Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
ทีฆาวุวตฺถุกถาวณฺณนา
Dīghāvuvatthukathāvaṇṇanā
๔๕๘. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสีติอาทีสุ ภูตปุพฺพนฺติ อิทํ ภควา ปถวีคตํ นิธิํ อุทฺธริตฺวา ปุรโต ราสิํ กโรโนฺต วิย ภวปฎิจฺฉนฺนํ ปุราวุตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาหฯ อโฑฺฒติ อิสฺสโรฯ โย โกจิ อตฺตโน สนฺตเกน วิภเวน อโฑฺฒ โหติ, อยํ ปน น เกวลํ อโฑฺฒเยว, มหทฺธโน มหตา อปริมาณสเงฺขน ธเนน สมนฺนาคโตติ อาห ‘‘มหทฺธโน’’ติฯ ภุญฺชิตพฺพโต ปริภุญฺชิตพฺพโต วิเสสโต กามา โภคา นาม, ตสฺมา ปญฺจกามคุณวเสน มหนฺตา อุฬารา โภคา อสฺสาติ มหาโภโคฯ มหนฺตํ เสนาพลเญฺจว ถามพลญฺจ เอตสฺสาติ มหพฺพโลฯ มหโนฺต หตฺถิอสฺสาทิวาหโน เอตสฺสาติ มหาวาหโนฯ มหนฺตํ วิชิตํ รฎฺฐํ เอตสฺสาติ มหาวิชิโตฯ ปริปุณฺณโกสโกฎฺฐาคาโรติ โกโส วุจฺจติ ภณฺฑาคารสารคโพฺภ, โกฎฺฐํ วุจฺจติ ธญฺญสฺส อาฐปนฎฺฐานํ, โกฎฺฐภูตํ อคารํ โกฎฺฐาคารํ, นิทหิตฺวา ฐปิเตน ธเนน ปริปุณฺณโกโส ธญฺญานญฺจ ปริปุณฺณโกฎฺฐาคาโรติ อโตฺถฯ
458.Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesītiādīsu bhūtapubbanti idaṃ bhagavā pathavīgataṃ nidhiṃ uddharitvā purato rāsiṃ karonto viya bhavapaṭicchannaṃ purāvutthaṃ dassento āha. Aḍḍhoti issaro. Yo koci attano santakena vibhavena aḍḍho hoti, ayaṃ pana na kevalaṃ aḍḍhoyeva, mahaddhano mahatā aparimāṇasaṅkhena dhanena samannāgatoti āha ‘‘mahaddhano’’ti. Bhuñjitabbato paribhuñjitabbato visesato kāmā bhogā nāma, tasmā pañcakāmaguṇavasena mahantā uḷārā bhogā assāti mahābhogo. Mahantaṃ senābalañceva thāmabalañca etassāti mahabbalo. Mahanto hatthiassādivāhano etassāti mahāvāhano. Mahantaṃ vijitaṃ raṭṭhaṃ etassāti mahāvijito. Paripuṇṇakosakoṭṭhāgāroti koso vuccati bhaṇḍāgārasāragabbho, koṭṭhaṃ vuccati dhaññassa āṭhapanaṭṭhānaṃ, koṭṭhabhūtaṃ agāraṃ koṭṭhāgāraṃ, nidahitvā ṭhapitena dhanena paripuṇṇakoso dhaññānañca paripuṇṇakoṭṭhāgāroti attho.
อถ วา จตุพฺพิโธ โกโส หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตีติฯ ยถา หิ อสิโน ติกฺขภาวปริปาลโก ปริจฺฉโท ‘‘โกโส’’ติ วุจฺจติ, เอวํ รโญฺญ ติกฺขภาวปริปาลกตฺตา จตุรงฺคินี เสนา ‘‘โกโส’’ติ วุจฺจติฯ ติวิธํ โกฎฺฐาคารํ ธนโกฎฺฐาคารํ ธญฺญโกฎฺฐาคารํ วตฺถโกฎฺฐาคารนฺติฯ ตํ สพฺพมฺปิ ปริปุณฺณมสฺสาติ ปริปุณฺณโกสโกฎฺฐาคาโรฯ จตุรงฺคินิํ เสนนฺติ หตฺถิอสฺสรถปตฺติสงฺขาเตหิ จตูหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคตํ เสนํฯ สนฺนยฺหิตฺวาติ จมฺมปฎิมุญฺจนาทีหิ สนฺนาหํ กาเรตฺวาฯ อพฺภุยฺยาสีติ อภิอุยฺยาสิ, อภิมุโข หุตฺวา นิกฺขมีติ อโตฺถฯ เอกสงฺฆาตมฺปีติ เอกปฺปหารมฺปิฯ โธวนนฺติ โธวนุทกํฯ ปริเนตฺวาติ นีหริตฺวาฯ ‘‘อนตฺถโท’’ติ วตฺตเพฺพ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ‘‘อนตฺถโต’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิฯ
Atha vā catubbidho koso hatthī assā rathā pattīti. Yathā hi asino tikkhabhāvaparipālako paricchado ‘‘koso’’ti vuccati, evaṃ rañño tikkhabhāvaparipālakattā caturaṅginī senā ‘‘koso’’ti vuccati. Tividhaṃ koṭṭhāgāraṃ dhanakoṭṭhāgāraṃ dhaññakoṭṭhāgāraṃ vatthakoṭṭhāgāranti. Taṃ sabbampi paripuṇṇamassāti paripuṇṇakosakoṭṭhāgāro. Caturaṅginiṃ senanti hatthiassarathapattisaṅkhātehi catūhi aṅgehi samannāgataṃ senaṃ. Sannayhitvāti cammapaṭimuñcanādīhi sannāhaṃ kāretvā. Abbhuyyāsīti abhiuyyāsi, abhimukho hutvā nikkhamīti attho. Ekasaṅghātampīti ekappahārampi. Dhovananti dhovanudakaṃ. Parinetvāti nīharitvā. ‘‘Anatthado’’ti vattabbe da-kārassa ta-kāraṃ katvā ‘‘anatthato’’ti vuttanti āha ‘‘atha vā’’tiādi.
๔๖๔. วคฺคภาเวน วา ปุถุ นานา สโทฺท อสฺสาติ ปุถุสโทฺทฯ สมชโนติ ภณฺฑเน สมชฺฌาสโย ชโนฯ ตตฺถาติ ตสฺมิํ ชนกาเยฯ อหํ พาโลติ น มญฺญิตฺถาติ พาลลกฺขเณ ฐิโตปิ ‘‘อหํ พาโล’’ติ น มญฺญิฯ ภิโยฺย จาติ อตฺตโน พาลภาวสฺส อชานนโต ภิโยฺย จ ภณฺฑนสฺส อุปริโผโฎ วิย สงฺฆเภทสฺส อตฺตโน การณภาวมฺปิ อุปฺปชฺชมานํ น มญฺญิตฺถ นาญฺญาสิฯ
464. Vaggabhāvena vā puthu nānā saddo assāti puthusaddo. Samajanoti bhaṇḍane samajjhāsayo jano. Tatthāti tasmiṃ janakāye. Ahaṃ bāloti na maññitthāti bālalakkhaṇe ṭhitopi ‘‘ahaṃ bālo’’ti na maññi. Bhiyyo cāti attano bālabhāvassa ajānanato bhiyyo ca bhaṇḍanassa upariphoṭo viya saṅghabhedassa attano kāraṇabhāvampi uppajjamānaṃ na maññittha nāññāsi.
กลหวเสน ปวตฺตวาจาเยว โคจรา เอเตสนฺติ วาจาโคจราฯ มุขายามนฺติ วิวทนวเสน มุขํ อายาเมตฺวา ภาณิโนฯ น ตํ ชานนฺตีติ ตํ กลหํ น ชานนฺติฯ กลหํ กโรโนฺต จ ตํ น ชานโนฺต นาม นตฺถิฯ ยถา ปน น ชานนฺติ, ตํ ทเสฺสตุํ อาห ‘‘เอวํ สาทีนโว อย’’นฺติ, อยํ กลโห นาม อตฺตโน ปเรสญฺจ อตฺถหาปนโต อนตฺถุปฺปาทนโต ทิเฎฺฐว ธเมฺม สมฺปราเย จ สาทีนโว สโทโสติ อโตฺถฯ ตํ น ชานนฺตีติ ตํ กลหํ น ชานนฺติฯ กถํ น ชานนฺตีติ อาห ‘‘เอวํ สาทีนโว อย’’นฺติ, ‘‘เอวํ สาทีนโว อยํ กลโห’’ติ เอวํ ตํ กลหํ น ชานนฺตีติ อโตฺถฯ
Kalahavasena pavattavācāyeva gocarā etesanti vācāgocarā. Mukhāyāmanti vivadanavasena mukhaṃ āyāmetvā bhāṇino. Na taṃ jānantīti taṃ kalahaṃ na jānanti. Kalahaṃ karonto ca taṃ na jānanto nāma natthi. Yathā pana na jānanti, taṃ dassetuṃ āha ‘‘evaṃ sādīnavo aya’’nti, ayaṃ kalaho nāma attano paresañca atthahāpanato anatthuppādanato diṭṭheva dhamme samparāye ca sādīnavo sadosoti attho. Taṃ na jānantīti taṃ kalahaṃ na jānanti. Kathaṃ na jānantīti āha ‘‘evaṃ sādīnavo aya’’nti, ‘‘evaṃ sādīnavo ayaṃ kalaho’’ti evaṃ taṃ kalahaṃ na jānantīti attho.
อโกฺกจฺฉิ มนฺติอาทีสุ อโกฺกจฺฉีติ อโกฺกสิฯ อวธีติ ปหริฯ อชินีติ กูฎสกฺขิโอตารเณน วา วาทปฎิวาเทน วา กรณุตฺตริยกรเณน วา อเชสิฯ อหาสีติ มม สนฺตกํ ปตฺตาทีสุ กิญฺจิเทว อวหริ ฯ เย จ ตนฺติ เย เกจิ เทวา วา มนุสฺสา วา คหฎฺฐา วา ปพฺพชิตา วา ตํ ‘‘อโกฺกจฺฉิ ม’’นฺติอาทิวตฺถุกํ โกธํ สกฎธุรํ วิย นทฺธินา ปูติมจฺฉาทีนิ วิย จ กุสาทีหิ ปุนปฺปุนํ เวเฐนฺตา อุปนยฺหนฺติ อุปนาหวเสน อนุพนฺธนฺติ, เตสํ สกิํ อุปฺปนฺนํ เวรํ น สมฺมตีติ อโตฺถฯ
Akkocchi mantiādīsu akkocchīti akkosi. Avadhīti pahari. Ajinīti kūṭasakkhiotāraṇena vā vādapaṭivādena vā karaṇuttariyakaraṇena vā ajesi. Ahāsīti mama santakaṃ pattādīsu kiñcideva avahari . Ye ca tanti ye keci devā vā manussā vā gahaṭṭhā vā pabbajitā vā taṃ ‘‘akkocchi ma’’ntiādivatthukaṃ kodhaṃ sakaṭadhuraṃ viya naddhinā pūtimacchādīni viya ca kusādīhi punappunaṃ veṭhentā upanayhanti upanāhavasena anubandhanti, tesaṃ sakiṃ uppannaṃ veraṃ na sammatīti attho.
เย จ ตํ นุปนยฺหนฺตีติ อสฺสติยา อมนสิการวเสน วา กมฺมปจฺจเวกฺขณาทิวเสน วา เย ตํ อโกฺกสาทิวตฺถุกํ โกธํ ‘‘ตยาปิ โกจิ นิโทฺทโส ปุริมภเว อกฺกุโฎฺฐ ภวิสฺสติ, ปหโฎ ภวิสฺสติ, กูฎสกฺขิํ โอตาเรตฺวา ชิโต ภวิสฺสติ, กสฺสจิ เต ปสยฺห กิญฺจิ อจฺฉินฺนํ ภวิสฺสติ, ตสฺมา นิโทฺทโส หุตฺวาปิ อโกฺกสาทีนิ ปาปุณาสี’’ติ เอวํ น อุปนยฺหนฺติ , เตสุ ปมาเทน อุปฺปนฺนมฺปิ เวรํ อิมินา อนุปนยฺหเนน นิรินฺธโน วิย ชาตเวโท อุปสมฺมติฯ
Ye ca taṃ nupanayhantīti assatiyā amanasikāravasena vā kammapaccavekkhaṇādivasena vā ye taṃ akkosādivatthukaṃ kodhaṃ ‘‘tayāpi koci niddoso purimabhave akkuṭṭho bhavissati, pahaṭo bhavissati, kūṭasakkhiṃ otāretvā jito bhavissati, kassaci te pasayha kiñci acchinnaṃ bhavissati, tasmā niddoso hutvāpi akkosādīni pāpuṇāsī’’ti evaṃ na upanayhanti , tesu pamādena uppannampi veraṃ iminā anupanayhanena nirindhano viya jātavedo upasammati.
น หิ เวเรน เวรานีติ ยถา หิ เขฬสิงฺฆาณิกาทิอสุจิมกฺขิตํ ฐานํ เตเหว อสุจีหิ โธวโนฺต สุทฺธํ นิคฺคนฺธํ กาตุํ น สโกฺกติ, อถ โข ตํ ฐานํ ภิโยฺยโส มตฺตาย อสุทฺธตรญฺจ ทุคฺคนฺธตรญฺจ โหติ, เอวเมว อโกฺกสนฺตํ ปจฺจโกฺกสโนฺต ปหรนฺตํ ปฎิปหรโนฺต เวเรน เวรํ วูปสเมตุํ น สโกฺกติ, อถ โข ภิโยฺย เวรเมว กโรติฯ อิติ เวรานิ นาม เวเรน กิสฺมิญฺจิปิ กาเล น สมฺมนฺติ, อถ โข วฑฺฒนฺติเยวฯ อเวเรน จ สมฺมนฺตีติ ยถา ปน ตานิ เขฬาทีนิ อสุจีนิ วิปฺปสเนฺนน อุทเกน โธวิยมานานิ นสฺสนฺติ, ตํ ฐานํ สุทฺธํ โหติ นิคฺคนฺธํ, เอวเมว อเวเรน ขนฺติเมโตฺตทเกน โยนิโสมนสิกาเรน ปฎิสงฺขาเนน ปจฺจเวกฺขเณน เวรานิ วูปสมฺมนฺติ ปฎิปฺปสฺสมฺภนฺติ อภาวํ คจฺฉนฺติฯ เอส ธโมฺม สนนฺตโนติ เอส อเวเรน เวรูปสมนสงฺขาโต โปราณโก ธโมฺม สเพฺพสํ พุทฺธปเจฺจกพุทฺธขีณาสวานํ คตมโคฺคฯ
Na hi verena verānīti yathā hi kheḷasiṅghāṇikādiasucimakkhitaṃ ṭhānaṃ teheva asucīhi dhovanto suddhaṃ niggandhaṃ kātuṃ na sakkoti, atha kho taṃ ṭhānaṃ bhiyyoso mattāya asuddhatarañca duggandhatarañca hoti, evameva akkosantaṃ paccakkosanto paharantaṃ paṭipaharanto verena veraṃ vūpasametuṃ na sakkoti, atha kho bhiyyo verameva karoti. Iti verāni nāma verena kismiñcipi kāle na sammanti, atha kho vaḍḍhantiyeva. Averena ca sammantīti yathā pana tāni kheḷādīni asucīni vippasannena udakena dhoviyamānāni nassanti, taṃ ṭhānaṃ suddhaṃ hoti niggandhaṃ, evameva averena khantimettodakena yonisomanasikārena paṭisaṅkhānena paccavekkhaṇena verāni vūpasammanti paṭippassambhanti abhāvaṃ gacchanti. Esa dhammo sanantanoti esa averena verūpasamanasaṅkhāto porāṇako dhammo sabbesaṃ buddhapaccekabuddhakhīṇāsavānaṃ gatamaggo.
น ชานนฺตีติ อนิจฺจสญฺญํ น ปจฺจุปฎฺฐาเปนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ ตโต สมฺมนฺติ เมธคาติ ตโต ตสฺมา การณา เมธคา กลหา สมฺมนฺติ วูปสมํ คจฺฉนฺติฯ กถํ เต สมฺมนฺตีติ อาห ‘‘เอวญฺหี’’ติอาทิฯ ตตฺถ เอวญฺหิ เต ชานนฺตาติ เต ปณฺฑิตา ‘‘มยํ มจฺจุสมีปํ คจฺฉามา’’ติ เอวํ ชานนฺตา โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา เมธคานํ กลหานํ วูปสมาย ปฎิปชฺชนฺติ, อถ เนสํ ตาย ปฎิปตฺติยา เต เมธคา สมฺมนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ
Na jānantīti aniccasaññaṃ na paccupaṭṭhāpentīti adhippāyo. Tato sammanti medhagāti tato tasmā kāraṇā medhagā kalahā sammanti vūpasamaṃ gacchanti. Kathaṃ te sammantīti āha ‘‘evañhī’’tiādi. Tattha evañhi te jānantāti te paṇḍitā ‘‘mayaṃ maccusamīpaṃ gacchāmā’’ti evaṃ jānantā yonisomanasikāraṃ uppādetvā medhagānaṃ kalahānaṃ vūpasamāya paṭipajjanti, atha nesaṃ tāya paṭipattiyā te medhagā sammantīti adhippāyo.
เตสมฺปิ โหติ สงฺคตีติ เย มาตาปิตูนํ อฎฺฐีนิ ฉินฺทนฺติ, ปาเณ หรนฺติ, ควาทีนิ จ ปสยฺห คณฺหนฺติ, เอวํ รฎฺฐํ วิลุมฺปมานานํ เตสมฺปิ สงฺคติ โหติ, กิมงฺคํ ปน ตุมฺหากํ น สิยาติ อธิปฺปาโยฯ
Tesampi hoti saṅgatīti ye mātāpitūnaṃ aṭṭhīni chindanti, pāṇe haranti, gavādīni ca pasayha gaṇhanti, evaṃ raṭṭhaṃ vilumpamānānaṃ tesampi saṅgati hoti, kimaṅgaṃ pana tumhākaṃ na siyāti adhippāyo.
วณฺณาวณฺณทีปนตฺถํ วุตฺตาติ ‘‘พาลสหายตาย อิเม ภิกฺขู กลหปสุตา, ปณฺฑิตสหายานํ ปน อิทํ น สิยา’’ติ ปณฺฑิตสหายสฺส พาลสหายสฺส จ วณฺณาวณฺณทีปนตฺถํ วุตฺตาฯ นิปกนฺติ เนปกฺกปญฺญาย สมนฺนาคตํฯ สาธุวิหาริ ธีรนฺติ ภทฺทกวิหาริํ ปณฺฑิตํฯ ปากฎปริสฺสเย จ ปฎิจฺฉนฺนปริสฺสเย จ อภิภวิตฺวาติ สีหพฺยคฺฆาทโย ปากฎปริสฺสเย จ ราคภยโทสภยาทโย ปฎิจฺฉนฺนปริสฺสเย จาติ สเพฺพว ปริสฺสเย อภิภวิตฺวาฯ
Vaṇṇāvaṇṇadīpanatthaṃ vuttāti ‘‘bālasahāyatāya ime bhikkhū kalahapasutā, paṇḍitasahāyānaṃ pana idaṃ na siyā’’ti paṇḍitasahāyassa bālasahāyassa ca vaṇṇāvaṇṇadīpanatthaṃ vuttā. Nipakanti nepakkapaññāya samannāgataṃ. Sādhuvihāri dhīranti bhaddakavihāriṃ paṇḍitaṃ. Pākaṭaparissaye ca paṭicchannaparissaye ca abhibhavitvāti sīhabyagghādayo pākaṭaparissaye ca rāgabhayadosabhayādayo paṭicchannaparissaye cāti sabbeva parissaye abhibhavitvā.
เอกกา จริํสูติ ‘‘อิทํ รชฺชํ นาม มหนฺตํ ปมาทฎฺฐานํ, กิํ อมฺหากํ รเชฺชน การิเตนา’’ติ รฎฺฐํ ปหาย ตโต มหาอรญฺญํ ปวิสิตฺวา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา จตูสุ อิริยาปเถสุ เอกกา จริํสูติ อโตฺถฯ
Ekakācariṃsūti ‘‘idaṃ rajjaṃ nāma mahantaṃ pamādaṭṭhānaṃ, kiṃ amhākaṃ rajjena kāritenā’’ti raṭṭhaṃ pahāya tato mahāaraññaṃ pavisitvā tāpasapabbajjaṃ pabbajitvā catūsu iriyāpathesu ekakā cariṃsūti attho.
เอกสฺส จริตํ เสโยฺยติ ปพฺพชิตสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปฎฺฐาย เอกีภาวาภิรตสฺส เอกกเสฺสว จริตํ เสโยฺยติ อโตฺถฯ นตฺถิ พาเล สหายตาติ จูฬสีลํ มชฺฌิมสีลํ มหาสีลํ ทส กถาวตฺถูนิ เตรส ธุตคุณา วิปสฺสนาญาณํ จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ ติโสฺส วิชฺชา ฉ อภิญฺญา อมตมหานิพฺพานนฺติ อยํ สหายตา นาม, สา พาลํ นิสฺสาย อธิคนฺตุํ น สกฺกาติ นตฺถิ พาเล สหายตาฯ มาตโงฺค อรเญฺญ มาตงฺครเญฺญติ สรโลเปน สนฺธิฯ ‘‘มาตงฺครโญฺญ’’ติปิ ปาโฐ, อรญฺญโก มาตโงฺค วิยาติ อโตฺถฯ มาตงฺค-สเทฺทเนว หตฺถิภาวสฺส วุตฺตตฺตา นาควจนํ ตสฺส มหตฺตวิภาวนตฺถนฺติ อาห ‘‘นาโคติ มหนฺตาธิวจนเมต’’นฺติฯ มหนฺตปริยาโย หิ นาค-สโทฺท โหติ ‘‘เอตํ นาคสฺส นาเคน, อีสาทนฺตสฺส หตฺถิโน’’ติอาทีสุ (อุทา. ๓๕)ฯ
Ekassa caritaṃ seyyoti pabbajitassa pabbajitakālato paṭṭhāya ekībhāvābhiratassa ekakasseva caritaṃ seyyoti attho. Natthi bāle sahāyatāti cūḷasīlaṃ majjhimasīlaṃ mahāsīlaṃ dasa kathāvatthūni terasa dhutaguṇā vipassanāñāṇaṃ cattāro maggā cattāri phalāni tisso vijjā cha abhiññā amatamahānibbānanti ayaṃ sahāyatā nāma, sā bālaṃ nissāya adhigantuṃ na sakkāti natthi bāle sahāyatā. Mātaṅgo araññe mātaṅgaraññeti saralopena sandhi. ‘‘Mātaṅgarañño’’tipi pāṭho, araññako mātaṅgo viyāti attho. Mātaṅga-saddeneva hatthibhāvassa vuttattā nāgavacanaṃ tassa mahattavibhāvanatthanti āha ‘‘nāgoti mahantādhivacanameta’’nti. Mahantapariyāyo hi nāga-saddo hoti ‘‘etaṃ nāgassa nāgena, īsādantassa hatthino’’tiādīsu (udā. 35).
ทีฆาวุวตฺถุกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dīghāvuvatthukathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๒๗๒. ทีฆาวุวตฺถุ • 272. Dīghāvuvatthu
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / โกสมฺพกวิวาทกถา • Kosambakavivādakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ทีฆาวุวตฺถุกถาวณฺณนา • Dīghāvuvatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / โกสมฺพกวิวาทกถาวณฺณนา • Kosambakavivādakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๗๑. โกสมฺพกวิวาทกถา • 271. Kosambakavivādakathā