Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๑๒. ธมฺมิกสุตฺตวณฺณนา
12. Dhammikasuttavaṇṇanā
๕๔. ทฺวาทสเม ชาติภูมิยนฺติ เอตฺถ ชนนํ ชาติ, ชาติยา ภูมิ ชาติภูมิ, ชาตฎฺฐานํฯ ตํ โข ปเนตํ เนว โกสลมหาราชาทีนํ, น จงฺกิพฺราหฺมณาทีนํ, น สกฺกสุยามสนฺตุสิตาทีนํ , น อสีติมหาสาวกานํ, น อเญฺญสํ สตฺตานํ ‘‘ชาติภูมี’’ติ วุจฺจติฯ ยสฺส ปน ชาตทิวเส ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกทฺธชมาลาวิปฺปกิณฺณกุสุมวาสจุณฺณคณสุคนฺธา สพฺพปาลิผุลฺลมิว นนฺทนวนํ วิโรจมานา ปทุมินิปเณฺณ อุทกพินฺทุ วิย อกมฺปิตฺถ, ชจฺจนฺธาทีนญฺจ รูปทสฺสนาทีนิ อเนกานิ ปาฎิหาริยานิ ปวตฺติํสุฯ ตสฺส สพฺพญฺญุโพธิสตฺตสฺส ชาตฎฺฐานํ, สาติสยสฺส ปน ชนกกปิลวตฺถุสนฺนิสฺสโย ‘‘ชาติภูมี’’ติ วุจฺจติฯ ชาติภูมกา อุปาสกาติ ชาติภูมิวาสิโน อุปาสกาฯ สนฺตเนตฺวา สพฺพโส ตเนตฺวา ปตฺถริตฺวา ฐิตมูลานิ มูลสนฺตานกานิฯ ตานิ ปน อตฺถโต มูลานิเยวาติ อาห ‘‘มูลสนฺตานกานนฺติ มูลาน’’นฺติฯ
54. Dvādasame jātibhūmiyanti ettha jananaṃ jāti, jātiyā bhūmi jātibhūmi, jātaṭṭhānaṃ. Taṃ kho panetaṃ neva kosalamahārājādīnaṃ, na caṅkibrāhmaṇādīnaṃ, na sakkasuyāmasantusitādīnaṃ , na asītimahāsāvakānaṃ, na aññesaṃ sattānaṃ ‘‘jātibhūmī’’ti vuccati. Yassa pana jātadivase dasasahassī lokadhātu ekaddhajamālāvippakiṇṇakusumavāsacuṇṇagaṇasugandhā sabbapāliphullamiva nandanavanaṃ virocamānā paduminipaṇṇe udakabindu viya akampittha, jaccandhādīnañca rūpadassanādīni anekāni pāṭihāriyāni pavattiṃsu. Tassa sabbaññubodhisattassa jātaṭṭhānaṃ, sātisayassa pana janakakapilavatthusannissayo ‘‘jātibhūmī’’ti vuccati. Jātibhūmakā upāsakāti jātibhūmivāsino upāsakā. Santanetvā sabbaso tanetvā pattharitvā ṭhitamūlāni mūlasantānakāni. Tāni pana atthato mūlāniyevāti āha ‘‘mūlasantānakānanti mūlāna’’nti.
ชาตทิวเส อาวุธานํ โชติตตฺตา, รโญฺญ อปริมิตสฺส จ สตฺตกายสฺส อนตฺถโต ปริปาลนสมตฺถตาย จ ‘‘โชติปาโล’’ติ ลทฺธนามตฺตา วุตฺตํ ‘‘นาเมน โชติปาโล’’ติฯ โควิโนฺทติ โควินฺทิยาภิเสเกน อภิสิโตฺต, โควินฺทสฺส ฐาเน ฐปนาภิเสเกน อภิสิโตฺตติ อโตฺถฯ ตํ กิร ตสฺส พฺราหฺมณสฺส กุลปรมฺปราคตํ ฐานนฺตรํฯ เตนาห ‘‘ฐาเนน มหาโควิโนฺท’’ติฯ ควํ ปญฺญญฺจ วินฺทติ ปฎิลภตีติ โควิโนฺท, มหโนฺต โควิโนฺทติ มหาโควิโนฺทฯ โคติ หิ ปญฺญาเยตํ อธิวจนํ ‘‘คจฺฉติ อเตฺถ พุชฺฌตี’’ติ กตฺวาฯ มหาโควิโนฺท จ อมฺหากํ โพธิสโตฺตเยวฯ โส กิร ทิสมฺปติสฺส นาม รโญฺญ ปุโรหิตสฺส โควินฺทพฺราหฺมณสฺส ปุโตฺต หุตฺวา อตฺตโน ปิตุสฺส จ รโญฺญ จ อจฺจเยน ตสฺส ปุโตฺต เรณุ, สหายา จสฺส สตฺตภู, พฺรหฺมทโตฺต, เวสฺสภู, ภรโต, เทฺว ธตรฎฺฐาติ อิเม สตฺต ราชาโน ยถา อญฺญมญฺญํ น วิวทนฺติฯ เอวํ รเชฺช ปติฎฺฐาเปตฺวา เตสํ อตฺถธเมฺม อนุสาสเนฺต ชมฺพุทีปตเล สเพฺพสํ ราชาว รญฺญํ, พฺรหฺมาว พฺราหฺมณานํ, เทโวว คหปติกานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต อุตฺตมคารวฎฺฐานํ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘เรณุอาทีนํ สตฺตนฺนํ ราชูนํ ปุโรหิโต’’ติฯ อิเมว สตฺต ภารธารา มหาราชาโนฯ วุตฺตเญฺหตํ –
Jātadivase āvudhānaṃ jotitattā, rañño aparimitassa ca sattakāyassa anatthato paripālanasamatthatāya ca ‘‘jotipālo’’ti laddhanāmattā vuttaṃ ‘‘nāmena jotipālo’’ti. Govindoti govindiyābhisekena abhisitto, govindassa ṭhāne ṭhapanābhisekena abhisittoti attho. Taṃ kira tassa brāhmaṇassa kulaparamparāgataṃ ṭhānantaraṃ. Tenāha ‘‘ṭhānena mahāgovindo’’ti. Gavaṃ paññañca vindati paṭilabhatīti govindo, mahanto govindoti mahāgovindo. Goti hi paññāyetaṃ adhivacanaṃ ‘‘gacchati atthe bujjhatī’’ti katvā. Mahāgovindo ca amhākaṃ bodhisattoyeva. So kira disampatissa nāma rañño purohitassa govindabrāhmaṇassa putto hutvā attano pitussa ca rañño ca accayena tassa putto reṇu, sahāyā cassa sattabhū, brahmadatto, vessabhū, bharato, dve dhataraṭṭhāti ime satta rājāno yathā aññamaññaṃ na vivadanti. Evaṃ rajje patiṭṭhāpetvā tesaṃ atthadhamme anusāsante jambudīpatale sabbesaṃ rājāva raññaṃ, brahmāva brāhmaṇānaṃ, devova gahapatikānaṃ sakkato garukato mānito pūjito apacito uttamagāravaṭṭhānaṃ ahosi. Tena vuttaṃ ‘‘reṇuādīnaṃ sattannaṃ rājūnaṃ purohito’’ti. Imeva satta bhāradhārā mahārājāno. Vuttañhetaṃ –
‘‘สตฺตภู พฺรหฺมทโตฺต จ, เวสฺสภู ภรโต สห;
‘‘Sattabhū brahmadatto ca, vessabhū bharato saha;
เรณุ เทฺว จ ธตรฎฺฐา, ตทาสุํ สตฺต ภารธา’’ติฯ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๒.๓๐๘);
Reṇu dve ca dhataraṭṭhā, tadāsuṃ satta bhāradhā’’ti. (dī. ni. aṭṭha. 2.308);
รโญฺญ ทิฎฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถานํ ปุโร วิธานโต ปุเร สํวิธานโต ปุโรหิโตฯ โกธามคเนฺธนาติ โกธสงฺขาเตน ปูติคเนฺธนฯ กรุณา อสฺส อตฺถีติ กรุณนฺติ สปุพฺพภาคกรุณชฺฌานํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กรุณาย จ กรุณาปุพฺพภาเค จ ฐิตา’’ติฯ ยกาโร สนฺธิวเสน อาคโตติ อาห ‘‘เยเตติ เอเต’’ติฯ อรหตฺตโต ปฎฺฐาย สตฺตโมติ สกทาคามีฯ สกทาคามิํ อุปาทายาติ สกทาคามิภาวํ ปฎิจฺจฯ สกทาคามิสฺส หิ ปญฺจินฺทฺริยานิ สกทาคามิภาวํ ปฎิจฺจ มุทูนิ นาม โหนฺติฯ เสสเมตฺถ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Rañño diṭṭhadhammikasamparāyikatthānaṃ puro vidhānato pure saṃvidhānato purohito. Kodhāmagandhenāti kodhasaṅkhātena pūtigandhena. Karuṇā assa atthīti karuṇanti sapubbabhāgakaruṇajjhānaṃ vuttanti āha ‘‘karuṇāya ca karuṇāpubbabhāge ca ṭhitā’’ti. Yakāro sandhivasena āgatoti āha ‘‘yeteti ete’’ti. Arahattato paṭṭhāya sattamoti sakadāgāmī. Sakadāgāmiṃupādāyāti sakadāgāmibhāvaṃ paṭicca. Sakadāgāmissa hi pañcindriyāni sakadāgāmibhāvaṃ paṭicca mudūni nāma honti. Sesamettha suviññeyyameva.
ธมฺมิกสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dhammikasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
ธมฺมิกวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dhammikavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
ปฐมปณฺณาสกํ นิฎฺฐิตํฯ
Paṭhamapaṇṇāsakaṃ niṭṭhitaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๒. ธมฺมิกสุตฺตํ • 12. Dhammikasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๒. ธมฺมิกสุตฺตวณฺณนา • 12. Dhammikasuttavaṇṇanā