Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๗. ธนญฺชานิสุตฺตวณฺณนา
7. Dhanañjānisuttavaṇṇanā
๔๔๕. ราชคหํ ปริกฺขิปิตฺวา ฐิตปพฺพตสฺสาติ ปณฺฑวปพฺพตํ สนฺธายาหฯ ราชคหนครสฺส ทกฺขิณทิสาภาเค ปพฺพตสฺส สมีเป ฐิโต ชนปโท ทกฺขิณาคิริฯ ตณฺฑุลปุฎกานํ ปาลิ เอตฺถาติ ตณฺฑุลปาลิฯ ตสฺส กิร ทฺวารสมีเป ตณฺฑุลวาณิชา ตณฺฑุลปสิพฺพเก วิวริตฺวา ปฎิปาฎิยา ฐเปตฺวา นิสีทนฺติ, เตนสฺส ‘‘ตณฺฑุลปาลิทฺวาร’’นฺติ สมญฺญา อโหสิฯ สพฺพเมว สสฺสํ คณฺหาตีติ ทลิทฺทกสฺสกานํ ทิวสปริพฺพยมตฺตเมว วิสฺสเชฺชตฺวา สพฺพเมว อายโต นิปฺผนฺนํ ธญฺญํ คณฺหาติฯ มนฺทสสฺสานีติ มนฺทนิปฺผตฺติกานิ สสฺสานิฯ
445.Rājagahaṃparikkhipitvā ṭhitapabbatassāti paṇḍavapabbataṃ sandhāyāha. Rājagahanagarassa dakkhiṇadisābhāge pabbatassa samīpe ṭhito janapado dakkhiṇāgiri. Taṇḍulapuṭakānaṃ pāli etthāti taṇḍulapāli. Tassa kira dvārasamīpe taṇḍulavāṇijā taṇḍulapasibbake vivaritvā paṭipāṭiyā ṭhapetvā nisīdanti, tenassa ‘‘taṇḍulapālidvāra’’nti samaññā ahosi. Sabbameva sassaṃ gaṇhātīti daliddakassakānaṃ divasaparibbayamattameva vissajjetvā sabbameva āyato nipphannaṃ dhaññaṃ gaṇhāti. Mandasassānīti mandanipphattikāni sassāni.
๔๔๖. อิมินา นเยนาติ ทาสกมฺมกรสฺส นิวาสนภตฺตเวตฺตนานุปฺปทาเนน มงฺคลทิวเสสุ ธนวตฺถาลงฺการานุปฺปทานาทินา จ โปเสตโพฺพฯ มิตฺตามจฺจานํ ปิยวจนอตฺถจริยาสมานตฺตตาทิ มิตฺตามจฺจกรณียํ กตฺตพฺพํ, ตถา ญาติสาโลหิตานํฯ ตตฺถ อาวาหวิวาหสมฺพเทฺธน ‘‘อมฺหากํ อิเม’’ติ ญายนฺตีติ ญาตี, มาตาปิตาทิสมฺพทฺธตาย สมานโลหิตาติ สาโลหิตาฯ สมฺมา ททเนฺตสุปิ อสชฺชนโต นตฺถิ เอเตสํ ติถีติ อติถิ, เตสํ อตฺตนา สมานปริโภควเสน อติถิกรณียํ กาตพฺพํ, อติถิพลีติ อโตฺถฯ ญาตกภูตปุพฺพา เปตฺติวิสยํ อุปคตา ปุพฺพเปตา, ทกฺขิเณเยฺยสุ กาเลน กาลํ ทานํ ทตฺวา เตสํ อุทฺทิสนํ ปุพฺพเปตกรณียํ, เปตพลีติ อโตฺถฯ คนฺธปุปฺผวิเลปนชาลาภเตฺตหิ กาเลน กาลํ เทวตานํ ปูชา เทวตากรณียํ, เทวตาพลีติ อโตฺถ, ราชกิจฺจกรณํ อุปฎฺฐานํ ราชกรณียํฯ อยมฺปิ กาโยติ อตฺตโน กายํ สนฺธาย วทติฯ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘อิมินา นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพ’’ติฯ
446.Iminā nayenāti dāsakammakarassa nivāsanabhattavettanānuppadānena maṅgaladivasesu dhanavatthālaṅkārānuppadānādinā ca posetabbo. Mittāmaccānaṃ piyavacanaatthacariyāsamānattatādi mittāmaccakaraṇīyaṃ kattabbaṃ, tathā ñātisālohitānaṃ. Tattha āvāhavivāhasambaddhena ‘‘amhākaṃ ime’’ti ñāyantīti ñātī, mātāpitādisambaddhatāya samānalohitāti sālohitā. Sammā dadantesupi asajjanato natthi etesaṃ tithīti atithi, tesaṃ attanā samānaparibhogavasena atithikaraṇīyaṃ kātabbaṃ, atithibalīti attho. Ñātakabhūtapubbā pettivisayaṃ upagatā pubbapetā, dakkhiṇeyyesu kālena kālaṃ dānaṃ datvā tesaṃ uddisanaṃ pubbapetakaraṇīyaṃ, petabalīti attho. Gandhapupphavilepanajālābhattehi kālena kālaṃ devatānaṃ pūjā devatākaraṇīyaṃ, devatābalīti attho, rājakiccakaraṇaṃ upaṭṭhānaṃ rājakaraṇīyaṃ. Ayampi kāyoti attano kāyaṃ sandhāya vadati. Imamatthaṃ sandhāyāha ‘‘iminā nayena attho veditabbo’’ti.
๔๔๗. ปญฺจ ทุสฺสีลฺยกมฺมานีติ นิจฺจสีลปฎิปกฺขธมฺมาฯ ทส อกุสลกมฺมปถธมฺมา ทส ทุสฺสีลฺยกมฺมานิฯ อธมฺมจารี เอว วิสมจารี กายวิสมาทิจรณโตติ วิสมจารีปทสฺส อโตฺถ วิสุํ น วุโตฺตฯ
447.Pañca dussīlyakammānīti niccasīlapaṭipakkhadhammā. Dasa akusalakammapathadhammā dasa dussīlyakammāni. Adhammacārī eva visamacārī kāyavisamādicaraṇatoti visamacārīpadassa attho visuṃ na vutto.
๔๔๘-๔๕๓. โอสรนฺติ อปสกฺกนฺติ, ขียนฺตีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ปริหายนฺตี’’ติฯ อภิสรนฺตีติ อภิวฑฺฒนวเสน ปวตฺตนฺติฯ เตนาห ‘‘วฑฺฒนฺตี’’ติฯ ตตฺราติ พฺรหฺมโลเกฯ อสฺสาติ พฺรหฺมโลเก อุปฺปนฺนสฺส ธนญฺชานิสฺสฯ ตโต ปฎฺฐายาติ ยทา ภควตา ‘‘เอโส, ภิกฺขเว, สาริปุโตฺต’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตโต ปฎฺฐายฯ จตุสจฺจวินิมุตฺตนฺติ นิทฺธาเรตฺวา วิภชิตฺวา วุจฺจมาเนหิ สเจฺจหิ วิมุตฺตํฯ อตฺถโต ปน ตโต ปุเพฺพปิ สจฺจวิมุตฺตํ กถํ น กเถสิเยว สจฺจวิมุตฺตสฺส นิยฺยานสฺส อภาวโตฯ
448-453.Osaranti apasakkanti, khīyantīti attho. Tenāha ‘‘parihāyantī’’ti. Abhisarantīti abhivaḍḍhanavasena pavattanti. Tenāha ‘‘vaḍḍhantī’’ti. Tatrāti brahmaloke. Assāti brahmaloke uppannassa dhanañjānissa. Tato paṭṭhāyāti yadā bhagavatā ‘‘eso, bhikkhave, sāriputto’’tiādi vuttaṃ, tato paṭṭhāya. Catusaccavinimuttanti niddhāretvā vibhajitvā vuccamānehi saccehi vimuttaṃ. Atthato pana tato pubbepi saccavimuttaṃ kathaṃ na kathesiyeva saccavimuttassa niyyānassa abhāvato.
ธนญฺชานิสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Dhanañjānisuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๗. ธนญฺชานิสุตฺตํ • 7. Dhanañjānisuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. ธนญฺชานิสุตฺตวณฺณนา • 7. Dhanañjānisuttavaṇṇanā