Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๒. เทวทหสุตฺตวณฺณนา
2. Devadahasuttavaṇṇanā
๒. ทุติเย เทวทหนฺติ เทวา วุจฺจนฺติ ราชาโน, เตสํ มงฺคลทโห, สยํชาโต วา โส ทโหติ, ตสฺมา ‘‘เทวทโห’’ติ วุโตฺตฯ ตสฺส อวิทูเร นิคโม เทวทหเนฺตฺวว นปุํสกลิงฺควเสน สงฺขํ คโตฯ ปจฺฉาภูมคมิกาติ ปจฺฉาภูมํ อปรทิสายํ นิวิฎฺฐํ ชนปทํ คนฺตุกามาฯ นิวาสนฺติ เตมาสํ วสฺสาวาสํฯ อปโลกิโตติ อาปุจฺฉิโตฯ อปโลเกถาติ อาปุจฺฉถฯ กสฺมา เถรํ อาปุจฺฉาเปติ? เต สภาเร กาตุกามตายฯ โย หิ เอกวิหาเร วสโนฺตปิ สนฺติกํ น คจฺฉติ ปกฺกมโนฺต อนาปุจฺฉา ปกฺกมติ, อยํ นิพฺภาโร นามฯ โย เอกวิหาเร วสโนฺตปิ อาคนฺตฺวา ปสฺสติ, ปกฺกมโนฺต อาปุจฺฉติ, อยํ สภาโร นามฯ อิเมปิ ภิกฺขู ภควา ‘‘เอวมิเม สีลาทีหิ วฑฺฒิสฺสนฺตี’’ติ สภาเร กาตุกาโม อาปุจฺฉาเปติฯ
2. Dutiye devadahanti devā vuccanti rājāno, tesaṃ maṅgaladaho, sayaṃjāto vā so dahoti, tasmā ‘‘devadaho’’ti vutto. Tassa avidūre nigamo devadahantveva napuṃsakaliṅgavasena saṅkhaṃ gato. Pacchābhūmagamikāti pacchābhūmaṃ aparadisāyaṃ niviṭṭhaṃ janapadaṃ gantukāmā. Nivāsanti temāsaṃ vassāvāsaṃ. Apalokitoti āpucchito. Apalokethāti āpucchatha. Kasmā theraṃ āpucchāpeti? Te sabhāre kātukāmatāya. Yo hi ekavihāre vasantopi santikaṃ na gacchati pakkamanto anāpucchā pakkamati, ayaṃ nibbhāro nāma. Yo ekavihāre vasantopi āgantvā passati, pakkamanto āpucchati, ayaṃ sabhāro nāma. Imepi bhikkhū bhagavā ‘‘evamime sīlādīhi vaḍḍhissantī’’ti sabhāre kātukāmo āpucchāpeti.
ปณฺฑิโตติ ธาตุโกสลฺลาทินา จตุพฺพิเธน ปณฺฑิเจฺจน สมนฺนาคโตฯ อนุคฺคาหโกติ อามิสานุคฺคเหน จ ธมฺมานุคฺคเหน จาติ ทฺวีหิปิ อนุคฺคเหหิ อนุคฺคาหโกฯ เถโร กิร อเญฺญ ภิกฺขู วิย ปาโตว ปิณฺฑาย อคนฺตฺวา สพฺพภิกฺขูสุ คเตสุ สกลํ สงฺฆารามํ อนุวิจรโนฺต อสมฺมฎฺฐฎฺฐานํ สมฺมชฺชติ, อฉฑฺฑิตํ กจวรํ ฉเฑฺฑติ, สงฺฆาราเม ทุนฺนิกฺขิตฺตานิ มญฺจปีฐทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฎิสาเมติฯ กิํ การณา? ‘‘มา อญฺญติตฺถิยา วิหารํ ปวิฎฺฐา ทิสฺวา ปริภวํ อกํสู’’ติฯ ตโต คิลานสาลํ คนฺตฺวา คิลาเน อสฺสาเสตฺวา ‘‘เกนโตฺถ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เยน อโตฺถ โหติ, ตทตฺถํ เตสํ ทหรสามเณเร อาทาย ภิกฺขาจารวเตฺตน วา สภาคฎฺฐาเน วา เภสชฺชํ ปริเยสิตฺวา เตสํ ทตฺวา, ‘‘คิลานุปฎฺฐานํ นาม พุทฺธปเจฺจกพุเทฺธหิ วณฺณิตํ, คจฺฉถ สปฺปุริสา อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ เต เปเสตฺวา สยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา อุปฎฺฐากกุเล วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ คจฺฉติฯ อิทํ ตาวสฺส นิพทฺธวาสฎฺฐาเน อาจิณฺณํฯ
Paṇḍitoti dhātukosallādinā catubbidhena paṇḍiccena samannāgato. Anuggāhakoti āmisānuggahena ca dhammānuggahena cāti dvīhipi anuggahehi anuggāhako. Thero kira aññe bhikkhū viya pātova piṇḍāya agantvā sabbabhikkhūsu gatesu sakalaṃ saṅghārāmaṃ anuvicaranto asammaṭṭhaṭṭhānaṃ sammajjati, achaḍḍitaṃ kacavaraṃ chaḍḍeti, saṅghārāme dunnikkhittāni mañcapīṭhadārubhaṇḍamattikābhaṇḍāni paṭisāmeti. Kiṃ kāraṇā? ‘‘Mā aññatitthiyā vihāraṃ paviṭṭhā disvā paribhavaṃ akaṃsū’’ti. Tato gilānasālaṃ gantvā gilāne assāsetvā ‘‘kenattho’’ti pucchitvā yena attho hoti, tadatthaṃ tesaṃ daharasāmaṇere ādāya bhikkhācāravattena vā sabhāgaṭṭhāne vā bhesajjaṃ pariyesitvā tesaṃ datvā, ‘‘gilānupaṭṭhānaṃ nāma buddhapaccekabuddhehi vaṇṇitaṃ, gacchatha sappurisā appamattā hothā’’ti te pesetvā sayaṃ piṇḍāya caritvā upaṭṭhākakule vā bhattakiccaṃ katvā vihāraṃ gacchati. Idaṃ tāvassa nibaddhavāsaṭṭhāne āciṇṇaṃ.
ภควติ ปน จาริกํ จรมาเน ‘‘อหํ อคฺคสาวโก’’ติ อุปาหนํ อารุยฺห ฉตฺตํ คเหตฺวา ปุรโต ปุรโต น คจฺฉติฯ เย ปน ตตฺถ มหลฺลกา วา อาพาธิกา วา อติทหรา วา, เตสํ รุชฺชนฎฺฐานานิ เตเลน มกฺขาเปตฺวา ปตฺตจีวรํ อตฺตโน ทหรสามเณเรหิ คาหาเปตฺวา ตํทิวสํ วา ทุติยทิวสํ วา เต คณฺหิตฺวาว คจฺฉติฯ เอกทิวสญฺหิ ตเญฺญว อายสฺมนฺตํ อติวิกาเล สมฺปตฺตตฺตา เสนาสนํ อลภิตฺวา, จีวรกุฎิยํ นิสินฺนํ ทิสฺวา, สตฺถา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา, หตฺถิวานรติตฺติรวตฺถุํ กเถตฺวา, ‘‘ยถาวุฑฺฒํ เสนาสนํ ทาตพฺพ’’นฺติ สิกฺขาปทํ ปญฺญาเปสิฯ เอวํ ตาเวส อามิสานุคฺคเหน อนุคฺคณฺหาติฯ โอวทโนฺต ปเนส สตวารมฺปิ สหสฺสวารมฺปิ ตาว โอวทติ, ยาว โส ปุคฺคโล โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐาติ, อถ นํ วิสฺสเชฺชตฺวา อญฺญํ โอวทติฯ อิมินา นเยน โอวทโต จสฺส โอวาเท ฐตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา คณนปถํ อติกฺกนฺตาฯ เอวํ ธมฺมานุคฺคเหน อนุคฺคณฺหาติฯ
Bhagavati pana cārikaṃ caramāne ‘‘ahaṃ aggasāvako’’ti upāhanaṃ āruyha chattaṃ gahetvā purato purato na gacchati. Ye pana tattha mahallakā vā ābādhikā vā atidaharā vā, tesaṃ rujjanaṭṭhānāni telena makkhāpetvā pattacīvaraṃ attano daharasāmaṇerehi gāhāpetvā taṃdivasaṃ vā dutiyadivasaṃ vā te gaṇhitvāva gacchati. Ekadivasañhi taññeva āyasmantaṃ ativikāle sampattattā senāsanaṃ alabhitvā, cīvarakuṭiyaṃ nisinnaṃ disvā, satthā punadivase bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā, hatthivānaratittiravatthuṃ kathetvā, ‘‘yathāvuḍḍhaṃ senāsanaṃ dātabba’’nti sikkhāpadaṃ paññāpesi. Evaṃ tāvesa āmisānuggahena anuggaṇhāti. Ovadanto panesa satavārampi sahassavārampi tāva ovadati, yāva so puggalo sotāpattiphale patiṭṭhāti, atha naṃ vissajjetvā aññaṃ ovadati. Iminā nayena ovadato cassa ovāde ṭhatvā arahattaṃ pattā gaṇanapathaṃ atikkantā. Evaṃ dhammānuggahena anuggaṇhāti.
ปจฺจโสฺสสุนฺติ เต ภิกฺขู ‘‘อมฺหากํ เนว อุปชฺฌาโย, น อาจริโย น สนฺทิฎฺฐสมฺภโตฺตฯ กิํ ตสฺส สนฺติเก กริสฺสามา’’ติ? ตุณฺหีภาวํ อนาปชฺชิตฺวา ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ สตฺถุ วจนํ สมฺปฎิจฺฉิํสุฯ เอฬคลาคุเมฺพติ คจฺฉมณฺฑปเกฯ โส กิร เอฬคลาคุโมฺพ ธุวสลิลฎฺฐาเน ชาโตฯ อเถตฺถ จตูหิ ปาเทหิ มณฺฑปํ กตฺวา ตสฺส อุปริ ตํ คุมฺพํ อาโรเปสุํ, โส ตํ มณฺฑปํ ฉาเทสิฯ อถสฺส เหฎฺฐา อิฎฺฐกาหิ ปริจินิตฺวา วาลิกํ โอกิริตฺวา อาสนํ ปญฺญาปยิํสุฯ สีตลํ ทิวาฎฺฐานํ อุทกวาโต วายติฯ เถโร ตสฺมิํ นิสีทิฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เอฬคลาคุเมฺพ’’ติฯ
Paccassosunti te bhikkhū ‘‘amhākaṃ neva upajjhāyo, na ācariyo na sandiṭṭhasambhatto. Kiṃ tassa santike karissāmā’’ti? Tuṇhībhāvaṃ anāpajjitvā ‘‘evaṃ, bhante’’ti satthu vacanaṃ sampaṭicchiṃsu. Eḷagalāgumbeti gacchamaṇḍapake. So kira eḷagalāgumbo dhuvasalilaṭṭhāne jāto. Athettha catūhi pādehi maṇḍapaṃ katvā tassa upari taṃ gumbaṃ āropesuṃ, so taṃ maṇḍapaṃ chādesi. Athassa heṭṭhā iṭṭhakāhi paricinitvā vālikaṃ okiritvā āsanaṃ paññāpayiṃsu. Sītalaṃ divāṭṭhānaṃ udakavāto vāyati. Thero tasmiṃ nisīdi. Taṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘eḷagalāgumbe’’ti.
นานาเวรชฺชคตนฺติ เอกสฺส รโญฺญ รชฺชโต นานาวิธํ รชฺชคตํฯ วิรชฺชนฺติ อญฺญํ รชฺชํฯ ยถา หิ สเทสโต อโญฺญ วิเทโส, เอวํ นิวุตฺถรชฺชโต อญฺญํ รชฺชํ วิรชฺชํ นาม, ตํ เวรชฺชนฺติ วุตฺตํฯ ขตฺติยปณฺฑิตาติ พิมฺพิสารโกสลราชาทโย ปณฺฑิตราชาโนฯ พฺราหฺมณปณฺฑิตาติ จงฺกีตารุกฺขาทโย ปณฺฑิตพฺราหฺมณาฯ คหปติปณฺฑิตาติ จิตฺตสุทตฺตาทโย ปณฺฑิตคหปตโยฯ สมณปณฺฑิตาติ สภิยปิโลติกาทโย ปณฺฑิตปริพฺพาชกา ฯ วีมํสกาติ อตฺถคเวสิโนฯ กิํวาทีติ กิํ อตฺตโน ทสฺสนํ วทติ, กิํ ลทฺธิโกติ อโตฺถฯ กิมกฺขายีติ กิํ สาวกานํ โอวาทานุสาสนิํ อาจิกฺขติ? ธมฺมสฺส จานุธมฺมนฺติ ภควตา วุตฺตพฺยากรณสฺส อนุพฺยากรณํฯ สหธมฺมิโกติ สการโณฯ วาทานุวาโทติ ภควตา วุตฺตวาทสฺส อนุวาโทฯ ‘‘วาทานุปาโต’’ติปิ ปาโฐ, สตฺถุ วาทสฺส อนุปาโต อนุปตนํ, อนุคมนนฺติ อโตฺถฯ อิมินาปิ วาทํ อนุคโต วาโทเยว ทีปิโต โหติฯ
Nānāverajjagatanti ekassa rañño rajjato nānāvidhaṃ rajjagataṃ. Virajjanti aññaṃ rajjaṃ. Yathā hi sadesato añño videso, evaṃ nivuttharajjato aññaṃ rajjaṃ virajjaṃ nāma, taṃ verajjanti vuttaṃ. Khattiyapaṇḍitāti bimbisārakosalarājādayo paṇḍitarājāno. Brāhmaṇapaṇḍitāti caṅkītārukkhādayo paṇḍitabrāhmaṇā. Gahapatipaṇḍitāti cittasudattādayo paṇḍitagahapatayo. Samaṇapaṇḍitāti sabhiyapilotikādayo paṇḍitaparibbājakā . Vīmaṃsakāti atthagavesino. Kiṃvādīti kiṃ attano dassanaṃ vadati, kiṃ laddhikoti attho. Kimakkhāyīti kiṃ sāvakānaṃ ovādānusāsaniṃ ācikkhati? Dhammassa cānudhammanti bhagavatā vuttabyākaraṇassa anubyākaraṇaṃ. Sahadhammikoti sakāraṇo. Vādānuvādoti bhagavatā vuttavādassa anuvādo. ‘‘Vādānupāto’’tipi pāṭho, satthu vādassa anupāto anupatanaṃ, anugamananti attho. Imināpi vādaṃ anugato vādoyeva dīpito hoti.
อวิคตราคสฺสาติอาทีสุ ตณฺหาวเสเนว อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ตณฺหา หิ รชฺชนโต ราโค, ฉนฺทิยนโต ฉโนฺท, ปิยายนเฎฺฐน เปมํ, ปิวิตุกามเฎฺฐน ปิปาสา, อนุทหนเฎฺฐน ปริฬาโหติ วุจฺจติฯ อกุสเล จาวุโส, ธเมฺมติอาทิ กสฺมา อารทฺธํ? ปญฺจสุ ขเนฺธสุ อวีตราคสฺส อาทีนวํ , วีตราคสฺส จ อานิสํสํ ทเสฺสตุํฯ ตตฺร อวิฆาโตติ นิทฺทุโกฺขฯ อนุปายาโสติ นิรุปตาโปฯ อปริฬาโหติ นิทฺทาโหฯ เอวํ สพฺพตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ทุติยํฯ
Avigatarāgassātiādīsu taṇhāvaseneva attho veditabbo. Taṇhā hi rajjanato rāgo, chandiyanato chando, piyāyanaṭṭhena pemaṃ, pivitukāmaṭṭhena pipāsā, anudahanaṭṭhena pariḷāhoti vuccati. Akusale cāvuso, dhammetiādi kasmā āraddhaṃ? Pañcasu khandhesu avītarāgassa ādīnavaṃ , vītarāgassa ca ānisaṃsaṃ dassetuṃ. Tatra avighātoti niddukkho. Anupāyāsoti nirupatāpo. Apariḷāhoti niddāho. Evaṃ sabbattha attho veditabbo. Dutiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. เทวทหสุตฺตํ • 2. Devadahasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. เทวทหสุตฺตวณฺณนา • 2. Devadahasuttavaṇṇanā