Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / พุทฺธวํส-อฎฺฐกถา • Buddhavaṃsa-aṭṭhakathā |
๑๗. ธมฺมทสฺสีพุทฺธวํสวณฺณนา
17. Dhammadassībuddhavaṃsavaṇṇanā
อตฺถทสฺสิมฺหิ สมฺมาสมฺพุเทฺธ ปรินิพฺพุเต อนฺตรกเปฺป จ วีติวเตฺต อปริมิตายุเกสุ สเตฺตสุ อนุปุเพฺพน ปริหายิตฺวา วสฺสสตสหสฺสายุเกสุ ชาเตสุ ธมฺมทสฺสี นาม สตฺถา โลกาโลกกโร โลภาทิโลกมลวินยกโร โลเกกนายโก โลเก อุทปาทิฯ โสปิ ภควา ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา สรณนคเร สพฺพโลกสรณสฺส สรณสฺส นาม รโญฺญ อคฺคมเหสิยา สุนนฺทาย นาม เทวิยา กุจฺฉิสฺมิํ ปฎิสนฺธิํ อคฺคเหสิฯ โส ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน สรณุยฺยาเน มาตุกุจฺฉิโต ปาวุสฺสกาเล สลิลธรวิวรคโต ปุณฺณจโนฺท วิย นิกฺขมิฯ มหาปุริเส ปน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตมเตฺตเยว อธิกรณโวหารสตฺถโปตฺถเกสุ อธมฺมิยา โวหารา สยเมว อนฺตรธายิํสุฯ ธมฺมิกโวหาราเยว อฎฺฐํสุฯ เตนสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘ธมฺมทสฺสี’’ติ นามมกํสุฯ โส อฎฺฐวสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิฯ ตสฺส กิร อรช-วิรช-สุทสฺสนนามกา ตโย ปาสาทา อเหสุํฯ วิจิโกฬิเทวิปฺปมุขานํ อิตฺถีนํ วีสติสหสฺสาธิกํ สตสหสฺสํ อโหสิฯ
Atthadassimhi sammāsambuddhe parinibbute antarakappe ca vītivatte aparimitāyukesu sattesu anupubbena parihāyitvā vassasatasahassāyukesu jātesu dhammadassī nāma satthā lokālokakaro lobhādilokamalavinayakaro lokekanāyako loke udapādi. Sopi bhagavā pāramiyo pūretvā tusitapure nibbattitvā tato cavitvā saraṇanagare sabbalokasaraṇassa saraṇassa nāma rañño aggamahesiyā sunandāya nāma deviyā kucchismiṃ paṭisandhiṃ aggahesi. So dasannaṃ māsānaṃ accayena saraṇuyyāne mātukucchito pāvussakāle saliladharavivaragato puṇṇacando viya nikkhami. Mahāpurise pana mātukucchito nikkhantamatteyeva adhikaraṇavohārasatthapotthakesu adhammiyā vohārā sayameva antaradhāyiṃsu. Dhammikavohārāyeva aṭṭhaṃsu. Tenassa nāmaggahaṇadivase ‘‘dhammadassī’’ti nāmamakaṃsu. So aṭṭhavassasahassāni agāraṃ ajjhāvasi. Tassa kira araja-viraja-sudassananāmakā tayo pāsādā ahesuṃ. Vicikoḷidevippamukhānaṃ itthīnaṃ vīsatisahassādhikaṃ satasahassaṃ ahosi.
โส จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา วิจิโกฬิเทวิยา ปุญฺญวฑฺฒเน นาม ปุเตฺต อุปฺปเนฺน เทวกุมาโร วิย อติวิย สุขุมาโล เทวสมฺปตฺติมิว สมฺปตฺติมนุภวมาโน มชฺฌิมยาเม วุฎฺฐาย สิริสยเน นิสิโนฺน นิโทฺทปคตานํ อิตฺถีนํ วิปฺปการํ ทิสฺวา สญฺชาตสํเวโค มหาภินิกฺขมนาย จิตฺตํ อุปฺปาเทสิฯ จิตฺตุปฺปาทสมนนฺตรเมวสฺส สุทสฺสนปาสาโท คคนตลมพฺภุคฺคนฺตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุโต ทุติโย ทิวสกโร วิย ทิพฺพวิมานํ วิย จ คนฺตฺวา รตฺตกุรวกตรุโพธิสมีเปเยว โอตริตฺวา อฎฺฐาสิฯ มหาปุริโส กิร พฺรหฺมุนา อุปนีตานิ กาสายานิ คเหตฺวา ปพฺพชิตฺวา ปาสาทโต โอตริตฺวา อวิทูเร อฎฺฐาสิฯ ปาสาโท ปุน อากาเสน คนฺตฺวา โพธิรุกฺขํ อโนฺตกตฺวา ปถวิยํ ปติฎฺฐาสิฯ อิตฺถิโยปิ สปริวารา ปาสาทโต โอตริตฺวา อฑฺฒคาวุตมตฺตํ คนฺตฺวา อฎฺฐํสุฯ ตตฺถ อิตฺถิโย จ ตาสํ ปริจาริกา เจฎิกาโย จ ฐเปตฺวา สเพฺพ มนุสฺสา ตํ อนุปพฺพชิํสุฯ ภิกฺขูนํ โกฎิสตสหสฺสํ อโหสิฯ
So cattāri nimittāni disvā vicikoḷideviyā puññavaḍḍhane nāma putte uppanne devakumāro viya ativiya sukhumālo devasampattimiva sampattimanubhavamāno majjhimayāme vuṭṭhāya sirisayane nisinno niddopagatānaṃ itthīnaṃ vippakāraṃ disvā sañjātasaṃvego mahābhinikkhamanāya cittaṃ uppādesi. Cittuppādasamanantaramevassa sudassanapāsādo gaganatalamabbhuggantvā caturaṅginiyā senāya parivuto dutiyo divasakaro viya dibbavimānaṃ viya ca gantvā rattakuravakatarubodhisamīpeyeva otaritvā aṭṭhāsi. Mahāpuriso kira brahmunā upanītāni kāsāyāni gahetvā pabbajitvā pāsādato otaritvā avidūre aṭṭhāsi. Pāsādo puna ākāsena gantvā bodhirukkhaṃ antokatvā pathaviyaṃ patiṭṭhāsi. Itthiyopi saparivārā pāsādato otaritvā aḍḍhagāvutamattaṃ gantvā aṭṭhaṃsu. Tattha itthiyo ca tāsaṃ paricārikā ceṭikāyo ca ṭhapetvā sabbe manussā taṃ anupabbajiṃsu. Bhikkhūnaṃ koṭisatasahassaṃ ahosi.
อถ ธมฺมทสฺสี โพธิสโตฺต สตฺตาหํ ปธานจริยํ จริตฺวา วิจิโกฬิเทวิยา ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภุญฺชิตฺวา พทรวเน ทิวาวิหารํ กตฺวา สายนฺหสมเย สิริวฑฺฒเนน นาม ยวปาลเกน ทินฺนา อฎฺฐ ติณมุฎฺฐิโย คเหตฺวา พิมฺพิชาลโพธิํ อุปคนฺตฺวา เตปณฺณาสหตฺถวิตฺถตํ ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา ตตฺถ สพฺพญฺญุตญฺญาณํ ปฎิวิชฺฌิตฺวา – ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป.… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวาว โพธิสมีเป สตฺตสตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา กตพฺรหฺมยาจโน อตฺตนา สทฺธิํ ปพฺพชิตสฺส ภิกฺขูนํ โกฎิสตสหสฺสสฺส สทฺธมฺมปฺปฎิเวธสมตฺถตํ ญตฺวา อฎฺฐารสโยชนิกมคฺคํ เอกาเหเนว อิสิปตนํ คนฺตฺวา เตหิ ปริวุโต ตตฺถ ธมฺมจกฺกํ ปวเตฺตสิ, ตทา โกฎิสตสหสฺสานํ ปฐมาภิสมโย อโหสิฯ เตน วุตฺตํ –
Atha dhammadassī bodhisatto sattāhaṃ padhānacariyaṃ caritvā vicikoḷideviyā dinnaṃ madhupāyāsaṃ paribhuñjitvā badaravane divāvihāraṃ katvā sāyanhasamaye sirivaḍḍhanena nāma yavapālakena dinnā aṭṭha tiṇamuṭṭhiyo gahetvā bimbijālabodhiṃ upagantvā tepaṇṇāsahatthavitthataṃ tiṇasantharaṃ santharitvā tattha sabbaññutaññāṇaṃ paṭivijjhitvā – ‘‘anekajātisaṃsāraṃ…pe… taṇhānaṃ khayamajjhagā’’ti udānaṃ udānetvāva bodhisamīpe sattasattāhaṃ vītināmetvā katabrahmayācano attanā saddhiṃ pabbajitassa bhikkhūnaṃ koṭisatasahassassa saddhammappaṭivedhasamatthataṃ ñatvā aṭṭhārasayojanikamaggaṃ ekāheneva isipatanaṃ gantvā tehi parivuto tattha dhammacakkaṃ pavattesi, tadā koṭisatasahassānaṃ paṭhamābhisamayo ahosi. Tena vuttaṃ –
๑.
1.
‘‘ตเตฺถว มณฺฑกปฺปมฺหิ, ธมฺมทสฺสี มหายโส;
‘‘Tattheva maṇḍakappamhi, dhammadassī mahāyaso;
ตมนฺธการํ วิธมิตฺวา, อติโรจติ สเทวเกฯ
Tamandhakāraṃ vidhamitvā, atirocati sadevake.
๒.
2.
‘‘ตสฺสาปิ อตุลเตชสฺส, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน;
‘‘Tassāpi atulatejassa, dhammacakkappavattane;
โกฎิสตสหสฺสานํ, ปฐมาภิสมโย อหู’’ติฯ
Koṭisatasahassānaṃ, paṭhamābhisamayo ahū’’ti.
ตตฺถ ตมนฺธการนฺติ ตมสงฺขาตํ โมหนฺธการนฺติ อโตฺถฯ
Tattha tamandhakāranti tamasaṅkhātaṃ mohandhakāranti attho.
ยทา ปน ตครนามเก นคเร สญฺชโย นาม ราชา กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺมํ เขมโต จ ทิสฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิฯ ตํ นวุติโกฎิโย อนุปพฺพชิํสุฯ เต สเพฺพเยว ปญฺจาภิญฺญาอฎฺฐสมาปตฺติลาภิโน อเหสุํฯ อถ สตฺถา ธมฺมทสฺสี เตสํ อุปนิสฺสยสมฺปตฺติํ ทิสฺวา อากาเสน คนฺตฺวา สญฺชยสฺส ตาปสสฺส อสฺสมปทํ คนฺตฺวา อากาเส ฐตฺวา เตสํ ตาปสานํ อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ เทเสตฺวา ธมฺมจกฺขุํ อุปฺปาเทสิ, โส ทุติโย อภิสมโย อโหสิฯ เตน วุตฺตํ –
Yadā pana tagaranāmake nagare sañjayo nāma rājā kāmesu ādīnavaṃ nekkhammaṃ khemato ca disvā isipabbajjaṃ pabbaji. Taṃ navutikoṭiyo anupabbajiṃsu. Te sabbeyeva pañcābhiññāaṭṭhasamāpattilābhino ahesuṃ. Atha satthā dhammadassī tesaṃ upanissayasampattiṃ disvā ākāsena gantvā sañjayassa tāpasassa assamapadaṃ gantvā ākāse ṭhatvā tesaṃ tāpasānaṃ ajjhāsayānurūpaṃ dhammaṃ desetvā dhammacakkhuṃ uppādesi, so dutiyo abhisamayo ahosi. Tena vuttaṃ –
๓.
3.
‘‘ยทา พุโทฺธ ธมฺมทสฺสี, วิเนสิ สญฺชยํ อิสิํ;
‘‘Yadā buddho dhammadassī, vinesi sañjayaṃ isiṃ;
ตทา นวุติโกฎีนํ, ทุติยาภิสมโย อหู’’ติฯ
Tadā navutikoṭīnaṃ, dutiyābhisamayo ahū’’ti.
ยทา ปน สโกฺก เทวานมิโนฺท ทสพลสฺส ธมฺมํ โสตุกาโม ตํ อุปสงฺกมิ, ตทา อสีติยา โกฎีนํ ตติโย อภิสมโย อโหสิฯ เตน วุตฺตํ –
Yadā pana sakko devānamindo dasabalassa dhammaṃ sotukāmo taṃ upasaṅkami, tadā asītiyā koṭīnaṃ tatiyo abhisamayo ahosi. Tena vuttaṃ –
๔.
4.
‘‘ยทา สโกฺก อุปคญฺฉิ, สปริโส วินายกํ;
‘‘Yadā sakko upagañchi, sapariso vināyakaṃ;
ตทา อสีติโกฎีนํ, ตติยาภิสมโย อหู’’ติฯ
Tadā asītikoṭīnaṃ, tatiyābhisamayo ahū’’ti.
ยทา ปน สรณนคเร เวมาติกภาติกํ ปทุมกุมารํ ผุสฺสเทวกุมารญฺจ สปริวาเร ปพฺพาเชสิ, ตสฺมิํ อโนฺตวเสฺส ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ โกฎิสตสหสฺสานํ มเชฺฌ วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรสิ, โส ปฐโม สนฺนิปาโต อโหสิฯ ปุน ภควโต เทวโลกโต โอโรหเณ สตโกฎีนํ ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิฯ ยทา ปน สุทสฺสนาราเม เตรสนฺนํ ธุตคุณานํ คุเณ อานิสํเส ปกาเสตฺวา หาริตํ นาม มหาสาวกํ เอตทเคฺค ฐเปสิ, ตทา อสีติยา โกฎีนํ มเชฺฌ ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิฯ เตน วุตฺตํ –
Yadā pana saraṇanagare vemātikabhātikaṃ padumakumāraṃ phussadevakumārañca saparivāre pabbājesi, tasmiṃ antovasse pabbajitānaṃ bhikkhūnaṃ koṭisatasahassānaṃ majjhe visuddhipavāraṇaṃ pavāresi, so paṭhamo sannipāto ahosi. Puna bhagavato devalokato orohaṇe satakoṭīnaṃ dutiyo sannipāto ahosi. Yadā pana sudassanārāme terasannaṃ dhutaguṇānaṃ guṇe ānisaṃse pakāsetvā hāritaṃ nāma mahāsāvakaṃ etadagge ṭhapesi, tadā asītiyā koṭīnaṃ majjhe bhagavā pātimokkhaṃ uddisi, so tatiyo sannipāto ahosi. Tena vuttaṃ –
๕.
5.
‘‘ตสฺสาปิ เทวเทวสฺส, สนฺนิปาตา ตโย อหุํ;
‘‘Tassāpi devadevassa, sannipātā tayo ahuṃ;
ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํฯ
Khīṇāsavānaṃ vimalānaṃ, santacittāna tādinaṃ.
๖.
6.
‘‘ยทา พุโทฺธ ธมฺมทสฺสี, สรเณ วสฺสํ อุปาคมิ;
‘‘Yadā buddho dhammadassī, saraṇe vassaṃ upāgami;
ตทา โกฎิสตสหสฺสานํ, ปฐโม อาสิ สมาคโมฯ
Tadā koṭisatasahassānaṃ, paṭhamo āsi samāgamo.
๗.
7.
‘‘ปุนาปรํ ยทา พุโทฺธ, เทวโต เอติ มานุสํ;
‘‘Punāparaṃ yadā buddho, devato eti mānusaṃ;
ตทาปิ สตโกฎีนํ, ทุติโย อาสิ สมาคโมฯ
Tadāpi satakoṭīnaṃ, dutiyo āsi samāgamo.
๘.
8.
‘‘ปุนาปรํ ยทา พุโทฺธ, ปกาเสสิ ธุเต คุเณ;
‘‘Punāparaṃ yadā buddho, pakāsesi dhute guṇe;
ตทา อสีติโกฎีนํ, ตติโย อาสิ สมาคโม’’ติฯ
Tadā asītikoṭīnaṃ, tatiyo āsi samāgamo’’ti.
ตทา อมฺหากํ โพธิสโตฺต สโกฺก เทวราชา หุตฺวา ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทเวหิ ปริวุโต อาคนฺตฺวา ทิเพฺพหิ คนฺธปุปฺผาทีหิ ทิพฺพตุริเยหิ จ ตถาคตํ ปูเชสิฯ โสปิ นํ สตฺถา – ‘‘อนาคเต โคตโม นาม พุโทฺธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิฯ เตน วุตฺตํ –
Tadā amhākaṃ bodhisatto sakko devarājā hutvā dvīsu devalokesu devehi parivuto āgantvā dibbehi gandhapupphādīhi dibbaturiyehi ca tathāgataṃ pūjesi. Sopi naṃ satthā – ‘‘anāgate gotamo nāma buddho bhavissatī’’ti byākāsi. Tena vuttaṃ –
๙.
9.
‘‘อหํ เตน สมเยน, สโกฺก อาสิํ ปุรินฺทโท;
‘‘Ahaṃ tena samayena, sakko āsiṃ purindado;
ทิเพฺพน คนฺธมาเลน, ตุริเยนาภิปูชยิํฯ
Dibbena gandhamālena, turiyenābhipūjayiṃ.
๑๐.
10.
‘‘โสปิ มํ ตทา พฺยากาสิ, เทวมเชฺฌ นิสีทิย;
‘‘Sopi maṃ tadā byākāsi, devamajjhe nisīdiya;
อฎฺฐารเส กปฺปสเต, อยํ พุโทฺธ ภวิสฺสติฯ
Aṭṭhārase kappasate, ayaṃ buddho bhavissati.
๑๑.
11.
‘‘ปธานํ ปทหิตฺวาน…เป.… เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํฯ
‘‘Padhānaṃ padahitvāna…pe… hessāma sammukhā imaṃ.
๑๒.
12.
‘‘ตสฺสาปิ วจนํ สุตฺวา, ภิโยฺย จิตฺตํ ปสาทยิํ;
‘‘Tassāpi vacanaṃ sutvā, bhiyyo cittaṃ pasādayiṃ;
อุตฺตริํ วตมธิฎฺฐาสิํ, ทสปารมิปูริยา’’ติฯ
Uttariṃ vatamadhiṭṭhāsiṃ, dasapāramipūriyā’’ti.
ตสฺส ปน ภควโต สรณํ นาม นครํ อโหสิฯ สรโณ นาม ราชา ปิตา, สุนนฺทา นาม มาตา, ปทุโม จ ผุสฺสเทโว จ เทฺว อคฺคสาวกา, สุเนโตฺต นาม อุปฎฺฐาโก, เขมา จ สพฺพนามา จ เทฺว อคฺคสาวิกา, พิมฺพิชาลรุโกฺข โพธิ, สรีรํ ปนสฺส อสีติหตฺถุเพฺพธํ อโหสิ, อายุ วสฺสสตสหสฺสํ, วิจิโกฬิเทวี นามสฺส อคฺคมเหสี, ปุญฺญวฑฺฒโน นามสฺส ปุโตฺต, ปาสาเทน นิกฺขมิฯ เตน วุตฺตํ –
Tassa pana bhagavato saraṇaṃ nāma nagaraṃ ahosi. Saraṇo nāma rājā pitā, sunandā nāma mātā, padumo ca phussadevo ca dve aggasāvakā, sunetto nāma upaṭṭhāko, khemā ca sabbanāmā ca dve aggasāvikā, bimbijālarukkho bodhi, sarīraṃ panassa asītihatthubbedhaṃ ahosi, āyu vassasatasahassaṃ, vicikoḷidevī nāmassa aggamahesī, puññavaḍḍhano nāmassa putto, pāsādena nikkhami. Tena vuttaṃ –
๑๓.
13.
‘‘สรณํ นาม นครํ, สรโณ นาม ขตฺติโย;
‘‘Saraṇaṃ nāma nagaraṃ, saraṇo nāma khattiyo;
สุนนฺทา นาม ชนิกา, ธมฺมทสฺสิสฺส สตฺถุโนฯ
Sunandā nāma janikā, dhammadassissa satthuno.
๑๘.
18.
‘‘ปทุโม ผุสฺสเทโว จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;
‘‘Padumo phussadevo ca, ahesuṃ aggasāvakā;
สุเนโตฺต นามุปฎฺฐาโก, ธมฺมทสฺสิสฺส สตฺถุโนฯ
Sunetto nāmupaṭṭhāko, dhammadassissa satthuno.
๑๙.
19.
‘‘เขมา จ สพฺพนามา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;
‘‘Khemā ca sabbanāmā ca, ahesuṃ aggasāvikā;
โพธิ ตสฺส ภควโต, พิมฺพิชาโลติ วุจฺจติฯ
Bodhi tassa bhagavato, bimbijāloti vuccati.
๒๑.
21.
‘‘โสปิ พุโทฺธ อสมสโม, อสีติหตฺถมุคฺคโต;
‘‘Sopi buddho asamasamo, asītihatthamuggato;
อติโรจติ เตเชน, ทสสหสฺสิมฺหิ ธาตุยาฯ
Atirocati tejena, dasasahassimhi dhātuyā.
๒๒.
22.
‘‘สุผุโลฺล สาลราชาว, วิชฺชูว คคเน ยถา;
‘‘Suphullo sālarājāva, vijjūva gagane yathā;
มชฺฌนฺหิเกว สูริโย, เอวํ โส อุปโสภถฯ
Majjhanhikeva sūriyo, evaṃ so upasobhatha.
๒๓.
23.
‘‘ตสฺสาปิ อตุลเตชสฺส, สมกํ อาสิ ชีวิกํ;
‘‘Tassāpi atulatejassa, samakaṃ āsi jīvikaṃ;
วสฺสสตสหสฺสานิ, โลเก อฎฺฐาสิ จกฺขุมาฯ
Vassasatasahassāni, loke aṭṭhāsi cakkhumā.
๒๔.
24.
‘‘โอภาสํ ทสฺสยิตฺวาน, วิมลํ กตฺวาน สาสนํ;
‘‘Obhāsaṃ dassayitvāna, vimalaṃ katvāna sāsanaṃ;
จวิ จโนฺทว คคเน, นิพฺพุโต โส สสาวโก’’ติฯ
Cavi candova gagane, nibbuto so sasāvako’’ti.
ตตฺถ พิมฺพิชาโลติ รตฺตกุรวกรุโกฺขฯ ทสสหสฺสิมฺหิ ธาตุยาติ ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยาฯ วิชฺชูวาติ วิชฺชุลตา วิยฯ อุปโสภถาติ ยถา คคเน วิชฺชุ จ มชฺชนฺหิเก สูริโย จ อุปโสภติ, เอวํ โส ภควา อุปโสภิตฺถาติ อโตฺถฯ สมกนฺติ สเพฺพหิ นรสเตฺตหิ สมเมว ตสฺส อายุ อโหสีติ อโตฺถฯ จวีติ จุโตฯ จโนฺทวาติ คคนโต จนฺทิมา วิย จวีติ อโตฺถฯ ธมฺมทสฺสี กิร ภควา สาลวตีนคเร เกสาราเม ปรินิพฺพายิ เสสเมตฺถ คาถาสุ ปากฎเมวาติฯ
Tattha bimbijāloti rattakuravakarukkho. Dasasahassimhi dhātuyāti dasasahassiyā lokadhātuyā. Vijjūvāti vijjulatā viya. Upasobhathāti yathā gagane vijju ca majjanhike sūriyo ca upasobhati, evaṃ so bhagavā upasobhitthāti attho. Samakanti sabbehi narasattehi samameva tassa āyu ahosīti attho. Cavīti cuto. Candovāti gaganato candimā viya cavīti attho. Dhammadassī kira bhagavā sālavatīnagare kesārāme parinibbāyi sesamettha gāthāsu pākaṭamevāti.
ธมฺมทสฺสีพุทฺธวํสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dhammadassībuddhavaṃsavaṇṇanā niṭṭhitā.
นิฎฺฐิโต ปนฺนรสโม พุทฺธวํโสฯ
Niṭṭhito pannarasamo buddhavaṃso.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / พุทฺธวํสปาฬิ • Buddhavaṃsapāḷi / ๑๗. ธมฺมทสฺสีพุทฺธวํโส • 17. Dhammadassībuddhavaṃso