Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā

    (๒) เทสนาคามินิยาทิวณฺณนา

    (2) Desanāgāminiyādivaṇṇanā

    ๔๗๕. ปญฺจ เทสนาคามินิโยติ ลหุกา ปญฺจฯ ฉ สปฺปฎิกมฺมาติ ปาราชิกํ ฐเปตฺวา อวเสสาฯ เอเกตฺถ อปฺปฎิกมฺมาติ เอกา ปาราชิกาปตฺติฯ

    475.Pañca desanāgāminiyoti lahukā pañca. Cha sappaṭikammāti pārājikaṃ ṭhapetvā avasesā. Ekettha appaṭikammāti ekā pārājikāpatti.

    วินยครุกา เทฺว วุตฺตาติ ปาราชิกเญฺจว สงฺฆาทิเสสญฺจฯ กายวาจสิกานิ จาติ สพฺพาเนว สิกฺขาปทานิ กายวาจสิกานิ, มโนทฺวาเร ปญฺญตฺตํ เอกสิกฺขาปทมฺปิ นตฺถิฯ เอโก วิกาเล ธญฺญรโสติ โลณโสวีรกํฯ อยเมว หิ เอโก ธญฺญรโส วิกาเล วฎฺฎติฯ เอกา ญตฺติจตุเตฺถน สมฺมุตีติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติฯ อยเมว หิ เอกา ญตฺติจตุตฺถกเมฺมน สมฺมุติ อนุญฺญาตาฯ

    Vinayagarukādve vuttāti pārājikañceva saṅghādisesañca. Kāyavācasikāni cāti sabbāneva sikkhāpadāni kāyavācasikāni, manodvāre paññattaṃ ekasikkhāpadampi natthi. Eko vikāle dhaññarasoti loṇasovīrakaṃ. Ayameva hi eko dhaññaraso vikāle vaṭṭati. Ekā ñatticatutthena sammutīti bhikkhunovādakasammuti. Ayameva hi ekā ñatticatutthakammena sammuti anuññātā.

    ปาราชิกา กายิกา เทฺวติ ภิกฺขูนํ เมถุนปาราชิกํ ภิกฺขุนีนญฺจ กายสํสคฺคปาราชิกํฯ เทฺว สํวาสภูมิโยติ อตฺตนา วา อตฺตานํ สมานสํวาสกํ กโรติ, สมโคฺค วา สโงฺฆ อุกฺขิตฺตํ โอสาเรติฯ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สมานสํวาสกภูมิ จ นานาสํวาสกภูมิ จา’’ติ เอวํ เทฺว สํวาสภูมิโย วุตฺตาฯ ทฺวินฺนํ รตฺติเจฺฉโทติ ปาริวาสิกสฺส จ มานตฺตจาริกสฺส จ ปญฺญตฺตาฯ ทฺวงฺคุลา ทุเวติ เทฺว ทฺวงฺคุลปญฺญตฺติโย, ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพ’’นฺติ อยเมกา, ‘‘ทฺวงฺคุลํ วา เทฺวมาสํ วา’’ติ อยเมกาฯ

    Pārājikā kāyikā dveti bhikkhūnaṃ methunapārājikaṃ bhikkhunīnañca kāyasaṃsaggapārājikaṃ. Dve saṃvāsabhūmiyoti attanā vā attānaṃ samānasaṃvāsakaṃ karoti, samaggo vā saṅgho ukkhittaṃ osāreti. Kurundiyaṃ pana ‘‘samānasaṃvāsakabhūmi ca nānāsaṃvāsakabhūmi cā’’ti evaṃ dve saṃvāsabhūmiyo vuttā. Dvinnaṃ ratticchedoti pārivāsikassa ca mānattacārikassa ca paññattā. Dvaṅgulā duveti dve dvaṅgulapaññattiyo, ‘‘dvaṅgulapabbaparamaṃ ādātabba’’nti ayamekā, ‘‘dvaṅgulaṃ vā dvemāsaṃ vā’’ti ayamekā.

    เทฺว อตฺตานํ วธิตฺวานาติ ภิกฺขุนี อตฺตานํ วธิตฺวา เทฺว อาปตฺติโย อาปชฺชติ; วธติ โรทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส; วธติ น โรทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ทฺวีหิ สโงฺฆ ภิชฺชตีติ กเมฺมน จ สลากคฺคาเหน จฯ เทฺวตฺถ ปฐมาปตฺติกาติ เอตฺถ สกเลปิ วินเย เทฺว ปฐมาปตฺติกา อุภินฺนํ ปญฺญตฺติวเสนฯ อิตรถา ปน นว ภิกฺขูนํ นว ภิกฺขุนีนนฺติ อฎฺฐารส โหนฺติฯ ญตฺติยา กรณา ทุเวติ เทฺว ญตฺติกิจฺจานิ – กมฺมญฺจ กมฺมปาทกา จฯ นวสุ ฐาเนสุ กมฺมํ โหติ, ทฺวีสุ กมฺมปาทภาเวน ติฎฺฐติฯ

    Dve attānaṃ vadhitvānāti bhikkhunī attānaṃ vadhitvā dve āpattiyo āpajjati; vadhati rodati, āpatti pācittiyassa; vadhati na rodati, āpatti dukkaṭassa. Dvīhi saṅgho bhijjatīti kammena ca salākaggāhena ca. Dvetthapaṭhamāpattikāti ettha sakalepi vinaye dve paṭhamāpattikā ubhinnaṃ paññattivasena. Itarathā pana nava bhikkhūnaṃ nava bhikkhunīnanti aṭṭhārasa honti. Ñattiyā karaṇā duveti dve ñattikiccāni – kammañca kammapādakā ca. Navasu ṭhānesu kammaṃ hoti, dvīsu kammapādabhāvena tiṭṭhati.

    ปาณาติปาเต ติโสฺสติ ‘‘อโนทิสฺส โอปาตํ ขณติ, สเจ มนุโสฺส มรติ, ปาราชิกํ; ยกฺขเปตานํ มรเณ ถุลฺลจฺจยํ; ติรจฺฉานคตสฺส มรเณ ปาจิตฺติย’’นฺติ อิมา ติโสฺส โหนฺติฯ วาจา ปาราชิกา ตโยติ วชฺชปฎิจฺฉาทิกาย อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย อฎฺฐวตฺถุกายาติฯ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อาณตฺติยา อทินฺนาทาเน, มนุสฺสมรเณ, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมอุลฺลปเน จา’’ติ เอวํ ตโย วุตฺตาฯ โอภาสนา ตโยติ วจฺจมคฺคํ ปสฺสาวมคฺคํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภาสเน สงฺฆาทิเสโส, วจฺจมคฺคํ ปสฺสาวมคฺคํ ฐเปตฺวา อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภณเน ถุลฺลจฺจยํ, อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภณเน ทุกฺกฎํฯ สญฺจริเตฺตน วา ตโยติ ปฎิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรติ , อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส; ปฎิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส; ปฎิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติ อิเม สญฺจริเตฺตน การณภูเตน ตโย อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺติฯ

    Pāṇātipāte tissoti ‘‘anodissa opātaṃ khaṇati, sace manusso marati, pārājikaṃ; yakkhapetānaṃ maraṇe thullaccayaṃ; tiracchānagatassa maraṇe pācittiya’’nti imā tisso honti. Vācā pārājikā tayoti vajjapaṭicchādikāya ukkhittānuvattikāya aṭṭhavatthukāyāti. Kurundiyaṃ pana ‘‘āṇattiyā adinnādāne, manussamaraṇe, uttarimanussadhammaullapane cā’’ti evaṃ tayo vuttā. Obhāsanā tayoti vaccamaggaṃ passāvamaggaṃ ādissa vaṇṇāvaṇṇabhāsane saṅghādiseso, vaccamaggaṃ passāvamaggaṃ ṭhapetvā adhakkhakaṃ ubbhajāṇumaṇḍalaṃ ādissa vaṇṇāvaṇṇabhaṇane thullaccayaṃ, ubbhakkhakaṃ adhojāṇumaṇḍalaṃ ādissa vaṇṇāvaṇṇabhaṇane dukkaṭaṃ. Sañcarittena vā tayoti paṭiggaṇhāti vīmaṃsati paccāharati , āpatti saṅghādisesassa; paṭiggaṇhāti vīmaṃsati na paccāharati, āpatti thullaccayassa; paṭiggaṇhāti na vīmaṃsati na paccāharati, āpatti dukkaṭassāti ime sañcarittena kāraṇabhūtena tayo āpattikkhandhā honti.

    ตโย ปุคฺคลา น อุปสมฺปาเทตพฺพาติ อทฺธานหีโน องฺคหีโน วตฺถุวิปโนฺน จ เตสํ นานากรณํ วุตฺตเมวฯ อปิเจตฺถ โย ปตฺตจีวเรน อปริปูโร, ปริปูโร จ น ยาจติ, อิเมปิ องฺคหีเนเนว สงฺคหิตาฯ มาตุฆาตกาทโย จ กรณทุกฺกฎกา ปณฺฑกอุภโตพฺยญฺชนกติรจฺฉานคตสงฺขาเตน วตฺถุวิปเนฺนเนว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพาฯ เอส นโย กุรุนฺทิยํ วุโตฺตฯ ตโย กมฺมานํ สงฺคหาติ ญตฺติกปฺปนา, วิปฺปกตปจฺจตฺตํ, อตีตกรณนฺติฯ ตตฺถ ‘‘ทเทยฺย กเรยฺยา’’ติอาทิเภทา ญตฺติกปฺปนา; ‘‘เทติ กโรตี’’ติอาทิเภทํ วิปฺปกตปจฺจตฺตํ; ‘‘ทินฺนํ กต’’นฺติอาทิเภทํ อตีตกรณํ นามาติ อิเมหิ ตีหิ กมฺมานิ สงฺคยฺหนฺติฯ อปเรหิปิ ตีหิ กมฺมานิ สงฺคยฺหนฺติ – วตฺถุนา, ญตฺติยา, อนุสฺสาวนายาติฯ วตฺถุสมฺปนฺนญฺหิ ญตฺติสมฺปนฺนํ อนุสฺสาวนสมฺปนฺนญฺจ กมฺมํ นาม โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ตโย กมฺมานํ สงฺคหา’’ติฯ นาสิตกา ตโย นาม เมตฺติยํ ภิกฺขุนิํ นาเสถ, ทูสโก นาเสตโพฺพ, ทสหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สามเณโร นาเสตโพฺพ, กณฺฎกํ สมณุเทฺทสํ นาเสถาติ เอวํ ลิงฺคสํวาสทณฺฑกมฺมนาสนาวเสน ตโย นาสิตกา เวทิตพฺพาฯ ติณฺณนฺนํ เอกวาจิกาติ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว เทฺว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุ’’นฺติ วจนโต ติณฺณํ ชนานํ เอกุปชฺฌาเยน นานาจริเยน เอกานุสฺสาวนา วฎฺฎติฯ

    Tayo puggalā na upasampādetabbāti addhānahīno aṅgahīno vatthuvipanno ca tesaṃ nānākaraṇaṃ vuttameva. Apicettha yo pattacīvarena aparipūro, paripūro ca na yācati, imepi aṅgahīneneva saṅgahitā. Mātughātakādayo ca karaṇadukkaṭakā paṇḍakaubhatobyañjanakatiracchānagatasaṅkhātena vatthuvipanneneva saṅgahitāti veditabbā. Esa nayo kurundiyaṃ vutto. Tayo kammānaṃ saṅgahāti ñattikappanā, vippakatapaccattaṃ, atītakaraṇanti. Tattha ‘‘dadeyya kareyyā’’tiādibhedā ñattikappanā; ‘‘deti karotī’’tiādibhedaṃ vippakatapaccattaṃ; ‘‘dinnaṃ kata’’ntiādibhedaṃ atītakaraṇaṃ nāmāti imehi tīhi kammāni saṅgayhanti. Aparehipi tīhi kammāni saṅgayhanti – vatthunā, ñattiyā, anussāvanāyāti. Vatthusampannañhi ñattisampannaṃ anussāvanasampannañca kammaṃ nāma hoti, tena vuttaṃ ‘‘tayo kammānaṃ saṅgahā’’ti. Nāsitakā tayo nāma mettiyaṃ bhikkhuniṃ nāsetha, dūsako nāsetabbo, dasahaṅgehi samannāgato sāmaṇero nāsetabbo, kaṇṭakaṃ samaṇuddesaṃ nāsethāti evaṃ liṅgasaṃvāsadaṇḍakammanāsanāvasena tayo nāsitakā veditabbā. Tiṇṇannaṃ ekavācikāti ‘‘anujānāmi bhikkhave dve tayo ekānussāvane kātu’’nti vacanato tiṇṇaṃ janānaṃ ekupajjhāyena nānācariyena ekānussāvanā vaṭṭati.

    อทินฺนาทาเน ติโสฺสติ ปาเท วา อติเรกปาเท วา ปาราชิกํ, อติเรกมาสเก ถุลฺลจฺจยํ, มาสเก วา อูนมาสเก วา ทุกฺกฎํฯ จตโสฺส เมถุนปจฺจยาติ อกฺขยิเต ปาราชิกํ, เยภุเยฺยน ขยิเต ถุลฺลจฺจยํ, วิวฎกเต มุเข ทุกฺกฎํ, ชตุมฎฺฐเก ปาจิตฺติยํฯ ฉินฺทนฺตสฺส ติโสฺสติ วนปฺปติํ ฉินฺทนฺตสฺส ปาราชิกํ, ภูตคาเม ปาจิตฺติยํ, องฺคชาเต ถุลฺลจฺจยํฯ ปญฺจ ฉฑฺฑิตปจฺจยาติ อโนทิสฺส วิสํ ฉเฑฺฑติ, สเจ เตน มนุโสฺส มรติ, ปาราชิกํ; ยกฺขเปเตสุ ถุลฺลจฺจยํ; ติรจฺฉานคเต ปาจิตฺติยํ; วิสฺสฎฺฐิฉฑฺฑเน สงฺฆาทิเสโส; เสขิเยสุ หริเต อุจฺจารปสฺสาวฉฑฺฑเน ทุกฺกฎํ – อิมา ฉฑฺฑิตปจฺจยา ปญฺจาปตฺติโย โหนฺติฯ

    Adinnādāne tissoti pāde vā atirekapāde vā pārājikaṃ, atirekamāsake thullaccayaṃ, māsake vā ūnamāsake vā dukkaṭaṃ. Catasso methunapaccayāti akkhayite pārājikaṃ, yebhuyyena khayite thullaccayaṃ, vivaṭakate mukhe dukkaṭaṃ, jatumaṭṭhake pācittiyaṃ. Chindantassa tissoti vanappatiṃ chindantassa pārājikaṃ, bhūtagāme pācittiyaṃ, aṅgajāte thullaccayaṃ. Pañca chaḍḍitapaccayāti anodissa visaṃ chaḍḍeti, sace tena manusso marati, pārājikaṃ; yakkhapetesu thullaccayaṃ; tiracchānagate pācittiyaṃ; vissaṭṭhichaḍḍane saṅghādiseso; sekhiyesu harite uccārapassāvachaḍḍane dukkaṭaṃ – imā chaḍḍitapaccayā pañcāpattiyo honti.

    ปาจิตฺติเยน ทุกฺกฎา กตาติ ภิกฺขุโนวาทกวคฺคสฺมิํ ทสสุ สิกฺขาปเทสุ ปาจิตฺติเยน สทฺธิํ ทุกฺกฎา กตา เอวาติ อโตฺถฯ จตุเรตฺถ นวกา วุตฺตาติ ปฐมสิกฺขาปทมฺหิเยว อธมฺมกเมฺม เทฺว, ธมฺมกเมฺม เทฺวติ เอวํ จตฺตาโร นวกา วุตฺตาติ อโตฺถฯ ทฺวินฺนํ จีวเรน จาติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย จีวรํ เทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย เทนฺตสฺส ทุกฺกฎนฺติ เอวํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขุนีนํ จีวรํ เทนฺตสฺส จีวเรน การณภูเตน อาปตฺติ โหตีติ อโตฺถฯ

    Pācittiyenadukkaṭā katāti bhikkhunovādakavaggasmiṃ dasasu sikkhāpadesu pācittiyena saddhiṃ dukkaṭā katā evāti attho. Caturettha navakā vuttāti paṭhamasikkhāpadamhiyeva adhammakamme dve, dhammakamme dveti evaṃ cattāro navakā vuttāti attho. Dvinnaṃ cīvarena cāti bhikkhūnaṃ santike upasampannāya cīvaraṃ dentassa pācittiyaṃ, bhikkhunīnaṃ santike upasampannāya dentassa dukkaṭanti evaṃ dvinnaṃ bhikkhunīnaṃ cīvaraṃ dentassa cīvarena kāraṇabhūtena āpatti hotīti attho.

    อฎฺฐ ปาฎิเทสนียาติ ปาฬิยํ อาคตา เอวฯ ภุญฺชนฺตามกธเญฺญน ปาจิตฺติเยน ทุกฺกฎา กตาติ อามกธญฺญํ วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชนฺติยา ปาจิตฺติเยน สทฺธิํ ทุกฺกฎา กตาเยวฯ

    Aṭṭha pāṭidesanīyāti pāḷiyaṃ āgatā eva. Bhuñjantāmakadhaññena pācittiyena dukkaṭā katāti āmakadhaññaṃ viññāpetvā bhuñjantiyā pācittiyena saddhiṃ dukkaṭā katāyeva.

    คจฺฉนฺตสฺส จตโสฺสติ ภิกฺขุนิยา วา มาตุคาเมน วา สทฺธิํ สํวิธาย คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฎํ, คามูปจาโรกฺกมเน ปาจิตฺติยํ, ยา ภิกฺขุนี เอกา คามนฺตรํ คจฺฉติ, ตสฺสา คามูปจารํ โอกฺกมนฺติยา ปฐมปาเท ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโสติ คจฺฉนฺตสฺส อิมา จตโสฺส อาปตฺติโย โหนฺติฯ ฐิตสฺส จาปิ ตตฺตกาติ ฐิตสฺสปิ จตโสฺส เอวาติ อโตฺถฯ กถํ? ภิกฺขุนี อนฺธกาเร วา ปฎิจฺฉเนฺน วา โอกาเส มิตฺตสนฺถววเสน ปุริสสฺส หตฺถปาเส ติฎฺฐติ, ปาจิตฺติยํ; หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ติฎฺฐติ, ทุกฺกฎํ; อรุณุคฺคมนกาเล ทุติยิกาย หตฺถปาสํ วิชหนฺตี ติฎฺฐติ, ถุลฺลจฺจยํ; วิชหิตฺวา ติฎฺฐติ, สงฺฆาทิเสโสติ นิสินฺนสฺส จตโสฺส อาปตฺติโยฯ นิปนฺนสฺสาปิ ตตฺตกาติ สเจปิ หิ สา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา, เอตาเยว จตโสฺส อาปตฺติโย อาปชฺชติฯ

    Gacchantassa catassoti bhikkhuniyā vā mātugāmena vā saddhiṃ saṃvidhāya gacchantassa dukkaṭaṃ, gāmūpacārokkamane pācittiyaṃ, yā bhikkhunī ekā gāmantaraṃ gacchati, tassā gāmūpacāraṃ okkamantiyā paṭhamapāde thullaccayaṃ, dutiyapāde saṅghādisesoti gacchantassa imā catasso āpattiyo honti. Ṭhitassa cāpi tattakāti ṭhitassapi catasso evāti attho. Kathaṃ? Bhikkhunī andhakāre vā paṭicchanne vā okāse mittasanthavavasena purisassa hatthapāse tiṭṭhati, pācittiyaṃ; hatthapāsaṃ vijahitvā tiṭṭhati, dukkaṭaṃ; aruṇuggamanakāle dutiyikāya hatthapāsaṃ vijahantī tiṭṭhati, thullaccayaṃ; vijahitvā tiṭṭhati, saṅghādisesoti nisinnassa catasso āpattiyo. Nipannassāpi tattakāti sacepi hi sā nisīdati vā nipajjati vā, etāyeva catasso āpattiyo āpajjati.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๒. เทสนาคามินิยาทิอาปตฺติ • 2. Desanāgāminiyādiāpatti

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / เทสนาคามินิยาทิวณฺณนา • Desanāgāminiyādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / กายิกาทิอาปตฺติวณฺณนา • Kāyikādiāpattivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / กายิกาทิอาปตฺติวณฺณนา • Kāyikādiāpattivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / (๒) เทสนาคามินิยาทิวณฺณนา • (2) Desanāgāminiyādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact