Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๖. โทณสุตฺตวณฺณนา
6. Doṇasuttavaṇṇanā
๓๖. ฉเฎฺฐ อนฺตรา จ อุกฺกฎฺฐํ อนฺตรา จ เสตพฺยนฺติ เอตฺถ อุกฺกฎฺฐาติ อุกฺกาหิ ธารียมานาหิ มาปิตตฺตา เอวํลทฺธโวหารํ นครํฯ เสตพฺยนฺติ อตีเต กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ชาตนครํฯ อนฺตราสโทฺท ปน การณขณจิตฺตเวมชฺฌวิวราทีสุ วตฺตติฯ ‘‘ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อญฺญตฺร ตถาคตา’’ติ (อ. นิ. ๖.๔๔; ๑๐.๗๕) จ, ‘‘ชนา สงฺคมฺม มเนฺตนฺติ, มญฺจ ตญฺจ กิมนฺตร’’นฺติ จ อาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๒๘) การเณฯ ‘‘อทฺทสา มํ, ภเนฺต, อญฺญตรา อิตฺถี วิชฺชนฺตริกาย ภาชนํ โธวนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) ขเณฯ ‘‘ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปา’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๐) จิเตฺตฯ ‘‘อนฺตราโวสานมาปาที’’ติอาทีสุ เวมเชฺฌฯ ‘‘อปิจายํ ตโปทา ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๓๑) วิวเรฯ สฺวายมิธ วิวเร วตฺตติฯ ตสฺมา อุกฺกฎฺฐาย จ เสตพฺยสฺส จ วิวเรติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ อนฺตราสเทฺทน ปน ยุตฺตตฺตา อุปโยควจนํ กตํฯ อีทิเสสุ จ ฐาเนสุ อกฺขรจินฺตกา ‘‘อนฺตรา คามญฺจ นทิญฺจ ยาตี’’ติ เอวํ เอกเมว อนฺตราสทฺทํ ปยุญฺชนฺติ, โส ทุติยปเทนปิ โยเชตโพฺพ โหติ, อโยชิยมาเน อุปโยควจนํ น ปาปุณาติฯ อิธ ปน โยเชตฺวา เอว วุโตฺตฯ
36. Chaṭṭhe antarā ca ukkaṭṭhaṃ antarā ca setabyanti ettha ukkaṭṭhāti ukkāhi dhārīyamānāhi māpitattā evaṃladdhavohāraṃ nagaraṃ. Setabyanti atīte kassapasammāsambuddhassa jātanagaraṃ. Antarāsaddo pana kāraṇakhaṇacittavemajjhavivarādīsu vattati. ‘‘Tadantaraṃ ko jāneyya aññatra tathāgatā’’ti (a. ni. 6.44; 10.75) ca, ‘‘janā saṅgamma mantenti, mañca tañca kimantara’’nti ca ādīsu (saṃ. ni. 1.228) kāraṇe. ‘‘Addasā maṃ, bhante, aññatarā itthī vijjantarikāya bhājanaṃ dhovantī’’tiādīsu (ma. ni. 2.149) khaṇe. ‘‘Yassantarato na santi kopā’’tiādīsu (udā. 20) citte. ‘‘Antarāvosānamāpādī’’tiādīsu vemajjhe. ‘‘Apicāyaṃ tapodā dvinnaṃ mahānirayānaṃ antarikāya āgacchatī’’tiādīsu (pārā. 231) vivare. Svāyamidha vivare vattati. Tasmā ukkaṭṭhāya ca setabyassa ca vivareti evamettha attho daṭṭhabbo. Antarāsaddena pana yuttattā upayogavacanaṃ kataṃ. Īdisesu ca ṭhānesu akkharacintakā ‘‘antarā gāmañca nadiñca yātī’’ti evaṃ ekameva antarāsaddaṃ payuñjanti, so dutiyapadenapi yojetabbo hoti, ayojiyamāne upayogavacanaṃ na pāpuṇāti. Idha pana yojetvā eva vutto.
อทฺธานมคฺคปฺปฎิปโนฺน โหตีติ อทฺธานสงฺขาตํ มคฺคํ ปฎิปโนฺน โหติ, ทีฆมคฺคนฺติ อโตฺถฯ กสฺมา ปฎิปโนฺนติ? ตํ ทิวสํ กิร ภควา อิทํ อทฺทส ‘‘มยิ ตํ มคฺคํ ปฎิปเนฺน โทโณ พฺราหฺมโณ มม ปทเจติยานิ ปสฺสิตฺวา ปทานุปทิโก หุตฺวา มม นิสินฺนฎฺฐานํ อาคนฺตฺวา ปญฺหํ ปุจฺฉิสฺสติฯ อถสฺสาหํ เอกํ สจฺจธมฺมํ เทเสสฺสามิ ฯ พฺราหฺมโณ ตีณิ สามญฺญผลานิ ปฎิวิชฺฌิตฺวา ทฺวาทสปทสหสฺสปริมาณํ โทณคชฺชิตํ นาม วณฺณํ วตฺวา มยิ ปรินิพฺพุเต สกลชมฺพุทีเป อุปฺปนฺนํ มหากลหํ วูปสเมตฺวา ธาตุโย ภาเชสฺสตี’’ติฯ อิมินา การเณน ปฎิปโนฺนฯ โทโณปิ สุทํ พฺราหฺมโณติ โทโณ พฺราหฺมโณปิ ตโย เวเท ปคุเณ กตฺวา ปญฺจสเต มาณวเก สิปฺปํ วาเจโนฺต ตํทิวสํ ปาโตว อุฎฺฐาย สรีรปฎิชคฺคนํ กตฺวา สตคฺฆนกํ นิวาเสตฺวา ปญฺจสตคฺฆนกํ เอกํสวรคตํ กตฺวา อามุตฺตยญฺญสุโตฺต รตฺตวฎฺฎิกา อุปาหนา อาโรหิตฺวา ปญฺจสตมาณวกปริวาโร ตเมว มคฺคํ ปฎิปชฺชิฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ
Addhānamaggappaṭipanno hotīti addhānasaṅkhātaṃ maggaṃ paṭipanno hoti, dīghamagganti attho. Kasmā paṭipannoti? Taṃ divasaṃ kira bhagavā idaṃ addasa ‘‘mayi taṃ maggaṃ paṭipanne doṇo brāhmaṇo mama padacetiyāni passitvā padānupadiko hutvā mama nisinnaṭṭhānaṃ āgantvā pañhaṃ pucchissati. Athassāhaṃ ekaṃ saccadhammaṃ desessāmi . Brāhmaṇo tīṇi sāmaññaphalāni paṭivijjhitvā dvādasapadasahassaparimāṇaṃ doṇagajjitaṃ nāma vaṇṇaṃ vatvā mayi parinibbute sakalajambudīpe uppannaṃ mahākalahaṃ vūpasametvā dhātuyo bhājessatī’’ti. Iminā kāraṇena paṭipanno. Doṇopi sudaṃ brāhmaṇoti doṇo brāhmaṇopi tayo vede paguṇe katvā pañcasate māṇavake sippaṃ vācento taṃdivasaṃ pātova uṭṭhāya sarīrapaṭijagganaṃ katvā satagghanakaṃ nivāsetvā pañcasatagghanakaṃ ekaṃsavaragataṃ katvā āmuttayaññasutto rattavaṭṭikā upāhanā ārohitvā pañcasatamāṇavakaparivāro tameva maggaṃ paṭipajji. Taṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ.
ปาเทสูติ ปาเทหิ อกฺกนฺตฎฺฐาเนสุฯ จกฺกานีติ ลกฺขณจกฺกานิฯ กิํ ปน ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อกฺกนฺตฎฺฐาเน ปทํ ปญฺญายตีติ? น ปญฺญายติ ฯ กสฺมา? สุขุมตฺตา มหาพลตฺตา มหาชนานุคฺคเหน จฯ พุทฺธานญฺหิ สุขุมจฺฉวิตาย อกฺกนฺตฎฺฐานํ ตูลปิจุโน ปติฎฺฐิตฎฺฐานํ วิย โหติ, ปทวฬโญฺช น ปญฺญายติฯ ยถา จ พลวโต วาตชวสินฺธวสฺส ปทุมินิปเตฺตปิ อกฺกนฺตมตฺตเมว โหติ, เอวํ มหาพลตาย ตถาคเตน อกฺกนฺตฎฺฐานํ อกฺกนฺตมตฺตเมว โหติ, น ตตฺถ ปทวฬโญฺช ปญฺญายติฯ พุทฺธานญฺจ อนุปทํ มหาชนกาโย คจฺฉติ, ตสฺส สตฺถุ ปทวฬญฺชํ ทิสฺวา มทฺทิตุํ อวิสหนฺตสฺส คมนวิเจฺฉโท ภเวยฺยฯ ตสฺมา อกฺกนฺตอกฺกนฺตฎฺฐาเน โยปิ ปทวฬโญฺช ภเวยฺย, โส อนฺตรธายเตวฯ โทโณ ปน พฺราหฺมโณ ตถาคตสฺส อธิฎฺฐานวเสน ปสฺสิฯ ภควา หิ ยสฺส ปทเจติยํ ทเสฺสตุกาโม โหติ, ตํ อารพฺภ ‘‘อสุโก นาม ปสฺสตู’’ติ อธิฎฺฐาติฯ ตสฺมา มาคณฺฑิยพฺราหฺมโณ วิย อยมฺปิ พฺราหฺมโณ ตถาคตสฺส อธิฎฺฐานวเสน อทฺทสฯ
Pādesūti pādehi akkantaṭṭhānesu. Cakkānīti lakkhaṇacakkāni. Kiṃ pana bhagavato gacchantassa akkantaṭṭhāne padaṃ paññāyatīti? Na paññāyati . Kasmā? Sukhumattā mahābalattā mahājanānuggahena ca. Buddhānañhi sukhumacchavitāya akkantaṭṭhānaṃ tūlapicuno patiṭṭhitaṭṭhānaṃ viya hoti, padavaḷañjo na paññāyati. Yathā ca balavato vātajavasindhavassa paduminipattepi akkantamattameva hoti, evaṃ mahābalatāya tathāgatena akkantaṭṭhānaṃ akkantamattameva hoti, na tattha padavaḷañjo paññāyati. Buddhānañca anupadaṃ mahājanakāyo gacchati, tassa satthu padavaḷañjaṃ disvā maddituṃ avisahantassa gamanavicchedo bhaveyya. Tasmā akkantaakkantaṭṭhāne yopi padavaḷañjo bhaveyya, so antaradhāyateva. Doṇo pana brāhmaṇo tathāgatassa adhiṭṭhānavasena passi. Bhagavā hi yassa padacetiyaṃ dassetukāmo hoti, taṃ ārabbha ‘‘asuko nāma passatū’’ti adhiṭṭhāti. Tasmā māgaṇḍiyabrāhmaṇo viya ayampi brāhmaṇo tathāgatassa adhiṭṭhānavasena addasa.
ปาสาทิกนฺติ ปสาทชนกํฯ อิตรํ ตเสฺสว เววจนํฯ อุตฺตมทมถสมถมนุปฺปตฺตนฺติ เอตฺถ อุตฺตมทมโถ นาม อรหตฺตมโคฺค, อุตฺตมสมโถ นาม อรหตฺตมคฺคสมาธิ, ตทุภยํ ปตฺตนฺติ อโตฺถ ฯ ทนฺตนฺติ นิพฺพิเสวนํฯ คุตฺตนฺติ โคปิตํฯ สํยตินฺทฺริยนฺติ รกฺขิตินฺทฺริยํฯ นาคนฺติ ฉนฺทาทีหิ อคจฺฉนโต, ปหีนกิเลเส ปุน อนาคจฺฉนโต, อาคุํ อกรณโต, พลวนฺตเฎฺฐนาติ จตูหิ การเณหิ นาคํฯ
Pāsādikanti pasādajanakaṃ. Itaraṃ tasseva vevacanaṃ. Uttamadamathasamathamanuppattanti ettha uttamadamatho nāma arahattamaggo, uttamasamatho nāma arahattamaggasamādhi, tadubhayaṃ pattanti attho . Dantanti nibbisevanaṃ. Guttanti gopitaṃ. Saṃyatindriyanti rakkhitindriyaṃ. Nāganti chandādīhi agacchanato, pahīnakilese puna anāgacchanato, āguṃ akaraṇato, balavantaṭṭhenāti catūhi kāraṇehi nāgaṃ.
เทโว โน ภวํ ภวิสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘เทโว โน ภว’’นฺติ เอตฺตาวตาปิ ปุจฺฉา นิฎฺฐิตา ภเวยฺย, อยํ ปน พฺราหฺมโณ ‘‘อนาคเต มเหสโกฺข เอโก เทวราชา ภวิสฺสตี’’ติ อนาคตวเสน ปุจฺฉาสภาเคเนว กเถโนฺต เอวมาหฯ ภควาปิสฺส ปุจฺฉาสภาเคเนว กเถโนฺต น โข อหํ, พฺราหฺมณ, เทโว ภวิสฺสามีติ อาหฯ เอส นโย สพฺพตฺถฯ อาสวานนฺติ กามาสวาทีนํ จตุนฺนํฯ ปหีนาติ โพธิปลฺลเงฺก สพฺพญฺญุตญฺญาณาธิคเมเนว ปหีนาฯ อนุปลิโตฺต โลเกนาติ ตณฺหาทิฎฺฐิเลปานํ ปหีนตฺตา สงฺขารโลเกน อนุปลิโตฺตฯ พุโทฺธติ จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา พุโทฺธ อิติ มํ ธาเรหิฯ
Devo no bhavaṃ bhavissatīti ettha ‘‘devo no bhava’’nti ettāvatāpi pucchā niṭṭhitā bhaveyya, ayaṃ pana brāhmaṇo ‘‘anāgate mahesakkho eko devarājā bhavissatī’’ti anāgatavasena pucchāsabhāgeneva kathento evamāha. Bhagavāpissa pucchāsabhāgeneva kathento na kho ahaṃ, brāhmaṇa, devo bhavissāmīti āha. Esa nayo sabbattha. Āsavānanti kāmāsavādīnaṃ catunnaṃ. Pahīnāti bodhipallaṅke sabbaññutaññāṇādhigameneva pahīnā. Anupalitto lokenāti taṇhādiṭṭhilepānaṃ pahīnattā saṅkhāralokena anupalitto. Buddhoti catunnaṃ saccānaṃ buddhattā buddho iti maṃ dhārehi.
เยนาติ เยน อาสเวนฯ เทวูปปตฺยสฺสาติ เทวูปปตฺติ อสฺส มยฺหํ ภเวยฺยฯ วิหงฺคโมติ อากาสจโร คนฺธพฺพกายิกเทโวฯ วิทฺธสฺตาติ วิธมิตาฯ วินฬีกตาติ วิคตนฬา วิคตพนฺธนา กตาฯ วคฺคูติ สุนฺทรํฯ โตเยน นุปลิปฺปตีติ อุทกโต รตนมตฺตํ อจฺจุคฺคมฺม ฐิตํ สรํ โสภยมานํ ภมรคณํ หาสยมานํ โตเยน น ลิปฺปติฯ ตสฺมา พุโทฺธสฺมิ พฺราหฺมณาติ เทสนาปริโยสาเน ตีณิ มคฺคผลานิ ปาปุณิตฺวา ทฺวาทสหิ ปทสหเสฺสหิ โทณคชฺชิตํ นาม วณฺณํ กเถสิ, ตถาคเต จ ปรินิพฺพุเต ชมฺพุทีปตเล อุปฺปนฺนํ มหากลหํ วูปสเมตฺวา ธาตุโย ภาเชสีติฯ
Yenāti yena āsavena. Devūpapatyassāti devūpapatti assa mayhaṃ bhaveyya. Vihaṅgamoti ākāsacaro gandhabbakāyikadevo. Viddhastāti vidhamitā. Vinaḷīkatāti vigatanaḷā vigatabandhanā katā. Vaggūti sundaraṃ. Toyena nupalippatīti udakato ratanamattaṃ accuggamma ṭhitaṃ saraṃ sobhayamānaṃ bhamaragaṇaṃ hāsayamānaṃ toyena na lippati. Tasmā buddhosmi brāhmaṇāti desanāpariyosāne tīṇi maggaphalāni pāpuṇitvā dvādasahi padasahassehi doṇagajjitaṃ nāma vaṇṇaṃ kathesi, tathāgate ca parinibbute jambudīpatale uppannaṃ mahākalahaṃ vūpasametvā dhātuyo bhājesīti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๖. โทณสุตฺตํ • 6. Doṇasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๖. โทณสุตฺตวณฺณนา • 6. Doṇasuttavaṇṇanā