Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā |
๗. ธมฺมานุธมฺมปฎิปนฺนสุตฺตวณฺณนา
7. Dhammānudhammapaṭipannasuttavaṇṇanā
๘๖. สตฺตเม ธมฺมานุธมฺมปฎิปนฺนสฺสาติ เอตฺถ ธโมฺม นาม นววิโธ โลกุตฺตรธโมฺม, ตสฺส ธมฺมสฺส อนุธโมฺม สีลวิสุทฺธิอาทิ ปุพฺพภาคปฎิปทาธโมฺม, ตํ ธมฺมานุธมฺมํ ปฎิปนฺนสฺส อธิคนฺตุํ ปฎิปชฺชมานสฺสฯ อยมนุธโมฺม โหตีติ อยํ อนุจฺฉวิกสภาโว ปติรูปสภาโว โหติฯ เวยฺยากรณายาติ กถนายฯ ธมฺมานุธมฺมปฎิปโนฺนยนฺติ ยนฺติ กรณเตฺถ ปจฺจตฺตวจนํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – เยน อนุธเมฺมน ตํ ธมฺมานุธมฺมํ ปฎิปโนฺนติ พฺยากรมาโน สมฺมเทว พฺยากโรโนฺต นาม สิยา, น ตโตนิทานํ วิญฺญูหิ ครหิตโพฺพ สิยาติฯ ยนฺติ วา กิริยาปรามสนํ, เตเนตํ ทเสฺสติ ‘‘ยทิทํ ธมฺมเสฺสว ภาสนํ, ธมฺมวิตกฺกเสฺสว จ วิตกฺกนํ ตทุภยาภาเว ญาณุเปกฺขาย, อยํ ธมฺมานุธมฺมปฎิปนฺนสฺส ภิกฺขุโน ตถารูโป อยนฺติ กถนายานุรูปเหตุ อนุจฺฉวิกการณํฯ ภาสมาโน ธมฺมํเยว ภาเสยฺยาติ กเถโนฺต เจ ทสกถาวตฺถุธมฺมํเยว กเถยฺย, น ตปฺปฎิปกฺขมหิจฺฉตาทิอธมฺมํฯ วุตฺตเญฺหตํ –
86. Sattame dhammānudhammapaṭipannassāti ettha dhammo nāma navavidho lokuttaradhammo, tassa dhammassa anudhammo sīlavisuddhiādi pubbabhāgapaṭipadādhammo, taṃ dhammānudhammaṃ paṭipannassa adhigantuṃ paṭipajjamānassa. Ayamanudhammo hotīti ayaṃ anucchavikasabhāvo patirūpasabhāvo hoti. Veyyākaraṇāyāti kathanāya. Dhammānudhammapaṭipannoyanti yanti karaṇatthe paccattavacanaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – yena anudhammena taṃ dhammānudhammaṃ paṭipannoti byākaramāno sammadeva byākaronto nāma siyā, na tatonidānaṃ viññūhi garahitabbo siyāti. Yanti vā kiriyāparāmasanaṃ, tenetaṃ dasseti ‘‘yadidaṃ dhammasseva bhāsanaṃ, dhammavitakkasseva ca vitakkanaṃ tadubhayābhāve ñāṇupekkhāya, ayaṃ dhammānudhammapaṭipannassa bhikkhuno tathārūpo ayanti kathanāyānurūpahetu anucchavikakāraṇaṃ. Bhāsamāno dhammaṃyeva bhāseyyāti kathento ce dasakathāvatthudhammaṃyeva katheyya, na tappaṭipakkhamahicchatādiadhammaṃ. Vuttañhetaṃ –
‘‘ยายํ กถา อภิสเลฺลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฎฺฐิกถา, ปวิเวกกถา, อสํสคฺคกถา, วีริยารมฺภกถา, สีลกถา, สมาธิกถา, ปญฺญากถา, วิมุตฺติกถา, วิมุตฺติญาณทสฺสนกถา , เอวรูปาย กถาย นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ (อ. นิ. ๙.๓; อุทา. ๓๑)ฯ
‘‘Yāyaṃ kathā abhisallekhikā cetovivaraṇasappāyā ekantanibbidāya virāgāya nirodhāya upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati. Seyyathidaṃ – appicchakathā, santuṭṭhikathā, pavivekakathā, asaṃsaggakathā, vīriyārambhakathā, sīlakathā, samādhikathā, paññākathā, vimuttikathā, vimuttiñāṇadassanakathā , evarūpāya kathāya nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī’’ti (a. ni. 9.3; udā. 31).
อภิสเลฺลขิกาย กถาย ลาภี เอว หิ ตํ ภาเสยฺยฯ เอเตน กลฺยาณมิตฺตสมฺปทา ทสฺสิตาฯ
Abhisallekhikāya kathāya lābhī eva hi taṃ bhāseyya. Etena kalyāṇamittasampadā dassitā.
ธมฺมวิตกฺกนฺติ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทิํ ธมฺมโต อนเปตํ วิตกฺกยโต ‘‘สีลาทิปฎิปทํ ปริปูเรสฺสามี’’ติ อุปรูปริ อุสฺสาโห อภิวฑฺฒิสฺสติฯ โส ปน วิตโกฺก สีลาทีนํ อนุปการธเมฺม วเชฺชตฺวา อุปการธเมฺม อนุพฺรูหนวเสน หานภาคิยภาวํ อปเนตฺวา ฐิติภาคิยภาเวปิ อฎฺฐตฺวา วิเสสภาคิยตํ นิเพฺพธภาคิยตญฺจ ปาปนวเสน ปวตฺติยา อเนกปฺปเภโท เวทิตโพฺพฯ โน อธมฺมวิตกฺกนฺติ กามวิตกฺกํ โน วิตเกฺกยฺยาติ อโตฺถฯ ตทุภยํ วา ปนาติ ยเทตํ ปเรสํ อนุคฺคหณตฺถํ ธมฺมภาสนํ อตฺตโน อนุคฺคหณตฺถํ ธมฺมวิตกฺกนญฺจ วุตฺตํฯ อถ วา ปน ตํ อุภยํ อภินิวเชฺชตฺวา อปฺปฎิปชฺชิตฺวา อกตฺวาฯ อุเปกฺขโกติ ตถาปฎิปตฺติยํ อุทาสีโน สมถวิปสฺสนาภาวนเมว อนุพฺรูหโนฺต วิหเรยฺย, สมถปฎิปตฺติยํ อุเปกฺขโก หุตฺวา วิปสฺสนายเมว กมฺมํ กโรโนฺต วิหเรยฺยฯ วิปสฺสนมฺปิ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ตตฺถปิ สงฺขารุเปกฺขาญาณวเสน อุเปกฺขโก ยาว วิปสฺสนาญาณํ มเคฺคน ฆฎียติ, ตาว ยถา ตํ ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา วหติ, ตถา วิหเรยฺย สโต สมฺปชาโนติฯ
Dhammavitakkanti nekkhammavitakkādiṃ dhammato anapetaṃ vitakkayato ‘‘sīlādipaṭipadaṃ paripūressāmī’’ti uparūpari ussāho abhivaḍḍhissati. So pana vitakko sīlādīnaṃ anupakāradhamme vajjetvā upakāradhamme anubrūhanavasena hānabhāgiyabhāvaṃ apanetvā ṭhitibhāgiyabhāvepi aṭṭhatvā visesabhāgiyataṃ nibbedhabhāgiyatañca pāpanavasena pavattiyā anekappabhedo veditabbo. No adhammavitakkanti kāmavitakkaṃ no vitakkeyyāti attho. Tadubhayaṃ vā panāti yadetaṃ paresaṃ anuggahaṇatthaṃ dhammabhāsanaṃ attano anuggahaṇatthaṃ dhammavitakkanañca vuttaṃ. Atha vā pana taṃ ubhayaṃ abhinivajjetvā appaṭipajjitvā akatvā. Upekkhakoti tathāpaṭipattiyaṃ udāsīno samathavipassanābhāvanameva anubrūhanto vihareyya, samathapaṭipattiyaṃ upekkhako hutvā vipassanāyameva kammaṃ karonto vihareyya. Vipassanampi ussukkāpetvā tatthapi saṅkhārupekkhāñāṇavasena upekkhako yāva vipassanāñāṇaṃ maggena ghaṭīyati, tāva yathā taṃ tikkhaṃ sūraṃ pasannaṃ hutvā vahati, tathā vihareyya sato sampajānoti.
คาถาสุ สมถวิปสฺสนาธโมฺม อารมิตพฺพเฎฺฐน อาราโม เอตสฺสาติ ธมฺมาราโมฯ ตสฺมิํเยว ธเมฺม รโตติ ธมฺมรโตฯ ตเสฺสว ธมฺมสฺส ปุนปฺปุนํ วิจินฺตนโต ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ ตํ ธมฺมํ อาวเชฺชโนฺต, มนสิ กโรโนฺตติ อโตฺถฯ อนุสฺสรนฺติ ตเมว ธมฺมํ อุปรูปริภาวนาวเสน อนุสฺสรโนฺตฯ อถ วา วิมุตฺตายตนสีเส ฐตฺวา ปเรสํ เทสนาวเสน สีลาทิธโมฺม อารมิตพฺพเฎฺฐน อาราโม เอตสฺสาติ ธมฺมาราโมฯ ตเถว ตสฺมิํ ธเมฺม รโต อภิรโตติ ธมฺมรโตฯ เตสํเยว สีลาทิธมฺมานํ คติโย สมเนฺวสโนฺต กามวิตกฺกาทีนํ โอกาสํ อทตฺวา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิธมฺมํเยว อนุวิจินฺตนโต ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ ฯ ตทุภยํ วา ปน โอฬาริกโต ทหโนฺต อชฺฌุเปกฺขิตฺวา สมถวิปสฺสนาธมฺมเมว อุปรูปริ ภาวนาวเสน อนุสฺสรโนฺต อนุพฺรูหนวเสน ปวเตฺตโนฺตฯ สทฺธมฺมาติ สตฺตติํสปฺปเภทา โพธิปกฺขิยธมฺมา นววิธโลกุตฺตรธมฺมา จ น ปริหายติ, น จิรเสฺสว ตํ อธิคจฺฉตีติ อโตฺถฯ
Gāthāsu samathavipassanādhammo āramitabbaṭṭhena ārāmo etassāti dhammārāmo. Tasmiṃyeva dhamme ratoti dhammarato. Tasseva dhammassa punappunaṃ vicintanato dhammaṃ anuvicintayaṃ taṃ dhammaṃ āvajjento, manasi karontoti attho. Anussaranti tameva dhammaṃ uparūparibhāvanāvasena anussaranto. Atha vā vimuttāyatanasīse ṭhatvā paresaṃ desanāvasena sīlādidhammo āramitabbaṭṭhena ārāmo etassāti dhammārāmo. Tatheva tasmiṃ dhamme rato abhiratoti dhammarato. Tesaṃyeva sīlādidhammānaṃ gatiyo samanvesanto kāmavitakkādīnaṃ okāsaṃ adatvā nekkhammasaṅkappādidhammaṃyeva anuvicintanato dhammaṃ anuvicintayaṃ. Tadubhayaṃ vā pana oḷārikato dahanto ajjhupekkhitvā samathavipassanādhammameva uparūpari bhāvanāvasena anussaranto anubrūhanavasena pavattento. Saddhammāti sattatiṃsappabhedā bodhipakkhiyadhammā navavidhalokuttaradhammā ca na parihāyati, na cirasseva taṃ adhigacchatīti attho.
อิทานิ ตสฺส อนุสฺสรณวิธิํ ทเสฺสโนฺต ‘‘จรํ วา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ จรํ วาติ ภิกฺขาจารวเสน จงฺกมนวเสน จ จรโนฺต วาฯ ยทิ วา ติฎฺฐนฺติ ติฎฺฐโนฺต วา นิสิโนฺน วา, อุท วา สยนฺติ สยโนฺต วาฯ เอวํ จตูสุปิ อิริยาปเถสุฯ อชฺฌตฺตํ สมยํ จิตฺตนฺติ ยถาวุเตฺต กมฺมฎฺฐานสงฺขาเต โคจรชฺฌเตฺต อตฺตโน จิตฺตํ ราคาทิกิเลสานํ วูปสมนวเสน ปชหนวเสน สมยํ สเมโนฺตฯ สนฺติเมวาธิคจฺฉตีติ อจฺจนฺตสนฺติํ นิพฺพานเมว ปาปุณาตีติฯ
Idāni tassa anussaraṇavidhiṃ dassento ‘‘caraṃ vā’’tiādimāha. Tattha caraṃ vāti bhikkhācāravasena caṅkamanavasena ca caranto vā. Yadi vā tiṭṭhanti tiṭṭhanto vā nisinno vā, uda vā sayanti sayanto vā. Evaṃ catūsupi iriyāpathesu. Ajjhattaṃ samayaṃ cittanti yathāvutte kammaṭṭhānasaṅkhāte gocarajjhatte attano cittaṃ rāgādikilesānaṃ vūpasamanavasena pajahanavasena samayaṃ samento. Santimevādhigacchatīti accantasantiṃ nibbānameva pāpuṇātīti.
สตฺตมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sattamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๗. ธมฺมานุธมฺมปฎิปนฺนสุตฺตํ • 7. Dhammānudhammapaṭipannasuttaṃ