Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
เทวทตฺตวตฺถุ
Devadattavatthu
๓๓๓. อถ โข ภควา อนุปิยายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน โกสมฺพี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน โกสมฺพี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ อถ โข เทวทตฺตสฺส รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘‘กํ นุ โข อหํ ปสาเทยฺยํ, ยสฺมิํ เม ปสเนฺน พหุลาภสกฺกาโร อุปฺปเชฺชยฺยา’’ติ? อถ โข เทวทตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อชาตสตฺตุ กุมาโร ตรุโณ เจว อายติํ ภโทฺท จฯ ยํนูนาหํ อชาตสตฺตุํ กุมารํ ปสาเทยฺยํฯ ตสฺมิํ เม ปสเนฺน พหุลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติฯ
333. Atha kho bhagavā anupiyāyaṃ yathābhirantaṃ viharitvā yena kosambī tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena kosambī tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā kosambiyaṃ viharati ghositārāme. Atha kho devadattassa rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘‘kaṃ nu kho ahaṃ pasādeyyaṃ, yasmiṃ me pasanne bahulābhasakkāro uppajjeyyā’’ti? Atha kho devadattassa etadahosi – ‘‘ayaṃ kho ajātasattu kumāro taruṇo ceva āyatiṃ bhaddo ca. Yaṃnūnāhaṃ ajātasattuṃ kumāraṃ pasādeyyaṃ. Tasmiṃ me pasanne bahulābhasakkāro uppajjissatī’’ti.
อถ โข เทวทโตฺต เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน เยน ราชคหํ ตทวสริฯ อถ โข เทวทโตฺต สกวณฺณํ ปฎิสํหริตฺวา กุมารกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา อหิเมขลิกาย อชาตสตฺตุสฺส กุมารสฺส อุจฺฉเงฺค 1 ปาตุรโหสิฯ อถ โข อชาตสตฺตุ กุมาโร ภีโต อโหสิ, อุพฺพิโคฺค อุสฺสงฺกี อุตฺรโสฺตฯ อถ โข เทวทโตฺต อชาตสตฺตุํ กุมารํ เอตทโวจ – ‘‘ภายสิ มํ ตฺวํ กุมารา’’ติ? ‘‘อาม, ภายามิฯ โกสิ ตฺว’’นฺติ? ‘‘อหํ เทวทโตฺต’’ติฯ ‘‘สเจ โข ตฺวํ, ภเนฺต, อโยฺย เทวทโตฺต, อิงฺฆ สเกเนว วเณฺณน ปาตุภวสฺสู’’ติฯ อถ โข เทวทโตฺต กุมารกวณฺณํ ปฎิสํหริตฺวา สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธโร อชาตสตฺตุสฺส กุมารสฺส ปุรโต อฎฺฐาสิฯ อถ โข อชาตสตฺตุ กุมาโร เทวทตฺตสฺส อิมินา อิทฺธิปาฎิหาริเยน อภิปฺปสโนฺน ปญฺจหิ รถสเตหิ สายํ ปาตํ อุปฎฺฐานํ คจฺฉติ, ปญฺจ จ ถาลิปากสตานิ ภตฺตาภิหาโร อภิหรียติฯ อถ โข เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลเกน อภิภูตสฺส ปริยาทินฺนจิตฺตสฺส เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติ ฯ สห จิตฺตุปฺปาทาว เทวทโตฺต ตสฺสา อิทฺธิยา ปริหายิฯ
Atha kho devadatto senāsanaṃ saṃsāmetvā pattacīvaramādāya yena rājagahaṃ tena pakkāmi. Anupubbena yena rājagahaṃ tadavasari. Atha kho devadatto sakavaṇṇaṃ paṭisaṃharitvā kumārakavaṇṇaṃ abhinimminitvā ahimekhalikāya ajātasattussa kumārassa ucchaṅge 2 pāturahosi. Atha kho ajātasattu kumāro bhīto ahosi, ubbiggo ussaṅkī utrasto. Atha kho devadatto ajātasattuṃ kumāraṃ etadavoca – ‘‘bhāyasi maṃ tvaṃ kumārā’’ti? ‘‘Āma, bhāyāmi. Kosi tva’’nti? ‘‘Ahaṃ devadatto’’ti. ‘‘Sace kho tvaṃ, bhante, ayyo devadatto, iṅgha sakeneva vaṇṇena pātubhavassū’’ti. Atha kho devadatto kumārakavaṇṇaṃ paṭisaṃharitvā saṅghāṭipattacīvaradharo ajātasattussa kumārassa purato aṭṭhāsi. Atha kho ajātasattu kumāro devadattassa iminā iddhipāṭihāriyena abhippasanno pañcahi rathasatehi sāyaṃ pātaṃ upaṭṭhānaṃ gacchati, pañca ca thālipākasatāni bhattābhihāro abhiharīyati. Atha kho devadattassa lābhasakkārasilokena abhibhūtassa pariyādinnacittassa evarūpaṃ icchāgataṃ uppajji – ‘‘ahaṃ bhikkhusaṅghaṃ pariharissāmī’’ti . Saha cittuppādāva devadatto tassā iddhiyā parihāyi.
3 เตน โข ปน สมเยน กกุโธ นาม โกฬิยปุโตฺต, อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส อุปฎฺฐาโก, อธุนา กาลงฺกโต อญฺญตรํ มโนมยํ กายํ อุปปโนฺนฯ ตสฺส เอวรูโป อตฺตภาวปฺปฎิลาโภ โหติ – เสยฺยถาปิ นาม เทฺว วา ตีณิ วา มาคธกานิ 4 คามเกฺขตฺตานิฯ โส เตน อตฺตภาวปฺปฎิลาเภน เนว อตฺตานํ น ปรํ พฺยาพาเธติฯ อถ โข กกุโธ เทวปุโตฺต เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข กกุโธ เทวปุโตฺต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘เทวทตฺตสฺส, ภเนฺต, ลาภสกฺการสิโลเกน อภิภูตสฺส ปริยาทินฺนจิตฺตสฺส 5 เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – ‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’ติฯ สห จิตฺตุปฺปาทาว ภเนฺต, เทวทโตฺต ตสฺสา อิทฺธิยา ปริหีโน’’ติฯ อิทมโวจ กกุโธ เทวปุโตฺตฯ อิทํ วตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตเตฺถว อนฺตรธายิฯ
6 Tena kho pana samayena kakudho nāma koḷiyaputto, āyasmato mahāmoggallānassa upaṭṭhāko, adhunā kālaṅkato aññataraṃ manomayaṃ kāyaṃ upapanno. Tassa evarūpo attabhāvappaṭilābho hoti – seyyathāpi nāma dve vā tīṇi vā māgadhakāni 7 gāmakkhettāni. So tena attabhāvappaṭilābhena neva attānaṃ na paraṃ byābādheti. Atha kho kakudho devaputto yenāyasmā mahāmoggallāno tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhito kho kakudho devaputto āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ etadavoca – ‘‘devadattassa, bhante, lābhasakkārasilokena abhibhūtassa pariyādinnacittassa 8 evarūpaṃ icchāgataṃ uppajji – ‘ahaṃ bhikkhusaṅghaṃ pariharissāmī’ti. Saha cittuppādāva bhante, devadatto tassā iddhiyā parihīno’’ti. Idamavoca kakudho devaputto. Idaṃ vatvā āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā tattheva antaradhāyi.
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ , อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ ฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กกุโธ นาม, ภเนฺต, โกฬิยปุโตฺต มม อุปฎฺฐาโก อธุนา กาลงฺกโต อญฺญตรํ มโนมยํ กายํ อุปปโนฺนฯ ตสฺส เอวรูโป อตฺตภาวปฺปฎิลาโภ – เสยฺยถาปิ นาม เทฺว วา ตีณิ วา มาคธกานิ คามเกฺขตฺตานิฯ โส เตน อตฺตภาวปฺปฎิลาเภน เนว อตฺตานํ น ปรํ พฺยาพาเธติฯ อถ โข, ภเนฺต, กกุโธ เทวปุโตฺต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข, ภเนฺต, กกุโธ เทวปุโตฺต มํ เอตทโวจ – ‘เทวทตฺตสฺส, ภเนฺต, ลาภสกฺการสิโลเกน อภิภูตสฺส ปริยาทินฺนจิตฺตสฺส เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามีติฯ สห จิตฺตุปฺปาทาว ภเนฺต, เทวทโตฺต ตสฺสา อิทฺธิยา ปริหีโน’ติฯ อิทมโวจ, ภเนฺต, กกุโธ เทวปุโตฺตฯ อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตเตฺถว อนฺตรธายี’’ติฯ
Atha kho āyasmā mahāmoggallāno yena bhagavā tenupasaṅkami , upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi . Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā mahāmoggallāno bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘kakudho nāma, bhante, koḷiyaputto mama upaṭṭhāko adhunā kālaṅkato aññataraṃ manomayaṃ kāyaṃ upapanno. Tassa evarūpo attabhāvappaṭilābho – seyyathāpi nāma dve vā tīṇi vā māgadhakāni gāmakkhettāni. So tena attabhāvappaṭilābhena neva attānaṃ na paraṃ byābādheti. Atha kho, bhante, kakudho devaputto yenāhaṃ tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā maṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhito kho, bhante, kakudho devaputto maṃ etadavoca – ‘devadattassa, bhante, lābhasakkārasilokena abhibhūtassa pariyādinnacittassa evarūpaṃ icchāgataṃ uppajji – ahaṃ bhikkhusaṅghaṃ pariharissāmīti. Saha cittuppādāva bhante, devadatto tassā iddhiyā parihīno’ti. Idamavoca, bhante, kakudho devaputto. Idaṃ vatvā maṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā tattheva antaradhāyī’’ti.
‘‘กิํ ปน เต, โมคฺคลฺลาน, กกุโธ เทวปุโตฺต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต? ยํ กิญฺจิ กกุโธ เทวปุโตฺต ภาสติ สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ, โน อญฺญถา’’ติ? ‘‘เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต จ เม, ภเนฺต, กกุโธ เทวปุโตฺตฯ ยํ กิญฺจิ กกุโธ เทวปุโตฺต ภาสติ สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ, โน อญฺญถา’’ติฯ ‘‘รกฺขเสฺสตํ, โมคฺคลฺลาน, วาจํฯ รกฺขเสฺสตํ, โมคฺคลฺลาน, วาจํฯ อิทานิ โส โมฆปุริโส อตฺตนาว อตฺตานํ ปาตุกริสฺสติฯ
‘‘Kiṃ pana te, moggallāna, kakudho devaputto cetasā ceto paricca vidito? Yaṃ kiñci kakudho devaputto bhāsati sabbaṃ taṃ tatheva hoti, no aññathā’’ti? ‘‘Cetasā ceto paricca vidito ca me, bhante, kakudho devaputto. Yaṃ kiñci kakudho devaputto bhāsati sabbaṃ taṃ tatheva hoti, no aññathā’’ti. ‘‘Rakkhassetaṃ, moggallāna, vācaṃ. Rakkhassetaṃ, moggallāna, vācaṃ. Idāni so moghapuriso attanāva attānaṃ pātukarissati.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ฉสกฺยปพฺพชฺชากถา • Chasakyapabbajjākathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาวณฺณนา • Chasakyapabbajjākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาวณฺณนา • Chasakyapabbajjākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาทิวณฺณนา • Chasakyapabbajjākathādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ฉสกฺยปพฺพชฺชากถา • Chasakyapabbajjākathā