Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā |
๒. โทสสุตฺตวณฺณนา
2. Dosasuttavaṇṇanā
๒. วุตฺตเญฺหตํ …เป.… โทสนฺติ ทุติยสุตฺตํฯ ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนาฯ ยถา เอตฺถ, เอวํ อิโต ปเรสุปิ สพฺพตฺถ อปุพฺพปทวณฺณนํเยว กริสฺสามฯ ยสฺมา อิทํ สุตฺตํ โทสพหุลานํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา โทสวูปสมนตฺถํ เทสิตํ, ตสฺมา ‘‘โทสํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถา’’ติ อาคตํฯ ตตฺถ โทสนฺติ ‘‘อนตฺถํ เม อจรีติ อาฆาโต ชายตี’’ติอาทินา (วิภ. ๙๖๐) นเยน สุเตฺต วุตฺตานํ นวนฺนํ, ‘‘อตฺถํ เม นาจรี’’ติอาทีนญฺจ ตปฺปฎิปกฺขโต สิทฺธานํ นวนฺนเมวาติ อฎฺฐารสนฺนํ ขาณุกณฺฎกาทินา อฎฺฐาเนน สทฺธิํ เอกูนวีสติยา อญฺญตราฆาตวตฺถุสมฺภวํ อาฆาตํฯ โส หิ ทุสฺสนฺติ เตน, สยํ วา ทุสฺสติ, ทุสฺสนมตฺตเมว วา ตนฺติ โทโสติ วุจฺจติฯ โส จณฺฑิกฺกลกฺขโณ ปหฎาสีวิโส วิย, วิสปฺปนรโส วิสนิปาโต วิย, อตฺตโน นิสฺสยทหนรโส วา ทาวคฺคิ วิย, ทุสฺสนปจฺจุปฎฺฐาโน ลโทฺธกาโส วิย สปโตฺต, ยถาวุตฺตอาฆาตวตฺถุปทฎฺฐาโน วิสสํสฎฺฐปูติมุตฺตํ วิย ทฎฺฐโพฺพฯ ปชหถาติ สมุจฺฉินฺทถฯ ตตฺถ เย อิเม –
2.Vuttañhetaṃ…pe… dosanti dutiyasuttaṃ. Tatrāyaṃ apubbapadavaṇṇanā. Yathā ettha, evaṃ ito paresupi sabbattha apubbapadavaṇṇanaṃyeva karissāma. Yasmā idaṃ suttaṃ dosabahulānaṃ puggalānaṃ ajjhāsayaṃ oloketvā dosavūpasamanatthaṃ desitaṃ, tasmā ‘‘dosaṃ, bhikkhave, ekadhammaṃ pajahathā’’ti āgataṃ. Tattha dosanti ‘‘anatthaṃ me acarīti āghāto jāyatī’’tiādinā (vibha. 960) nayena sutte vuttānaṃ navannaṃ, ‘‘atthaṃ me nācarī’’tiādīnañca tappaṭipakkhato siddhānaṃ navannamevāti aṭṭhārasannaṃ khāṇukaṇṭakādinā aṭṭhānena saddhiṃ ekūnavīsatiyā aññatarāghātavatthusambhavaṃ āghātaṃ. So hi dussanti tena, sayaṃ vā dussati, dussanamattameva vā tanti dosoti vuccati. So caṇḍikkalakkhaṇo pahaṭāsīviso viya, visappanaraso visanipāto viya, attano nissayadahanaraso vā dāvaggi viya, dussanapaccupaṭṭhāno laddhokāso viya sapatto, yathāvuttaāghātavatthupadaṭṭhāno visasaṃsaṭṭhapūtimuttaṃ viya daṭṭhabbo. Pajahathāti samucchindatha. Tattha ye ime –
‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อาฆาตปฎิวินยา, ยตฺถ ภิกฺขุโน อุปฺปโนฺน อาฆาโต สพฺพโส ปฎิวิเนตโพฺพฯ กตเม ปญฺจ? ยสฺมิํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อาฆาโต ชาเยถ, เมตฺตา ตสฺมิํ ปุคฺคเล ภาเวตพฺพา…เป.… กรุณา…เป.… อุเปกฺขา, อสติอมนสิกาโร ตสฺมิํ ปุคฺคเล อาปชฺชิตโพฺพ, เอวํ ตสฺมิํ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฎิวิเนตโพฺพฯ ยสฺมิํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อาฆาโต ชาเยถ, กมฺมสฺสกตา ตสฺมิํ ปุคฺคเล อธิฎฺฐาตพฺพา ‘กมฺมสฺสโก อยมายสฺมา กมฺมทายาโท…เป.… ภวิสฺสตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๖๑) –
‘‘Pañcime, bhikkhave, āghātapaṭivinayā, yattha bhikkhuno uppanno āghāto sabbaso paṭivinetabbo. Katame pañca? Yasmiṃ, bhikkhave, puggale āghāto jāyetha, mettā tasmiṃ puggale bhāvetabbā…pe… karuṇā…pe… upekkhā, asatiamanasikāro tasmiṃ puggale āpajjitabbo, evaṃ tasmiṃ puggale āghāto paṭivinetabbo. Yasmiṃ, bhikkhave, puggale āghāto jāyetha, kammassakatā tasmiṃ puggale adhiṭṭhātabbā ‘kammassako ayamāyasmā kammadāyādo…pe… bhavissatī’’ti (a. ni. 5.161) –
เอวํ ปญฺจ อาฆาตปฺปฎิวินยา วุตฺตาเยวฯ
Evaṃ pañca āghātappaṭivinayā vuttāyeva.
‘‘ปญฺจิเม, อาวุโส, อาฆาตปฎิวินยา, ยตฺถ ภิกฺขุโน อุปฺปโนฺน อาฆาโต สพฺพโส ปฎิวิเนตโพฺพฯ กตเม ปญฺจ? อิธาวุโส, เอกโจฺจ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร; เอวรูเปปิ, อาวุโส, ปุคฺคเล อาฆาโต ปฎิวิเนตโพฺพ’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๖๒) –
‘‘Pañcime, āvuso, āghātapaṭivinayā, yattha bhikkhuno uppanno āghāto sabbaso paṭivinetabbo. Katame pañca? Idhāvuso, ekacco puggalo aparisuddhakāyasamācāro hoti parisuddhavacīsamācāro; evarūpepi, āvuso, puggale āghāto paṭivinetabbo’’ti (a. ni. 5.162) –
เอวมาทินาปิ นเยน ปญฺจ อาฆาตปฎิวินยา วุตฺตา, เตสุ เยน เกนจิ อาฆาตปฎิวินยวิธินา ปจฺจเวกฺขิตฺวาฯ อปิจ โย –
Evamādināpi nayena pañca āghātapaṭivinayā vuttā, tesu yena kenaci āghātapaṭivinayavidhinā paccavekkhitvā. Apica yo –
‘‘อุภโตทณฺฑเกน เจปิ, ภิกฺขเว, กกเจน โจรา โอจรกา องฺคมงฺคานิ โอกเนฺตยฺยุํ, ตตฺราปิ โย มโน ปทูเสยฺย, น เม โส เตน สาสนกโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๒) สตฺถุ โอวาโทฯ
‘‘Ubhatodaṇḍakena cepi, bhikkhave, kakacena corā ocarakā aṅgamaṅgāni okanteyyuṃ, tatrāpi yo mano padūseyya, na me so tena sāsanakaro’’ti (ma. ni. 1.232) satthu ovādo.
‘‘ตเสฺสว เตน ปาปิโย, โย กุทฺธํ ปฎิกุชฺฌติ;
‘‘Tasseva tena pāpiyo, yo kuddhaṃ paṭikujjhati;
กุทฺธํ อปฺปฎิกุชฺฌโนฺต, สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํฯ
Kuddhaṃ appaṭikujjhanto, saṅgāmaṃ jeti dujjayaṃ.
‘‘อุภินฺนมตฺถํ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
‘‘Ubhinnamatthaṃ carati, attano ca parassa ca;
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา, โย สโต อุปสมฺมติฯ (สํ. นิ. ๑.๑๘๘);
Paraṃ saṅkupitaṃ ñatvā, yo sato upasammati. (saṃ. ni. 1.188);
‘‘สตฺติเม , ภิกฺขเว, ธมฺมา สปตฺตกนฺตา สปตฺตกรณา โกธนํ อาคจฺฉนฺติ อิตฺถิํ วา ปุริสํ วาฯ กตเม สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, สปโตฺต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ, ‘อโห วตายํ ทุพฺพโณฺณ อสฺสา’ติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปโตฺต สปตฺตสฺส วณฺณวตาย นนฺทติฯ โกธโนยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล โกธาภิภูโต โกธปเรโต กิญฺจาปิ โส โหติ สุนฺหาโต สุวิลิโตฺต กปฺปิตเกสมสฺสุ โอทาตวตฺถวสโน, อถ โข โส ทุพฺพโณฺณว โหติ โกธาภิภูโตฯ อยํ, ภิกฺขเว, ปฐโม ธโมฺม สปตฺตกโนฺต สปตฺตกรโณ โกธนํ อาคจฺฉติ อิตฺถิํ วา ปุริสํ วาฯ
‘‘Sattime , bhikkhave, dhammā sapattakantā sapattakaraṇā kodhanaṃ āgacchanti itthiṃ vā purisaṃ vā. Katame satta? Idha, bhikkhave, sapatto sapattassa evaṃ icchati, ‘aho vatāyaṃ dubbaṇṇo assā’ti. Taṃ kissa hetu? Na, bhikkhave, sapatto sapattassa vaṇṇavatāya nandati. Kodhanoyaṃ, bhikkhave, purisapuggalo kodhābhibhūto kodhapareto kiñcāpi so hoti sunhāto suvilitto kappitakesamassu odātavatthavasano, atha kho so dubbaṇṇova hoti kodhābhibhūto. Ayaṃ, bhikkhave, paṭhamo dhammo sapattakanto sapattakaraṇo kodhanaṃ āgacchati itthiṃ vā purisaṃ vā.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สปโตฺต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ ‘อโห วตายํ ทุกฺขํ สเยยฺยา’ติ…เป.… น ปจุรโตฺถ อสฺสาติ…เป.… น โภควา อสฺสาติ…เป.… น ยสวา อสฺสาติ…เป.… น มิตฺตวา อสฺสาติ…เป.… กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺยาติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปโตฺต สปตฺตสฺส สุคติคมเน นนฺทติฯ โกธโนยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล โกธาภิภูโต โกธปเรโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา…เป.… นิรยํ อุปปชฺชติ โกธาภิภูโต’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๔)ฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, sapatto sapattassa evaṃ icchati ‘aho vatāyaṃ dukkhaṃ sayeyyā’ti…pe… na pacurattho assāti…pe… na bhogavā assāti…pe… na yasavā assāti…pe… na mittavā assāti…pe… kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyyāti. Taṃ kissa hetu? Na, bhikkhave, sapatto sapattassa sugatigamane nandati. Kodhanoyaṃ, bhikkhave, purisapuggalo kodhābhibhūto kodhapareto kāyena duccaritaṃ carati, vācāya duccaritaṃ carati, manasā duccaritaṃ carati. So kāyena duccaritaṃ caritvā vācāya duccaritaṃ caritvā manasā duccaritaṃ caritvā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā…pe… nirayaṃ upapajjati kodhābhibhūto’’ti (a. ni. 7.64).
‘‘กุโทฺธ อตฺถํ น ชานาติ, กุโทฺธ ธมฺมํ น ปสฺสติ…เป.…ฯ (อ. นิ. ๗.๖๔);
‘‘Kuddho atthaṃ na jānāti, kuddho dhammaṃ na passati…pe…. (a. ni. 7.64);
‘‘โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ, สํโยชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺยฯ (ธ. ป. ๒๒๑);
‘‘Kodhaṃ jahe vippajaheyya mānaṃ, saṃyojanaṃ sabbamatikkameyya. (dha. pa. 221);
‘‘อนตฺถชนโน โกโธ, โกโธ จิตฺตปฺปโกปโน…เป.…ฯ (อ. นิ. ๗.๖๔);
‘‘Anatthajanano kodho, kodho cittappakopano…pe…. (a. ni. 7.64);
‘‘โกธํ เฉตฺวา สุขํ เสติ, โกธํ เฉตฺวา น โสจติ;
‘‘Kodhaṃ chetvā sukhaṃ seti, kodhaṃ chetvā na socati;
โกธสฺส วิสมูลสฺส, มธุรคฺคสฺส พฺราหฺมณา’’ติฯ (สํ. นิ. ๑.๑๘๗);
Kodhassa visamūlassa, madhuraggassa brāhmaṇā’’ti. (saṃ. ni. 1.187);
‘‘เอกาปราธํ ขม ภูริปญฺญ,
‘‘Ekāparādhaṃ khama bhūripañña,
น ปณฺฑิตา โกธพลา ภวนฺตี’’ติฯ –
Na paṇḍitā kodhabalā bhavantī’’ti. –
เอวมาทินา นเยน โทเส อาทีนเว วุตฺตปฺปฎิปกฺขโต โทสปฺปหาเน อานิสํเส จ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปุพฺพภาเค โทสํ ตทงฺคปฺปหานาทิวเสน ปชหิตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ตติยมเคฺคน สพฺพโส โทสํ สมุจฺฉินฺทถ, ปชหถาติ เตสํ ภิกฺขูนํ ตตฺถ นิโยชนํฯ เตน วุตฺตํ ‘‘โทสํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถา’’ติฯ ทุฎฺฐาเสติ อาฆาเตน ทูสิตจิตฺตตาย ปทุฎฺฐาฯ เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปฐมสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตนยเมวฯ
Evamādinā nayena dose ādīnave vuttappaṭipakkhato dosappahāne ānisaṃse ca paccavekkhitvā pubbabhāge dosaṃ tadaṅgappahānādivasena pajahitvā vipassanaṃ ussukkāpetvā tatiyamaggena sabbaso dosaṃ samucchindatha, pajahathāti tesaṃ bhikkhūnaṃ tattha niyojanaṃ. Tena vuttaṃ ‘‘dosaṃ, bhikkhave, ekadhammaṃ pajahathā’’ti. Duṭṭhāseti āghātena dūsitacittatāya paduṭṭhā. Sesamettha yaṃ vattabbaṃ, taṃ paṭhamasuttavaṇṇanāyaṃ vuttanayameva.
ทุติยสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๒. โทสสุตฺตํ • 2. Dosasuttaṃ