Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา
8. Dubbaṇṇakaraṇasikkhāpadavaṇṇanā
๓๖๘-๙. อฎฺฐเม – นวํ ปน ภิกฺขุนา จีวรลาเภนาติ เอตฺถ อลภีติ ลโภ; ลโภเยว ลาโภฯ กิํ อลภิ? จีวรํฯ กีทิสํ? นวํฯ อิติ ‘‘นวจีวรลาเภนา’’ติ วตฺตเพฺพ อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา ‘‘นวจีวรลาเภนา’’ติ วุตฺตํ; ปฎิลทฺธนวจีวเรนาติ อโตฺถฯ มเชฺฌ ฐิตปททฺวเย ปนาติ นิปาโตฯ ภิกฺขุนาติ เยน ลทฺธํ ตสฺส นิทสฺสนํฯ ปทภาชเน ปน พฺยญฺชนํ อนาทิยิตฺวา ยํ ลทฺธํ ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวราน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ จีวรนฺติ เอตฺถ ยํ นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา สกฺกา โหติ, ตเทว เวทิตพฺพํฯ เตเนว ‘‘วิกปฺปนุปคปจฺฉิม’’นฺติ น วุตฺตํฯ กํสนีลนฺติ จมฺมการนีลํฯ มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อโยมลํ โลหมลํ เอตํ กํสนีลํ นามา’’ติ วุตฺตํฯ ปลาสนีลนฺติ โย โกจิ นีลวโณฺณ ปณฺณรโสฯ ทุพฺพณฺณกรณํ อาทาตพฺพนฺติ เอตํ กปฺปพินฺทุํ สนฺธาย วุตฺตํ; น นีลาทีหิ สกลจีวรสฺส ทุพฺพณฺณกรณํฯ ตญฺจ ปน กปฺปํ อาทิยเนฺตน จีวรํ รชิตฺวา จตูสุ วา โกเณสุ ตีสุ วา ทฺวีสุ วา เอกสฺมิํ วา โกเณ โมรสฺส อกฺขิมณฺฑลมตฺตํ วา มงฺกุลปิฎฺฐิมตฺตํ วา อาทาตพฺพํฯ มหาปจฺจริยํ ‘‘ปเตฺต วา คณฺฐิยํ วา น วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ มหาอฎฺฐกถายํ ปน ‘‘วฎฺฎติเยวา’’ติ วุตฺตํฯ ปาฬิกปฺปกณฺณิกกปฺปาทโย ปน สพฺพตฺถ ปฎิสิทฺธา, ตสฺมา ฐเปตฺวา เอกํ วฎฺฎพินฺทุํ อเญฺญน เกนจิปิ วิกาเรน กโปฺป น กาตโพฺพฯ
368-9. Aṭṭhame – navaṃ pana bhikkhunā cīvaralābhenāti ettha alabhīti labho; labhoyeva lābho. Kiṃ alabhi? Cīvaraṃ. Kīdisaṃ? Navaṃ. Iti ‘‘navacīvaralābhenā’’ti vattabbe anunāsikalopaṃ akatvā ‘‘navacīvaralābhenā’’ti vuttaṃ; paṭiladdhanavacīvarenāti attho. Majjhe ṭhitapadadvaye panāti nipāto. Bhikkhunāti yena laddhaṃ tassa nidassanaṃ. Padabhājane pana byañjanaṃ anādiyitvā yaṃ laddhaṃ taṃ dassetuṃ ‘‘cīvaraṃ nāma channaṃ cīvarāna’’ntiādi vuttaṃ. Cīvaranti ettha yaṃ nivāsetuṃ vā pārupituṃ vā sakkā hoti, tadeva veditabbaṃ. Teneva ‘‘vikappanupagapacchima’’nti na vuttaṃ. Kaṃsanīlanti cammakāranīlaṃ. Mahāpaccariyaṃ pana ‘‘ayomalaṃ lohamalaṃ etaṃ kaṃsanīlaṃ nāmā’’ti vuttaṃ. Palāsanīlanti yo koci nīlavaṇṇo paṇṇaraso. Dubbaṇṇakaraṇaṃ ādātabbanti etaṃ kappabinduṃ sandhāya vuttaṃ; na nīlādīhi sakalacīvarassa dubbaṇṇakaraṇaṃ. Tañca pana kappaṃ ādiyantena cīvaraṃ rajitvā catūsu vā koṇesu tīsu vā dvīsu vā ekasmiṃ vā koṇe morassa akkhimaṇḍalamattaṃ vā maṅkulapiṭṭhimattaṃ vā ādātabbaṃ. Mahāpaccariyaṃ ‘‘patte vā gaṇṭhiyaṃ vā na vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Mahāaṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘vaṭṭatiyevā’’ti vuttaṃ. Pāḷikappakaṇṇikakappādayo pana sabbattha paṭisiddhā, tasmā ṭhapetvā ekaṃ vaṭṭabinduṃ aññena kenacipi vikārena kappo na kātabbo.
๓๗๑. อคฺคเฬติอาทีสุ เอตานิ อคฺคฬาทีนิ กปฺปกตจีวเร ปจฺฉา อาโรเปตฺวา กปฺปกรณกิจฺจํ นตฺถิฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ เอฬกโลมสมุฎฺฐานํ – กิริยากิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ; กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
371.Aggaḷetiādīsu etāni aggaḷādīni kappakatacīvare pacchā āropetvā kappakaraṇakiccaṃ natthi. Sesaṃ uttānameva. Eḷakalomasamuṭṭhānaṃ – kiriyākiriyaṃ, nosaññāvimokkhaṃ, acittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ; kāyakammaṃ, ticittaṃ, tivedananti.
ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทํ อฎฺฐมํฯ
Dubbaṇṇakaraṇasikkhāpadaṃ aṭṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๖. สุราปานวโคฺค • 6. Surāpānavaggo
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Dubbaṇṇakaraṇasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Dubbaṇṇakaraṇasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Dubbaṇṇakaraṇasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทํ • 8. Dubbaṇṇakaraṇasikkhāpadaṃ