Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๕. ทีปิกงฺคปโญฺห
5. Dīpikaṅgapañho
๕. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ‘ทีปิกสฺส เทฺว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ เทฺว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ทีปิโก อรเญฺญ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย นิลียิตฺวา มิเค คณฺหาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิเวกํ เสวิตพฺพํ อรญฺญํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อโพฺภกาสํ ปลาลปุญฺชํ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิโคฺฆสํ วิชนวาตํ มนุสฺสราหเสยฺยกํ ปฎิสลฺลานสารุปฺปํ; วิเวกํ เสวมาโน หิ, มหาราช, โยคี โยคาวจโร นจิรเสฺสว ฉฬภิญฺญาสุ จ วสิภาวํ ปาปุณาติฯ อิทํ, มหาราช, ทีปิกสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, เถเรหิ ธมฺมสงฺคาหเกหิ –
5. ‘‘Bhante nāgasena, ‘dīpikassa dve aṅgāni gahetabbānī’ti yaṃ vadesi, katamāni tāni dve aṅgāni gahetabbānī’’ti? ‘‘Yathā, mahārāja, dīpiko araññe tiṇagahanaṃ vā vanagahanaṃ vā pabbatagahanaṃ vā nissāya nilīyitvā mige gaṇhāti, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena vivekaṃ sevitabbaṃ araññaṃ rukkhamūlaṃ pabbataṃ kandaraṃ giriguhaṃ susānaṃ vanapatthaṃ abbhokāsaṃ palālapuñjaṃ appasaddaṃ appanigghosaṃ vijanavātaṃ manussarāhaseyyakaṃ paṭisallānasāruppaṃ; vivekaṃ sevamāno hi, mahārāja, yogī yogāvacaro nacirasseva chaḷabhiññāsu ca vasibhāvaṃ pāpuṇāti. Idaṃ, mahārāja, dīpikassa paṭhamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, therehi dhammasaṅgāhakehi –
ตเถวายํ พุทฺธปุโตฺต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;
Tathevāyaṃ buddhaputto, yuttayogo vipassako;
อรญฺญํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’นฺติฯ
Araññaṃ pavisitvāna, gaṇhāti phalamuttama’nti.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ทีปิโก ยํ กิญฺจิ ปสุํ วธิตฺวา วาเมน ปเสฺสน ปติตํ น ภเกฺขติฯ เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เวฬุทาเนน วา ปตฺตทาเนน วา ปุปฺผทาเนน วา ผลทาเนน วา สินานทาเนน วา มตฺติกาทาเนน วา จุณฺณทาเนน วา ทนฺตกฎฺฐทาเนน วา มุโขทกทาเนน วา จาตุกมฺยตาย วา มุคฺคสุปฺยตาย 3 วา ปาริภฎ 4 ยตาย วา ชงฺฆเปสนีเยน วา เวชฺชกเมฺมน วา ทูตกเมฺมน วา ปหิณคมเนน วา ปิณฺฑปฎิปิเณฺฑน วา ทานานุปฺปทาเนน วา วตฺถุวิชฺชาย วา นกฺขตฺตวิชฺชาย วา องฺควิชฺชาย 5 วา อญฺญตรญฺญตเรน วา พุทฺธปฺปฎิกุเฎฺฐน มิจฺฉาชีเวน นิปฺผาทิตํ โภชนํ น ภุญฺชิตพฺพํ 6 วาเมน ปเสฺสน ปติตํ ปสุํ วิย ทีปิโกฯ อิทํ, มหาราช, ทีปิกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุเตฺตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, dīpiko yaṃ kiñci pasuṃ vadhitvā vāmena passena patitaṃ na bhakkheti. Evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena veḷudānena vā pattadānena vā pupphadānena vā phaladānena vā sinānadānena vā mattikādānena vā cuṇṇadānena vā dantakaṭṭhadānena vā mukhodakadānena vā cātukamyatāya vā muggasupyatāya 7 vā pāribhaṭa 8 yatāya vā jaṅghapesanīyena vā vejjakammena vā dūtakammena vā pahiṇagamanena vā piṇḍapaṭipiṇḍena vā dānānuppadānena vā vatthuvijjāya vā nakkhattavijjāya vā aṅgavijjāya 9 vā aññataraññatarena vā buddhappaṭikuṭṭhena micchājīvena nipphāditaṃ bhojanaṃ na bhuñjitabbaṃ 10 vāmena passena patitaṃ pasuṃ viya dīpiko. Idaṃ, mahārāja, dīpikassa dutiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, therena sāriputtena dhammasenāpatinā –
‘‘‘วจีวิญฺญตฺติวิปฺผารา, อุปฺปนฺนํ มธุปายสํ;
‘‘‘Vacīviññattivipphārā, uppannaṃ madhupāyasaṃ;
สเจ ภุโตฺต ภเวยฺยาหํ, สาชีโว ครหิโต มมฯ
Sace bhutto bhaveyyāhaṃ, sājīvo garahito mama.
‘‘‘ยทิปิ เม อนฺตคุณํ, นิกฺขมิตฺวา พหี จเร;
‘‘‘Yadipi me antaguṇaṃ, nikkhamitvā bahī care;
เนว ภิเนฺทยฺยมาชีวํ, จชมาโนปิ ชีวิต’’’นฺติฯ
Neva bhindeyyamājīvaṃ, cajamānopi jīvita’’’nti.
ทีปิกงฺคปโญฺห ปญฺจโมฯ
Dīpikaṅgapañho pañcamo.
Footnotes: