Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā

    ๑๙. ธมฺมนานตฺตญาณนิเทฺทสวณฺณนา

    19. Dhammanānattañāṇaniddesavaṇṇanā

    ๗๓. ธมฺมนานตฺตญาณนิเทฺทเส กมฺมปเถติ กมฺมานิ จ ตานิ ปถา จ อปายคมนายาติ กมฺมปถา, เต กมฺมปเถฯ ทส กุสลกมฺมปถา นาม ปาณาติปาตา อทินฺนาทานา กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณีติ ตีณิ กายสุจริตานิ, มุสาวาทา ปิสุณาย วาจาย ผรุสาย วาจาย สมฺผปฺปลาปา เวรมณีติ จตฺตาริ วจีสุจริตานิ, อนภิชฺฌา อพฺยาปาโท สมฺมาทิฎฺฐีติ ตีณิ มโนสุจริตานิฯ ทส อกุสลกมฺมปถา นาม ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุมิจฺฉาจาโรติ ตีณิ กายทุจฺจริตานิ, มุสาวาโท ปิสุณา วาจา ผรุสา วาจา สมฺผปฺปลาโปติ จตฺตาริ วจีทุจฺจริตานิ, อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฎฺฐีติ ตีณิ มโนทุจฺจริตานิฯ กุสลากุสลาปิ จ ปฎิสนฺธิชนกาเยว กมฺมปถาติ วุตฺตา, วุตฺตาวเสสา ปฎิสนฺธิชนเน อเนกนฺติ กตฺตา กมฺมปถาติ น วุตฺตาฯ โอฬาริกกุสลากุสลคหเณเนว เสสกุสลากุสลาปิ คหิตาติ เวทิตพฺพาฯ รูปนฺติ ภูโตปาทายเภทโต อฎฺฐวีสติวิธํ รูปํฯ วิปากนฺติ กามาวจรกุสลวิปากานํ โสฬสนฺนํ, อกุสลวิปากานํ สตฺตนฺนญฺจ วเสน เตวีสติวิธํ วิปากํฯ กิริยนฺติ ติณฺณมเหตุกกิริยานํ, อฎฺฐนฺนํ สเหตุกกิริยานญฺจ วเสน เอกาทสวิธํ กามาวจรกิริยํฯ วิปากาภาวโต กิริยามตฺตาติ กิริยาฯ เอตฺตาวตา กามาวจรเมว รูปาพฺยากตวิปากาพฺยากตกิริยาพฺยากตวเสน วุตฺตํฯ

    73. Dhammanānattañāṇaniddese kammapatheti kammāni ca tāni pathā ca apāyagamanāyāti kammapathā, te kammapathe. Dasa kusalakammapathā nāma pāṇātipātā adinnādānā kāmesumicchācārā veramaṇīti tīṇi kāyasucaritāni, musāvādā pisuṇāya vācāya pharusāya vācāya samphappalāpā veramaṇīti cattāri vacīsucaritāni, anabhijjhā abyāpādo sammādiṭṭhīti tīṇi manosucaritāni. Dasa akusalakammapathā nāma pāṇātipāto adinnādānaṃ kāmesumicchācāroti tīṇi kāyaduccaritāni, musāvādo pisuṇā vācā pharusā vācā samphappalāpoti cattāri vacīduccaritāni, abhijjhā byāpādo micchādiṭṭhīti tīṇi manoduccaritāni. Kusalākusalāpi ca paṭisandhijanakāyeva kammapathāti vuttā, vuttāvasesā paṭisandhijanane anekanti kattā kammapathāti na vuttā. Oḷārikakusalākusalagahaṇeneva sesakusalākusalāpi gahitāti veditabbā. Rūpanti bhūtopādāyabhedato aṭṭhavīsatividhaṃ rūpaṃ. Vipākanti kāmāvacarakusalavipākānaṃ soḷasannaṃ, akusalavipākānaṃ sattannañca vasena tevīsatividhaṃ vipākaṃ. Kiriyanti tiṇṇamahetukakiriyānaṃ, aṭṭhannaṃ sahetukakiriyānañca vasena ekādasavidhaṃ kāmāvacarakiriyaṃ. Vipākābhāvato kiriyāmattāti kiriyā. Ettāvatā kāmāvacarameva rūpābyākatavipākābyākatakiriyābyākatavasena vuttaṃ.

    อิธฎฺฐสฺสาติ อิมสฺมิํ โลเก ฐิตสฺสฯ เยภุเยฺยน มนุสฺสโลเก ฌานภาวนาสพฺภาวโต มนุสฺสโลกวเสน วุตฺตํ, ฌานานิ ปน กทาจิ กรหจิ เทวโลเกปิ ลพฺภนฺติ, รูปีพฺรหฺมโลเกปิ ตตฺรูปปตฺติกเหฎฺฐูปปตฺติกอุปรูปปตฺติกานํ วเสน ลพฺภนฺติฯ สุทฺธาวาเส ปน อรูปาวจเร จ เหฎฺฐูปปตฺติกา นตฺถิฯ รูปารูปาวจเรสุ อภาวิตชฺฌานา เหฎฺฐา นิพฺพตฺตมานา กามาวจรสุคติยํเยว นิพฺพตฺตนฺติ, น ทุคฺคติยํฯ ตตฺรูปปนฺนสฺสาติ วิปากวเสน พฺรหฺมโลเก อุปปนฺนสฺส ปฎิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน วตฺตมานานิ จตฺตาริ วิปากชฺฌานานิฯ รูปารูปาวจรชฺฌานสมาปตฺตีสุ กิริยาพฺยากตานิ น วุตฺตานิฯ กิญฺจาปิ น วุตฺตานิ, อถ โข กุสเลหิ สมานปวตฺติตฺตา กุสเลสุ วุเตฺตสุ วุตฺตาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิฯ ยถา ปฎฺฐาเน ‘‘กุสลากุสเล นิรุเทฺธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฎฺฐา. ๑.๑.๔๐๖, ๔๐๙) กุสลชวนคฺคหเณเนว กิริยชวนํ สงฺคหิตํ, เอวมิธาปิ ทฎฺฐพฺพํฯ สามญฺญผลานีติ จตฺตาริ สามญฺญผลานิฯ เอเตน โลกุตฺตรวิปากาพฺยากตํ วุตฺตํฯ นิพฺพานนฺติ นิพฺพานาพฺยากตํฯ

    Idhaṭṭhassāti imasmiṃ loke ṭhitassa. Yebhuyyena manussaloke jhānabhāvanāsabbhāvato manussalokavasena vuttaṃ, jhānāni pana kadāci karahaci devalokepi labbhanti, rūpībrahmalokepi tatrūpapattikaheṭṭhūpapattikauparūpapattikānaṃ vasena labbhanti. Suddhāvāse pana arūpāvacare ca heṭṭhūpapattikā natthi. Rūpārūpāvacaresu abhāvitajjhānā heṭṭhā nibbattamānā kāmāvacarasugatiyaṃyeva nibbattanti, na duggatiyaṃ. Tatrūpapannassāti vipākavasena brahmaloke upapannassa paṭisandhibhavaṅgacutivasena vattamānāni cattāri vipākajjhānāni. Rūpārūpāvacarajjhānasamāpattīsu kiriyābyākatāni na vuttāni. Kiñcāpi na vuttāni, atha kho kusalehi samānapavattittā kusalesu vuttesu vuttāneva hontīti veditabbāni. Yathā paṭṭhāne ‘‘kusalākusale niruddhe vipāko tadārammaṇatā uppajjatī’’ti (paṭṭhā. 1.1.406, 409) kusalajavanaggahaṇeneva kiriyajavanaṃ saṅgahitaṃ, evamidhāpi daṭṭhabbaṃ. Sāmaññaphalānīti cattāri sāmaññaphalāni. Etena lokuttaravipākābyākataṃ vuttaṃ. Nibbānanti nibbānābyākataṃ.

    ปาโมชฺชมูลกาติ ปาโมชฺชํ มูลํ อาทิ เอเตสนฺติ ปาโมชฺชมูลกา, ปาโมชฺชาทิกาติ อโตฺถฯ ปาโมเชฺชน หิ สมาคตาเนว โหนฺติฯ อนิจฺจโต มนสิกโรโต ปาโมชฺชํ ชายตีติ เอตฺถ โยนิโสมนสิกโรโตเยว ปาโมชฺชํ ชายติ, น อโยนิโสมนสิกโรโตฯ อโยนิโสมนสิกโรโต กุสลุปฺปตฺติเยว นตฺถิ, ปเคว วิปสฺสนาฯ กสฺมา สรูเปน วุตฺตนฺติ เจ? ปาโมชฺชสฺส พลวภาวทสฺสนตฺถํฯ ปาโมเชฺช หิ อสติ ปเนฺตสุ จ เสนาสเนสุ อธิกุสเลสุ จ ธเมฺมสุ อรติ อุกฺกณฺฐิตา อุปฺปชฺชติฯ เอวํ สติ ภาวนาเยว อุกฺกมติฯ ปาโมเชฺช ปน สติ อรติอภาวโต ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉติฯ โยนิโสมนสิการสฺส ปน มูลภาเวน ภาวนาย พหูปการตฺตํ ทเสฺสตุํ อุปริ นวกํ วกฺขติฯ

    Pāmojjamūlakāti pāmojjaṃ mūlaṃ ādi etesanti pāmojjamūlakā, pāmojjādikāti attho. Pāmojjena hi samāgatāneva honti. Aniccato manasikaroto pāmojjaṃ jāyatīti ettha yonisomanasikarotoyeva pāmojjaṃ jāyati, na ayonisomanasikaroto. Ayonisomanasikaroto kusaluppattiyeva natthi, pageva vipassanā. Kasmā sarūpena vuttanti ce? Pāmojjassa balavabhāvadassanatthaṃ. Pāmojje hi asati pantesu ca senāsanesu adhikusalesu ca dhammesu arati ukkaṇṭhitā uppajjati. Evaṃ sati bhāvanāyeva ukkamati. Pāmojje pana sati aratiabhāvato bhāvanāpāripūriṃ gacchati. Yonisomanasikārassa pana mūlabhāvena bhāvanāya bahūpakārattaṃ dassetuṃ upari navakaṃ vakkhati.

    ‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

    ‘‘Yato yato sammasati, khandhānaṃ udayabbayaṃ;

    ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติฯ (ธ. ป. ๓๗๔) –

    Labhatī pītipāmojjaṃ, amataṃ taṃ vijānata’’nti. (dha. pa. 374) –

    วจนโต วิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาปจฺจยา ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติฯ อิธ ปน กลาปสมฺมสนปจฺจยา ปาโมชฺชํ คเหตพฺพํฯ ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ, ทุพฺพลา ปีติฯ อาทิกมฺมเตฺถ ป-กาโร ทฎฺฐโพฺพฯ ปมุทิตสฺสาติ เตน ปาโมเชฺชน ปมุทิตสฺส ตุฎฺฐสฺสฯ ปโมทิตสฺสาติปิ ปาโฐฯ โสเยวโตฺถฯ ปีตีติ พลวปีติฯ ปีติมนสฺสาติ ปีติยุตฺตมนสฺสฯ ยุตฺตสทฺทสฺส โลโป ทฎฺฐโพฺพ ยถา อสฺสรโถติ ฯ กาโยติ นามกาโย, รูปกาเยน สห วาฯ ปสฺสมฺภตีติ วูปสนฺตทรโถ โหติฯ ปสฺสทฺธกาโยติ อุภยปสฺสทฺธิโยเคน นิพฺพุตกาโยฯ สุขํ เวเทตีติ เจตสิกํ สุขํ วินฺทติ, กายิกสุเขน สห วาฯ สุขิโนติ สุขสมงฺคิสฺสฯ จิตฺตํ สมาธิยตีติ จิตฺตํ สมํ อาธิยติ, เอกคฺคํ โหติฯ สมาหิเต จิเตฺตติ ภาเวนภาวลกฺขณเตฺถ ภุมฺมวจนํฯ จิตฺตสมาหิตภาเวน หิ ยถาภูตชานนํ ลกฺขียติฯ ยถาภูตํ ปชานาตีติ อุทยพฺพยญาณาทิวเสน สงฺขารํ ยถาสภาวํ ชานาติฯ ปสฺสตีติ ตํเยว จกฺขุนา ทิฎฺฐํ วิย ผุฎํ กตฺวา ปญฺญาจกฺขุนา ปสฺสติฯ นิพฺพินฺทตีติ นววิธวิปสฺสนาญาณโยเคน สงฺขาเรสุ อุกฺกณฺฐติฯ นิพฺพินฺทํ วิรชฺชตีติ ตํ วิปสฺสนํ สิขํ ปาเปโนฺต มคฺคญาณโยเคน สงฺขาเรหิ วิรโตฺต โหติฯ วิราคา วิมุจฺจตีติ วิราคสงฺขาตมคฺคเหตุ ผลวิมุตฺติยา นิพฺพาเน อธิโมเกฺขน วิมุจฺจติฯ เกสุจิ ปน โปตฺถเกสุ อิมสฺมิํ วาเร ‘‘สมาหิเตน จิเตฺตน อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทิ สจฺจนโย ลิขิโต, โสปิ จ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติอาทินา นเยน ลิขิโตฯ วารทฺวเยปิ พฺยญฺชนโตเยว วิเสโส, น อตฺถโตฯ ‘‘นิพฺพินฺทํ วิรชฺชตี’’ติ หิ มคฺคญาณสฺส วุตฺตตฺตา มคฺคญาเณ จ สิเทฺธ จตุสจฺจาภิสมยกิจฺจํ สิทฺธเมว โหติฯ ตสฺมา จตุสจฺจนเยน วุตฺตวาโรปิ อิมินา วาเรน อตฺถโต อวิสิโฎฺฐเยวฯ

    Vacanato vipassakassa vipassanāpaccayā pāmojjaṃ uppajjati. Idha pana kalāpasammasanapaccayā pāmojjaṃ gahetabbaṃ. Pamuditassa bhāvo pāmojjaṃ, dubbalā pīti. Ādikammatthe pa-kāro daṭṭhabbo. Pamuditassāti tena pāmojjena pamuditassa tuṭṭhassa. Pamoditassātipi pāṭho. Soyevattho. Pītīti balavapīti. Pītimanassāti pītiyuttamanassa. Yuttasaddassa lopo daṭṭhabbo yathā assarathoti . Kāyoti nāmakāyo, rūpakāyena saha vā. Passambhatīti vūpasantadaratho hoti. Passaddhakāyoti ubhayapassaddhiyogena nibbutakāyo. Sukhaṃ vedetīti cetasikaṃ sukhaṃ vindati, kāyikasukhena saha vā. Sukhinoti sukhasamaṅgissa. Cittaṃ samādhiyatīti cittaṃ samaṃ ādhiyati, ekaggaṃ hoti. Samāhite citteti bhāvenabhāvalakkhaṇatthe bhummavacanaṃ. Cittasamāhitabhāvena hi yathābhūtajānanaṃ lakkhīyati. Yathābhūtaṃ pajānātīti udayabbayañāṇādivasena saṅkhāraṃ yathāsabhāvaṃ jānāti. Passatīti taṃyeva cakkhunā diṭṭhaṃ viya phuṭaṃ katvā paññācakkhunā passati. Nibbindatīti navavidhavipassanāñāṇayogena saṅkhāresu ukkaṇṭhati. Nibbindaṃ virajjatīti taṃ vipassanaṃ sikhaṃ pāpento maggañāṇayogena saṅkhārehi viratto hoti. Virāgā vimuccatīti virāgasaṅkhātamaggahetu phalavimuttiyā nibbāne adhimokkhena vimuccati. Kesuci pana potthakesu imasmiṃ vāre ‘‘samāhitena cittena idaṃ dukkhanti yathābhūtaṃ pajānātī’’tiādi saccanayo likhito, sopi ca kesuci potthakesu ‘‘idaṃ dukkhanti yoniso manasi karotī’’tiādinā nayena likhito. Vāradvayepi byañjanatoyeva viseso, na atthato. ‘‘Nibbindaṃ virajjatī’’ti hi maggañāṇassa vuttattā maggañāṇe ca siddhe catusaccābhisamayakiccaṃ siddhameva hoti. Tasmā catusaccanayena vuttavāropi iminā vārena atthato avisiṭṭhoyeva.

    ๗๔. อิทานิ อนิจฺจโตติอาทีหิ อารมฺมณสฺส อวิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา อารมฺมณํ วิเสเสโนฺต รูปํ อนิจฺจโต มนสิ กโรตีติอาทิมาหฯ โยนิโสมนสิการมูลกาติ โยนิโสมนสิกาโร มูลํ ปติฎฺฐา เอเตสนฺติ โยนิโสมนสิการมูลกาฯ โยนิโสมนสิการํ มุญฺจิตฺวาเยว หิ ปาโมชฺชาทโย นว น โหนฺติฯ สมาหิเตน จิเตฺตนาติ การณภูเตน จิเตฺตนฯ ยถาภูตํ ปชานาตีติ ปญฺญาย ปชานาติฯ ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติ วุจฺจมาเน อนุสฺสววเสน ปุพฺพภาคสจฺจานุโพโธปิ สงฺคยฺหติฯ โยนิโสมนสิกาโรติ จ อุปาเยน มนสิกาโรฯ

    74. Idāni aniccatotiādīhi ārammaṇassa avisesetvā vuttattā ārammaṇaṃ visesento rūpaṃ aniccato manasi karotītiādimāha. Yonisomanasikāramūlakāti yonisomanasikāro mūlaṃ patiṭṭhā etesanti yonisomanasikāramūlakā. Yonisomanasikāraṃ muñcitvāyeva hi pāmojjādayo nava na honti. Samāhitena cittenāti kāraṇabhūtena cittena. Yathābhūtaṃ pajānātīti paññāya pajānāti. ‘‘Idaṃ dukkhanti yoniso manasi karotī’’ti vuccamāne anussavavasena pubbabhāgasaccānubodhopi saṅgayhati. Yonisomanasikāroti ca upāyena manasikāro.

    ธาตุนานตฺตํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ผสฺสนานตฺตนฺติ จกฺขาทิธาตุนานตฺตํ ปฎิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ อโตฺถฯ ผสฺสนานตฺตํ ปฎิจฺจาติ จกฺขุสมฺผสฺสาทินานตฺตํ ปฎิจฺจฯ เวทนานานตฺตนฺติ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิเวทนานานตฺตํ ฯ สญฺญานานตฺตนฺติ กามสญฺญาทินานตฺตํฯ สงฺกปฺปนานตฺตนฺติ กามสงฺกปฺปาทินานตฺตํฯ ฉนฺทนานตฺตนฺติ สงฺกปฺปนานตฺตตาย รูเป ฉโนฺท สเทฺท ฉโนฺทติ เอวํ ฉนฺทนานตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ปริฬาหนานตฺตนฺติ ฉนฺทนานตฺตตาย รูปปริฬาโห สทฺทปริฬาโหติ เอวํ ปริฬาหนานตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ปริเยสนานานตฺตนฺติ ปริฬาหนานตฺตตาย รูปปริเยสนาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ลาภนานตฺตนฺติ ปริเยสนานานตฺตตาย รูปปฎิลาภาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตีติฯ

    Dhātunānattaṃpaṭicca uppajjati phassanānattanti cakkhādidhātunānattaṃ paṭicca cakkhusamphassādinānattaṃ uppajjatīti attho. Phassanānattaṃ paṭiccāti cakkhusamphassādinānattaṃ paṭicca. Vedanānānattanti cakkhusamphassajādivedanānānattaṃ . Saññānānattanti kāmasaññādinānattaṃ. Saṅkappanānattanti kāmasaṅkappādinānattaṃ. Chandanānattanti saṅkappanānattatāya rūpe chando sadde chandoti evaṃ chandanānattaṃ uppajjati. Pariḷāhanānattanti chandanānattatāya rūpapariḷāho saddapariḷāhoti evaṃ pariḷāhanānattaṃ uppajjati. Pariyesanānānattanti pariḷāhanānattatāya rūpapariyesanādinānattaṃ uppajjati. Lābhanānattanti pariyesanānānattatāya rūpapaṭilābhādinānattaṃ uppajjatīti.

    ธมฺมนานตฺตญาณนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dhammanānattañāṇaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๑๙. ธมฺมนานตฺตญาณนิเทฺทโส • 19. Dhammanānattañāṇaniddeso


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact