Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๓. โทณปากสุตฺตวณฺณนา
3. Doṇapākasuttavaṇṇanā
๑๒๔. ตติเย โทณปากกุรนฺติ โทณปากํ กุรํ, โทณสฺส ตณฺฑุลานํ ปกฺกภตฺตํ ตทูปิยญฺจ สูปพฺยญฺชนํ ภุญฺชตีติ อโตฺถฯ ภุตฺตาวีติ ปุเพฺพ ภตฺตสมฺมทํ วิโนเทตฺวา มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา พุทฺธุปฎฺฐานํ คจฺฉติ, ตํทิวสํ ปน ภุญฺชโนฺตว ทสพลํ สริตฺวา หเตฺถ โธวิตฺวา อคมาสิฯ มหสฺสาสีติ ตสฺส คจฺฉโต พลวา ภตฺตปรีฬาโห อุทปาทิ, ตสฺมา มหเนฺตหิ อสฺสาเสหิ อสฺสสติ, คตฺตโตปิสฺส เสทพินฺทูนิ มุจฺจนฺติ, ตเมนํ อุโภสุ ปเสฺสสุ ฐตฺวา ยมกตาลวเณฺฎหิ พีชนฺติ, พุทฺธคารเวน ปน นิปชฺชิตุํ น อุสฺสหตีติ อิทํ สนฺธาย ‘‘มหสฺสาสี’’ติ วุตฺตํฯ อิมํ คาถํ อภาสีติ, ราชา โภชเน อมตฺตญฺญุตาย กิลมติ, ผาสุ วิหารํ ทานิสฺส กริสฺสามีติ จิเนฺตตฺวา อภาสิฯ มนุชสฺสาติ สตฺตสฺสฯ กหาปณสตนฺติ ปาตราเส ปณฺณาสํ สายมาเส ปณฺณาสนฺติ เอวํ กหาปณสตํฯ ปริยาปุณิตฺวาติ รญฺญา สทฺธิํ โถกํ คนฺตฺวา ‘‘อิมํ มงฺคลอสิํ กสฺส ทมฺมิ, มหาราชา’’ติ? อสุกสฺส นาม เทหีติ โส ตํ อสิํ ทตฺวา ทสพลสฺส สนฺติกํ อาคมฺม วนฺทิตฺวา ฐิตโกว ‘‘คาถํ วทถ, โภ โคตมา’’ติ วตฺวา ภควตา วุตฺตํ ปริยาปุณิตฺวาติ อโตฺถฯ
124. Tatiye doṇapākakuranti doṇapākaṃ kuraṃ, doṇassa taṇḍulānaṃ pakkabhattaṃ tadūpiyañca sūpabyañjanaṃ bhuñjatīti attho. Bhuttāvīti pubbe bhattasammadaṃ vinodetvā muhuttaṃ vissamitvā buddhupaṭṭhānaṃ gacchati, taṃdivasaṃ pana bhuñjantova dasabalaṃ saritvā hatthe dhovitvā agamāsi. Mahassāsīti tassa gacchato balavā bhattaparīḷāho udapādi, tasmā mahantehi assāsehi assasati, gattatopissa sedabindūni muccanti, tamenaṃ ubhosu passesu ṭhatvā yamakatālavaṇṭehi bījanti, buddhagāravena pana nipajjituṃ na ussahatīti idaṃ sandhāya ‘‘mahassāsī’’ti vuttaṃ. Imaṃ gāthaṃ abhāsīti, rājā bhojane amattaññutāya kilamati, phāsu vihāraṃ dānissa karissāmīti cintetvā abhāsi. Manujassāti sattassa. Kahāpaṇasatanti pātarāse paṇṇāsaṃ sāyamāse paṇṇāsanti evaṃ kahāpaṇasataṃ. Pariyāpuṇitvāti raññā saddhiṃ thokaṃ gantvā ‘‘imaṃ maṅgalaasiṃ kassa dammi, mahārājā’’ti? Asukassa nāma dehīti so taṃ asiṃ datvā dasabalassa santikaṃ āgamma vanditvā ṭhitakova ‘‘gāthaṃ vadatha, bho gotamā’’ti vatvā bhagavatā vuttaṃ pariyāpuṇitvāti attho.
ภตฺตาภิหาเร สุทํ ภาสตีติ กถํ ภาสติ? ภควตา อนุสิฎฺฐินิยาเมนฯ ภควา หิ นํ เอวํ อนุสาสิ – ‘‘มาณว, อิมํ คาถํ นโฎ วิย ปตฺตปตฺตฎฺฐาเน มา อวจ, รโญฺญ ภุญฺชนฎฺฐาเน ฐตฺวา ปฐมปิณฺฑาทีสุปิ อวตฺวา โวสานปิเณฺฑ คหิเต วเทยฺยาสิ, ราชา สุตฺวาว ภตฺตปิณฺฑํ ฉเฑฺฑสฺสติฯ อถ รโญฺญ หเตฺถสุ โธเตสุ ปาติํ อปเนตฺวา สิตฺถานิ คเณตฺวา ตทุปิยํ พฺยญฺชนํ ญตฺวา ปุนทิวเส ตาวตเก ตณฺฑุเล หาเรยฺยาสิ, ปาตราเส จ วตฺวา สายมาเส มา วเทยฺยาสี’’ติฯ โส สาธูติ ปฎิสฺสุณิตฺวา ตํทิวสํ รโญฺญ ปาตราสํ ภุตฺวา คตตฺตา สายมาเส ภควโต อนุสิฎฺฐินิยาเมน คาถํ อภาสิ ฯ ราชา ทสพลสฺส วจนํ สริตฺวา ภตฺตปิณฺฑํ ปาติยํเยว ฉเฑฺฑสิฯ รโญฺญ หเตฺถสุ โธเตสุ ปาติํ อปเนตฺวา สิตฺถานิ คเณตฺวา ตทุปิยํ พฺยญฺชนํ ญตฺวา ปุนทิวเส ตตฺตเก ตณฺฑุเล หริํสุฯ
Bhattābhihāresudaṃ bhāsatīti kathaṃ bhāsati? Bhagavatā anusiṭṭhiniyāmena. Bhagavā hi naṃ evaṃ anusāsi – ‘‘māṇava, imaṃ gāthaṃ naṭo viya pattapattaṭṭhāne mā avaca, rañño bhuñjanaṭṭhāne ṭhatvā paṭhamapiṇḍādīsupi avatvā vosānapiṇḍe gahite vadeyyāsi, rājā sutvāva bhattapiṇḍaṃ chaḍḍessati. Atha rañño hatthesu dhotesu pātiṃ apanetvā sitthāni gaṇetvā tadupiyaṃ byañjanaṃ ñatvā punadivase tāvatake taṇḍule hāreyyāsi, pātarāse ca vatvā sāyamāse mā vadeyyāsī’’ti. So sādhūti paṭissuṇitvā taṃdivasaṃ rañño pātarāsaṃ bhutvā gatattā sāyamāse bhagavato anusiṭṭhiniyāmena gāthaṃ abhāsi . Rājā dasabalassa vacanaṃ saritvā bhattapiṇḍaṃ pātiyaṃyeva chaḍḍesi. Rañño hatthesu dhotesu pātiṃ apanetvā sitthāni gaṇetvā tadupiyaṃ byañjanaṃ ñatvā punadivase tattake taṇḍule hariṃsu.
นาฬิโกทนปรมตาย สณฺฐาสีติ โส กิร มาณโว ทิวเส ทิวเส ตถาคตสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ, ทสพลสฺส วิสฺสาสิโก อโหสิฯ อถ นํ เอกทิวสํ ปุจฺฉิ ‘‘ราชา กิตฺตกํ ภุญฺชตี’’ติ? โส ‘‘นาฬิโกทน’’นฺติ อาหฯ วฎฺฎิสฺสติ เอตฺตาวตา ปุริสภาโค เอส, อิโต ปฎฺฐาย คาถํ มา วทีติฯ อิติ ราชา ตเตฺถว สณฺฐาสิฯ ทิฎฺฐธมฺมิเกน เจว อเตฺถน สมฺปรายิเกน จาติ เอตฺถ สลฺลิขิตสรีรตา ทิฎฺฐธมฺมิกโตฺถ นาม, สีลํ สมฺปรายิกโตฺถฯ โภชเน มตฺตญฺญุตา หิ สีลงฺคํ นาม โหตีติฯ ตติยํฯ
Nāḷikodanaparamatāya saṇṭhāsīti so kira māṇavo divase divase tathāgatassa santikaṃ gacchati, dasabalassa vissāsiko ahosi. Atha naṃ ekadivasaṃ pucchi ‘‘rājā kittakaṃ bhuñjatī’’ti? So ‘‘nāḷikodana’’nti āha. Vaṭṭissati ettāvatā purisabhāgo esa, ito paṭṭhāya gāthaṃ mā vadīti. Iti rājā tattheva saṇṭhāsi. Diṭṭhadhammikena ceva atthena samparāyikena cāti ettha sallikhitasarīratā diṭṭhadhammikattho nāma, sīlaṃ samparāyikattho. Bhojane mattaññutā hi sīlaṅgaṃ nāma hotīti. Tatiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. โทณปากสุตฺตํ • 3. Doṇapākasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. โทณปากสุตฺตวณฺณนา • 3. Doṇapākasuttavaṇṇanā