Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā |
๗. ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา
7. Dibbacakkhukathāvaṇṇanā
๓๗๓. อุปตฺถทฺธนฺติ ยถา วิสยานุภาวโคจเรหิ วิสิฎฺฐํ โหติ, ตถา ปจฺจยภูเตน กตพลาธานนฺติ อโตฺถฯ ตํมตฺตเมวาติ ปุริมํ มํสจกฺขุมตฺตเมว ธมฺมุปตฺถทฺธํ น โหตีติ อโตฺถฯ อนาปาถคตนฺติ มํสจกฺขุนา คเหตพฺพฎฺฐานํ อาปาถํ นาคตํฯ เอตฺถ จ วิสยสฺส ทีปกํ อานุภาวโคจรานเมว อสทิสตํ วทโนฺต ยาทิโส มํสจกฺขุสฺส วิสโยติ วิสยคฺคหณํ น วิสยวิเสสทสฺสนตฺถํ, อถ โข ยาทิเส วิสเย อานุภาวโคจรวิเสสา โหนฺติ, ตาทิสสฺส รูปวิสยสฺส ทสฺสนตฺถนฺติ ทีเปติ, สทิสสฺส วา วิสยสฺส อานุภาวโคจรวิเสโสว วิเสสํฯ
373. Upatthaddhanti yathā visayānubhāvagocarehi visiṭṭhaṃ hoti, tathā paccayabhūtena katabalādhānanti attho. Taṃmattamevāti purimaṃ maṃsacakkhumattameva dhammupatthaddhaṃ na hotīti attho. Anāpāthagatanti maṃsacakkhunā gahetabbaṭṭhānaṃ āpāthaṃ nāgataṃ. Ettha ca visayassa dīpakaṃ ānubhāvagocarānameva asadisataṃ vadanto yādiso maṃsacakkhussa visayoti visayaggahaṇaṃ na visayavisesadassanatthaṃ, atha kho yādise visaye ānubhāvagocaravisesā honti, tādisassa rūpavisayassa dassanatthanti dīpeti, sadisassa vā visayassa ānubhāvagocaravisesova visesaṃ.
น จ มํสจกฺขุเมว ทิพฺพจกฺขูติ อิจฺฉตีติ ธมฺมุปตฺถทฺธกาเล ปุริมํ มํสจกฺขุเมวาติ น อิจฺฉตีติ อธิปฺปาโยฯ มํสจกฺขุสฺส อุปฺปาโท มโคฺคติ มํสจกฺขุปจฺจยตาทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ, น เตน อนุปาทินฺนตาสาธนตฺถํฯ รูปาวจริกานนฺติ รูปาวจรชฺฌานปจฺจเยน อุปฺปนฺนานิ มหาภูตานิ รูปาวจริกานีติ โส อิจฺฉตีติ อธิปฺปาโยฯ เอส นโย ‘‘อรูปาวจริกาน’’นฺติ เอตฺถาปิฯ อรูปาวจรกฺขเณ รูปาวจรจิตฺตสฺส อภาวา ปฎิกฺขิปตีติ ตสฺมิํเยว ขเณ รูปาวจรํ หุตฺวา อรูปาวจรํ น ชาตนฺติ ปฎิกฺขิปตีติ อธิปฺปาโยฯ
Na ca maṃsacakkhumeva dibbacakkhūti icchatīti dhammupatthaddhakāle purimaṃ maṃsacakkhumevāti na icchatīti adhippāyo. Maṃsacakkhussa uppādo maggoti maṃsacakkhupaccayatādassanatthameva vuttaṃ, na tena anupādinnatāsādhanatthaṃ. Rūpāvacarikānanti rūpāvacarajjhānapaccayena uppannāni mahābhūtāni rūpāvacarikānīti so icchatīti adhippāyo. Esa nayo ‘‘arūpāvacarikāna’’nti etthāpi. Arūpāvacarakkhaṇe rūpāvacaracittassa abhāvā paṭikkhipatīti tasmiṃyeva khaṇe rūpāvacaraṃ hutvā arūpāvacaraṃ na jātanti paṭikkhipatīti adhippāyo.
๓๗๔. กิญฺจาปิ ทิพฺพจกฺขุโน ธมฺมุปตฺถทฺธสฺส ปญฺญาจกฺขุภาวํ น อิจฺฉติ, เยน ตีณิ จกฺขูนิ ธมฺมุปตฺถเมฺภน จกฺขุนฺตรภาวํ วทโต ภเวยฺยุนฺติ อธิปฺปาโยฯ
374. Kiñcāpi dibbacakkhuno dhammupatthaddhassa paññācakkhubhāvaṃ na icchati, yena tīṇi cakkhūni dhammupatthambhena cakkhuntarabhāvaṃ vadato bhaveyyunti adhippāyo.
ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dibbacakkhukathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / กถาวตฺถุปาฬิ • Kathāvatthupāḷi / (๒๗) ๗. ทิพฺพจกฺขุกถา • (27) 7. Dibbacakkhukathā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๗. ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา • 7. Dibbacakkhukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๗. ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา • 7. Dibbacakkhukathāvaṇṇanā