Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
เทสนานุโมทนกถา
Desanānumodanakathā
๑๕. ปีติวิปฺผารปริปุณฺณคตฺตจิโตฺตติ ปีติผรเณน ปริปุณฺณกายจิโตฺตฯ อญฺญาณนฺติ อญฺญาณสฺสาติ อโตฺถฯ ธีสทฺทสฺส โยคโต หิ สามิอเตฺถ เอตํ อุปโยควจนํฯ อภิกฺกนฺตาติ เอตฺถ อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อโตฺถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติฯ เตเนว หิ ‘‘นิกฺขโนฺต ปฐโม ยาโม’’ติ วุตฺตํฯ อภิกฺกนฺตตโร จาติ อติวิย กนฺตตโร มโนรโม, ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติฯ โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโมฯ เมติ มมฯ ปาทานีติ ปาเทฯ อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยาฯ ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน ปริเจฺฉเทนฯ ชลนฺติ วิโชฺชตมาโนฯ อภิกฺกเนฺตนาติ อติวิย กเนฺตน กมนีเยน อภิรูเปนฯ วเณฺณนาติ ฉวิวเณฺณน สรีรวณฺณนิภายฯ สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ ทสปิ ทิสา ปภาเสโนฺต จโนฺท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรโนฺตติ คาถาย อโตฺถฯ อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเปฯ
15.Pītivipphāraparipuṇṇagattacittoti pītipharaṇena paripuṇṇakāyacitto. Aññāṇanti aññāṇassāti attho. Dhīsaddassa yogato hi sāmiatthe etaṃ upayogavacanaṃ. Abhikkantāti ettha atikkantā, vigatāti atthoti āha ‘‘khaye dissatī’’ti. Teneva hi ‘‘nikkhanto paṭhamo yāmo’’ti vuttaṃ. Abhikkantataro cāti ativiya kantataro manoramo, tādiso ca sundaro bhaddako nāma hotīti āha ‘‘sundare dissatī’’ti. Koti devanāgayakkhagandhabbādīsu ko katamo. Meti mama. Pādānīti pāde. Iddhiyāti imāya evarūpāya deviddhiyā. Yasasāti iminā edisena parivārena paricchedena. Jalanti vijjotamāno. Abhikkantenāti ativiya kantena kamanīyena abhirūpena. Vaṇṇenāti chavivaṇṇena sarīravaṇṇanibhāya. Sabbā obhāsayaṃ disāti dasapi disā pabhāsento cando viya sūriyo viya ca ekobhāsaṃ ekālokaṃ karontoti gāthāya attho. Abhirūpeti uḷārarūpe sampannarūpe.
อภิกฺกนฺตํ โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ โภ โคตมาติ วจนทฺวยสฺส ‘‘สาธุ สาธุ โภ โคตมา’’ติ อาเมฑิตวเสน อตฺถํ ทเสฺสตฺวา ตสฺส วิสยํ นิทฺธาเรโนฺต อาห ‘‘ภเย โกเธ’’ติอาทิฯ ตตฺถ ‘‘โจโร โจโร, สโปฺป สโปฺป’’ติอาทีสุ ภเย อาเมฑิตํฯ ‘‘วิชฺฌ วิชฺฌ, ปหร ปหรา’’ติอาทีสุ โกเธฯ ‘‘สาธุ สาธู’’ติอาทีสุ ปสํสายํฯ ‘‘คจฺฉ คจฺฉ, ลุนาหิ ลุนาหี’’ติอาทีสุ ตุริเตฯ ‘‘อาคจฺฉ อาคจฺฉา’’ติอาทีสุ โกตูหเลฯ ‘‘พุโทฺธ พุโทฺธติ จิเนฺตโนฺต’’ติอาทีสุ (พุ. วํ. ๒.๔๔) อจฺฉเรฯ ‘‘อภิกฺกมถายสฺมโนฺต, อภิกฺกมถายสฺมโนฺต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๒๐; อ. นิ. ๙.๑๑) หาเสฯ ‘‘กหํ เอกปุตฺตก, กหํ เอกปุตฺตกา’’ติอาทีสุ โสเกฯ ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติอาทีสุ (อุทา. ๒๐; จูฬว. ๓๓๒) ปสาเทฯ จ-สโทฺท อวุตฺตสมุจฺจยโตฺถ ฯ เตน ครหอสมฺมานาทีนํ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ ตตฺถ ‘‘ปาโป ปาโป’’ติอาทีสุ ครหายํฯ ‘‘อภิรูปก อภิรูปกา’’ติอาทีสุ อสมฺมาเน ทฎฺฐพฺพํฯ
Abhikkantaṃ bho gotama, abhikkantaṃ bho gotamāti vacanadvayassa ‘‘sādhu sādhu bho gotamā’’ti āmeḍitavasena atthaṃ dassetvā tassa visayaṃ niddhārento āha ‘‘bhaye kodhe’’tiādi. Tattha ‘‘coro coro, sappo sappo’’tiādīsu bhaye āmeḍitaṃ. ‘‘Vijjha vijjha, pahara paharā’’tiādīsu kodhe. ‘‘Sādhu sādhū’’tiādīsu pasaṃsāyaṃ. ‘‘Gaccha gaccha, lunāhi lunāhī’’tiādīsu turite. ‘‘Āgaccha āgacchā’’tiādīsu kotūhale. ‘‘Buddho buddhoti cintento’’tiādīsu (bu. vaṃ. 2.44) acchare. ‘‘Abhikkamathāyasmanto, abhikkamathāyasmanto’’tiādīsu (dī. ni. 3.20; a. ni. 9.11) hāse. ‘‘Kahaṃ ekaputtaka, kahaṃ ekaputtakā’’tiādīsu soke. ‘‘Aho sukhaṃ, aho sukha’’ntiādīsu (udā. 20; cūḷava. 332) pasāde. Ca-saddo avuttasamuccayattho . Tena garahaasammānādīnaṃ saṅgaho daṭṭhabbo. Tattha ‘‘pāpo pāpo’’tiādīsu garahāyaṃ. ‘‘Abhirūpaka abhirūpakā’’tiādīsu asammāne daṭṭhabbaṃ.
นยิทํ อาเมฑิตวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ, อถ โข อตฺถทฺวยวเสนาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาหฯ อภิกฺกนฺตนฺติ วจนํ อเปกฺขิตฺวา นปุํสกลิงฺควเสน วุตฺตํฯ ตํ ปน ภควโต วจนํ ธมฺมสฺส เทสนาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ยทิทํ โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนา’’ติฯ อตฺถมตฺตทสฺสนํ วา เอตํ, ตสฺมา อตฺถวเสน ลิงฺควิภตฺติวิปริณาโม เวทิตโพฺพฯ ทุติยปเทปิ เอเสว นโยฯ โทสนาสนโตติ ราคาทิกิเลสวิทฺธํสนโตฯ คุณาธิคมนโตติ สีลาทิคุณานํ สมฺปาปนโตฯ เย คุเณ เทสนา อธิคเมติ, เตสุ ปธานภูตา คุณา ทเสฺสตพฺพาติ เต ปธานภูเต คุเณ ตาว ทเสฺสตุํ ‘‘สทฺธาชนนโต ปญฺญาชนนโต’’ติ วุตฺตํฯ สทฺธาปมุขา หิ โลกิยา คุณา, ปญฺญาปมุขา โลกุตฺตราฯ สาตฺถโตติอาทีสุ สีลาทิอตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถโต, สภาวนิรุตฺติสมฺปตฺติยา สพฺยญฺชนโตฯ สุวิเญฺญยฺยสทฺทปฺปโยคตาย อุตฺตานปทโต, สณฺหสุขุมภาเวน ทุวิเญฺญยฺยตฺถตาย คมฺภีรตฺถโตฯ สินิทฺธมุทุมธุรสทฺทปฺปโยคตาย กณฺณสุขโต, วิปุลวิสุทฺธเปมนียตฺถตาย หทยงฺคมโตฯ มานาติมานวิธมเนน อนตฺตุกฺกํสนโต, ถมฺภสารมฺภนิมฺมทฺทเนน อปรวมฺภนโตฯ หิตาธิปฺปายปฺปวตฺติยา ปเรสํ ราคปริฬาหาทิวูปสมเนน กรุณาสีตลโต, กิเลสนฺธการวิธมเนน ปญฺญาวทาตโตฯ กรวีกรุตมญฺชุตาย อาปาถรมณียโต, ปุพฺพาปราวิรุทฺธสุวิสุทฺธตฺถตาย วิมทฺทกฺขมโตฯ อาปาถรมณียตาย เอว สุยฺยมานสุขโต, วิมทฺทกฺขมตาย หิตชฺฌาสยปฺปวตฺติตาย จ วีมํสิยมานหิตโตติ เอวมโตฺถ เวทิตโพฺพฯ เอวมาทีหีติ อาทิ-สเทฺทน สํสารจกฺกนิวตฺตนโต, สทฺธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต, มิจฺฉาวาทวิธมนโต, สมฺมาวาทปติฎฺฐาปนโต, อกุสลมูลสมุทฺธรณโต, กุสลมูลสํโรปนโต, อปายทฺวารปิธานโต, สคฺคมคฺคทฺวารวิวรณโต, ปริยุฎฺฐานวูปสมนโต, อนุสยสมุคฺฆาตนโตติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ
Nayidaṃ āmeḍitavasena dvikkhattuṃ vuttaṃ, atha kho atthadvayavasenāti dassento ‘‘atha vā’’tiādimāha. Abhikkantanti vacanaṃ apekkhitvā napuṃsakaliṅgavasena vuttaṃ. Taṃ pana bhagavato vacanaṃ dhammassa desanāti katvā vuttaṃ ‘‘yadidaṃ bhoto gotamassa dhammadesanā’’ti. Atthamattadassanaṃ vā etaṃ, tasmā atthavasena liṅgavibhattivipariṇāmo veditabbo. Dutiyapadepi eseva nayo. Dosanāsanatoti rāgādikilesaviddhaṃsanato. Guṇādhigamanatoti sīlādiguṇānaṃ sampāpanato. Ye guṇe desanā adhigameti, tesu padhānabhūtā guṇā dassetabbāti te padhānabhūte guṇe tāva dassetuṃ ‘‘saddhājananato paññājananato’’ti vuttaṃ. Saddhāpamukhā hi lokiyā guṇā, paññāpamukhā lokuttarā. Sātthatotiādīsu sīlādiatthasampattiyā sātthato, sabhāvaniruttisampattiyā sabyañjanato. Suviññeyyasaddappayogatāya uttānapadato, saṇhasukhumabhāvena duviññeyyatthatāya gambhīratthato. Siniddhamudumadhurasaddappayogatāya kaṇṇasukhato, vipulavisuddhapemanīyatthatāya hadayaṅgamato. Mānātimānavidhamanena anattukkaṃsanato, thambhasārambhanimmaddanena aparavambhanato. Hitādhippāyappavattiyā paresaṃ rāgapariḷāhādivūpasamanena karuṇāsītalato, kilesandhakāravidhamanena paññāvadātato. Karavīkarutamañjutāya āpātharamaṇīyato, pubbāparāviruddhasuvisuddhatthatāya vimaddakkhamato. Āpātharamaṇīyatāya eva suyyamānasukhato, vimaddakkhamatāya hitajjhāsayappavattitāya ca vīmaṃsiyamānahitatoti evamattho veditabbo. Evamādīhīti ādi-saddena saṃsāracakkanivattanato, saddhammacakkappavattanato, micchāvādavidhamanato, sammāvādapatiṭṭhāpanato, akusalamūlasamuddharaṇato, kusalamūlasaṃropanato, apāyadvārapidhānato, saggamaggadvāravivaraṇato, pariyuṭṭhānavūpasamanato, anusayasamugghātanatoti evamādīnaṃ saṅgaho daṭṭhabbo.
อโธมุขฐปิตนฺติ เกนจิ อโธมุขํ ฐปิตํฯ เหฎฺฐามุขชาตนฺติ สภาเวเนว เหฎฺฐามุขํ ชาตํฯ อุคฺฆาเฎยฺยาติ วิวฎํ กเรยฺยฯ หเตฺถ คเหตฺวาติ ‘‘ปุรตฺถาภิมุโข อุตฺตราภิมุโข วา คจฺฉา’’ติอาทีนิ อวตฺวา หเตฺถ คเหตฺวา ‘‘นิสฺสเนฺทหํ เอส มโคฺค, เอวํ คจฺฉา’’ติ ทเสฺสยฺยฯ กาฬปกฺขจาตุทฺทสีติ กาฬปเกฺข จาตุทฺทสี กาฬปกฺขจาตุทฺทสีฯ นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุเชฺชยฺยาติ อาเธยฺยสฺส อนาธารภูตํ ภาชนํ อาธารภาวาปาทนวเสน อุกฺกุเชฺชยฺยฯ เหฎฺฐามุขชาตตาย สทฺธมฺมวิมุขํ อโธมุขฐปิตตาย อสทฺธเมฺม ปติฎฺฐิตนฺติ เอวํ ปททฺวยํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ, น ยถาสงฺขฺยํฯ กามํ กามจฺฉนฺทาทโยปิ ปฎิจฺฉาทกา นีวรณภาวโต, มิจฺฉาทิฎฺฐิ ปน สวิเสสํ ปฎิจฺฉาทิกา สเตฺต มิจฺฉาภินิเวสเนนาติ อาห ‘‘มิจฺฉาทิฎฺฐิคหนปฎิจฺฉนฺน’’นฺติฯ เตนาห ภควา – ‘‘มิจฺฉาทิฎฺฐิปรมาหํ, ภิกฺขเว, วชฺชํ วทามี’’ติฯ สโพฺพ อปายคามิมโคฺค กุมฺมโคฺค กุจฺฉิโต มโคฺคติ กตฺวา, สมฺมาทิฎฺฐิอาทีนํ อุชุปฎิปกฺขตาย มิจฺฉาทิฎฺฐิอาทโย อฎฺฐ มิจฺฉตฺตธมฺมา มิจฺฉามโคฺคฯ เตเนว หิ ตทุภยปฎิปกฺขตํ สนฺธาย ‘‘สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาจิกฺขเนฺตนา’’ติ วุตฺตํฯ สปฺปิอาทิสนฺนิสฺสโย ปทีโป น ตถา, อุชฺชโล ยถา เตลสนฺนิสฺสโยติ เตลปโชฺชตคฺคหณํฯ เอเตหิ ปริยาเยหีติ เอเตหิ นิกฺกุชฺชิตุกฺกุชฺชนปฎิจฺฉนฺนวิวรณาทิอุปโมปมิตพฺพปฺปกาเรหิ, เอเตหิ วา ยถาวุเตฺตหิ อรสรูปตาทีนํ อตฺตนิ อญฺญถา ปฎิปาทนปริยาเยหิ อตฺตโน ทิพฺพวิหารวิภาวนปริยาเยหิ วิชฺชตฺตยวิภาวนาปเทเสน อตฺตโน สพฺพญฺญุคุณวิภาวนปริยาเยหิ จฯ เตนาห ‘‘อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโต’’ติฯ
Adhomukhaṭhapitanti kenaci adhomukhaṃ ṭhapitaṃ. Heṭṭhāmukhajātanti sabhāveneva heṭṭhāmukhaṃ jātaṃ. Ugghāṭeyyāti vivaṭaṃ kareyya. Hatthegahetvāti ‘‘puratthābhimukho uttarābhimukho vā gacchā’’tiādīni avatvā hatthe gahetvā ‘‘nissandehaṃ esa maggo, evaṃ gacchā’’ti dasseyya. Kāḷapakkhacātuddasīti kāḷapakkhe cātuddasī kāḷapakkhacātuddasī. Nikkujjitaṃ ukkujjeyyāti ādheyyassa anādhārabhūtaṃ bhājanaṃ ādhārabhāvāpādanavasena ukkujjeyya. Heṭṭhāmukhajātatāya saddhammavimukhaṃ adhomukhaṭhapitatāya asaddhamme patiṭṭhitanti evaṃ padadvayaṃ yathārahaṃ yojetabbaṃ, na yathāsaṅkhyaṃ. Kāmaṃ kāmacchandādayopi paṭicchādakā nīvaraṇabhāvato, micchādiṭṭhi pana savisesaṃ paṭicchādikā satte micchābhinivesanenāti āha ‘‘micchādiṭṭhigahanapaṭicchanna’’nti. Tenāha bhagavā – ‘‘micchādiṭṭhiparamāhaṃ, bhikkhave, vajjaṃ vadāmī’’ti. Sabbo apāyagāmimaggo kummaggo kucchito maggoti katvā, sammādiṭṭhiādīnaṃ ujupaṭipakkhatāya micchādiṭṭhiādayo aṭṭha micchattadhammā micchāmaggo. Teneva hi tadubhayapaṭipakkhataṃ sandhāya ‘‘saggamokkhamaggaṃ ācikkhantenā’’ti vuttaṃ. Sappiādisannissayo padīpo na tathā, ujjalo yathā telasannissayoti telapajjotaggahaṇaṃ. Etehi pariyāyehīti etehi nikkujjitukkujjanapaṭicchannavivaraṇādiupamopamitabbappakārehi, etehi vā yathāvuttehi arasarūpatādīnaṃ attani aññathā paṭipādanapariyāyehi attano dibbavihāravibhāvanapariyāyehi vijjattayavibhāvanāpadesena attano sabbaññuguṇavibhāvanapariyāyehi ca. Tenāha ‘‘anekapariyāyena dhammo pakāsito’’ti.
เทสนานุโมทนกถา นิฎฺฐิตาฯ
Desanānumodanakathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / เวรญฺชกณฺฑํ • Verañjakaṇḍaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / เทสนานุโมทนกถา • Desanānumodanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อุปาสกตฺตปฎิเวทนากถาวณฺณนา • Upāsakattapaṭivedanākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อุปาสกตฺตปฎิเวทนากถาวณฺณนา • Upāsakattapaṭivedanākathāvaṇṇanā