Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๔. ธนิยเตฺถรคาถาวณฺณนา
4. Dhaniyattheragāthāvaṇṇanā
สุขเญฺจ ชีวิตุํ อิเจฺฉติ อายสฺมโต ธนิยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต สิขิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส นฬมาลาย ปูชํ อกาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห กุมฺภการกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ธนิโยติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต กุมฺภการกเมฺมน ชีวติฯ เตน จ สมเยน สตฺถา ธนิยสฺส กุมฺภการสฺส สาลายํ นิสีทิตฺวา ปุกฺกุสาติสฺส กุลปุตฺตสฺส ฉธาตุวิภงฺคสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๓๔๒ อาทโย) เทเสสิฯ โส ตํ สุตฺวา กตกิโจฺจ อโหสิฯ ธนิโย ตสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ สุตฺวา ‘‘นิยฺยานิกํ วต พุทฺธสาสนํ, ยตฺถ เอกรตฺติปริจเยนาปิ วฎฺฎทุกฺขโต มุญฺจิตุํ สกฺกา’’ติ ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา กุฎิมณฺฑนานุยุโตฺต วิหรโนฺต กุฎิกรณํ ปฎิจฺจ ภควตา ครหิโต สงฺฆิเก เสนาสเน วสโนฺต วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๘.๑-๗) –
Sukhañcejīvituṃ iccheti āyasmato dhaniyattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto sikhissa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ satthāraṃ disvā pasannamānaso naḷamālāya pūjaṃ akāsi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde rājagahe kumbhakārakule nibbattitvā dhaniyoti laddhanāmo vayappatto kumbhakārakammena jīvati. Tena ca samayena satthā dhaniyassa kumbhakārassa sālāyaṃ nisīditvā pukkusātissa kulaputtassa chadhātuvibhaṅgasuttaṃ (ma. ni. 3.342 ādayo) desesi. So taṃ sutvā katakicco ahosi. Dhaniyo tassa parinibbutabhāvaṃ sutvā ‘‘niyyānikaṃ vata buddhasāsanaṃ, yattha ekarattiparicayenāpi vaṭṭadukkhato muñcituṃ sakkā’’ti paṭiladdhasaddho pabbajitvā kuṭimaṇḍanānuyutto viharanto kuṭikaraṇaṃ paṭicca bhagavatā garahito saṅghike senāsane vasanto vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.48.1-7) –
‘‘สุวณฺณวณฺณํ สมฺพุทฺธํ, อาหุตีนํ ปฎิคฺคหํ;
‘‘Suvaṇṇavaṇṇaṃ sambuddhaṃ, āhutīnaṃ paṭiggahaṃ;
วิปินเคฺคน คจฺฉนฺตํ, อทฺทสํ โลกนายกํฯ
Vipinaggena gacchantaṃ, addasaṃ lokanāyakaṃ.
‘‘นฬมาลํ คเหตฺวาน, นิกฺขมโนฺต จ ตาวเท;
‘‘Naḷamālaṃ gahetvāna, nikkhamanto ca tāvade;
ตตฺถทฺทสาสิํ สมฺพุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํฯ
Tatthaddasāsiṃ sambuddhaṃ, oghatiṇṇamanāsavaṃ.
‘‘ปสนฺนจิโตฺต สุมโน, นฬมาลมปูชยิํ;
‘‘Pasannacitto sumano, naḷamālamapūjayiṃ;
ทกฺขิเณยฺยํ มหาวีรํ, สพฺพโลกานุกมฺปกํฯ
Dakkhiṇeyyaṃ mahāvīraṃ, sabbalokānukampakaṃ.
‘‘เอกติํเส อิโต กเปฺป, ยํ มาลมภิโรปยิํ;
‘‘Ekatiṃse ito kappe, yaṃ mālamabhiropayiṃ;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา เย ภิกฺขู ธุตงฺคสมาธาเนน อตฺตานํ อุกฺกํเสตฺวา สงฺฆภตฺตาทิํ สาทิยเนฺต อเญฺญ ภิกฺขู อวชานนฺติ, เตสํ โอวาททานมุเขน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –
Arahattaṃ pana patvā ye bhikkhū dhutaṅgasamādhānena attānaṃ ukkaṃsetvā saṅghabhattādiṃ sādiyante aññe bhikkhū avajānanti, tesaṃ ovādadānamukhena aññaṃ byākaronto –
๒๒๘.
228.
‘‘สุขเญฺจ ชีวิตุํ อิเจฺฉ, สามญฺญสฺมิํ อเปกฺขวา;
‘‘Sukhañce jīvituṃ icche, sāmaññasmiṃ apekkhavā;
สงฺฆิกํ นาติมเญฺญยฺย, จีวรํ ปานโภชนํฯ
Saṅghikaṃ nātimaññeyya, cīvaraṃ pānabhojanaṃ.
๒๒๙.
229.
สุขเญฺจ ชีวิตุํ อิเจฺฉ, สามญฺญสฺมิํ อเปกฺขวา;
Sukhañce jīvituṃ icche, sāmaññasmiṃ apekkhavā;
อหิ มูสิกโสพฺภํว, เสเวถ สยนาสนํฯ
Ahi mūsikasobbhaṃva, sevetha sayanāsanaṃ.
๒๓๐.
230.
สุขเญฺจ ชีวิตุํ อิเจฺฉ, สามญฺญสฺมิํ อเปกฺขวา;
Sukhañce jīvituṃ icche, sāmaññasmiṃ apekkhavā;
อิตรีตเรน ตุเสฺสยฺย, เอกธมฺมญฺจ ภาวเย’’ติฯ – ติโสฺส คาถา อภาสิ;
Itarītarena tusseyya, ekadhammañca bhāvaye’’ti. – tisso gāthā abhāsi;
ตตฺถ สุขเญฺจ ชีวิตุํ อิเจฺฉ, สามญฺญสฺมิํ อเปกฺขวาติ สามญฺญสฺมิํ สมณภาเว อเปกฺขวา สิกฺขาย ติพฺพคารโว หุตฺวา สุขํ ชีวิตุํ อิเจฺฉยฺย เจ, อเนสนํ ปหาย สามญฺญสุเขน สเจ ชีวิตุกาโมติ อโตฺถ ฯ สงฺฆิกํ นาติมเญฺญยฺย, จีวรํ ปานโภชนนฺติ สงฺฆโต อาภตํ จีวรํ อาหารํ น อวมเญฺญยฺย, สงฺฆสฺส อุปฺปชฺชนกลาโภ นาม ปริสุทฺธุปฺปาโท โหตีติ ตํ ปริภุญฺชนฺตสฺส อาชีวปาริสุทฺธิสมฺภเวน สามญฺญสุขํ หตฺถคตเมวาติ อธิปฺปาโยฯ อหิ มูสิกโสพฺภํวาติ อหิ วิย มูสิกาย ขตพิลํ เสเวถ เสเวยฺย เสนาสนํฯ ยถา นาม สโปฺป สยมตฺตโน อาสยํ อกตฺวา มูสิกาย อเญฺญน วา กเต อาสเย วสิตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ, เอวเมวํ ภิกฺขุ สยํ เสนาสนกรณา สํกิเลสํ อนาปชฺชิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ วสิตฺวา ปกฺกเมยฺยาติ อโตฺถฯ
Tattha sukhañce jīvituṃ icche, sāmaññasmiṃ apekkhavāti sāmaññasmiṃ samaṇabhāve apekkhavā sikkhāya tibbagāravo hutvā sukhaṃ jīvituṃ iccheyya ce, anesanaṃ pahāya sāmaññasukhena sace jīvitukāmoti attho . Saṅghikaṃ nātimaññeyya, cīvaraṃ pānabhojananti saṅghato ābhataṃ cīvaraṃ āhāraṃ na avamaññeyya, saṅghassa uppajjanakalābho nāma parisuddhuppādo hotīti taṃ paribhuñjantassa ājīvapārisuddhisambhavena sāmaññasukhaṃ hatthagatamevāti adhippāyo. Ahi mūsikasobbhaṃvāti ahi viya mūsikāya khatabilaṃ sevetha seveyya senāsanaṃ. Yathā nāma sappo sayamattano āsayaṃ akatvā mūsikāya aññena vā kate āsaye vasitvā yena kāmaṃ pakkamati, evamevaṃ bhikkhu sayaṃ senāsanakaraṇā saṃkilesaṃ anāpajjitvā yattha katthaci vasitvā pakkameyyāti attho.
อิทานิ วุเตฺต อวุเตฺต จ ปจฺจเย ยถาลาภสโนฺตเสเนว สามญฺญสุขํ โหติ, น อญฺญถาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อิตรีตเรน ตุเสฺสยฺยา’’ติ, เยน เกนจิ หีเนน วา ปณีเตน วา ยถาลเทฺธน ปจฺจเยน สโนฺตสํ อาปเชฺชยฺยาติ อโตฺถฯ เอกธมฺมนฺติ อปฺปมาทภาวํ, ตญฺหิ อนุยุญฺชนฺตสฺส อนวชฺชํ สพฺพํ โลกิยสุขํ โลกุตฺตรสุขญฺจ หตฺถคตเมว โหติฯ เตนาห ภควา – ‘‘อปฺปมโตฺต หิ ฌายโนฺต, ปโปฺปติ วิปุลํ สุข’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๓๕๒; ธ. ป. ๒๗)ฯ
Idāni vutte avutte ca paccaye yathālābhasantoseneva sāmaññasukhaṃ hoti, na aññathāti dassento āha ‘‘itarītarena tusseyyā’’ti, yena kenaci hīnena vā paṇītena vā yathāladdhena paccayena santosaṃ āpajjeyyāti attho. Ekadhammanti appamādabhāvaṃ, tañhi anuyuñjantassa anavajjaṃ sabbaṃ lokiyasukhaṃ lokuttarasukhañca hatthagatameva hoti. Tenāha bhagavā – ‘‘appamatto hi jhāyanto, pappoti vipulaṃ sukha’’nti (ma. ni. 2.352; dha. pa. 27).
ธนิยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dhaniyattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๔. ธนิยเตฺถรคาถา • 4. Dhaniyattheragāthā