Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi

    ๖. ปฎิสมฺภิทากถา

    6. Paṭisambhidākathā

    ๑. ธมฺมจกฺกปวตฺตนวาโร

    1. Dhammacakkapavattanavāro

    ๓๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเยฯ ตตฺร โข ภควา ปญฺจวคฺคิเย ภิกฺขู อามเนฺตสิ –

    30. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā bārāṇasiyaṃ viharati isipatane migadāye. Tatra kho bhagavā pañcavaggiye bhikkhū āmantesi –

    ‘‘เทฺวเม , ภิกฺขเว, อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพาฯ กตเม เทฺว? โย จายํ กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโค หีโน คโมฺม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต; โย จายํ อตฺตกิลมถานุโยโค ทุโกฺข อนริโย อนตฺถสํหิโตฯ เอเต โข 1, ภิกฺขเว, อุโภ อเนฺต อนุปคมฺม มชฺฌิมา ปฎิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา จกฺขุกรณี ญาณกรณี อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Dveme , bhikkhave, antā pabbajitena na sevitabbā. Katame dve? Yo cāyaṃ kāmesu kāmasukhallikānuyogo hīno gammo pothujjaniko anariyo anatthasaṃhito; yo cāyaṃ attakilamathānuyogo dukkho anariyo anatthasaṃhito. Ete kho 2, bhikkhave, ubho ante anupagamma majjhimā paṭipadā tathāgatena abhisambuddhā cakkhukaraṇī ñāṇakaraṇī upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati.

    ‘‘กตมา จ สา, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฎิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา จกฺขุกรณี ญาณกรณี อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ…เป.… สมฺมาสมาธิฯ อยํ โข สา, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฎิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา จกฺขุกรณี ญาณกรณี อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Katamā ca sā, bhikkhave, majjhimā paṭipadā tathāgatena abhisambuddhā cakkhukaraṇī ñāṇakaraṇī upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati? Ayameva ariyo aṭṭhaṅgiko maggo, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi…pe… sammāsamādhi. Ayaṃ kho sā, bhikkhave, majjhimā paṭipadā tathāgatena abhisambuddhā cakkhukaraṇī ñāṇakaraṇī upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati.

    ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํฯ ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, พฺยาธิปิ ทุโกฺข, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุโกฺข, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุโกฺข, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ; สํขิเตฺตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขาฯ อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ – ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา นนฺทิราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี , เสยฺยถิทํ – กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหาฯ อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ – โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฎินิสฺสโคฺค มุตฺติ อนาลโยฯ อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา อริยสจฺจํ – อยเมว อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ…เป.… สมฺมาสมาธิฯ

    ‘‘Idaṃ kho pana, bhikkhave, dukkhaṃ ariyasaccaṃ. Jātipi dukkhā, jarāpi dukkhā, byādhipi dukkho, maraṇampi dukkhaṃ, appiyehi sampayogo dukkho, piyehi vippayogo dukkho, yampicchaṃ na labhati tampi dukkhaṃ; saṃkhittena pañcupādānakkhandhā dukkhā. Idaṃ kho pana, bhikkhave, dukkhasamudayaṃ ariyasaccaṃ – yāyaṃ taṇhā ponobhavikā nandirāgasahagatā tatratatrābhinandinī , seyyathidaṃ – kāmataṇhā, bhavataṇhā, vibhavataṇhā. Idaṃ kho pana, bhikkhave, dukkhanirodhaṃ ariyasaccaṃ – yo tassāyeva taṇhāya asesavirāganirodho cāgo paṭinissaggo mutti anālayo. Idaṃ kho pana, bhikkhave, dukkhanirodhagāminī paṭipadā ariyasaccaṃ – ayameva ariyo aṭṭhaṅgiko maggo, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi…pe… sammāsamādhi.

    ‘‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจ’นฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิฯ ‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปริเญฺญยฺย’นฺติ เม, ภิกฺขเว…เป.… ปริญฺญาตนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิฯ

    ‘‘‘Idaṃ dukkhaṃ ariyasacca’nti me, bhikkhave, pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi. ‘Taṃ kho panidaṃ dukkhaṃ ariyasaccaṃ pariññeyya’nti me, bhikkhave…pe… pariññātanti me, bhikkhave, pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi.

    ‘‘‘อิทํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจ’นฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิฯ ‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ปหาตพฺพ’นฺติ เม, ภิกฺขเว…เป.… ปหีนนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิฯ

    ‘‘‘Idaṃ dukkhasamudayaṃ ariyasacca’nti me, bhikkhave, pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi. ‘Taṃ kho panidaṃ dukkhasamudayaṃ ariyasaccaṃ pahātabba’nti me, bhikkhave…pe… pahīnanti me, bhikkhave, pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi.

    ‘‘‘อิทํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจ’นฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิฯ ‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ สจฺฉิกาตพฺพ’นฺติ เม, ภิกฺขเว…เป.… สจฺฉิกตนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิฯ

    ‘‘‘Idaṃ dukkhanirodhaṃ ariyasacca’nti me, bhikkhave, pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi. ‘Taṃ kho panidaṃ dukkhanirodhaṃ ariyasaccaṃ sacchikātabba’nti me, bhikkhave…pe… sacchikatanti me, bhikkhave, pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi.

    ‘‘‘อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา อริยสจฺจ’นฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิฯ ‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา อริยสจฺจํ ภาเวตพฺพ’นฺติ เม, ภิกฺขเว…เป.… ภาวิตนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิฯ

    ‘‘‘Idaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā ariyasacca’nti me, bhikkhave, pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi. ‘Taṃ kho panidaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā ariyasaccaṃ bhāvetabba’nti me, bhikkhave…pe… bhāvitanti me, bhikkhave, pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi.

    ‘‘ยาวกีวญฺจ เม, ภิกฺขเว, อิเมสุ จตูสุ อริยสเจฺจสุ เอวํ ติปริวฎฺฎํ ทฺวาทสาการํ ยถาภูตํ ญาณทสฺสนํ น สุวิสุทฺธํ อโหสิ , เนว ตาวาหํ, ภิกฺขเว , สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุโทฺธ’ติ ปจฺจญฺญาสิํฯ ยโต จ โข เม, ภิกฺขเว, อิเมสุ จตูสุ อริยสเจฺจสุ เอวํ ติปริวฎฺฎํ ทฺวาทสาการํ ยถาภูตํ ญาณทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ อโหสิ, อถาหํ, ภิกฺขเว, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุโทฺธ’ติ ปจฺจญฺญาสิํฯ ญาณญฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ – ‘อกุปฺปา เม วิมุตฺติ, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติฯ

    ‘‘Yāvakīvañca me, bhikkhave, imesu catūsu ariyasaccesu evaṃ tiparivaṭṭaṃ dvādasākāraṃ yathābhūtaṃ ñāṇadassanaṃ na suvisuddhaṃ ahosi , neva tāvāhaṃ, bhikkhave , sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya ‘anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambuddho’ti paccaññāsiṃ. Yato ca kho me, bhikkhave, imesu catūsu ariyasaccesu evaṃ tiparivaṭṭaṃ dvādasākāraṃ yathābhūtaṃ ñāṇadassanaṃ suvisuddhaṃ ahosi, athāhaṃ, bhikkhave, sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya ‘anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambuddho’ti paccaññāsiṃ. Ñāṇañca pana me dassanaṃ udapādi – ‘akuppā me vimutti, ayamantimā jāti, natthi dāni punabbhavo’’’ti.

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา ปญฺจวคฺคิยา ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamanā pañcavaggiyā bhikkhū bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti.

    อิมสฺมิญฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมิํ ภญฺญมาเน อายสฺมโต โกณฺฑญฺญสฺส วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติฯ

    Imasmiñca pana veyyākaraṇasmiṃ bhaññamāne āyasmato koṇḍaññassa virajaṃ vītamalaṃ dhammacakkhuṃ udapādi – ‘‘yaṃ kiñci samudayadhammaṃ, sabbaṃ taṃ nirodhadhamma’’nti.

    ปวตฺติเต จ ปน ภควตา ธมฺมจเกฺก ภุมฺมา 3 เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘‘เอตํ ภควตา พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฎิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิ’’นฺติฯ ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกา 4 เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ…เป.… จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา ตาวติํสา เทวา…เป.… ยามา เทวา…เป.… ตุสิตา เทวา…เป.… นิมฺมานรตี เทวา…เป.… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา…เป.… พฺรหฺมกายิกา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘‘เอตํ ภควตา พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฎิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิ’’นฺติฯ

    Pavattite ca pana bhagavatā dhammacakke bhummā 5 devā saddamanussāvesuṃ – ‘‘etaṃ bhagavatā bārāṇasiyaṃ isipatane migadāye anuttaraṃ dhammacakkaṃ pavattitaṃ appaṭivattiyaṃ samaṇena vā brāhmaṇena vā devena vā mārena vā brahmunā vā kenaci vā lokasmi’’nti. Bhummānaṃ devānaṃ saddaṃ sutvā cātumahārājikā 6 devā saddamanussāvesuṃ…pe… cātumahārājikānaṃ devānaṃ saddaṃ sutvā tāvatiṃsā devā…pe… yāmā devā…pe… tusitā devā…pe… nimmānaratī devā…pe… paranimmitavasavattī devā…pe… brahmakāyikā devā saddamanussāvesuṃ – ‘‘etaṃ bhagavatā bārāṇasiyaṃ isipatane migadāye anuttaraṃ dhammacakkaṃ pavattitaṃ appaṭivattiyaṃ samaṇena vā brāhmaṇena vā devena vā mārena vā brahmunā vā kenaci vā lokasmi’’nti.

    อิติห เตน ขเณน เตน ลเยน เตน มุหุเตฺตน ยาว พฺรหฺมโลกา สโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉิฯ อยญฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สํกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ, อปฺปมาโณ จ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุรโหสิ อติกฺกมฺม 7 เทวานํ เทวานุภาวนฺติฯ

    Itiha tena khaṇena tena layena tena muhuttena yāva brahmalokā saddo abbhuggacchi. Ayañca dasasahassī lokadhātu saṃkampi sampakampi sampavedhi, appamāṇo ca uḷāro obhāso loke pāturahosi atikkamma 8 devānaṃ devānubhāvanti.

    อถ โข ภควา อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อญฺญาสิ วต, โภ, โกณฺฑโญฺญ; อญฺญาสิ วต, โภ, โกณฺฑโญฺญ’’ติฯ อิติ หิทํ อายสฺมโต โกณฺฑญฺญสฺส อญฺญาสิโกณฺฑโญฺญ เตฺวว 9 นามํ อโหสิฯ

    Atha kho bhagavā imaṃ udānaṃ udānesi – ‘‘aññāsi vata, bho, koṇḍañño; aññāsi vata, bho, koṇḍañño’’ti. Iti hidaṃ āyasmato koṇḍaññassa aññāsikoṇḍañño tveva 10 nāmaṃ ahosi.

    [ก] ‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจ’นฺติ ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ’’ฯ

    [Ka] ‘idaṃ dukkhaṃ ariyasacca’nti pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi’’.

    จกฺขุํ อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? ญาณํ อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? ปญฺญา อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? วิชฺชา อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? อาโลโก อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? จกฺขุํ อุทปาทีติ – ทสฺสนเฎฺฐนฯ ญาณํ อุทปาทีติ – ญาตเฎฺฐนฯ ปญฺญา อุทปาทีติ – ปชานนเฎฺฐนฯ วิชฺชา อุทปาทีติ – ปฎิเวธเฎฺฐนฯ อาโลโก อุทปาทีติ – โอภาสเฎฺฐนฯ

    Cakkhuṃ udapādīti – kenaṭṭhena? Ñāṇaṃ udapādīti – kenaṭṭhena? Paññā udapādīti – kenaṭṭhena? Vijjā udapādīti – kenaṭṭhena? Āloko udapādīti – kenaṭṭhena? Cakkhuṃ udapādīti – dassanaṭṭhena. Ñāṇaṃ udapādīti – ñātaṭṭhena. Paññā udapādīti – pajānanaṭṭhena. Vijjā udapādīti – paṭivedhaṭṭhena. Āloko udapādīti – obhāsaṭṭhena.

    จกฺขุํ ธโมฺม, ญาณํ ธโมฺม, ปญฺญา ธโมฺม, วิชฺชา ธโมฺม, อาโลโก ธโมฺมฯ อิเม ปญฺจ ธมฺมา ธมฺมปฎิสมฺภิทาย อารมฺมณา เจว โหนฺติ โคจรา จฯ เย ตสฺสา อารมฺมณา เต ตสฺสา โคจราฯ เย ตสฺสา โคจรา เต ตสฺสา อารมฺมณาฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ธเมฺมสุ ญาณํ ธมฺมปฎิสมฺภิทา’’ฯ

    Cakkhuṃ dhammo, ñāṇaṃ dhammo, paññā dhammo, vijjā dhammo, āloko dhammo. Ime pañca dhammā dhammapaṭisambhidāya ārammaṇā ceva honti gocarā ca. Ye tassā ārammaṇā te tassā gocarā. Ye tassā gocarā te tassā ārammaṇā. Tena vuccati – ‘‘dhammesu ñāṇaṃ dhammapaṭisambhidā’’.

    ทสฺสนโฎฺฐ อโตฺถ, ญาตโฎฺฐ อโตฺถ, ปชานนโฎฺฐ อโตฺถ, ปฎิเวธโฎฺฐ อโตฺถ, โอภาสโฎฺฐ อโตฺถฯ อิเม ปญฺจ อตฺถา อตฺถปฎิสมฺภิทาย อารมฺมณา เจว โหนฺติ โคจรา จฯ เย ตสฺสา อารมฺมณา เต ตสฺสา โคจราฯ เย ตสฺสา โคจรา เต ตสฺสา อารมฺมณาฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘อเตฺถสุ ญาณํ อตฺถปฎิสมฺภิทา’’ฯ

    Dassanaṭṭho attho, ñātaṭṭho attho, pajānanaṭṭho attho, paṭivedhaṭṭho attho, obhāsaṭṭho attho. Ime pañca atthā atthapaṭisambhidāya ārammaṇā ceva honti gocarā ca. Ye tassā ārammaṇā te tassā gocarā. Ye tassā gocarā te tassā ārammaṇā. Tena vuccati – ‘‘atthesu ñāṇaṃ atthapaṭisambhidā’’.

    ปญฺจ ธเมฺม สนฺทเสฺสตุํ พฺยญฺชนนิรุตฺตาภิลาปา, ปญฺจ อเตฺถ สนฺทเสฺสตุํ พฺยญฺชนนิรุตฺตาภิลาปาฯ อิมา ทส นิรุตฺติยา นิรุตฺติปฎิสมฺภิทาย อารมฺมณา เจว โหนฺติ โคจรา จฯ เย ตสฺสา อารมฺมณา เต ตสฺสา โคจราฯ เย ตสฺสา โคจรา เต ตสฺสา อารมฺมณาฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘นิรุตฺตีสุ ญาณํ นิรุตฺติปฎิสมฺภิทา’’ฯ

    Pañca dhamme sandassetuṃ byañjananiruttābhilāpā, pañca atthe sandassetuṃ byañjananiruttābhilāpā. Imā dasa niruttiyā niruttipaṭisambhidāya ārammaṇā ceva honti gocarā ca. Ye tassā ārammaṇā te tassā gocarā. Ye tassā gocarā te tassā ārammaṇā. Tena vuccati – ‘‘niruttīsu ñāṇaṃ niruttipaṭisambhidā’’.

    ปญฺจสุ ธเมฺมสุ ญาณานิ, ปญฺจสุ อเตฺถสุ ญาณานิ, ทสสุ นิรุตฺตีสุ ญาณานิฯ อิมานิ วีสติ ญาณานิ ปฎิภานปฎิสมฺภิทาย อารมฺมณา เจว โหนฺติ โคจรา จฯ เย ตสฺสา อารมฺมณา เต ตสฺสา โคจราฯ เย ตสฺสา โคจรา เต ตสฺสา อารมฺมณาฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ปฎิภาเนสุ ญาณํ ปฎิภานปฎิสมฺภิทา’’ฯ

    Pañcasu dhammesu ñāṇāni, pañcasu atthesu ñāṇāni, dasasu niruttīsu ñāṇāni. Imāni vīsati ñāṇāni paṭibhānapaṭisambhidāya ārammaṇā ceva honti gocarā ca. Ye tassā ārammaṇā te tassā gocarā. Ye tassā gocarā te tassā ārammaṇā. Tena vuccati – ‘‘paṭibhānesu ñāṇaṃ paṭibhānapaṭisambhidā’’.

    ‘‘‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปริเญฺญยฺย’นฺติ…เป.… ปริญฺญาตนฺติ ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, ญาณํ อุทปาทิ, ปญฺญา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ’’ฯ

    ‘‘‘Taṃ kho panidaṃ dukkhaṃ ariyasaccaṃ pariññeyya’nti…pe… pariññātanti pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi, ñāṇaṃ udapādi, paññā udapādi, vijjā udapādi, āloko udapādi’’.

    จกฺขุํ อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? ญาณํ อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? ปญฺญา อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? วิชฺชา อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? อาโลโก อุทปาทีติ – เกนเฎฺฐน? จกฺขุํ อุทปาทีติ – ทสฺสนเฎฺฐนฯ ญาณํ อุทปาทีติ – ญาตเฎฺฐนฯ ปญฺญา อุทปาทีติ – ปชานนเฎฺฐนฯ วิชฺชา อุทปาทีติ – ปฎิเวธเฎฺฐนฯ อาโลโก อุทปาทีติ – โอภาสเฎฺฐนฯ

    Cakkhuṃ udapādīti – kenaṭṭhena? Ñāṇaṃ udapādīti – kenaṭṭhena? Paññā udapādīti – kenaṭṭhena? Vijjā udapādīti – kenaṭṭhena? Āloko udapādīti – kenaṭṭhena? Cakkhuṃ udapādīti – dassanaṭṭhena. Ñāṇaṃ udapādīti – ñātaṭṭhena. Paññā udapādīti – pajānanaṭṭhena. Vijjā udapādīti – paṭivedhaṭṭhena. Āloko udapādīti – obhāsaṭṭhena.

    จกฺขุํ ธโมฺม, ญาณํ ธโมฺม, ปญฺญา ธโมฺม, วิชฺชา ธโมฺม, อาโลโก ธโมฺมฯ อิเม ปญฺจ ธมฺมา ธมฺมปฎิสมฺภิทาย อารมฺมณา เจว โหนฺติ โคจรา จ ฯ เย ตสฺสา อารมฺมณา เต ตสฺสา โคจราฯ เย ตสฺสา โคจรา เต ตสฺสา อารมฺมณาฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ธเมฺมสุ ญาณํ ธมฺมปฎิสมฺภิทา’’ฯ

    Cakkhuṃ dhammo, ñāṇaṃ dhammo, paññā dhammo, vijjā dhammo, āloko dhammo. Ime pañca dhammā dhammapaṭisambhidāya ārammaṇā ceva honti gocarā ca . Ye tassā ārammaṇā te tassā gocarā. Ye tassā gocarā te tassā ārammaṇā. Tena vuccati – ‘‘dhammesu ñāṇaṃ dhammapaṭisambhidā’’.

    ทสฺสนโฎฺฐ อโตฺถ, ญาตโฎฺฐ อโตฺถ, ปชานนโฎฺฐ อโตฺถ, ปฎิเวธโฎฺฐ อโตฺถ, โอภาสโฎฺฐ อโตฺถฯ อิเม ปญฺจ อตฺถา อตฺถปฎิสมฺภิทาย อารมฺมณา เจว โหนฺติ โคจรา จฯ เย ตสฺสา อารมฺมณา เต ตสฺสา โคจราฯ เย ตสฺสา โคจรา เต ตสฺสา อารมฺมณาฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘อเตฺถสุ ญาณํ อตฺถปฎิสมฺภิทา’’ฯ

    Dassanaṭṭho attho, ñātaṭṭho attho, pajānanaṭṭho attho, paṭivedhaṭṭho attho, obhāsaṭṭho attho. Ime pañca atthā atthapaṭisambhidāya ārammaṇā ceva honti gocarā ca. Ye tassā ārammaṇā te tassā gocarā. Ye tassā gocarā te tassā ārammaṇā. Tena vuccati – ‘‘atthesu ñāṇaṃ atthapaṭisambhidā’’.

    ปญฺจ ธเมฺม สนฺทเสฺสตุํ พฺยญฺชนนิรุตฺตาภิลาปา, ปญฺจ อเตฺถ สนฺทเสฺสตุํ พฺยญฺชนนิรุตฺตาภิลาปาฯ อิมา ทส นิรุตฺติโย นิรุตฺติปฎิสมฺภิทาย อารมฺมณา เจว โหนฺติ โคจรา จฯ เย ตสฺสา อารมฺมณา เต ตสฺสา โคจราฯ เย ตสฺสา โคจรา เต ตสฺสา อารมฺมณาฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘นิรุตฺตีสุ ญาณํ นิรุตฺติปฎิสมฺภิทา’’ฯ

    Pañca dhamme sandassetuṃ byañjananiruttābhilāpā, pañca atthe sandassetuṃ byañjananiruttābhilāpā. Imā dasa niruttiyo niruttipaṭisambhidāya ārammaṇā ceva honti gocarā ca. Ye tassā ārammaṇā te tassā gocarā. Ye tassā gocarā te tassā ārammaṇā. Tena vuccati – ‘‘niruttīsu ñāṇaṃ niruttipaṭisambhidā’’.

    ปญฺจสุ ธเมฺมสุ ญาณานิ, ปญฺจสุ อเตฺถสุ ญาณานิ, ทสสุ นิรุตฺตีสุ ญาณานิฯ อิมานิ วีสติ ญาณานิ ปฎิภานปฎิสมฺภิทาย อารมฺมณา เจว โหนฺติ โคจรา จฯ เย ตสฺสา อารมฺมณา เต ตสฺสา โคจราฯ เย ตสฺสา โคจรา เต ตสฺสา อารมฺมณาฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ปฎิภาเนสุ ญาณํ ปฎิภานปฎิสมฺภิทา’’ฯ

    Pañcasu dhammesu ñāṇāni, pañcasu atthesu ñāṇāni, dasasu niruttīsu ñāṇāni. Imāni vīsati ñāṇāni paṭibhānapaṭisambhidāya ārammaṇā ceva honti gocarā ca. Ye tassā ārammaṇā te tassā gocarā. Ye tassā gocarā te tassā ārammaṇā. Tena vuccati – ‘‘paṭibhānesu ñāṇaṃ paṭibhānapaṭisambhidā’’.

    ทุเกฺข อริยสเจฺจ ปนฺนรส ธมฺมา, ปนฺนรส อตฺถา, ติํส นิรุตฺติโย, สฎฺฐิ ญาณานิฯ

    Dukkhe ariyasacce pannarasa dhammā, pannarasa atthā, tiṃsa niruttiyo, saṭṭhi ñāṇāni.

    [ข] ‘‘‘อิทํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจ’นฺติ ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ…เป.… อาโลโก อุทปาทิฯ ‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ปหาตพฺพ’นฺติ…เป.… ปหีนนฺติ ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ…เป. … อาโลโก อุทปาทิ…เป.…’’ฯ

    [Kha] ‘‘‘idaṃ dukkhasamudayaṃ ariyasacca’nti pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi…pe… āloko udapādi. ‘Taṃ kho panidaṃ dukkhasamudayaṃ ariyasaccaṃ pahātabba’nti…pe… pahīnanti pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi…pe. … āloko udapādi…pe…’’.

    ทุกฺขสมุทเย อริยสเจฺจ ปนฺนรส ธมฺมา, ปนฺนรส อตฺถา, ติํส นิรุตฺติโย, สฎฺฐิ ญาณานิฯ

    Dukkhasamudaye ariyasacce pannarasa dhammā, pannarasa atthā, tiṃsa niruttiyo, saṭṭhi ñāṇāni.

    [ค] ‘‘‘อิทํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจ’นฺติ ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ…เป.… อาโลโก อุทปาทิฯ ‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ สจฺฉิกาตพฺพ’นฺติ…เป.… สจฺฉิกตนฺติ ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ…เป.… อาโลโก อุทปาทิ…เป.…’’ฯ

    [Ga] ‘‘‘idaṃ dukkhanirodhaṃ ariyasacca’nti pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi…pe… āloko udapādi. ‘Taṃ kho panidaṃ dukkhanirodhaṃ ariyasaccaṃ sacchikātabba’nti…pe… sacchikatanti pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi…pe… āloko udapādi…pe…’’.

    ทุกฺขนิโรเธ อริยสเจฺจ ปนฺนรส ธมฺมา, ปนฺนรส อตฺถา, ติํส นิรุตฺติโย, สฎฺฐิ ญาณานิฯ

    Dukkhanirodhe ariyasacce pannarasa dhammā, pannarasa atthā, tiṃsa niruttiyo, saṭṭhi ñāṇāni.

    [ฆ] ‘‘‘อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา อริยสจฺจ’นฺติ ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ…เป.… อาโลโก อุทปาทิฯ ‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา อริยสจฺจํ ภาเวตพฺพ’นฺติ…เป.… ภาวิตนฺติ ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ…เป.… อาโลโก อุทปาทิ…เป.…’’ฯ

    [Gha] ‘‘‘idaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā ariyasacca’nti pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi…pe… āloko udapādi. ‘Taṃ kho panidaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā ariyasaccaṃ bhāvetabba’nti…pe… bhāvitanti pubbe ananussutesu dhammesu cakkhuṃ udapādi…pe… āloko udapādi…pe…’’.

    ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฎิปทาย อริยสเจฺจ ปนฺนรส ธมฺมา, ปนฺนรส อตฺถา, ติํส นิรุตฺติโย, สฎฺฐิ ญาณานิฯ

    Dukkhanirodhagāminiyā paṭipadāya ariyasacce pannarasa dhammā, pannarasa atthā, tiṃsa niruttiyo, saṭṭhi ñāṇāni.

    จตูสุ อริยสเจฺจสุ สฎฺฐิ ธมฺมา, สฎฺฐิ อตฺถา, วีสติสตนิรุตฺติโย, จตฺตาลีสญฺจ เทฺว จ ญาณสตานิฯ

    Catūsu ariyasaccesu saṭṭhi dhammā, saṭṭhi atthā, vīsatisataniruttiyo, cattālīsañca dve ca ñāṇasatāni.







    Footnotes:
    1. เอเต เต (สฺยา. ก. สี. อฎฺฐ.) สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓ ปสฺสิตพฺพา
    2. ete te (syā. ka. sī. aṭṭha.) saṃ. ni. 5.1081; mahāva. 13 passitabbā
    3. ภูมา (ก.)
    4. จาตุมฺมหาราชิกา (สฺยา.)
    5. bhūmā (ka.)
    6. cātummahārājikā (syā.)
    7. อติกฺกเมฺมว (สฺยา. ก.) สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑ ปสฺสิตพฺพา
    8. atikkammeva (syā. ka.) saṃ. ni. 5.1081 passitabbā
    9. อญฺญาโกณฺฑโญฺญเตฺวว (สฺยา.)
    10. aññākoṇḍaññotveva (syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā / ๑. ธมฺมจกฺกปวตฺตนวารวณฺณนา • 1. Dhammacakkapavattanavāravaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact