Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi |
๔. ทิฎฺฐาวิกมฺมวโคฺค
4. Diṭṭhāvikammavaggo
๔๒๕. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, อธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, อธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมาฯ กตเม ปญฺจ? อนาปตฺติยา ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, อเทสนาคามินิยา อาปตฺติยา ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, เทสิตาย อาปตฺติยา ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, จตูหิ ปญฺจหิ ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, มโน มานเสน ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมาฯ
425. ‘‘Kati nu kho, bhante, adhammikā diṭṭhāvikammā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, adhammikā diṭṭhāvikammā. Katame pañca? Anāpattiyā diṭṭhiṃ āvi karoti, adesanāgāminiyā āpattiyā diṭṭhiṃ āvi karoti, desitāya āpattiyā diṭṭhiṃ āvi karoti, catūhi pañcahi diṭṭhiṃ āvi karoti, mano mānasena diṭṭhiṃ āvi karoti – ime kho, upāli, pañca adhammikā diṭṭhāvikammā.
‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, ธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมาฯ กตเม ปญฺจ? อาปตฺติยา ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, เทสนาคามินิยา อาปตฺติยา ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, อเทสิตาย อาปตฺติยา ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, น จตูหิ ปญฺจหิ ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, น มโน มานเสน ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ ธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมาฯ
‘‘Pañcime, upāli, dhammikā diṭṭhāvikammā. Katame pañca? Āpattiyā diṭṭhiṃ āvi karoti, desanāgāminiyā āpattiyā diṭṭhiṃ āvi karoti, adesitāya āpattiyā diṭṭhiṃ āvi karoti, na catūhi pañcahi diṭṭhiṃ āvi karoti, na mano mānasena diṭṭhiṃ āvi karoti – ime kho, upāli, pañca dhammikā diṭṭhāvikammā.
‘‘อปเรปิ , อุปาลิ, ปญฺจ อธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมาฯ กตเม ปญฺจ? นานาสํวาสกสฺส สนฺติเก ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, นานาสีมาย ฐิตสฺส สนฺติเก ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, อปกตตฺตสฺส สนฺติเก ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, จตูหิ ปญฺจหิ ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, มโน มานเสน ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมาฯ
‘‘Aparepi , upāli, pañca adhammikā diṭṭhāvikammā. Katame pañca? Nānāsaṃvāsakassa santike diṭṭhiṃ āvi karoti, nānāsīmāya ṭhitassa santike diṭṭhiṃ āvi karoti, apakatattassa santike diṭṭhiṃ āvi karoti, catūhi pañcahi diṭṭhiṃ āvi karoti, mano mānasena diṭṭhiṃ āvi karoti – ime kho, upāli, pañca adhammikā diṭṭhāvikammā.
‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, ธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมาฯ กตเม ปญฺจ? สมานสํวาสกสฺส สนฺติเก ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, สมานสีมาย ฐิตสฺส สนฺติเก ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, ปกตตฺตสฺส สนฺติเก ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, น จตูหิ ปญฺจหิ ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ, น มโน มานเสน ทิฎฺฐิํ อาวิ กโรติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ ธมฺมิกา ทิฎฺฐาวิกมฺมาติฯ
‘‘Pañcime, upāli, dhammikā diṭṭhāvikammā. Katame pañca? Samānasaṃvāsakassa santike diṭṭhiṃ āvi karoti, samānasīmāya ṭhitassa santike diṭṭhiṃ āvi karoti, pakatattassa santike diṭṭhiṃ āvi karoti, na catūhi pañcahi diṭṭhiṃ āvi karoti, na mano mānasena diṭṭhiṃ āvi karoti – ime kho, upāli, pañca dhammikā diṭṭhāvikammāti.
๔๒๖. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, อธมฺมิกา ปฎิคฺคหา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, อธมฺมิกา ปฎิคฺคหาฯ กตเม ปญฺจ? กาเยน ทิยฺยมานํ กาเยน อปฺปฎิคฺคหิตํ, กาเยน ทิยฺยมานํ กายปฺปฎิพเทฺธน อปฺปฎิคฺคหิตํ, กายปฺปฎิพเทฺธน ทิยฺยมานํ กาเยน อปฺปฎิคฺคหิตํ, กายปฺปฎิพเทฺธน ทิยฺยมานํ กายปฺปฎิพเทฺธน อปฺปฎิคฺคหิตํ, นิสฺสคฺคิเยน ทิยฺยมานํ กาเยน วา กายปฺปฎิพเทฺธน วา อปฺปฎิคฺคหิตํ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อธมฺมิกา ปฎิคฺคหาฯ
426. ‘‘Kati nu kho, bhante, adhammikā paṭiggahā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, adhammikā paṭiggahā. Katame pañca? Kāyena diyyamānaṃ kāyena appaṭiggahitaṃ, kāyena diyyamānaṃ kāyappaṭibaddhena appaṭiggahitaṃ, kāyappaṭibaddhena diyyamānaṃ kāyena appaṭiggahitaṃ, kāyappaṭibaddhena diyyamānaṃ kāyappaṭibaddhena appaṭiggahitaṃ, nissaggiyena diyyamānaṃ kāyena vā kāyappaṭibaddhena vā appaṭiggahitaṃ – ime kho, upāli, pañca adhammikā paṭiggahā.
‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, ธมฺมิกา ปฎิคฺคหาฯ กตเม ปญฺจ? กาเยน ทิยฺยมานํ กาเยน ปฎิคฺคหิตํ, กาเยน ทิยฺยมานํ กายปฺปฎิพเทฺธน ปฎิคฺคหิตํ, กายปฺปฎิพเทฺธน ทิยฺยมานํ กาเยน ปฎิคฺคหิตํ, กายปฺปฎิพเทฺธน ทิยฺยมานํ กายปฺปฎิพเทฺธน ปฎิคฺคหิตํ, นิสฺสคฺคิเยน ทิยฺยมานํ กาเยน วา กายปฺปฎิพเทฺธน วา ปฎิคฺคหิตํ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ ธมฺมิกา ปฎิคฺคหา’’ติฯ
‘‘Pañcime, upāli, dhammikā paṭiggahā. Katame pañca? Kāyena diyyamānaṃ kāyena paṭiggahitaṃ, kāyena diyyamānaṃ kāyappaṭibaddhena paṭiggahitaṃ, kāyappaṭibaddhena diyyamānaṃ kāyena paṭiggahitaṃ, kāyappaṭibaddhena diyyamānaṃ kāyappaṭibaddhena paṭiggahitaṃ, nissaggiyena diyyamānaṃ kāyena vā kāyappaṭibaddhena vā paṭiggahitaṃ – ime kho, upāli, pañca dhammikā paṭiggahā’’ti.
๔๒๗. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, อนติริตฺตา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, อนติริตฺตาฯ กตเม ปญฺจ? 1 อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฎิคฺคหิตกตํ โหติ อนุจฺจาริตกตํ โหติ, อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อลเมตํ สพฺพนฺติ อวุตฺตํ โหติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อนติริตฺตาฯ
427. ‘‘Kati nu kho, bhante, anatirittā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, anatirittā. Katame pañca? 2 Akappiyakataṃ hoti, appaṭiggahitakataṃ hoti anuccāritakataṃ hoti, ahatthapāse kataṃ hoti, alametaṃ sabbanti avuttaṃ hoti – ime kho, upāli, pañca anatirittā.
‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, อติริตฺตาฯ กตเม ปญฺจ? 3 กปฺปิยกตํ โหติ, ปฎิคฺคหิตกตํ โหติ, อุจฺจาริตกตํ โหติ, หตฺถปาเส กตํ โหติ, อลเมตํ สพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อติริตฺตา’’ติฯ
‘‘Pañcime, upāli, atirittā. Katame pañca? 4 Kappiyakataṃ hoti, paṭiggahitakataṃ hoti, uccāritakataṃ hoti, hatthapāse kataṃ hoti, alametaṃ sabbanti vuttaṃ hoti – ime kho, upāli, pañca atirittā’’ti.
๔๒๘. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อากาเรหิ ปวารณา ปญฺญายตี’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อากาเรหิ ปวารณา ปญฺญายติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? 5 อสนํ ปญฺญายติ, โภชนํ ปญฺญายติ, หตฺถปาเส ฐิโต อภิหรติ, ปฎิเกฺขโป ปญฺญายติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหากาเรหิ ปวารณา ปญฺญายตี’’ติฯ
428. ‘‘Katihi nu kho, bhante, ākārehi pavāraṇā paññāyatī’’ti? ‘‘Pañcahupāli, ākārehi pavāraṇā paññāyati. Katamehi pañcahi? 6 Asanaṃ paññāyati, bhojanaṃ paññāyati, hatthapāse ṭhito abhiharati, paṭikkhepo paññāyati – imehi kho, upāli, pañcahākārehi pavāraṇā paññāyatī’’ti.
๔๒๙. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, อธมฺมิกา ปฎิญฺญาตกรณา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, อธมฺมิกา ปฎิญฺญาตกรณาฯ กตเม ปญฺจ? ภิกฺขุ ปาราชิกํ อชฺฌาปโนฺน โหติ, ปาราชิเกน โจทิยมาโน สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปโนฺน ปฎิชานาติ, ตํ สโงฺฆ สงฺฆาทิเสเสน กาเรติ, อธมฺมิกํ ปฎิญฺญาตกรณํ ฯ ภิกฺขุ ปาราชิกํ อชฺฌาปโนฺน โหติ, ปาราชิเกน โจทิยมาโน ปาจิตฺติยํ…เป.… ปาฎิเทสนียํ… ทุกฺกฎํ อชฺฌาปโนฺน ปฎิชานาติ, ตํ สโงฺฆ ทุกฺกเฎน กาเรติ, อธมฺมิกํ ปฎิญฺญาตกรณํฯ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ…เป.… ปาจิตฺติยํ… ปาฎิเทสนียํ… ทุกฺกฎํ อชฺฌาปโนฺน โหติฯ ทุกฺกเฎน โจทิยมาโน ปาราชิกํ อชฺฌาปโนฺน ปฎิชานาติ, ตํ สโงฺฆ ปาราชิเกน กาเรติ, อธมฺมิกํ ปฎิญฺญาตกรณํฯ ภิกฺขุ ทุกฺกฎํ อชฺฌาปโนฺน โหติ, ทุกฺกเฎน โจทิยมาโน สงฺฆาทิเสสํ…เป.… ปาจิตฺติยํ… ปาฎิเทสนียํ อชฺฌาปโนฺน ปฎิชานาติ, ตํ สโงฺฆ ปาฎิเทสนีเยน กาเรติ – อธมฺมิกํ ปฎิญฺญาตกรณํฯ อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อธมฺมิกา ปฎิญฺญาตกรณาฯ
429. ‘‘Kati nu kho, bhante, adhammikā paṭiññātakaraṇā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, adhammikā paṭiññātakaraṇā. Katame pañca? Bhikkhu pārājikaṃ ajjhāpanno hoti, pārājikena codiyamāno saṅghādisesaṃ ajjhāpanno paṭijānāti, taṃ saṅgho saṅghādisesena kāreti, adhammikaṃ paṭiññātakaraṇaṃ . Bhikkhu pārājikaṃ ajjhāpanno hoti, pārājikena codiyamāno pācittiyaṃ…pe… pāṭidesanīyaṃ… dukkaṭaṃ ajjhāpanno paṭijānāti, taṃ saṅgho dukkaṭena kāreti, adhammikaṃ paṭiññātakaraṇaṃ. Bhikkhu saṅghādisesaṃ…pe… pācittiyaṃ… pāṭidesanīyaṃ… dukkaṭaṃ ajjhāpanno hoti. Dukkaṭena codiyamāno pārājikaṃ ajjhāpanno paṭijānāti, taṃ saṅgho pārājikena kāreti, adhammikaṃ paṭiññātakaraṇaṃ. Bhikkhu dukkaṭaṃ ajjhāpanno hoti, dukkaṭena codiyamāno saṅghādisesaṃ…pe… pācittiyaṃ… pāṭidesanīyaṃ ajjhāpanno paṭijānāti, taṃ saṅgho pāṭidesanīyena kāreti – adhammikaṃ paṭiññātakaraṇaṃ. Ime kho, upāli, pañca adhammikā paṭiññātakaraṇā.
‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, ธมฺมิกา ปฎิญฺญาตกรณาฯ กตเม ปญฺจ? ภิกฺขุ ปาราชิกํ อชฺฌาปโนฺน โหติ, ปาราชิเกน โจทิยมาโน ปาราชิกํ อชฺฌาปโนฺน ปฎิชานาติ, ตํ สโงฺฆ ปาราชิเกน กาเรติ, ธมฺมิกํ ปฎิญฺญาตกรณํฯ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ…เป.… ปาจิตฺติยํ… ปาฎิเทสนียํ… ทุกฺกฎํ อชฺฌาปโนฺน โหติ, ทุกฺกเฎน โจทิยมาโน ทุกฺกฎํ อชฺฌาปโนฺน ปฎิชานาติ , ตํ สโงฺฆ ทุกฺกเฎน กาเรติ, ธมฺมิกํ ปฎิญฺญาตกรณํฯ อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ ธมฺมิกา ปฎิญฺญาตกรณา’’ติฯ
‘‘Pañcime, upāli, dhammikā paṭiññātakaraṇā. Katame pañca? Bhikkhu pārājikaṃ ajjhāpanno hoti, pārājikena codiyamāno pārājikaṃ ajjhāpanno paṭijānāti, taṃ saṅgho pārājikena kāreti, dhammikaṃ paṭiññātakaraṇaṃ. Bhikkhu saṅghādisesaṃ…pe… pācittiyaṃ… pāṭidesanīyaṃ… dukkaṭaṃ ajjhāpanno hoti, dukkaṭena codiyamāno dukkaṭaṃ ajjhāpanno paṭijānāti , taṃ saṅgho dukkaṭena kāreti, dhammikaṃ paṭiññātakaraṇaṃ. Ime kho, upāli, pañca dhammikā paṭiññātakaraṇā’’ti.
๔๓๐. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อลชฺชี จ โหติ, พาโล จ, อปกตโตฺต จ, จาวนาธิปฺปาโย วตฺตา โหติ, โน วุฎฺฐานาธิปฺปาโย – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุํฯ
430. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgatassa bhikkhuno okāsakammaṃ kārāpentassa nālaṃ okāsakammaṃ kātu’’nti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgatassa bhikkhuno okāsakammaṃ kārāpentassa nālaṃ okāsakammaṃ kātuṃ. Katamehi pañcahi? Alajjī ca hoti, bālo ca, apakatatto ca, cāvanādhippāyo vattā hoti, no vuṭṭhānādhippāyo – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatassa bhikkhuno okāsakammaṃ kārāpentassa nālaṃ okāsakammaṃ kātuṃ.
‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส อลํ โอกาสกมฺมํ กาตุํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ลชฺชี จ โหติ, ปณฺฑิโต จ, ปกตโตฺต จ, วุฎฺฐานาธิปฺปาโย วตฺตา โหติ, โน จาวนาธิปฺปาโย – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส อลํ โอกาสกมฺมํ กาตุ’’นฺติฯ
‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgatassa bhikkhuno okāsakammaṃ kārāpentassa alaṃ okāsakammaṃ kātuṃ. Katamehi pañcahi? Lajjī ca hoti, paṇḍito ca, pakatatto ca, vuṭṭhānādhippāyo vattā hoti, no cāvanādhippāyo – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatassa bhikkhuno okāsakammaṃ kārāpentassa alaṃ okāsakammaṃ kātu’’nti.
๔๓๑. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ วินโย น สากจฺฉิตโพฺพ’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ วินโย น สากจฺฉิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? วตฺถุํ น ชานาติ, นิทานํ น ชานาติ, ปญฺญตฺติํ น ชานาติ, ปทปจฺจาภฎฺฐํ น ชานาติ, อนุสนฺธิวจนปถํ น ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ วินโย น สากจฺฉิตโพฺพฯ
431. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgatena bhikkhunā saddhiṃ vinayo na sākacchitabbo’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgatena bhikkhunā saddhiṃ vinayo na sākacchitabbo. Katamehi pañcahi? Vatthuṃ na jānāti, nidānaṃ na jānāti, paññattiṃ na jānāti, padapaccābhaṭṭhaṃ na jānāti, anusandhivacanapathaṃ na jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatena bhikkhunā saddhiṃ vinayo na sākacchitabbo.
‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ วินโย สากจฺฉิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? วตฺถุํ ชานาติ, นิทานํ ชานาติ, ปญฺญตฺติํ ชานาติ, ปทปจฺจาภฎฺฐํ ชานาติ, อนุสนฺธิวจนปถํ ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ วินโย สากจฺฉิตโพฺพ’’ติฯ
‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgatena bhikkhunā saddhiṃ vinayo sākacchitabbo. Katamehi pañcahi? Vatthuṃ jānāti, nidānaṃ jānāti, paññattiṃ jānāti, padapaccābhaṭṭhaṃ jānāti, anusandhivacanapathaṃ jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatena bhikkhunā saddhiṃ vinayo sākacchitabbo’’ti.
๔๓๒. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, ปญฺหาปุจฺฉา’’ติ? ‘‘ปญฺจิมา, อุปาลิ, ปญฺหาปุจฺฉาฯ กตมา ปญฺจ? มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ปญฺหํ ปุจฺฉติ, ปาปิโจฺฉ อิจฺฉาปกโต ปญฺหํ ปุจฺฉติ, ปริภวา ปญฺหํ ปุจฺฉติ , อญฺญาตุกาโม ปญฺหํ ปุจฺฉติ, สเจ เม ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมฺมเทว พฺยากริสฺสติ อิเจฺจตํ กุสลํ โน เจ ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมฺมเทว พฺยากริสฺสติ อหมสฺส สมฺมเทว พฺยากริสฺสามีติ ปญฺหํ ปุจฺฉติ – อิมา โข, อุปาลิ, ปญฺจ ปญฺหาปุจฺฉา’’ติฯ
432. ‘‘Kati nu kho, bhante, pañhāpucchā’’ti? ‘‘Pañcimā, upāli, pañhāpucchā. Katamā pañca? Mandattā momūhattā pañhaṃ pucchati, pāpiccho icchāpakato pañhaṃ pucchati, paribhavā pañhaṃ pucchati , aññātukāmo pañhaṃ pucchati, sace me pañhaṃ puṭṭho sammadeva byākarissati iccetaṃ kusalaṃ no ce pañhaṃ puṭṭho sammadeva byākarissati ahamassa sammadeva byākarissāmīti pañhaṃ pucchati – imā kho, upāli, pañca pañhāpucchā’’ti.
๔๓๓. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, อญฺญพฺยากรณา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, อญฺญพฺยากรณาฯ กตเม ปญฺจ? มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา อญฺญํ พฺยากโรติ, ปาปิโจฺฉ อิจฺฉาปกโต อญฺญํ พฺยากโรติ, อุมฺมาทา จิตฺตเกฺขปา อญฺญํ พฺยากโรติ , อธิมาเนน อญฺญํ พฺยากโรติ, ภูตํ อญฺญํ พฺยากโรติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อญฺญพฺยากรณา’’ติฯ
433. ‘‘Kati nu kho, bhante, aññabyākaraṇā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, aññabyākaraṇā. Katame pañca? Mandattā momūhattā aññaṃ byākaroti, pāpiccho icchāpakato aññaṃ byākaroti, ummādā cittakkhepā aññaṃ byākaroti , adhimānena aññaṃ byākaroti, bhūtaṃ aññaṃ byākaroti – ime kho, upāli, pañca aññabyākaraṇā’’ti.
๔๓๔. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, วิสุทฺธิโย’’ติ? ‘‘ปญฺจิมา, อุปาลิ, วิสุทฺธิโยฯ กตมา ปญฺจ? นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ อยํ ปฐมา วิสุทฺธิ, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ อยํ ทุติยา วิสุทฺธิ, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ อยํ ตติยา วิสุทฺธิ, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา เทฺว อนิยเต อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ อยํ จตุตฺถา วิสุทฺธิ, วิตฺถาเรเนว ปญฺจมี – อิมา โข, อุปาลิ, ปญฺจ วิสุทฺธิโย’’ติฯ
434. ‘‘Kati nu kho, bhante, visuddhiyo’’ti? ‘‘Pañcimā, upāli, visuddhiyo. Katamā pañca? Nidānaṃ uddisitvā avasesaṃ sutena sāvetabbaṃ ayaṃ paṭhamā visuddhi, nidānaṃ uddisitvā cattāri pārājikāni uddisitvā avasesaṃ sutena sāvetabbaṃ ayaṃ dutiyā visuddhi, nidānaṃ uddisitvā cattāri pārājikāni uddisitvā terasa saṅghādisese uddisitvā avasesaṃ sutena sāvetabbaṃ ayaṃ tatiyā visuddhi, nidānaṃ uddisitvā cattāri pārājikāni uddisitvā terasa saṅghādisese uddisitvā dve aniyate uddisitvā avasesaṃ sutena sāvetabbaṃ ayaṃ catutthā visuddhi, vitthāreneva pañcamī – imā kho, upāli, pañca visuddhiyo’’ti.
๔๓๕. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, โภชนา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, โภชนา ฯ กตเม ปญฺจ? โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มโจฺฉ, มํสํ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ โภชนา’’ติฯ
435. ‘‘Kati nu kho, bhante, bhojanā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, bhojanā . Katame pañca? Odano, kummāso, sattu, maccho, maṃsaṃ – ime kho, upāli, pañca bhojanā’’ti.
ทิฎฺฐาวิกมฺมวโคฺค นิฎฺฐิโต จตุโตฺถฯ
Diṭṭhāvikammavaggo niṭṭhito catuttho.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
ทิฎฺฐาวิกมฺมา อปเร, ปฎิคฺคหานติริตฺตา;
Diṭṭhāvikammā apare, paṭiggahānatirittā;
ปวารณา ปฎิญฺญาตํ, โอกาสํ สากเจฺฉน จ;
Pavāraṇā paṭiññātaṃ, okāsaṃ sākacchena ca;
ปญฺหํ อญฺญพฺยากรณา, วิสุทฺธิ จาปิ โภชนาติฯ
Pañhaṃ aññabyākaraṇā, visuddhi cāpi bhojanāti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / ทิฎฺฐาวิกมฺมวคฺควณฺณนา • Diṭṭhāvikammavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ทิฎฺฐาวิกมฺมวคฺควณฺณนา • Diṭṭhāvikammavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ทิฎฺฐาวิกมฺมวคฺควณฺณนา • Diṭṭhāvikammavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / โวหารวคฺคาทิวณฺณนา • Vohāravaggādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ทิฎฺฐาวิกมฺมวคฺควณฺณนา • Diṭṭhāvikammavaggavaṇṇanā