Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๘๐] ๑๐. ทุทฺททชาตกวณฺณนา
[180] 10. Duddadajātakavaṇṇanā
ทุทฺททํ ททมานานนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต คณทานํ อารพฺภ กเถสิฯ สาวตฺถิยํ กิร เทฺว สหายกา กุฎุมฺพิยปุตฺตา ฉนฺทกํ สํหริตฺวา สพฺพปริกฺขารทานํ สเชฺชตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมเนฺตตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ปวเตฺตตฺวา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขาเร อทํสุฯ เตสุ คณเชฎฺฐโก สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ‘‘ภเนฺต, อิมสฺมิํ ทาเน พหุทายกาปิ อตฺถิ อปฺปทายกาปิ, เตสํ สเพฺพสมฺปิ ‘อิทํ ทานํ มหปฺผลํ โหตู’’’ติ ทานํ นิยฺยาเทสิฯ สตฺถา ‘‘ตุเมฺหหิ โข อุปาสกา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา เอวํ นิยฺยาเทเนฺตหิ มหากมฺมํ กตํ, โปราณกปณฺฑิตาปิ ทานํ ทตฺวา เอวเมว นิยฺยาทิํสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ
Duddadaṃdadamānānanti idaṃ satthā jetavane viharanto gaṇadānaṃ ārabbha kathesi. Sāvatthiyaṃ kira dve sahāyakā kuṭumbiyaputtā chandakaṃ saṃharitvā sabbaparikkhāradānaṃ sajjetvā buddhappamukhaṃ bhikkhusaṅghaṃ nimantetvā sattāhaṃ mahādānaṃ pavattetvā sattame divase sabbaparikkhāre adaṃsu. Tesu gaṇajeṭṭhako satthāraṃ vanditvā ekamantaṃ nisīditvā ‘‘bhante, imasmiṃ dāne bahudāyakāpi atthi appadāyakāpi, tesaṃ sabbesampi ‘idaṃ dānaṃ mahapphalaṃ hotū’’’ti dānaṃ niyyādesi. Satthā ‘‘tumhehi kho upāsakā buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa dānaṃ datvā evaṃ niyyādentehi mahākammaṃ kataṃ, porāṇakapaṇḍitāpi dānaṃ datvā evameva niyyādiṃsū’’ti vatvā tena yācito atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กาสิรเฎฺฐ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ฆราวาสํ ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา คณสตฺถา หุตฺวา หิมวนฺตปเทเส จิรํ วสิตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ชนปทจาริกํ จรมาโน พาราณสิํ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ทฺวารคาเม สปริวาโร ภิกฺขาย จริฯ มนุสฺสา ภิกฺขํ อทํสุฯ ปุนทิวเส พาราณสิยํ จริ, มนุสฺสา สมฺปิยายมานา ภิกฺขํ ทตฺวา คณพนฺธเนน ฉนฺทกํ สํหริตฺวา ทานํ สเชฺชตฺวา อิสิคณสฺส มหาทานํ ปวตฺตยิํสุฯ ทานปริโยสาเน คณเชฎฺฐโก เอวเมว วตฺวา อิมินาว นิยาเมน ทานํ นิยฺยาเทสิฯ โพธิสโตฺต ‘‘อาวุโส, จิตฺตปฺปสาเท สติ อปฺปกํ นาม ทานํ นตฺถี’’ติ วตฺวา อนุโมทนํ กโรโนฺต อิมา คาถา อโวจ –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kāsiraṭṭhe brāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto takkasilāyaṃ sabbasippāni uggaṇhitvā gharāvāsaṃ pahāya isipabbajjaṃ pabbajitvā gaṇasatthā hutvā himavantapadese ciraṃ vasitvā loṇambilasevanatthāya janapadacārikaṃ caramāno bārāṇasiṃ patvā rājuyyāne vasitvā punadivase dvāragāme saparivāro bhikkhāya cari. Manussā bhikkhaṃ adaṃsu. Punadivase bārāṇasiyaṃ cari, manussā sampiyāyamānā bhikkhaṃ datvā gaṇabandhanena chandakaṃ saṃharitvā dānaṃ sajjetvā isigaṇassa mahādānaṃ pavattayiṃsu. Dānapariyosāne gaṇajeṭṭhako evameva vatvā imināva niyāmena dānaṃ niyyādesi. Bodhisatto ‘‘āvuso, cittappasāde sati appakaṃ nāma dānaṃ natthī’’ti vatvā anumodanaṃ karonto imā gāthā avoca –
๕๙.
59.
‘‘ทุทฺททํ ททมานานํ, ทุกฺกรํ กมฺม กุพฺพตํ;
‘‘Duddadaṃ dadamānānaṃ, dukkaraṃ kamma kubbataṃ;
อสโนฺต นานุกุพฺพนฺติ, สตํ ธโมฺม ทุรนฺนโยฯ
Asanto nānukubbanti, sataṃ dhammo durannayo.
๖๐.
60.
‘‘ตสฺมา สตญฺจ อสตํ, นานา โหติ อิโต คติ;
‘‘Tasmā satañca asataṃ, nānā hoti ito gati;
อสโนฺต นิรยํ ยนฺติ, สโนฺต สคฺคปรายณา’’ติฯ
Asanto nirayaṃ yanti, santo saggaparāyaṇā’’ti.
ตตฺถ ทุทฺททนฺติ ทานํ นาม โลภโทสวสิเกหิ อปณฺฑิเตหิ ทาตุํ น สกฺกา, ตสฺมา ‘‘ทุทฺทท’’นฺติ วุจฺจติฯ ตํ ททมานานํฯ ทุกฺกรํ กมฺม กุพฺพตนฺติ ตเทว ทานกมฺมํ สเพฺพหิ กาตุํ น สกฺกาติ ทุกฺกรํฯ ตํ กุรุมานานํฯ อสโนฺตติ อปณฺฑิตา พาลาฯ นานุกุพฺพนฺตีติ ตํ กมฺมํ นานุกโรนฺติฯ สตํ ธโมฺมติ ปณฺฑิตานํ สภาโวฯ ทานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ ทุรนฺนโยติ ผลสมฺพนฺธวเสน ทุชฺชาโน, เอวรูปสฺส ทานสฺส เอวรูโป ผลวิปาโก โหตีติ ทุรนุโพโธฯ อปิจ ทุรนฺนโยติ ทุรธิคโม, อปณฺฑิเตหิ ทานํ ทตฺวา ทานผลํ นาม ลทฺธุํ น สกฺกาติปิ อโตฺถฯ นานา โหติ อิโต คตีติ อิโต จวิตฺวา ปรโลกํ คจฺฉนฺตานํ ปฎิสนฺธิคฺคหณํ นานา โหติฯ อสโนฺต นิรยํ ยนฺตีติ อปณฺฑิตา ทุสฺสีลา ทานํ อทตฺวา สีลํ อรกฺขิตฺวา นิรยํ คจฺฉนฺติฯ สโนฺต สคฺคปรายณาติ ปณฺฑิตา ปน ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กริตฺวา ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา สคฺคปรายณา โหนฺติ, มหนฺตํ สคฺคสุขสมฺปตฺติํ อนุภวนฺตีติฯ
Tattha duddadanti dānaṃ nāma lobhadosavasikehi apaṇḍitehi dātuṃ na sakkā, tasmā ‘‘duddada’’nti vuccati. Taṃ dadamānānaṃ. Dukkaraṃ kamma kubbatanti tadeva dānakammaṃ sabbehi kātuṃ na sakkāti dukkaraṃ. Taṃ kurumānānaṃ. Asantoti apaṇḍitā bālā. Nānukubbantīti taṃ kammaṃ nānukaronti. Sataṃ dhammoti paṇḍitānaṃ sabhāvo. Dānaṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ. Durannayoti phalasambandhavasena dujjāno, evarūpassa dānassa evarūpo phalavipāko hotīti duranubodho. Apica durannayoti duradhigamo, apaṇḍitehi dānaṃ datvā dānaphalaṃ nāma laddhuṃ na sakkātipi attho. Nānā hoti ito gatīti ito cavitvā paralokaṃ gacchantānaṃ paṭisandhiggahaṇaṃ nānā hoti. Asanto nirayaṃ yantīti apaṇḍitā dussīlā dānaṃ adatvā sīlaṃ arakkhitvā nirayaṃ gacchanti. Santo saggaparāyaṇāti paṇḍitā pana dānaṃ datvā sīlaṃ rakkhitvā uposathakammaṃ karitvā tīṇi sucaritāni pūretvā saggaparāyaṇā honti, mahantaṃ saggasukhasampattiṃ anubhavantīti.
เอวํ โพธิสโตฺต อนุโมทนํ กตฺวา จตฺตาโร วสฺสิเก มาเส ตเตฺถว วสิตฺวา วสฺสาติกฺกเม หิมวนฺตํ คนฺตฺวา ฌานํ นิพฺพเตฺตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิฯ
Evaṃ bodhisatto anumodanaṃ katvā cattāro vassike māse tattheva vasitvā vassātikkame himavantaṃ gantvā jhānaṃ nibbattetvā aparihīnajjhāno brahmalokūpago ahosi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อิสิคโณ พุทฺธปริสา อโหสิ, คณสตฺถา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā isigaṇo buddhaparisā ahosi, gaṇasatthā pana ahameva ahosi’’nti.
ทุทฺททชาตกวณฺณนา ทสมาฯ
Duddadajātakavaṇṇanā dasamā.
กลฺยาณวโคฺค ตติโยฯ
Kalyāṇavaggo tatiyo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
กลฺยาณธมฺมํ ททฺทรํ, มกฺกฎิ ทุพฺภิมกฺกฎํ;
Kalyāṇadhammaṃ daddaraṃ, makkaṭi dubbhimakkaṭaṃ;
อาทิจฺจุปฎฺฐานเญฺจว, กฬายมุฎฺฐิ ตินฺทุกํ;
Ādiccupaṭṭhānañceva, kaḷāyamuṭṭhi tindukaṃ;
กจฺฉปํ สตธมฺมญฺจ, ทุทฺททนฺติ จ เต ทสฯ
Kacchapaṃ satadhammañca, duddadanti ca te dasa.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๘๐. ทุทฺททชาตกํ • 180. Duddadajātakaṃ