Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๓. ธชคฺคสุตฺตํ

    3. Dhajaggasuttaṃ

    ๒๔๙. สาวตฺถิยํ ฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ ฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

    249. Sāvatthiyaṃ . Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti . ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –

    ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูโฬฺห อโหสิฯ อถ โข, ภิกฺขเว, สโกฺก เทวานมิโนฺท เทเว ตาวติํเส อามเนฺตสิ –

    ‘‘Bhūtapubbaṃ, bhikkhave, devāsurasaṅgāmo samupabyūḷho ahosi. Atha kho, bhikkhave, sakko devānamindo deve tāvatiṃse āmantesi –

    ‘สเจ, มาริสา, เทวานํ สงฺคามคตานํ อุปฺปเชฺชยฺย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, มเมว ตสฺมิํ สมเย ธชคฺคํ อุโลฺลเกยฺยาถฯ มมญฺหิ โว ธชคฺคํ อุโลฺลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ’ฯ

    ‘Sace, mārisā, devānaṃ saṅgāmagatānaṃ uppajjeyya bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, mameva tasmiṃ samaye dhajaggaṃ ullokeyyātha. Mamañhi vo dhajaggaṃ ullokayataṃ yaṃ bhavissati bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, so pahīyissati’.

    ‘โน เจ เม ธชคฺคํ อุโลฺลเกยฺยาถ, อถ ปชาปติสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลเกยฺยาถฯ ปชาปติสฺส หิ โว เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ’ฯ

    ‘No ce me dhajaggaṃ ullokeyyātha, atha pajāpatissa devarājassa dhajaggaṃ ullokeyyātha. Pajāpatissa hi vo devarājassa dhajaggaṃ ullokayataṃ yaṃ bhavissati bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, so pahīyissati’.

    ‘โน เจ ปชาปติสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลเกยฺยาถ, อถ วรุณสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลเกยฺยาถฯ วรุณสฺส หิ โว เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ’ฯ

    ‘No ce pajāpatissa devarājassa dhajaggaṃ ullokeyyātha, atha varuṇassa devarājassa dhajaggaṃ ullokeyyātha. Varuṇassa hi vo devarājassa dhajaggaṃ ullokayataṃ yaṃ bhavissati bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, so pahīyissati’.

    ‘โน เจ วรุณสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลเกยฺยาถ, อถ อีสานสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลเกยฺยาถฯ อีสานสฺส หิ โว เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสตี’’’ติฯ

    ‘No ce varuṇassa devarājassa dhajaggaṃ ullokeyyātha, atha īsānassa devarājassa dhajaggaṃ ullokeyyātha. Īsānassa hi vo devarājassa dhajaggaṃ ullokayataṃ yaṃ bhavissati bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, so pahīyissatī’’’ti.

    ‘‘ตํ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺกสฺส วา เทวานมินฺทสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลกยตํ, ปชาปติสฺส วา เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลกยตํ, วรุณสฺส วา เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลกยตํ, อีสานสฺส วา เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุโลฺลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหีเยถาปิ โนปิ ปหีเยถ 1

    ‘‘Taṃ kho pana, bhikkhave, sakkassa vā devānamindassa dhajaggaṃ ullokayataṃ, pajāpatissa vā devarājassa dhajaggaṃ ullokayataṃ, varuṇassa vā devarājassa dhajaggaṃ ullokayataṃ, īsānassa vā devarājassa dhajaggaṃ ullokayataṃ yaṃ bhavissati bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, so pahīyethāpi nopi pahīyetha 2.

    ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? สโกฺก หิ, ภิกฺขเว, เทวานมิโนฺท อวีตราโค อวีตโทโส อวีตโมโห ภีรุ ฉมฺภี อุตฺราสี ปลายีติฯ

    ‘‘Taṃ kissa hetu? Sakko hi, bhikkhave, devānamindo avītarāgo avītadoso avītamoho bhīru chambhī utrāsī palāyīti.

    ‘‘อหญฺจ โข, ภิกฺขเว, เอวํ วทามิ – ‘สเจ ตุมฺหากํ, ภิกฺขเว, อรญฺญคตานํ วา รุกฺขมูลคตานํ วา สุญฺญาคารคตานํ วา อุปฺปเชฺชยฺย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, มเมว ตสฺมิํ สมเย อนุสฺสเรยฺยาถ – อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ มมญฺหิ โว, ภิกฺขเว, อนุสฺสรตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติฯ

    ‘‘Ahañca kho, bhikkhave, evaṃ vadāmi – ‘sace tumhākaṃ, bhikkhave, araññagatānaṃ vā rukkhamūlagatānaṃ vā suññāgāragatānaṃ vā uppajjeyya bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, mameva tasmiṃ samaye anussareyyātha – itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. Mamañhi vo, bhikkhave, anussarataṃ yaṃ bhavissati bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, so pahīyissati.

    ‘‘โน เจ มํ อนุสฺสเรยฺยาถ, อถ ธมฺมํ อนุสฺสเรยฺยาถ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธโมฺม สนฺทิฎฺฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตโพฺพ วิญฺญูหี’ติฯ ธมฺมญฺหิ โว, ภิกฺขเว, อนุสฺสรตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติฯ

    ‘‘No ce maṃ anussareyyātha, atha dhammaṃ anussareyyātha – ‘svākkhāto bhagavatā dhammo sandiṭṭhiko akāliko ehipassiko opaneyyiko paccattaṃ veditabbo viññūhī’ti. Dhammañhi vo, bhikkhave, anussarataṃ yaṃ bhavissati bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, so pahīyissati.

    ‘‘โน เจ ธมฺมํ อนุสฺสเรยฺยาถ, อถ สงฺฆํ อนุสฺสเรยฺยาถ – ‘สุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ อุชุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ ญายปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ สามีจิปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฎฺฐ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสโงฺฆ, อาหุเนโยฺย ปาหุเนโยฺย ทกฺขิเณโยฺย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสา’ติฯ สงฺฆญฺหิ โว, ภิกฺขเว, อนุสฺสรตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติฯ

    ‘‘No ce dhammaṃ anussareyyātha, atha saṅghaṃ anussareyyātha – ‘suppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho ujuppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho ñāyappaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho sāmīcippaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho, yadidaṃ cattāri purisayugāni aṭṭha purisapuggalā esa bhagavato sāvakasaṅgho, āhuneyyo pāhuneyyo dakkhiṇeyyo añjalikaraṇīyo anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassā’ti. Saṅghañhi vo, bhikkhave, anussarataṃ yaṃ bhavissati bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā, so pahīyissati.

    ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาคโต หิ, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วีตราโค วีตโทโส วีตโมโห อภีรุ อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี อปลายี’’ติฯ อิทมโวจ ภควาฯ อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

    ‘‘Taṃ kissa hetu? Tathāgato hi, bhikkhave, arahaṃ sammāsambuddho vītarāgo vītadoso vītamoho abhīru acchambhī anutrāsī apalāyī’’ti. Idamavoca bhagavā. Idaṃ vatvāna sugato athāparaṃ etadavoca satthā –

    ‘‘อรเญฺญ รุกฺขมูเล วา, สุญฺญาคาเรว ภิกฺขโว;

    ‘‘Araññe rukkhamūle vā, suññāgāreva bhikkhavo;

    อนุสฺสเรถ 3 สมฺพุทฺธํ, ภยํ ตุมฺหาก โน สิยาฯ

    Anussaretha 4 sambuddhaṃ, bhayaṃ tumhāka no siyā.

    ‘‘โน เจ พุทฺธํ สเรยฺยาถ, โลกเชฎฺฐํ นราสภํ;

    ‘‘No ce buddhaṃ sareyyātha, lokajeṭṭhaṃ narāsabhaṃ;

    อถ ธมฺมํ สเรยฺยาถ, นิยฺยานิกํ สุเทสิตํฯ

    Atha dhammaṃ sareyyātha, niyyānikaṃ sudesitaṃ.

    ‘‘โน เจ ธมฺมํ สเรยฺยาถ, นิยฺยานิกํ สุเทสิตํ;

    ‘‘No ce dhammaṃ sareyyātha, niyyānikaṃ sudesitaṃ;

    อถ สงฺฆํ สเรยฺยาถ, ปุญฺญเกฺขตฺตํ อนุตฺตรํฯ

    Atha saṅghaṃ sareyyātha, puññakkhettaṃ anuttaraṃ.

    ‘‘เอวํ พุทฺธํ สรนฺตานํ, ธมฺมํ สงฺฆญฺจ ภิกฺขโว;

    ‘‘Evaṃ buddhaṃ sarantānaṃ, dhammaṃ saṅghañca bhikkhavo;

    ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา, โลมหํโส น เหสฺสตี’’ติฯ

    Bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā, lomahaṃso na hessatī’’ti.







    Footnotes:
    1. โน ปหีเยถ (ก.)
    2. no pahīyetha (ka.)
    3. อนุสฺสเรยฺยาถ (ก.) ปทสิทฺธิ ปน จิเนฺตตพฺพา
    4. anussareyyātha (ka.) padasiddhi pana cintetabbā



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. ธชคฺคสุตฺตวณฺณนา • 3. Dhajaggasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. ธชคฺคสุตฺตวณฺณนา • 3. Dhajaggasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact