phalameva kathita’’nti aggahetvā ‘‘phalaṃ kathitamevā’’ti attho gahetabbo vijjāggahaṇena tadaññassa saṅgahitattā. Esa nayo ito paresupi evarūpesu ṭhānesu.

    เทฺวธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dvedhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ตโยธมฺมวณฺณนา

    Tayodhammavaṇṇanā

    ๓๕๓. (ฉ) โสติ อนาคามิมโคฺคฯ สพฺพโส กามานํ นิสฺสรณํ สมุเจฺฉทวเสน ปชหนโตฯ อารุเปฺป อรหตฺตมโคฺค นาม อรูปชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปโนฺน อคฺคมโคฺคฯ ปุน อุปฺปตฺตินิวารณโตติ รูปานํ อุปฺปตฺติยา สพฺพโส นิวารณโตฯ นิรุชฺฌนฺติ สงฺขารา เอเตนาติ นิโรโธ, อคฺคมโคฺคฯ เตน หิ กิเลสวเฎฺฎ นิโรธิเต อิตรมฺปิ วฎฺฎทฺวยํ นิโรธิตเมว โหติฯ ตสฺส ปน นิโรธสฺส ปริโยสานตฺตา อคฺคผลํ ‘‘นิโรโธ’’ติ วตฺตพฺพตํ ลพฺภตีติ อาห ‘‘อรหตฺตผลํ นิโรโธติ อธิเปฺปต’’นฺติฯ ‘‘อรหตฺตผเลน หิ นิพฺพาเน ทิเฎฺฐ’’ ติ อิทํ อรหตฺตมเคฺคน นิพฺพานทสฺสนสฺสายํ นิพฺพตฺตีติ กตฺวา วุตฺตํฯ เอวญฺจ กตฺวา ‘‘อรหตฺตสงฺขาตนิโรธสฺส ปจฺจยตฺตา’’ ติ อิทมฺปิ วจนํ สมตฺถิตํ โหติฯ

    353. (Cha) soti anāgāmimaggo. Sabbaso kāmānaṃ nissaraṇaṃ samucchedavasena pajahanato. Āruppe arahattamaggo nāma arūpajjhānaṃ pādakaṃ katvā uppanno aggamaggo. Puna uppattinivāraṇatoti rūpānaṃ uppattiyā sabbaso nivāraṇato. Nirujjhanti saṅkhārā etenāti nirodho, aggamaggo. Tena hi kilesavaṭṭe nirodhite itarampi vaṭṭadvayaṃ nirodhitameva hoti. Tassa pana nirodhassa pariyosānattā aggaphalaṃ ‘‘nirodho’’ti vattabbataṃ labbhatīti āha ‘‘arahattaphalaṃnirodhoti adhippeta’’nti. ‘‘Arahattaphalena hi nibbāne diṭṭhe’’ ti idaṃ arahattamaggena nibbānadassanassāyaṃ nibbattīti katvā vuttaṃ. Evañca katvā ‘‘arahattasaṅkhātanirodhassa paccayattā’’ ti idampi vacanaṃ samatthitaṃ hoti.

    (ช) อตีตํ สารมฺมณนฺติ อตีตโกฎฺฐาสารมฺมณํ ญาณํ, อตีตา ขนฺธายตนธาตุโย อารพฺภ ปวตฺตนกญาณนฺติ อโตฺถฯ ‘‘มโคฺค กถิโตวา’’ติ อวธารณํ ทฎฺฐพฺพํ, ตถา ‘‘สจฺฉิกาตเพฺพ ผลํ กถิตเมวา’’ติฯ

    (Ja) atītaṃsārammaṇanti atītakoṭṭhāsārammaṇaṃ ñāṇaṃ, atītā khandhāyatanadhātuyo ārabbha pavattanakañāṇanti attho. ‘‘Maggo kathitovā’’ti avadhāraṇaṃ daṭṭhabbaṃ, tathā ‘‘sacchikātabbe phalaṃ kathitamevā’’ti.

    (ญ) อาสวานํ ขเย ญาณนฺติ จ อาสวานํ ขยเนฺต ญาณนฺติ อธิปฺปาโย, อญฺญถา มโคฺค กถิโต สิยาฯ

    (Ña) āsavānaṃ khaye ñāṇanti ca āsavānaṃ khayante ñāṇanti adhippāyo, aññathā maggo kathito siyā.

    ตโยธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Tayodhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    จตุธมฺมวณฺณนา

    Catudhammavaṇṇanā

    ๓๕๔. (ก) ทารุมยํ จกฺกํ ทารุจกฺกํ, ตถา รตนจกฺกํฯ อาณเฎฺฐน ธโมฺม เอว ธมฺมจกฺกํฯ อิริยาปถานํ อปราปรปฺปวตฺติโต อิริยาปถจกฺกํ, ตถา สมฺปตฺติจกฺกํ เวทิตพฺพํฯ

    354. (Ka) dārumayaṃ cakkaṃ dārucakkaṃ, tathā ratanacakkaṃ. Āṇaṭṭhena dhammo eva dhammacakkaṃ. Iriyāpathānaṃ aparāparappavattito iriyāpathacakkaṃ, tathā sampatticakkaṃ veditabbaṃ.

    อนุจฺฉวิเก เทเสติ ปุญฺญกิริยาย, สมฺมาปฎิปตฺติยา อนุรูปเทเสฯ เสวนํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนํฯ ภชนํ ภตฺติวเสน ปยิรุปาสนํฯ อตฺตโน สมฺมา ฐปนนฺติ อตฺตโน จิตฺตสนฺตานสฺส โยนิโส ฐปนํ สทฺธาทีสุ นิเวสนนฺติ อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิฯ อิทเมเวตฺถ ปมาณนฺติ อิทเมว ปุเพฺพกตปุญฺญตาสงฺขาตํ สมฺปตฺติจกฺกเมตฺถ เอเตสุ สมฺปตฺติจเกฺกสุ ปมาณภูตํ อิตเรสํ การณภาวโตฯ เตนาห ‘‘เยน หี’’ติอาทิฯ โส เอว จ กตปุโญฺญ ปุคฺคโล อตฺตานํ สมฺมา ฐเปติ อกตปุญฺญสฺส ตทภาวโตฯ ปฐโม โลกิโยว, ตตฺถาปิ กามาวจโรวฯ อิธาติ อิมสฺมิํ ทสุตฺตรสุเตฺตฯ ปุพฺพภาเค โลกิยาวาติ มคฺคสฺส ปุพฺพภาเค ปวตฺตนกา โลกิยา เอวฯ ตตฺถ การณํ วุตฺตเมวฯ

    Anucchavike deseti puññakiriyāya, sammāpaṭipattiyā anurūpadese. Sevanaṃ kālena kālaṃ upasaṅkamanaṃ. Bhajanaṃ bhattivasena payirupāsanaṃ. Attano sammā ṭhapananti attano cittasantānassa yoniso ṭhapanaṃ saddhādīsu nivesananti āha ‘‘sace’’tiādi. Idamevettha pamāṇanti idameva pubbekatapuññatāsaṅkhātaṃ sampatticakkamettha etesu sampatticakkesu pamāṇabhūtaṃ itaresaṃ kāraṇabhāvato. Tenāha ‘‘yena hī’’tiādi. So eva ca katapuñño puggalo attānaṃ sammā ṭhapeti akatapuññassa tadabhāvato. Paṭhamo lokiyova, tatthāpi kāmāvacarova. Idhāti imasmiṃ dasuttarasutte. Pubbabhāge lokiyāvāti maggassa pubbabhāge pavattanakā lokiyā eva. Tattha kāraṇaṃ vuttameva.

    (จ) กามโยควิสํโยโค อนาคามิมโคฺค, ทิฎฺฐิโยควิสํโยโค โสตาปตฺติมโคฺค, อิตเร เทฺว อรหตฺตมโคฺคติ เอวํ อนาคามิมคฺคาทิวเสน เวทิตพฺพาฯ

    (Ca) kāmayogavisaṃyogo anāgāmimaggo, diṭṭhiyogavisaṃyogo sotāpattimaggo, itare dve arahattamaggoti evaṃ anāgāmimaggādivasena veditabbā.

    (ฉ) ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภินฺติ ยฺวายํ อปฺปคุณสฺส ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภี, ตํฯ กามสหคตา สญฺญามนสิการา สมุทาจรนฺตีติ ตโต วุฎฺฐิตํ อารมฺมณวเสน กามสหคตา หุตฺวา สญฺญามนสิการา สมุทาจรนฺติ โจเทนฺติ ตุเทนฺติฯ ตสฺส กามานุปกฺขนฺทานํ สญฺญามนสิการานํ วเสน โส ปฐมชฺฌานสมาธิ หายติ ปริหายติ, ตสฺมา ‘‘หานภาคิโย สมาธี’’ติ วุโตฺตฯ ตทนุธมฺมตาติ ตทนุรูปสภาโวฯ ‘‘สติ สนฺติฎฺฐตี’’ติ อิทํ มิจฺฉาสติํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ยสฺส หิ ปฐมชฺฌานานุรูปสภาวา ปฐมชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต ทิสฺวา อสฺสาทยมานา อเปกฺขมานา อภินนฺทมานา นิกนฺติ โหติ, ตสฺส นิกนฺติวเสน โส ปฐมชฺฌานสมาธิ เนว หายติ, น วฑฺฒติ, ฐิติโกฎฺฐาสิโก โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ฐิติภาคิโย สมาธี’’ติฯ

    (Cha) paṭhamassajhānassa lābhinti yvāyaṃ appaguṇassa paṭhamassa jhānassa lābhī, taṃ. Kāmasahagatā saññāmanasikārā samudācarantīti tato vuṭṭhitaṃ ārammaṇavasena kāmasahagatā hutvā saññāmanasikārā samudācaranti codenti tudenti. Tassa kāmānupakkhandānaṃ saññāmanasikārānaṃ vasena so paṭhamajjhānasamādhi hāyati parihāyati, tasmā ‘‘hānabhāgiyo samādhī’’ti vutto. Tadanudhammatāti tadanurūpasabhāvo. ‘‘Sati santiṭṭhatī’’ti idaṃ micchāsatiṃ sandhāya vuttaṃ. Yassa hi paṭhamajjhānānurūpasabhāvā paṭhamajjhānaṃ santato paṇītato disvā assādayamānā apekkhamānā abhinandamānā nikanti hoti, tassa nikantivasena so paṭhamajjhānasamādhi neva hāyati, na vaḍḍhati, ṭhitikoṭṭhāsiko hoti, tena vuttaṃ ‘‘ṭhitibhāgiyo samādhī’’ti.

    อวิตกฺกสหคตาติ อวิตกฺกํ ทุติยชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต มนสิ กโรโต อารมฺมณวเสน อวิตกฺกสหคตา สญฺญามนสิการาฯ สมุทาจรนฺตีติ ปคุณปฐมชฺฌานโต วุฎฺฐิตํ ทุติยชฺฌานาธิคมตฺถาย โจเทนฺติ ตุเทนฺติ, ตสฺส อุปริ ทุติยชฺฌานุปกฺขนฺทานํ สญฺญามนสิการานํ วเสน โส ปฐมชฺฌานสมาธิ วิเสสภูตสฺส ทุติยชฺฌานสฺส อุปฺปตฺติปทฎฺฐานตาย ‘‘วิเสสภาคิโย สมาธี’’ติ วุโตฺตฯ นิพฺพิทาสหคตาติ ตเมว ปฐมชฺฌานลาภิํ ฌานโต วุฎฺฐิตํ นิพฺพิทาสงฺขาเตน วิปสฺสนาญาเณน สหคตาฯ วิปสฺสนาญาณญฺหิ ฌานเงฺคสุ ปเภเทน อุปฎฺฐหเนฺตสุ นิพฺพินฺทติ อุกฺกณฺฐติ, ตสฺมา ‘‘นิพฺพิทา’’ติ วุจฺจติฯ สมุทาจรนฺตีติ นิพฺพานสจฺฉิกรณตฺถาย โจเทนฺติ ตุเทนฺติฯ วิราคูปสญฺหิโตติ วิราคสงฺขาเตน นิพฺพาเนน อุปสญฺหิโตฯ วิปสฺสนาญาณญฺหิ ‘‘สกฺกา อิมินา มเคฺคน วิราคํ นิพฺพานํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ ปวตฺติโต ‘‘วิราคูปสญฺหิต’’นฺติ วุจฺจติ, ตํสมฺปยุตฺตา สญฺญามนสิการาปิ วิราคูปสญฺหิตา เอว นามฯ ตสฺส เตสํ สญฺญามนสิการานํ วเสน โส ปฐมชฺฌานสมาธิ อริยมคฺคปฎิเวธสฺส ปทฎฺฐานตาย ‘‘นิเพฺพธภาคิโย สมาธี’’ติ วุโตฺตฯ สพฺพสมาปตฺติโยติ ทุติยชฺฌานาทิกา สพฺพา สมาปตฺติโยฯ อโตฺถ เวทิตโพฺพติ หานภาคิยาทิอโตฺถ ตาว วิตฺถาเรตฺวา เวทิตโพฺพฯ

    Avitakkasahagatāti avitakkaṃ dutiyajjhānaṃ santato paṇītato manasi karoto ārammaṇavasena avitakkasahagatā saññāmanasikārā. Samudācarantīti paguṇapaṭhamajjhānato vuṭṭhitaṃ dutiyajjhānādhigamatthāya codenti tudenti, tassa upari dutiyajjhānupakkhandānaṃ saññāmanasikārānaṃ vasena so paṭhamajjhānasamādhi visesabhūtassa dutiyajjhānassa uppattipadaṭṭhānatāya ‘‘visesabhāgiyo samādhī’’ti vutto. Nibbidāsahagatāti tameva paṭhamajjhānalābhiṃ jhānato vuṭṭhitaṃ nibbidāsaṅkhātena vipassanāñāṇena sahagatā. Vipassanāñāṇañhi jhānaṅgesu pabhedena upaṭṭhahantesu nibbindati ukkaṇṭhati, tasmā ‘‘nibbidā’’ti vuccati. Samudācarantīti nibbānasacchikaraṇatthāya codenti tudenti. Virāgūpasañhitoti virāgasaṅkhātena nibbānena upasañhito. Vipassanāñāṇañhi ‘‘sakkā iminā maggena virāgaṃ nibbānaṃ sacchikātu’’nti pavattito ‘‘virāgūpasañhita’’nti vuccati, taṃsampayuttā saññāmanasikārāpi virāgūpasañhitā eva nāma. Tassa tesaṃ saññāmanasikārānaṃ vasena so paṭhamajjhānasamādhi ariyamaggapaṭivedhassa padaṭṭhānatāya ‘‘nibbedhabhāgiyo samādhī’’ti vutto. Sabbasamāpattiyoti dutiyajjhānādikā sabbā samāpattiyo. Attho veditabboti hānabhāgiyādiattho tāva vitthāretvā veditabbo.

    มโคฺค กถิโต จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อุทฺธฎตฺตาฯ ผลํ กถิตํ สรูเปเนวฯ

    Maggo kathito catunnaṃ ariyasaccānaṃ uddhaṭattā. Phalaṃ kathitaṃ sarūpeneva.

    จตุธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Catudhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ปญฺจธมฺมวณฺณนา

    Pañcadhammavaṇṇanā

    ๓๕๕. (ข) ‘‘ปญฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธี’’ติ สมาธิองฺคภาเวน ปญฺญา อุทฺทิฎฺฐาติ ปีติผรณตาทิวจเนน หิ ตเมว วิภชติฯ เตนาห ‘‘ปีติํ ผรมานา อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิฯ‘‘โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสเนฺทตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๒๗) นเยน ปีติยา, สุขสฺส จ ผรณํ เวทิตพฺพํฯ สราควิราคตาทิวิภาคทสฺสนวเสน ปเรสํ เจโต ผรมานาฯ อาโลกผรเณติ กสิณาโลกสฺส ผรเณ สติ เตเนว อาโลเกน ผริตปฺปเทเสฯ ตสฺส สมาธิสฺส รูปทสฺสนปจฺจยตฺตา ปจฺจเวกฺขณญาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํฯ

    355. (Kha) ‘‘pañcaṅgikosammāsamādhī’’ti samādhiaṅgabhāvena paññā uddiṭṭhāti pītipharaṇatādivacanena hi tameva vibhajati. Tenāha ‘‘pītiṃ pharamānā uppajjatī’’tiādi.‘‘So imameva kāyaṃ vivekajena pītisukhena abhisandetī’’tiādinā (ma. ni. 1.427) nayena pītiyā, sukhassa ca pharaṇaṃ veditabbaṃ. Sarāgavirāgatādivibhāgadassanavasena paresaṃ ceto pharamānā. Ālokapharaṇeti kasiṇālokassa pharaṇe sati teneva ālokena pharitappadese. Tassa samādhissa rūpadassanapaccayattā paccavekkhaṇañāṇaṃ paccavekkhaṇanimittaṃ.

    ปีติผรณตา สุขผรณตาติ อารมฺมเณ ฐตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปฺปาทนโต ตา ‘‘ปาทา วิยา’’ติ วุตฺตาฯ เจโตผรณตา อาโลกผรณตาติ ตํตํกิจฺจสาธนโต ตา ‘‘หตฺถา วิยา’’ติ วุตฺตาฯ อภิญฺญาปาทกชฺฌานํ สมาธานสฺส สรีรภาวโต ‘‘มชฺฌิมกาโย วิยา’’ติ วุตฺตํฯ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ อุตฺตมงฺคภาวโต ‘‘สีสํ วิยา’’ติ วุตฺตํฯ

    Pītipharaṇatā sukhapharaṇatāti ārammaṇe ṭhatvā catutthajjhānassa uppādanato tā ‘‘pādā viyā’’ti vuttā. Cetopharaṇatā ālokapharaṇatāti taṃtaṃkiccasādhanato tā ‘‘hatthā viyā’’ti vuttā. Abhiññāpādakajjhānaṃ samādhānassa sarīrabhāvato ‘‘majjhimakāyo viyā’’ti vuttaṃ. Paccavekkhaṇanimittaṃ uttamaṅgabhāvato ‘‘sīsaṃ viyā’’ti vuttaṃ.

    (ช) สพฺพโส กิเลสทุกฺขทรถปริฬาหานํ วิคตตฺตา โลกิยสมาธิสฺส สาติสยเมตฺถ สุขนฺติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนสุโข’’ติฯ ปุริมสฺส ปุริมสฺส วเสน ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ลทฺธาเสวนตาย สนฺตตรปณีตตรภาวปฺปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘ปุริโม ปุริโม…เป.… สุขวิปาโก’’ติฯ

    (Ja) sabbaso kilesadukkhadarathapariḷāhānaṃ vigatattā lokiyasamādhissa sātisayamettha sukhanti vuttaṃ ‘‘appitappitakkhaṇe sukhattā paccuppannasukho’’ti. Purimassa purimassa vasena pacchimaṃ pacchimaṃ laddhāsevanatāya santatarapaṇītatarabhāvappatti hotīti āha ‘‘purimo purimo…pe… sukhavipāko’’ti.

    กิเลสปฎิปฺปสฺสทฺธิยาติ กิเลสานํ ปฎิปฺปสฺสมฺภเนน ลทฺธตฺตาฯ กิเลสปฎิปฺปสฺสทฺธิภาวนฺติ กิเลสานํ ปฎิปฺปสฺสมฺภนภาวํฯ ลทฺธตฺตา ปตฺตตฺตา ตพฺภาวํ อุปคตตฺตาฯ โลกิยสมาธิสฺส ปจฺจนีกานิ นีวรณปฐมชฺฌานนิกนฺติอาทีนิ นิคฺคเหตพฺพานิ, อเญฺญ กิเลสา วาเรตพฺพา, อิมสฺส ปน อรหตฺตสมาธิสฺส ปฎิปฺปสฺสทฺธสพฺพกิเลสตฺตา น นิคฺคเหตพฺพํ, วาเรตพฺพญฺจ อตฺถีติ มคฺคานนฺตรํ สมาปตฺติกฺขเณ จ อปฺปโยเคน อธิคตตฺตา, ฐปิตตฺตา จ อปริหานวเสน วา ฐปิตตฺตา นสงฺขารนิคฺคยฺหวาริวาวโฎฯ ‘‘สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตา’’ติ เอเตน อปฺปวตฺตมานายปิ สติยา สติพหุลตาย สโต เอว นามาติ ทเสฺสติ, ‘‘ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนา’’ติ เอเตน ปริจฺฉินฺทนสติยา สโตติ ทเสฺสติฯ เสเสสุ ญาณเงฺคสุฯ ปญฺจญาณิโกติ เอตฺถ วุตฺตสมาธิมุเขน ปญฺจ ญาณาเนว อุทฺทิฎฺฐานิ, นิทฺทิฎฺฐานิ จฯ

    Kilesapaṭippassaddhiyāti kilesānaṃ paṭippassambhanena laddhattā. Kilesapaṭippassaddhibhāvanti kilesānaṃ paṭippassambhanabhāvaṃ. Laddhattā pattattā tabbhāvaṃ upagatattā. Lokiyasamādhissa paccanīkāni nīvaraṇapaṭhamajjhānanikantiādīni niggahetabbāni, aññe kilesā vāretabbā, imassa pana arahattasamādhissa paṭippassaddhasabbakilesattā na niggahetabbaṃ, vāretabbañca atthīti maggānantaraṃ samāpattikkhaṇe ca appayogena adhigatattā, ṭhapitattā ca aparihānavasena vā ṭhapitattā nasaṅkhāraniggayhavārivāvaṭo. ‘‘Sativepullappattattā’’ti etena appavattamānāyapi satiyā satibahulatāya sato eva nāmāti dasseti, ‘‘yathāparicchinnakālavasenā’’ti etena paricchindanasatiyā satoti dasseti. Sesesu ñāṇaṅgesu. Pañcañāṇikoti ettha vuttasamādhimukhena pañca ñāṇāneva uddiṭṭhāni, niddiṭṭhāni ca.

    มโคฺค กถิโต อินฺทฺริยสีเสน สมฺมาวายามาทีนํ กถิตตฺตาฯ ผลํ กถิตํ อเสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ กถิตตฺตาฯ

    Maggokathito indriyasīsena sammāvāyāmādīnaṃ kathitattā. Phalaṃ kathitaṃ asekkhānaṃ sīlakkhandhādīnaṃ kathitattā.

    ปญฺจธมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Pañcadhammavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ฉธมฺมวณฺณนา

    Chadhammavaṇṇanā

    ๓๕๖. มโคฺค กถิโตติ เอตฺถ วตฺตพฺพํ เหฎฺฐา วุตฺตเมวฯ

    356.Maggo kathitoti ettha vattabbaṃ heṭṭhā vuttameva.

    สตฺตธมฺมวณฺณนา

    Sattadhammavaṇṇanā

    ๓๕๗. (ญ) เหตุนาติ อาทิอนฺตวนฺตโต, อนจฺจนฺติกโต, ตาวกาลิกโต, นิจฺจปฎิเกฺขปโตติ เอวํ อาทินา เหตุนาฯ นเยนาติ ‘‘ยถา อิเม สงฺขารา เอตรหิ, เอวํ อตีเต, อนาคเต จ อนิจฺจา สงฺขตา ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา’’ติ อตีตานาคเตสุ นยนนเยนฯ กามํ ขีณาสวสฺส สเพฺพสํ สงฺขารานํ อนิจฺจตาทิ สุทิฎฺฐา สุปฺปฎิวิทฺธา, ตํ ปน อสโมฺมหนวเสน กิจฺจโต, วิปสฺสนาย ปน อารมฺมณกรณวเสนาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘วิปสฺสนาญาเณน สุทิฎฺฐา โหนฺตี’’ติฯ กิเลสวเสน อุปฺปชฺชมาโน ปริฬาโห วตฺถุกามสนฺนิสฺสโย , วตฺถุกามาวสฺสโย จาติ วุตฺตํ ‘‘เทฺวปิ สปริฬาหเฎฺฐน องฺคารกาสุ วิยา’’ติฯ นินฺนเสฺสวาติ [นินฺนสฺส (อฎฺฐกถายํ)] นินฺนภาวเสฺสวฯ อโนฺต วุจฺจติ ลามกเฎฺฐน ตณฺหาฯ พฺยนฺตํ วิคตนฺตํ ภูตนฺติ พฺยนฺตีภูตนฺติ อาห ‘‘นิรติภูตํ, [นิยติภูตํ (อฎฺฐกถายํ) วิคตนฺติภูตํ (?)] นิตฺตณฺหนฺติ อโตฺถ’’ติฯ อิธ สตฺตเกฯ ภาเวตพฺพปเท มโคฺค กถิโต โพชฺฌงฺคานํ วุตฺตตฺตาฯ

    357. (Ña) hetunāti ādiantavantato, anaccantikato, tāvakālikato, niccapaṭikkhepatoti evaṃ ādinā hetunā. Nayenāti ‘‘yathā ime saṅkhārā etarahi, evaṃ atīte, anāgate ca aniccā saṅkhatā paṭiccasamuppannā khayadhammā vayadhammā virāgadhammā nirodhadhammā’’ti atītānāgatesu nayananayena. Kāmaṃ khīṇāsavassa sabbesaṃ saṅkhārānaṃ aniccatādi sudiṭṭhā suppaṭividdhā, taṃ pana asammohanavasena kiccato, vipassanāya pana ārammaṇakaraṇavasenāti dassento āha ‘‘vipassanāñāṇena sudiṭṭhā hontī’’ti. Kilesavasena uppajjamāno pariḷāho vatthukāmasannissayo , vatthukāmāvassayo cāti vuttaṃ ‘‘dvepi sapariḷāhaṭṭhena aṅgārakāsu viyā’’ti. Ninnassevāti [ninnassa (aṭṭhakathāyaṃ)] ninnabhāvasseva. Anto vuccati lāmakaṭṭhena taṇhā. Byantaṃ vigatantaṃ bhūtanti byantībhūtanti āha ‘‘niratibhūtaṃ, [niyatibhūtaṃ (aṭṭhakathāyaṃ) vigatantibhūtaṃ (?)] Nittaṇhanti attho’’ti. Idha sattake. Bhāvetabbapade maggo kathito bojjhaṅgānaṃ vuttattā.

    ปฐมภาณวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭhamabhāṇavāravaṇṇanā niṭṭhitā.

    อฎฺฐธมฺมวณฺณนา

    Aṭṭhadhammavaṇṇanā

    ๓๕๘. (ก) อาทิพฺรหฺมจริยิกายาติ อาทิพฺรหฺมจริยา เอว อาทิพฺรหฺมจริยิกา ยถา ‘‘วินโย เอว เวนยิโก’’ติ, ตสฺสา อาทิพฺรหฺมจริยิกายฯ กา ปน สาติ อาห ‘‘ปญฺญายา’’ติฯ สิกฺขตฺตยสงฺคหสฺสาติ อธิสีลสิกฺขาทิสิกฺขตฺตยสงฺคหสฺสฯ อุปจารชฺฌานสหคตา ตรุณสมถปญฺญาว อุทยพฺพยานุปสฺสนาวเสน ปวตฺตา ตรุณวิปสฺสนาปญฺญา [ตรุณสมถวิปสฺสนาปญฺญา (อฎฺฐกถายํ)]ฯ อาทิภูตายาติ ปฐมาวยวภูตาย, เทสนาวเสน เจตํ วุตฺตํฯ อุปฺปตฺติกาเล ปน นตฺถิ มคฺคธมฺมานํ อาทิมชฺฌปริโยสานตา เอกจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนตฺตา เอกชฺฌํเยว อุปฺปชฺชนโตฯ เปมนฺติ ทฬฺหภตฺติ, ตํ ปน วลฺลภวเสน ปวตฺตมานํ เคหสิตสทิสํ โหตีติ ‘‘เคหสิตเปม’’นฺติ วุตฺตํฯ ครุกรณวเสน ปวตฺติยา ครุ จิตฺตํ เอตสฺสาติ ครุจิโตฺต, ตสฺส ภาโว ครุจิตฺตภาโว, ครุมฺหิ ครุกาโรฯ ‘‘กิเลสา น อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘โอวาทานุสาสนิํ ลภตี’’ติฯ ครูนญฺหิ สนฺติเก โอวาทานุสาสนิํ ลภิตฺวา ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชนฺตสฺส กิเลสา น อุปฺปชฺชนฺติฯ เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิฯ

    358. (Ka) ādibrahmacariyikāyāti ādibrahmacariyā eva ādibrahmacariyikā yathā ‘‘vinayo eva venayiko’’ti, tassā ādibrahmacariyikāya. Kā pana sāti āha ‘‘paññāyā’’ti. Sikkhattayasaṅgahassāti adhisīlasikkhādisikkhattayasaṅgahassa. Upacārajjhānasahagatā taruṇasamathapaññāva udayabbayānupassanāvasena pavattā taruṇavipassanāpaññā [taruṇasamathavipassanāpaññā (aṭṭhakathāyaṃ)]. Ādibhūtāyāti paṭhamāvayavabhūtāya, desanāvasena cetaṃ vuttaṃ. Uppattikāle pana natthi maggadhammānaṃ ādimajjhapariyosānatā ekacittuppādapariyāpannattā ekajjhaṃyeva uppajjanato. Pemanti daḷhabhatti, taṃ pana vallabhavasena pavattamānaṃ gehasitasadisaṃ hotīti ‘‘gehasitapema’’nti vuttaṃ. Garukaraṇavasena pavattiyā garu cittaṃ etassāti garucitto, tassa bhāvo garucittabhāvo, garumhi garukāro. ‘‘Kilesā na uppajjantī’’ti vatvā tattha kāraṇamāha ‘‘ovādānusāsaniṃ labhatī’’ti. Garūnañhi santike ovādānusāsaniṃ labhitvā yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjantassa kilesā na uppajjanti. Tenāha ‘‘tasmā’’tiādi.

    (ฉ) เปตาติ เปตมหิทฺธิกาฯ อสุรานนฺติ เทวาสุรานํฯ เปตาสุรา ปน เปตา เอวาติ เตสํ เปเตหิ สงฺคโห อวุตฺตสิโทฺธวฯ อาวาหนํ คจฺฉนฺตีติ สโมฺภคสํสคฺคมุเขน เปเตเหว อสุรานํ สงฺคหเณ การณํ ทเสฺสติฯ

    (Cha) petāti petamahiddhikā. Asurānanti devāsurānaṃ. Petāsurā pana petā evāti tesaṃ petehi saṅgaho avuttasiddhova. Āvāhanaṃ gacchantīti sambhogasaṃsaggamukhena peteheva asurānaṃ saṅgahaṇe kāraṇaṃ dasseti.

    (ช) อปฺปิจฺฉสฺสาติ นิอิจฺฉสฺสฯ อภาวโตฺถ เหตฺถ อปฺป-สโทฺท ‘‘อปฺปฑํสมกสวาตาตปา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) วิยฯ ปจฺจเยสุ อปฺปิโจฺฉ ปจฺจยอปฺปิโจฺฉ, จีวราทิปจฺจเยสุ อิจฺฉารหิโตฯ อธิคมอปฺปิโจฺฉติ ฌานาทิอธิคมวิภาวเน อิจฺฉารหิโตฯ ปริยตฺติอปฺปิโจฺฉติ ปริยตฺติยํ พาหุสจฺจวิภาวเน อิจฺฉารหิโตฯ ธุตงฺคอปฺปิโจฺฉติ ธุตเงฺคสุ อปฺปิโจฺฉ ธุตงฺควิภาเวน อิจฺฉารหิโตฯ สนฺตคุณนิคูหเนนาติ อตฺตนิ สํวิชฺชมานานํ ฌานาทิคุณานเญฺจว พาหุสจฺจคุณสฺส จ ธุตงฺคคุณสฺส จ นิคูหเนน ฉาทเนนฯ สมฺปชฺชตีติ นิปฺปชฺชติ สิชฺฌติฯ โน มหิจฺฉสฺสาติ มหติยา อิจฺฉาย สมนฺนาคตสฺส, อิจฺฉํ วา มหนฺตสฺส โน สมฺปชฺชติ อนุธมฺมสฺสาปิ อนิจฺฉนโตฯ

    (Ja) appicchassāti niicchassa. Abhāvattho hettha appa-saddo ‘‘appaḍaṃsamakasavātātapā’’tiādīsu (a. ni. 10.11) viya. Paccayesu appiccho paccayaappiccho, cīvarādipaccayesu icchārahito. Adhigamaappicchoti jhānādiadhigamavibhāvane icchārahito. Pariyattiappicchoti pariyattiyaṃ bāhusaccavibhāvane icchārahito. Dhutaṅgaappicchoti dhutaṅgesu appiccho dhutaṅgavibhāvena icchārahito. Santaguṇanigūhanenāti attani saṃvijjamānānaṃ jhānādiguṇānañceva bāhusaccaguṇassa ca dhutaṅgaguṇassa ca nigūhanena chādanena. Sampajjatīti nippajjati sijjhati. No mahicchassāti mahatiyā icchāya samannāgatassa, icchaṃ vā mahantassa no sampajjati anudhammassāpi anicchanato.

    ปวิวิตฺตสฺสาติ ปกาเรหิ วิวิตฺตสฺสฯ เตนาห ‘‘กายจิตฺตอุปธิวิเวเกหิ วิวิตฺตสฺสา’’ติฯ ‘‘อฎฺฐอารมฺภวตฺถุวเสนา’’ติ เอเตน ภาวนาภิโยควเสน เอกีภาโวว อิธ ‘‘กายวิเวโก’’ติ อธิเปฺปโต, น คณสงฺคณิกาภาวมตฺตนฺติ ทเสฺสติฯ กมฺมนฺติ โยคกมฺมํฯ

    Pavivittassāti pakārehi vivittassa. Tenāha ‘‘kāyacittaupadhivivekehi vivittassā’’ti. ‘‘Aṭṭhaārambhavatthuvasenā’’ti etena bhāvanābhiyogavasena ekībhāvova idha ‘‘kāyaviveko’’ti adhippeto, na gaṇasaṅgaṇikābhāvamattanti dasseti. Kammanti yogakammaṃ.

    สเตฺตหิ กิเลเสหิ จ สงฺคณนํ สโมธานํ สงฺคณิกา, สา อารมิตพฺพเฎฺฐน อาราโม เอตสฺสาติ สงฺคณิการาโม, ตสฺสฯ เตนาห ‘‘คณสงฺคณิกาย เจวา’’ติอาทิฯ อารทฺธวีริยสฺสาติ ปคฺคหิตวีริยสฺส, ตญฺจ โข อุปธิวิเวเก นินฺนตาวเสน ‘‘อยํ ธโมฺม’’ติ วจนโตฯ เอส นโย อิโต ปเรสุปิฯ วิวฎฺฎสนฺนิสฺสิตํเยว หิ สมาธานํ อิธาธิเปฺปตํ, ตถา ปญฺญาปิฯ กมฺมสฺสกตาปญฺญาย หิ ปติฎฺฐโต กมฺมวเสน ‘‘ภเวสุ นานปฺปกาโร อนโตฺถ’’ติ ชานโนฺต กมฺมกฺขยกรญาณํ อภิปเตฺถติ, ตทตฺถญฺจ อุสฺสาหํ กโรติฯ มานาทโย สตฺตสนฺตานํ สํสาเร ปปเญฺจนฺติ วิตฺถาเรนฺตีติ ปปญฺจาติ อาห ‘‘นิปฺปปญฺจสฺสาติ วิคตมานตณฺหาทิฎฺฐิปปญฺจสฺสา’’ติฯ

    Sattehi kilesehi ca saṅgaṇanaṃ samodhānaṃ saṅgaṇikā, sā āramitabbaṭṭhena ārāmo etassāti saṅgaṇikārāmo, tassa. Tenāha ‘‘gaṇasaṅgaṇikāya cevā’’tiādi. Āraddhavīriyassāti paggahitavīriyassa, tañca kho upadhiviveke ninnatāvasena ‘‘ayaṃ dhammo’’ti vacanato. Esa nayo ito paresupi. Vivaṭṭasannissitaṃyeva hi samādhānaṃ idhādhippetaṃ, tathā paññāpi. Kammassakatāpaññāya hi patiṭṭhato kammavasena ‘‘bhavesu nānappakāro anattho’’ti jānanto kammakkhayakarañāṇaṃ abhipattheti, tadatthañca ussāhaṃ karoti. Mānādayo sattasantānaṃ saṃsāre papañcenti vitthārentīti papañcāti āha ‘‘nippapañcassāti vigatamānataṇhādiṭṭhipapañcassā’’ti.

    มโคฺค กถิโต สรูเปเนวฯ

    Maggo kathito sarūpeneva.

    นวธมฺมวณฺณนา

    Navadhammavaṇṇanā

    ๓๕๙. (ข) วิสุทฺธินฺติ ญาณทสฺสนวิสุทฺธิํ, อจฺจนฺตวิสุทฺธิเมว วาฯ จตุปาริสุทฺธิสีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวราทินิรุปกฺกิลิฎฺฐตาย จตุพฺพิธปริสุทฺธิวนฺตํ สีลํฯ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ ปุคฺคลสฺส ปริสุทฺธิยา ปธานภูตํ องฺคํฯ เตนาห ‘‘ปริสุทฺธภาวสฺส ปธานงฺค’’นฺติฯ สมถสฺส วิสุทฺธิภาโว โวทานํ ปคุณภาเวน ปริจฺฉินฺนนฺติ อาห ‘‘อฎฺฐ ปคุณสมาปตฺติโย’’ติฯ วิคตุปกฺกิเลสญฺหิ ‘‘ปคุณ’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลพฺภติ, น สอุปกฺกิเลสํ หานภาคิยาทิภาวปฺปตฺติโตฯ สตฺตทิฎฺฐิมลวิสุทฺธิโต นามรูปปริเจฺฉโท ทิฎฺฐิวิสุทฺธิฯ ปจฺจยปริคฺคโห อทฺธตฺตยกงฺขามลวิธมนโต กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิฯ ยสฺมา นามรูปํ นาม สปฺปจฺจยเมว, ตสฺมา ตํ ปริคฺคณฺหเนฺตน อตฺถโต ตสฺส สปฺปจฺจยตาปิ ปริคฺคหิตา เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ทิฎฺฐิวิสุทฺธีติ สปฺปจฺจยํ นามรูปทสฺสน’’นฺติฯ ยสฺมา ปน นามรูปสฺส ปจฺจยํ ปริคฺคณฺหเนฺตน ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขามลวิตรณปจฺจยาการาวโพธวเสเนว โหติ, ตสฺมา ‘‘ปจฺจยาการญาณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ ยถา กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ ‘‘ธมฺมฎฺฐิติญาณ’’นฺติ วุจฺจติฯ มคฺคามเคฺค ญาณนฺติ มคฺคามเคฺค ววตฺถเปตฺวา ฐิตญาณํฯ ญาณนฺติ อิธ ตรุณวิปสฺสนา กถิตา เตสํ ภิกฺขูนํ อชฺฌาสยวเสน ‘‘ญาณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ วุฎฺฐานคามินิยา วิปสฺสนาย วุจฺจมานตฺตาฯ ยทิ ‘‘ญาณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ วุฎฺฐานคามินิวิปสฺสนา อธิเปฺปตา, ‘‘ปญฺญา’’ติ จ อรหตฺตผลปญฺญา, มโคฺค ปน กถนฺติ ? มโคฺค พหุการปเท วิราคคฺคหเณน คหิโตฯ วกฺขติ หิ ‘‘อิธ พหุการปเท มโคฺค กถิโต’’ติ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๓.๓๕๙)ฯ

    359. (Kha) visuddhinti ñāṇadassanavisuddhiṃ, accantavisuddhimeva vā. Catupārisuddhisīlanti pātimokkhasaṃvarādinirupakkiliṭṭhatāya catubbidhaparisuddhivantaṃ sīlaṃ. Pārisuddhipadhāniyaṅganti puggalassa parisuddhiyā padhānabhūtaṃ aṅgaṃ. Tenāha ‘‘parisuddhabhāvassa padhānaṅga’’nti. Samathassa visuddhibhāvo vodānaṃ paguṇabhāvena paricchinnanti āha ‘‘aṭṭha paguṇasamāpattiyo’’ti. Vigatupakkilesañhi ‘‘paguṇa’’nti vattabbataṃ labbhati, na saupakkilesaṃ hānabhāgiyādibhāvappattito. Sattadiṭṭhimalavisuddhito nāmarūpaparicchedo diṭṭhivisuddhi. Paccayapariggaho addhattayakaṅkhāmalavidhamanato kaṅkhāvitaraṇavisuddhi. Yasmā nāmarūpaṃ nāma sappaccayameva, tasmā taṃ pariggaṇhantena atthato tassa sappaccayatāpi pariggahitā eva hotīti vuttaṃ ‘‘diṭṭhivisuddhīti sappaccayaṃ nāmarūpadassana’’nti. Yasmā pana nāmarūpassa paccayaṃ pariggaṇhantena tīsu addhāsu kaṅkhāmalavitaraṇapaccayākārāvabodhavaseneva hoti, tasmā ‘‘paccayākārañāṇa’’ntiādi vuttaṃ yathā kaṅkhāvitaraṇavisuddhi ‘‘dhammaṭṭhitiñāṇa’’nti vuccati. Maggāmagge ñāṇanti maggāmagge vavatthapetvā ṭhitañāṇaṃ. Ñāṇanti idha taruṇavipassanā kathitā tesaṃ bhikkhūnaṃ ajjhāsayavasena ‘‘ñāṇadassanavisuddhī’’ti vuṭṭhānagāminiyā vipassanāya vuccamānattā. Yadi ‘‘ñāṇadassanavisuddhī’’ti vuṭṭhānagāminivipassanā adhippetā, ‘‘paññā’’ti ca arahattaphalapaññā, maggo pana kathanti ? Maggo bahukārapade virāgaggahaṇena gahito. Vakkhati hi ‘‘idha bahukārapade maggo kathito’’ti (dī. ni. aṭṭha. 3.359).

    (ฉ) จกฺขาทิธาตุนานตฺตนฺติ จกฺขาทิรูปาทิจกฺขุวิญฺญาณาทิธาตูนํ เวมตฺตตํ นิสฺสายฯ จกฺขุสมฺผสฺสาทินานตฺตนฺติ จกฺขุสมฺผสฺสโสตสมฺผสฺสฆานสมฺผสฺสาทิสมฺผสฺสวิภาคํฯ สญฺญานานตฺตนฺติ เอตฺถ รูปสญฺญาทิสญฺญานานตฺตมฺปิ ลพฺภเตว, ตํ ปน กามสญฺญาทิคฺคหเณเนว คยฺหติฯ กามสญฺญาทีติ อาทิ-สเทฺทน พฺยาปาทสญฺญาทีนํ คหณํฯ สญฺญานิทานตฺตา ปปญฺจสงฺขานํ ‘‘สญฺญานานตฺตํ ปฎิจฺจ สงฺกปฺปนานตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, ‘‘ยํ สงฺกเปฺปติ, ตํ ปปเญฺจตี’’ติ วจนโต ‘‘สงฺกปฺปนานตฺตํ ปฎิจฺจ ฉนฺทนานตฺต’’นฺติ วุตฺตํฯ ฉนฺทนานตฺตนฺติ จ ตณฺหาฉนฺทสฺส นานตฺตํฯ รูปปริฬาโหติ รูปวิสโย รูปาภิปตฺถนาวเสน ปวโตฺต กิเลสปริฬาโหฯ สทฺทปริฬาโหติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ กิเลโส หิ อุปฺปชฺชมาโน อปฺปเตฺตปิ อารมฺมเณ ปโตฺต วิย ปริฬาโหว อุปฺปชฺชติฯ ตถาภูตสฺส ปน กิเลสฉนฺทสฺส วเสน รูปาทิปริเยสนา โหตีติ อาห ‘‘ปริฬาหนานตฺตตาย รูปปริเยสนาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติฯ ตถา ปริเยสนฺตสฺส สเจ ตํ รูปาทิ ลเพฺภยฺย, ตํ สนฺธายาห ‘‘ปริเยสนาทินานตฺตตาย รูปปฎิลาภาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติฯ

    (Cha) cakkhādidhātunānattanti cakkhādirūpādicakkhuviññāṇādidhātūnaṃ vemattataṃ nissāya. Cakkhusamphassādinānattanti cakkhusamphassasotasamphassaghānasamphassādisamphassavibhāgaṃ. Saññānānattanti ettha rūpasaññādisaññānānattampi labbhateva, taṃ pana kāmasaññādiggahaṇeneva gayhati. Kāmasaññādīti ādi-saddena byāpādasaññādīnaṃ gahaṇaṃ. Saññānidānattā papañcasaṅkhānaṃ ‘‘saññānānattaṃ paṭicca saṅkappanānatta’’nti vuttaṃ, ‘‘yaṃ saṅkappeti, taṃ papañcetī’’ti vacanato ‘‘saṅkappanānattaṃ paṭicca chandanānatta’’nti vuttaṃ. Chandanānattanti ca taṇhāchandassa nānattaṃ. Rūpapariḷāhoti rūpavisayo rūpābhipatthanāvasena pavatto kilesapariḷāho. Saddapariḷāhoti etthāpi eseva nayo. Kileso hi uppajjamāno appattepi ārammaṇe patto viya pariḷāhova uppajjati. Tathābhūtassa pana kilesachandassa vasena rūpādipariyesanā hotīti āha ‘‘pariḷāhanānattatāya rūpapariyesanādinānattaṃ uppajjatī’’ti. Tathā pariyesantassa sace taṃ rūpādi labbheyya, taṃ sandhāyāha ‘‘pariyesanādinānattatāya rūpapaṭilābhādinānattaṃ uppajjatī’’ti.

    (ช) มรณานุปสฺสนาญาเณติ มรณสฺส อนุปสฺสนาวเสน ปวตฺตญาเณ, มรณานุสฺสติสหคตปญฺญายาติ อโตฺถฯ อาหารํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺสาติ คมนาทิวเสน อาหารํ ปฎิกฺกูลโต ปริคฺคณฺหนฺตสฺสฯ อุกฺกณฺฐนฺตสฺสาติ นิพฺพินฺทนฺตสฺส กตฺถจิปิ อสชฺชนฺตสฺสฯ

    (Ja) maraṇānupassanāñāṇeti maraṇassa anupassanāvasena pavattañāṇe, maraṇānussatisahagatapaññāyāti attho. Āhāraṃ pariggaṇhantassāti gamanādivasena āhāraṃ paṭikkūlato pariggaṇhantassa. Ukkaṇṭhantassāti nibbindantassa katthacipi asajjantassa.

    ทสธมฺมวณฺณนา

    Dasadhammavaṇṇanā

    ๓๖๐. (ฌ) นิชฺชรการณานีติ ปชหนการณานิฯ อิมสฺมิํ อภิญฺญาปเท มโคฺค กถียตีติ กตฺวา ‘‘อยํ เหฎฺฐา..เป.… ปุน คหิตา’’ติ วุตฺตํฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อิธ อภิญฺญาปเท มโคฺค กถิโต’’ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๓.๓๖๐) กิญฺจาปิ นิชฺชิณฺณา มิจฺฉาทิฎฺฐีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํฯ ยถา มิจฺฉาทิฎฺฐิ วิปสฺสนาย นิชฺชิณฺณาปิ น สมุจฺฉินฺนาติ สมุเจฺฉทปฺปหานทสฺสนตฺถํ ปุน คหิตา, เอวํ มิจฺฉาสงฺกปฺปาทโยปิ วิปสฺสนาย ปหีนาปิ อสมุจฺฉินฺนตาย อิธ ปุน คหิตาติ อยมโตฺถ ‘‘มิจฺฉาสงฺกโปฺป’’ติอาทีสุ สพฺพปเทสุ วตฺตโพฺพติ ทเสฺสติ ‘‘เอวํ สพฺพปเทสุ นโย เนตโพฺพ’’ติ อิมินาฯ

    360. (Jha) nijjarakāraṇānīti pajahanakāraṇāni. Imasmiṃ abhiññāpade maggo kathīyatīti katvā ‘‘ayaṃ heṭṭhā..pe… puna gahitā’’ti vuttaṃ. Tathā hi vakkhati ‘‘idha abhiññāpade maggo kathito’’ (dī. ni. aṭṭha. 3.360) kiñcāpi nijjiṇṇā micchādiṭṭhīti ānetvā sambandhitabbaṃ. Yathā micchādiṭṭhi vipassanāya nijjiṇṇāpi na samucchinnāti samucchedappahānadassanatthaṃ puna gahitā, evaṃ micchāsaṅkappādayopi vipassanāya pahīnāpi asamucchinnatāya idha puna gahitāti ayamattho ‘‘micchāsaṅkappo’’tiādīsu sabbapadesu vattabboti dasseti ‘‘evaṃ sabbapadesu nayo netabbo’’ti iminā.

    เอตฺถ จาติ ‘‘สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺตี’’ติ เอตสฺมิํ ปาฬิปเทฯ เอตฺถ จ สมุเจฺฉทวเสน, ปฎิปฺปสฺสทฺธิวเสน จ ปฎิปกฺขธมฺมา สมฺมเทว วิมุจฺจนํ สมฺมาวิมุตฺติ, ตปฺปจฺจยา จ มคฺคผเลสุ อฎฺฐ อินฺทฺริยานิ ภาวนาปาริปูริํ อุปคจฺฉนฺตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตานิปิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ อุทฺธฎานิฯ มคฺควเสน หิ ผเลสุ ภาวนา ปาริปูรี นามาติฯ อภินนฺทนเฎฺฐนาติ อติวิย สิเนหนเฎฺฐนิทญฺหิฯ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อุกฺกํสคตสาตสภาวํ สมฺปยุตฺตธเมฺม สิเนหนฺตํ เตเมนฺตํ วิย ปวตฺตติฯ ปวตฺตสนฺตติอาธิปเตยฺยเฎฺฐนาติ วิปากสนฺตานสฺส ชีวเน อธิปติภาเวนฯ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตเสฺสว อตฺถสฺส นิคมนํฯ

    Etthati ‘‘sammāvimuttipaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchantī’’ti etasmiṃ pāḷipade. Ettha ca samucchedavasena, paṭippassaddhivasena ca paṭipakkhadhammā sammadeva vimuccanaṃ sammāvimutti, tappaccayā ca maggaphalesu aṭṭha indriyāni bhāvanāpāripūriṃ upagacchantīti maggasampayuttānipi saddhādīni indriyāni uddhaṭāni. Maggavasena hi phalesu bhāvanā pāripūrī nāmāti. Abhinandanaṭṭhenāti ativiya sinehanaṭṭhenidañhi. Somanassindriyaṃ ukkaṃsagatasātasabhāvaṃ sampayuttadhamme sinehantaṃ tementaṃ viya pavattati. Pavattasantatiādhipateyyaṭṭhenāti vipākasantānassa jīvane adhipatibhāvena. ‘‘Eva’’ntiādi vuttasseva atthassa nigamanaṃ.

    อเทฺธน สห ฉฎฺฐานิ ปญฺหสตานิ, ปญฺญาสาธิกานิ สห ปญฺหสตานีติ อโตฺถฯ

    Addhena saha chaṭṭhāni pañhasatāni, paññāsādhikāni saha pañhasatānīti attho.

    เอตฺถ จ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ ‘‘ทสสุ นาถกรณธเมฺมสุ ปติฎฺฐาย ทสกสิณายตนานิ ภาเวโนฺต ทสอายตนมุเขน ปริญฺญํ ปฎฺฐเปตฺวา ปริเญฺญยฺยธเมฺม ปริชานโนฺต ทสมิจฺฉเตฺต, ทสอกุสลกมฺมปเถ จ ปหาย ทสกุสลกมฺมปเถสุ จ อวฎฺฐิโต ทสสุ อริยาวาเสสุ อาวสิตุกาโม ทสสญฺญา อุปฺปาเทโนฺต ทสนิชฺชรวตฺถูนิ อภิญฺญาย ทสอเสกฺขธเมฺม อธิคจฺฉตี’’ติ เตสํ ภิกฺขูนํ โอวาทํ มตฺถกํ ปาเปโนฺต เทสนํ นิฎฺฐเปสิฯ ปโมทวเสน ปฎิคฺคณฺหนํ อภินนฺทนนฺติ อาห ‘‘สาธุ สาธูติ อภินนฺทนฺตา สิรสา สมฺปฎิจฺฉิํสู’’ติฯ ตาย อตฺตมนตายาติ ตาย ยถาเทสิตเทสนาคตาย ปหฎฺฐจิตฺตตาย, ตตฺถ ยถาลทฺธอตฺถเวทธมฺมเวเทหีติ อโตฺถฯ อิมเมว สุตฺตํ อาวชฺชมานาติ อิมสฺมิํ สุเตฺต ตตฺถ ตตฺถ อาคเต อภิเญฺญยฺยาทิเภเท ธเมฺม อภิชานนาทิวเสน สมนฺนาหรนฺตาฯ สห ปฎิสมฺภิทาหิ…เป.… ปติฎฺฐหิํสูติ อตฺตโน อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย, เถรสฺส จ เทสนานุภาเวน ยถารทฺธํ วิปสฺสนํ อุสฺสุเกฺกตฺวา ปฎิสมฺภิทาปริวาราย อภิญฺญาย สณฺฐหิํสูติฯ

    Ettha ca āyasmā dhammasenāpati ‘‘dasasu nāthakaraṇadhammesu patiṭṭhāya dasakasiṇāyatanāni bhāvento dasaāyatanamukhena pariññaṃ paṭṭhapetvā pariññeyyadhamme parijānanto dasamicchatte, dasaakusalakammapathe ca pahāya dasakusalakammapathesu ca avaṭṭhito dasasu ariyāvāsesu āvasitukāmo dasasaññā uppādento dasanijjaravatthūni abhiññāya dasaasekkhadhamme adhigacchatī’’ti tesaṃ bhikkhūnaṃ ovādaṃ matthakaṃ pāpento desanaṃ niṭṭhapesi. Pamodavasena paṭiggaṇhanaṃ abhinandananti āha ‘‘sādhu sādhūti abhinandantā sirasā sampaṭicchiṃsū’’ti. Tāya attamanatāyāti tāya yathādesitadesanāgatāya pahaṭṭhacittatāya, tattha yathāladdhaatthavedadhammavedehīti attho. Imameva suttaṃ āvajjamānāti imasmiṃ sutte tattha tattha āgate abhiññeyyādibhede dhamme abhijānanādivasena samannāharantā. Saha paṭisambhidāhi…pe… patiṭṭhahiṃsūti attano upanissayasampannatāya, therassa ca desanānubhāvena yathāraddhaṃ vipassanaṃ ussukketvā paṭisambhidāparivārāya abhiññāya saṇṭhahiṃsūti.

    สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฎฺฐกถาย

    Sumaṅgalavilāsiniyā dīghanikāyaṭṭhakathāya

    ทสุตฺตรสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนาฯ

    Dasuttarasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā.

    นิฎฺฐิตา จ ปาถิกวคฺคฎฺฐกถาย ลีนตฺถปฺปกาสนาฯ

    Niṭṭhitā ca pāthikavaggaṭṭhakathāya līnatthappakāsanā.

    ปาถิกวคฺคฎีกา นิฎฺฐิตาฯ

    Pāthikavaggaṭīkā niṭṭhitā.

    นิคมนกถาวณฺณนา

    Nigamanakathāvaṇṇanā

    เถรานํ มหากสฺสปาทีนํ วํโส ปเวณี อนฺวโย เอตสฺสาติ เถรวํสนฺวโย, เตน; จตุมหานิกาเยสุ เถริเยนาติ อโตฺถฯ

    Therānaṃ mahākassapādīnaṃ vaṃso paveṇī anvayo etassāti theravaṃsanvayo, tena; catumahānikāyesu theriyenāti attho.

    ทสพลสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส คุณคณานํ ปริทีปนโต ทสพลคุณคณปริทีปนสฺสฯ อยญฺหิ อาคโม พฺรหฺมชาลาทีสุ, มหาปทานาทีสุ, สมฺปสาทนียาทีสุ จ ตตฺถ ตตฺถ วิเสสโต พุทฺธคุณานํ ปกาสนวเสน ปวโตฺตติฯ ตถา หิ วุตฺตํ อาทิโต ‘‘สทฺธาวหคุณสฺสา’’ติ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๑.คนฺถารมฺภกถา)ฯ

    Dasabalassa sammāsambuddhassa guṇagaṇānaṃ paridīpanato dasabalaguṇagaṇaparidīpanassa. Ayañhi āgamo brahmajālādīsu, mahāpadānādīsu, sampasādanīyādīsu ca tattha tattha visesato buddhaguṇānaṃ pakāsanavasena pavattoti. Tathā hi vuttaṃ ādito ‘‘saddhāvahaguṇassā’’ti (dī. ni. aṭṭha. 1.ganthārambhakathā).

    มหาฎฺฐกถาย สารนฺติ ทีฆนิกายมหาอฎฺฐกถายํ อตฺถสารํฯ

    Mahāṭṭhakathāya sāranti dīghanikāyamahāaṭṭhakathāyaṃ atthasāraṃ.

    เอกูนสฎฺฐิมโตฺตติ โถกํ อูนภาวโต มตฺต-สทฺทคฺคหณํฯ

    Ekūnasaṭṭhimattoti thokaṃ ūnabhāvato matta-saddaggahaṇaṃ.

    มูลกฎฺฐกถาสารนฺติ ปุเพฺพ วุตฺตํ ทีฆนิกายมหาอฎฺฐกถาสารเมว ปุน นิคมนวเสน วทติฯ อถ วา มูลกฎฺฐกถาสารนฺติ โปราณฎฺฐกถาสุ อตฺถสารํ, เตเนตํ ทเสฺสติ ‘‘ทีฆนิกายมหาอฎฺฐกถายํ อตฺถสารํ อาทาย อิมํ สุมงฺคลวิลาสินิํ กโรโนฺต เสสมหานิกายานมฺปิ มูลกฎฺฐกถาสุ อิธ วินิโยคกฺขมํ อตฺถสารํ อาทายเยว อกาสิ’’นฺติฯ

    Mūlakaṭṭhakathāsāranti pubbe vuttaṃ dīghanikāyamahāaṭṭhakathāsārameva puna nigamanavasena vadati. Atha vā mūlakaṭṭhakathāsāranti porāṇaṭṭhakathāsu atthasāraṃ, tenetaṃ dasseti ‘‘dīghanikāyamahāaṭṭhakathāyaṃ atthasāraṃ ādāya imaṃ sumaṅgalavilāsiniṃ karonto sesamahānikāyānampi mūlakaṭṭhakathāsu idha viniyogakkhamaṃ atthasāraṃ ādāyayeva akāsi’’nti.

    ‘‘มหาวิหารวาสีน’’นฺติ [มหาวิหาเร นิวาสินํ (อฎฺฐกถายํ)] จ อิทํ ปุริมปจฺฉิมปเทหิ สทฺธิํ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘มหาวิหารวาสีนํ สมยํ ปกาสยนฺติํ, มหาวิหารวาสีนํ มูลกฎฺฐกถาสารํ อาทายา’’ติ จฯ เตน ปุเญฺญนฯ โหตุ สโพฺพ สุขี โลโกติ กามาวจราทิวิภาโค สโพฺพปิ สตฺตโลโก ยถารหํ โพธิตฺตยาธิคมนวเสน สมฺปเตฺตน นิพฺพานสุเขน สุขิโต โหตูติ สเทวกสฺส โลกสฺส อจฺจนฺตสุขาธิคมาย อตฺตโน ปุญฺญํ ปริณาเมติฯ

    ‘‘Mahāvihāravāsīna’’nti [mahāvihāre nivāsinaṃ (aṭṭhakathāyaṃ)] ca idaṃ purimapacchimapadehi saddhiṃ sambandhitabbaṃ ‘‘mahāvihāravāsīnaṃ samayaṃ pakāsayantiṃ, mahāvihāravāsīnaṃ mūlakaṭṭhakathāsāraṃ ādāyā’’ti ca. Tena puññena. Hotu sabbo sukhī lokoti kāmāvacarādivibhāgo sabbopi sattaloko yathārahaṃ bodhittayādhigamanavasena sampattena nibbānasukhena sukhito hotūti sadevakassa lokassa accantasukhādhigamāya attano puññaṃ pariṇāmeti.

    ปริมาณโต สาธิกฎฺฐวีสสหสฺสนวุติภาณวารา นิฎฺฐิตาติฯ ปริมาณโต สาธิกฎฺฐวีสสหสฺสมตฺตคเนฺถน ทีฆนิกายฎีกา รจิตาจริยธมฺมปาเลนฯ

    Parimāṇato sādhikaṭṭhavīsasahassanavutibhāṇavārā niṭṭhitāti. Parimāṇato sādhikaṭṭhavīsasahassamattaganthena dīghanikāyaṭīkā racitācariyadhammapālena.

    มิจฺฉาทิฎฺฐาทิโจเรหิ , สีลาทิธนสญฺจยํ;

    Micchādiṭṭhādicorehi , sīlādidhanasañcayaṃ;

    รกฺขณตฺถาย สกฺกจฺจํ, มญฺชูสํ วิย การิตนฺติฯ (เอตฺถนฺตเร ปาโฐ ปจฺฉา ลิขิโต)

    Rakkhaṇatthāya sakkaccaṃ, mañjūsaṃ viya kāritanti. (etthantare pāṭho pacchā likhito)

    นิฎฺฐิตา สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฎฺฐกถาย ลีนตฺถปฺปกาสนาฯ

    Niṭṭhitā sumaṅgalavilāsiniyā dīghanikāyaṭṭhakathāya līnatthappakāsanā.

    ทีฆนิกายฎีกา นิฎฺฐิตาฯ

    Dīghanikāyaṭīkā niṭṭhitā.




    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ทีฆนิกาย • Dīghanikāya / ๑๑. ทสุตฺตรสุตฺตํ • 11. Dasuttarasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ทีฆ นิกาย (อฎฺฐกถา) • Dīgha nikāya (aṭṭhakathā) / ๑๑. ทสุตฺตรสุตฺตวณฺณนา • 11. Dasuttarasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact