Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๓. เทวหิตสุตฺตวณฺณนา
3. Devahitasuttavaṇṇanā
๑๙๙. ตติเย วาเตหีติ อุทรวาเตหิฯ ภควโต กิร ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กโรนฺตสฺส ปสตมุคฺคยูสาทีนิ อาหารยโต ทุโพฺภชเนน เจว ทุกฺขเสยฺยาย จ อุทรวาโต กุปฺปิฯ อปรภาเค สโมฺพธิํ ปตฺวา ปณีตโภชนํ ภุญฺชนฺตสฺสาปิ อนฺตรนฺตรา โส อาพาโธ อตฺตานํ ทเสฺสติเยวฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ อุปฎฺฐาโก โหตีติ ปฐมโพธิยํ อนิพทฺธุปฎฺฐากกาเล อุปฎฺฐาโก โหติฯ ตสฺมิํ กิร กาเล สตฺถุอสีติมหาเถเรสุ อุปฎฺฐาโก อภูตปุโพฺพ นาม นตฺถิฯ นาคสมาโล อุปวาโน สุนกฺขโตฺต จุโนฺท สมณุเทฺทโส สาคโต โพธิ เมฆิโยติ อิเม ปน ปาฬิยํ อาคตุปฎฺฐากาฯ อิมสฺมิํ ปน กาเล อุปวานเตฺถโร ปาโตว อุฎฺฐาย ปริเวณสมฺมชฺชนํ ทนฺตกฎฺฐทานํ นฺหาโนทกปริยาทนํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อนุคมนนฺติ สพฺพํ ภควโต อุปฎฺฐานมกาสิฯ อุปสงฺกมีติ ปฐมโพธิยํ กิร วีสติ วสฺสานิ นิทฺธูมํ อรญฺญเมว โหติ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุทกตาปนมฺปิ น ภควตา อนุญฺญาตํฯ โส จ พฺราหฺมโณ อุทฺธนปาฬิํ พนฺธาเปตฺวา มหาจาฎิโย อุทฺธนมาโรเปตฺวา อุโณฺหทกํ กาเรตฺวา, นฺหานียจุณฺณาทีหิ สทฺธิํ ตํ วิกฺกิณโนฺต ชีวิกํ กเปฺปติฯ นฺหายิตุกามา ตตฺถ คนฺตฺวา มูลํ ทตฺวา นฺหายิตฺวา คเนฺธ วิลิมฺปิตฺวา มาลํ ปิฬนฺธิตฺวา ปกฺกมนฺติฯ ตสฺมา เถโร ตตฺถ อุปสงฺกมิฯ
199. Tatiye vātehīti udaravātehi. Bhagavato kira chabbassāni dukkarakārikaṃ karontassa pasatamuggayūsādīni āhārayato dubbhojanena ceva dukkhaseyyāya ca udaravāto kuppi. Aparabhāge sambodhiṃ patvā paṇītabhojanaṃ bhuñjantassāpi antarantarā so ābādho attānaṃ dassetiyeva. Taṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ. Upaṭṭhāko hotīti paṭhamabodhiyaṃ anibaddhupaṭṭhākakāle upaṭṭhāko hoti. Tasmiṃ kira kāle satthuasītimahātheresu upaṭṭhāko abhūtapubbo nāma natthi. Nāgasamālo upavāno sunakkhatto cundo samaṇuddeso sāgato bodhi meghiyoti ime pana pāḷiyaṃ āgatupaṭṭhākā. Imasmiṃ pana kāle upavānatthero pātova uṭṭhāya pariveṇasammajjanaṃ dantakaṭṭhadānaṃ nhānodakapariyādanaṃ pattacīvaraṃ gahetvā anugamananti sabbaṃ bhagavato upaṭṭhānamakāsi. Upasaṅkamīti paṭhamabodhiyaṃ kira vīsati vassāni niddhūmaṃ araññameva hoti, bhikkhusaṅghassa udakatāpanampi na bhagavatā anuññātaṃ. So ca brāhmaṇo uddhanapāḷiṃ bandhāpetvā mahācāṭiyo uddhanamāropetvā uṇhodakaṃ kāretvā, nhānīyacuṇṇādīhi saddhiṃ taṃ vikkiṇanto jīvikaṃ kappeti. Nhāyitukāmā tattha gantvā mūlaṃ datvā nhāyitvā gandhe vilimpitvā mālaṃ piḷandhitvā pakkamanti. Tasmā thero tattha upasaṅkami.
กิํ ปตฺถยาโนติ กิํ อิจฺฉโนฺตฯ กิํ เอสนฺติ กิํ คเวสโนฺตฯ ปูชิโต ปูชเนยฺยานนฺติ อิทํ เถโร ทสพลสฺส วณฺณํ กเถตุมารภิฯ คิลานเภสชฺชตฺถํ คเตน กิร คิลานสฺส วโณฺณ กเถตโพฺพติ วตฺตเมตํฯ วณฺณํ หิ สุตฺวา มนุสฺสา สกฺกจฺจํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ มญฺญนฺติฯ สปฺปายเภสชฺชํ ลทฺธา คิลาโน ขิปฺปเมว วุฎฺฐาติฯ กเถเนฺตน จ ฌานวิโมกฺขสมาปตฺติมคฺคผลานิ อารพฺภ กเถตุํ น วฎฺฎติฯ ‘‘สีลวา ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก พหุสฺสุโต อาคมธโร วํสานุรกฺขโก’’ติ เอวํ ปน อาคมนียปฎิปทํเยว กเถตุํ วฎฺฎติฯ ปูชเนยฺยานนฺติ อสีติมหาเถรา สเทวเกน โลเกน ปูเชตพฺพาติ ปูชเนยฺยาฯ เตเยว สกฺกาตพฺพาติ สกฺกเรยฺยาฯ เตสํเยว อปจิติ กตฺตพฺพาติ อปเจยฺยาฯ ภควา เตสํ ปูชิโต สกฺกโต อปจิโต จ, อิจฺจสฺส ตํ คุณํ ปกาเสโนฺต เถโร เอวมาหฯ หาตเวติ หริตุํฯ
Kiṃ patthayānoti kiṃ icchanto. Kiṃ esanti kiṃ gavesanto. Pūjito pūjaneyyānanti idaṃ thero dasabalassa vaṇṇaṃ kathetumārabhi. Gilānabhesajjatthaṃ gatena kira gilānassa vaṇṇo kathetabboti vattametaṃ. Vaṇṇaṃ hi sutvā manussā sakkaccaṃ bhesajjaṃ dātabbaṃ maññanti. Sappāyabhesajjaṃ laddhā gilāno khippameva vuṭṭhāti. Kathentena ca jhānavimokkhasamāpattimaggaphalāni ārabbha kathetuṃ na vaṭṭati. ‘‘Sīlavā lajjī kukkuccako bahussuto āgamadharo vaṃsānurakkhako’’ti evaṃ pana āgamanīyapaṭipadaṃyeva kathetuṃ vaṭṭati. Pūjaneyyānanti asītimahātherā sadevakena lokena pūjetabbāti pūjaneyyā. Teyeva sakkātabbāti sakkareyyā. Tesaṃyeva apaciti kattabbāti apaceyyā. Bhagavā tesaṃ pūjito sakkato apacito ca, iccassa taṃ guṇaṃ pakāsento thero evamāha. Hātaveti harituṃ.
ผาณิตสฺส จ ปุฎนฺติ มหนฺตํ นิจฺฉาริกํ คุฬปิณฺฑํฯ โส กิร ‘‘กิํ สมณสฺส โคตมสฺส อผาสุก’’นฺติ? ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อุทรวาโต’’ติ สุตฺวา, ‘‘เตน หิ มยเมตฺถ เภสชฺชํ ชานาม, อิโต โถเกน อุทเกน อิทํ ผาณิตํ อาโลเฬตฺวา นฺหานปริโยสาเน ปาตุํ เทถ, อิติ อุโณฺหทเกน พหิ ปริเสโท ภวิสฺสติ, อิมินา อโนฺตติ เอวํ สมณสฺส โคตมสฺส ผาสุกํ ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา เถรสฺส ปเตฺต ปกฺขิปิตฺวา อทาสิฯ
Phāṇitassa ca puṭanti mahantaṃ nicchārikaṃ guḷapiṇḍaṃ. So kira ‘‘kiṃ samaṇassa gotamassa aphāsuka’’nti? Pucchitvā, ‘‘udaravāto’’ti sutvā, ‘‘tena hi mayamettha bhesajjaṃ jānāma, ito thokena udakena idaṃ phāṇitaṃ āloḷetvā nhānapariyosāne pātuṃ detha, iti uṇhodakena bahi parisedo bhavissati, iminā antoti evaṃ samaṇassa gotamassa phāsukaṃ bhavissatī’’ti vatvā therassa patte pakkhipitvā adāsi.
อุปสงฺกมีติ ตสฺมิํ กิร อาพาเธ ปฎิปฺปสฺสเทฺธ ‘‘เทวหิเตน ตถาคตสฺส เภสชฺชํ ทินฺนํ, เตเนว โรโค วูปสโนฺต, อโห ทานํ ปรมทานํ พฺราหฺมณสฺสา’’ติ กถา วิตฺถาริตา ชาตาฯ ตํ สุตฺวา กิตฺติกาโม พฺราหฺมโณ ‘‘เอตฺตเกนปิ ตาว เม อยํ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคโต’’ติ โสมนสฺสชาโต อตฺตนา กตภาวํ ชานาเปตุกาโม ตาวตเกเนว ทสพเล วิสฺสาสํ อาปชฺชิตฺวา อุปสงฺกมิฯ
Upasaṅkamīti tasmiṃ kira ābādhe paṭippassaddhe ‘‘devahitena tathāgatassa bhesajjaṃ dinnaṃ, teneva rogo vūpasanto, aho dānaṃ paramadānaṃ brāhmaṇassā’’ti kathā vitthāritā jātā. Taṃ sutvā kittikāmo brāhmaṇo ‘‘ettakenapi tāva me ayaṃ kittisaddo abbhuggato’’ti somanassajāto attanā katabhāvaṃ jānāpetukāmo tāvatakeneva dasabale vissāsaṃ āpajjitvā upasaṅkami.
ทชฺชาติ ทเทยฺยฯ กถํ หิ ยชมานสฺสาติ เกน การเณน ยชนฺตสฺสฯ อิชฺฌตีติ สมิชฺฌติ มหปฺผโล โหติฯ โยเวทีติ โย อเวทิ อญฺญาสิ, วิทิตํ ปากฎมกาสิ ‘‘โยเวตี’’ติปิ ปาโฐ, โย อเวติ ชานาตีติ อโตฺถฯ ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุนา ปสฺสติฯ ชาติกฺขยนฺติ อรหตฺตํฯ อภิญฺญาโวสิโตติ ชานิตฺวา โวสิโต โวสานํ กตกิจฺจตํ ปโตฺตฯ เอวํ หิ ยชมานสฺสาติ อิมินา ขีณาสเว ยชนากาเรน ยชนฺตสฺสฯ ตติยํฯ
Dajjāti dadeyya. Kathaṃ hi yajamānassāti kena kāraṇena yajantassa. Ijjhatīti samijjhati mahapphalo hoti. Yovedīti yo avedi aññāsi, viditaṃ pākaṭamakāsi ‘‘yovetī’’tipi pāṭho, yo aveti jānātīti attho. Passatīti dibbacakkhunā passati. Jātikkhayanti arahattaṃ. Abhiññāvositoti jānitvā vosito vosānaṃ katakiccataṃ patto. Evaṃ hi yajamānassāti iminā khīṇāsave yajanākārena yajantassa. Tatiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. เทวหิตสุตฺตํ • 3. Devahitasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. เทวหิตสุตฺตวณฺณนา • 3. Devahitasuttavaṇṇanā