Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā

    (๒.) ทุกนิเทฺทสวณฺณนา

    (2.) Dukaniddesavaṇṇanā

    ๘๙๑. ทุเกสุ โกธนิเทฺทสาทโย เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาฯ เหฎฺฐา อนาคเตสุ ปน อุปนาหนิเทฺทสาทีสุ ปุพฺพกาลํ โกธํ อุปนยฺหตีติ อปรกาลโกโธ อุปนาโห นามฯ อุปนยฺหนากาโร อุปนยฺหนาฯ อุปนยฺหิตสฺส ภาโว อุปนยฺหิตตฺตํฯ อฎฺฐปนาติ ปฐมุปฺปนฺนสฺส อนนฺตรฎฺฐปนา มริยาทฎฺฐปนา วาฯ ฐปนาติ ปกติฐปนาฯ สณฺฐปนาติ สพฺพโตภาเคน ปุนปฺปุนํ อาฆาตฎฺฐปนาฯ อนุสํสนฺทนาติ ปฐมุปฺปเนฺนน โกเธน สทฺธิํ อนฺตรํ อทเสฺสตฺวา เอกีภาวกรณาฯ อนุปฺปพนฺธนาติ ปุริเมน สทฺธิํ ปจฺฉิมสฺส ฆฎนาฯ ทฬฺหีกมฺมนฺติ ถิรกรณํฯ อยํ วุจฺจตีติ อยํ อุปนนฺธนลกฺขโณ เวรํ อปฺปฎินิสฺสชฺชนรโส อุปนาโหติ วุจฺจติ; เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล เวรํ นิสฺสชฺชิตุํ น สโกฺกติ; ‘เอวํ นาม มํ เอส วตฺตุํ อนนุจฺฉวิโก’ติ อปราปรํ อนุพนฺธติ; อาทิตฺตปูติอลาตํ วิย ชลเตว ; โธวิยมานํ อจฺฉจมฺมํ วิย, วสาเตลมกฺขิตปิโลติกา วิย จ น ปริสุชฺฌติฯ

    891. Dukesu kodhaniddesādayo heṭṭhā vuttanayeneva veditabbā. Heṭṭhā anāgatesu pana upanāhaniddesādīsu pubbakālaṃ kodhaṃ upanayhatīti aparakālakodho upanāho nāma. Upanayhanākāro upanayhanā. Upanayhitassa bhāvo upanayhitattaṃ. Aṭṭhapanāti paṭhamuppannassa anantaraṭṭhapanā mariyādaṭṭhapanā vā. Ṭhapanāti pakatiṭhapanā. Saṇṭhapanāti sabbatobhāgena punappunaṃ āghātaṭṭhapanā. Anusaṃsandanāti paṭhamuppannena kodhena saddhiṃ antaraṃ adassetvā ekībhāvakaraṇā. Anuppabandhanāti purimena saddhiṃ pacchimassa ghaṭanā. Daḷhīkammanti thirakaraṇaṃ. Ayaṃ vuccatīti ayaṃ upanandhanalakkhaṇo veraṃ appaṭinissajjanaraso upanāhoti vuccati; yena samannāgato puggalo veraṃ nissajjituṃ na sakkoti; ‘evaṃ nāma maṃ esa vattuṃ ananucchaviko’ti aparāparaṃ anubandhati; ādittapūtialātaṃ viya jalateva ; dhoviyamānaṃ acchacammaṃ viya, vasātelamakkhitapilotikā viya ca na parisujjhati.

    ๘๙๒. มกฺขนภาววเสน มโกฺข; ปรคุณมกฺขนาย ปวเตฺตโนฺตปิ อตฺตโน การณํ, คูถปหรณกํ คูโถ วิย, ปฐมตรํ มเกฺขตีติ อโตฺถฯ ตโต ปรา เทฺว อาการภาวนิเทฺทสาฯ นิฎฺฐุรภาโว นิฎฺฐุริยํ; ‘ตํ นิสฺสาย เอตฺตกมฺปิ นตฺถี’ติ เขฬปาตนนฺติ อโตฺถฯ นิฎฺฐุริยกมฺมนฺติ นิฎฺฐุริยกรณํฯ คหโฎฺฐ วา หิ คหฎฺฐํ, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุํ นิสฺสาย วสโนฺต อปฺปมตฺตเกเนว กุชฺฌิตฺวา ‘ตํ นิสฺสาย เอตฺตกมฺปิ นตฺถี’ติ เขฬํ ปาเตตฺวา ปาเทน มทฺทโนฺต วิย นิฎฺฐุริยํ นาม กโรติฯ ตสฺส ตํ กมฺมํ นิฎฺฐุริยกมฺมนฺติ วุจฺจติฯ ลกฺขณาทิโต ปเนส ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มโกฺข, เตสํ วินาสนรโส, ปเรน สุกตานํ กิริยานํ อวจฺฉาทนปจฺจุปฎฺฐาโนฯ

    892. Makkhanabhāvavasena makkho; paraguṇamakkhanāya pavattentopi attano kāraṇaṃ, gūthapaharaṇakaṃ gūtho viya, paṭhamataraṃ makkhetīti attho. Tato parā dve ākārabhāvaniddesā. Niṭṭhurabhāvo niṭṭhuriyaṃ; ‘taṃ nissāya ettakampi natthī’ti kheḷapātananti attho. Niṭṭhuriyakammanti niṭṭhuriyakaraṇaṃ. Gahaṭṭho vā hi gahaṭṭhaṃ, bhikkhu vā bhikkhuṃ nissāya vasanto appamattakeneva kujjhitvā ‘taṃ nissāya ettakampi natthī’ti kheḷaṃ pātetvā pādena maddanto viya niṭṭhuriyaṃ nāma karoti. Tassa taṃ kammaṃ niṭṭhuriyakammanti vuccati. Lakkhaṇādito panesa paraguṇamakkhanalakkhaṇo makkho, tesaṃ vināsanaraso, parena sukatānaṃ kiriyānaṃ avacchādanapaccupaṭṭhāno.

    ปฬาสตีติ ปฬาโส; ปรสฺส คุเณ ทเสฺสตฺวา อตฺตโน คุเณหิ สมํ กโรตีติ อโตฺถฯ ปฬาสสฺส อายนา ปฬาสายนาฯ ปฬาโส จ โส อตฺตโน ชยาหรณโต อาหาโร จาติ ปฬาสาหาโรฯ วิวาทฎฺฐานนฺติ วิวาทการณํฯ ยุคคฺคาโหติ สมธุรคฺคหณํฯ อปฺปฎินิสฺสโคฺคติ อตฺตนา คหิตสฺส อปฺปฎินิสฺสชฺชนํฯ ลกฺขณาทิโต ปเนส ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส, ปรคุเณหิ อตฺตโน คุณานํ สมกรณรโส, ปเรสํ คุณปฺปมาเณน อุปฎฺฐานปจฺจุปฎฺฐาโนฯ ปฬาสี หิ ปุคฺคโล ทุติยสฺส ธุรํ น เทติ, สมํ ปสาเรตฺวา ติฎฺฐติ, สากจฺฉมณฺฑเล อเญฺญน ภิกฺขุนา พหูสุ สุเตฺตสุ จ การเณสุ จ อาภเตสุปิ ‘ตว จ มม จ วาเท กิํ นาม นานากรณํ? นนุ มเชฺฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย เอกสทิสเมว อมฺหากํ วจน’นฺติ วทติฯ อิสฺสามจฺฉริยนิเทฺทสา วุตฺตตฺถา เอวฯ

    Paḷāsatīti paḷāso; parassa guṇe dassetvā attano guṇehi samaṃ karotīti attho. Paḷāsassa āyanā paḷāsāyanā. Paḷāso ca so attano jayāharaṇato āhāro cāti paḷāsāhāro. Vivādaṭṭhānanti vivādakāraṇaṃ. Yugaggāhoti samadhuraggahaṇaṃ. Appaṭinissaggoti attanā gahitassa appaṭinissajjanaṃ. Lakkhaṇādito panesa yugaggāhalakkhaṇo paḷāso, paraguṇehi attano guṇānaṃ samakaraṇaraso, paresaṃ guṇappamāṇena upaṭṭhānapaccupaṭṭhāno. Paḷāsī hi puggalo dutiyassa dhuraṃ na deti, samaṃ pasāretvā tiṭṭhati, sākacchamaṇḍale aññena bhikkhunā bahūsu suttesu ca kāraṇesu ca ābhatesupi ‘tava ca mama ca vāde kiṃ nāma nānākaraṇaṃ? Nanu majjhe bhinnasuvaṇṇaṃ viya ekasadisameva amhākaṃ vacana’nti vadati. Issāmacchariyaniddesā vuttatthā eva.

    ๘๙๔. มายานิเทฺทเส วาจํ ภาสตีติ ชานํเยว ‘ปณฺณตฺติํ วีติกฺกมนฺตา ภิกฺขู ภาริยํ กโรนฺติ, อมฺหากํ ปน วีติกฺกมฎฺฐานํ นาม นตฺถี’ติ อุปสโนฺต วิย ภาสติฯ กาเยน ปรกฺกมตีติ ‘มยา กตํ อิทํ ปาปกมฺมํ มา เกจิ ชานิํสู’ติ กาเยน วตฺตํ กโรติฯ วิชฺชมานโทสปฎิจฺฉาทนโต จกฺขุโมหนมายา วิยาติ มายาฯ มายาวิโน ภาโว มายาวิตาฯ กตฺวา ปาปํ ปุน ปฎิจฺฉาทนโต อติจฺจ อาสรนฺติ เอตาย สตฺตาติ อจฺจาสราฯ กายวาจากิริยาหิ อญฺญถา ทสฺสนโต วเญฺจตีติ วญฺจนาฯ เอตาย สตฺตา นิกโรนฺตีติ นิกติ; มิจฺฉากโรนฺตีติ อโตฺถฯ ‘นาหํ เอวํ กโรมี’ติ ปาปานํ วิกฺขิปนโต วิกิรณาฯ ‘นาหํ เอวํ กโรมี’ติ ปริวชฺชนโต ปริหรณาฯ กายาทีหิ สํวรณโต คูหนาฯ สพฺพโตภาเคน คูหนา ปริคูหนาฯ ติณปเณฺณหิ วิย คูถํ กายวจีกเมฺมหิ ปาปํ ฉาเทตีติ ฉาทนาฯ สพฺพโตภาเคน ฉาทนา ปฎิจฺฉาทนาฯ น อุตฺตานํ กตฺวา ทเสฺสตีติ อนุตฺตานีกมฺมํฯ น ปากฎํ กตฺวา ทเสฺสตีติ อนาวิกมฺมํฯ สุฎฺฐุ ฉาทนา โวจฺฉาทนาฯ กตปฎิจฺฉาทนวเสน ปุนปิ ปาปสฺส กรณโต ปาปกิริยาอยํ วุจฺจตีติ อยํ กตปฎิจฺฉาทนลกฺขณา มายา นาม วุจฺจติ; ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภสฺมาปฎิจฺฉโนฺน วิย องฺคาโร, อุทกปฎิจฺฉโนฺน วิย ขาณุ, ปิโลติกาปลิเวฐิตํ วิย จ สตฺถํ โหติฯ

    894. Māyāniddese vācaṃ bhāsatīti jānaṃyeva ‘paṇṇattiṃ vītikkamantā bhikkhū bhāriyaṃ karonti, amhākaṃ pana vītikkamaṭṭhānaṃ nāma natthī’ti upasanto viya bhāsati. Kāyena parakkamatīti ‘mayā kataṃ idaṃ pāpakammaṃ mā keci jāniṃsū’ti kāyena vattaṃ karoti. Vijjamānadosapaṭicchādanato cakkhumohanamāyā viyāti māyā. Māyāvino bhāvo māyāvitā. Katvā pāpaṃ puna paṭicchādanato aticca āsaranti etāya sattāti accāsarā. Kāyavācākiriyāhi aññathā dassanato vañcetīti vañcanā. Etāya sattā nikarontīti nikati; micchākarontīti attho. ‘Nāhaṃ evaṃ karomī’ti pāpānaṃ vikkhipanato vikiraṇā. ‘Nāhaṃ evaṃ karomī’ti parivajjanato pariharaṇā. Kāyādīhi saṃvaraṇato gūhanā. Sabbatobhāgena gūhanā parigūhanā. Tiṇapaṇṇehi viya gūthaṃ kāyavacīkammehi pāpaṃ chādetīti chādanā. Sabbatobhāgena chādanā paṭicchādanā. Na uttānaṃ katvā dassetīti anuttānīkammaṃ. Na pākaṭaṃ katvā dassetīti anāvikammaṃ. Suṭṭhu chādanā vocchādanā. Katapaṭicchādanavasena punapi pāpassa karaṇato pāpakiriyā. Ayaṃ vuccatīti ayaṃ katapaṭicchādanalakkhaṇā māyā nāma vuccati; yāya samannāgato puggalo bhasmāpaṭicchanno viya aṅgāro, udakapaṭicchanno viya khāṇu, pilotikāpaliveṭhitaṃ viya ca satthaṃ hoti.

    สาเฐยฺยนิเทฺทเส สโฐติ อสนฺตคุณปริทีปนโต น สมฺมา ภาสิตาฯ สพฺพโตภาเคน สโฐ ปริสโฐยํ ตตฺถาติ ยํ ตสฺมิํ ปุคฺคเลฯ สฐนฺติ อสนฺตคุณทีปนํ เกราฎิยํฯ สฐตาติ สฐากาโรฯ กกฺกรตาติ ปทุมนาลิสฺส วิย อปรามสนกฺขโม ขรผรุสภาโวฯ กกฺกริยนฺติปิ ตเสฺสว เววจนํฯ ปริกฺขตฺตตา ปาริกฺขตฺติยนฺติ ปททฺวเยน นิขณิตฺวา ฐปิตํ วิย ทฬฺหเกราฎิยํ วุตฺตํฯ อิทํ วุจฺจตีติ อิทํ อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเฐยฺยํ นาม วุจฺจติ; เยน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส กุจฺฉิํ วา ปิฎฺฐิํ วา ชานิตุํ น สกฺกาฯ

    Sāṭheyyaniddese saṭhoti asantaguṇaparidīpanato na sammā bhāsitā. Sabbatobhāgena saṭho parisaṭho. Yaṃ tatthāti yaṃ tasmiṃ puggale. Saṭhanti asantaguṇadīpanaṃ kerāṭiyaṃ. Saṭhatāti saṭhākāro. Kakkaratāti padumanālissa viya aparāmasanakkhamo kharapharusabhāvo. Kakkariyantipi tasseva vevacanaṃ. Parikkhattatā pārikkhattiyanti padadvayena nikhaṇitvā ṭhapitaṃ viya daḷhakerāṭiyaṃ vuttaṃ. Idaṃ vuccatīti idaṃ attano avijjamānaguṇappakāsanalakkhaṇaṃ sāṭheyyaṃ nāma vuccati; yena samannāgatassa puggalassa kucchiṃ vā piṭṭhiṃ vā jānituṃ na sakkā.

    วาเมน สูกโร โหติ, ทกฺขิเณน อชามิโค;

    Vāmena sūkaro hoti, dakkhiṇena ajāmigo;

    สเรน เนลโก โหติ, วิสาเณน ชรคฺคโวติฯ

    Sarena nelako hoti, visāṇena jaraggavoti.

    เอวํ วุตฺตยกฺขสูกรสทิโส โหติฯ อวิชฺชาทินิเทฺทสา วุตฺตตฺถา เอวฯ

    Evaṃ vuttayakkhasūkarasadiso hoti. Avijjādiniddesā vuttatthā eva.

    ๙๐๒. อนชฺชวนิเทฺทเส อนชฺชโวติ อนุชุตากาโรฯ อนชฺชวภาโว อนชฺชวตาชิมฺหตาติ จนฺทวงฺกตาฯ วงฺกตาติ โคมุตฺตวงฺกตาฯ กุฎิลตาติ นงฺคลโกฎิวงฺกตาฯ สเพฺพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กายวจีจิตฺตวงฺกตาว กถิตาฯ

    902. Anajjavaniddese anajjavoti anujutākāro. Anajjavabhāvo anajjavatā. Jimhatāti candavaṅkatā. Vaṅkatāti gomuttavaṅkatā. Kuṭilatāti naṅgalakoṭivaṅkatā. Sabbehipi imehi padehi kāyavacīcittavaṅkatāva kathitā.

    อมทฺทวนิเทฺทเส น มุทุภาโว อมุทุตาฯ อมทฺทวากาโร อมทฺทวตาฯ กกฺขฬภาโว กกฺขฬิยํฯ มทฺทวกรสฺส สิเนหสฺส อภาวโต ผรุสภาโว ผารุสิยํฯ อนีจวุตฺติตาย อุชุกเมว ฐิตจิตฺตภาโว อุชุจิตฺตตา ฯ ปุน อมุทุตาคหณํ ตสฺสา วิเสสนตฺถํ ‘อมุทุตาสงฺขาตา อุชุจิตฺตตา, น อชฺชวสงฺขาตา อุชุจิตฺตตา’ติฯ

    Amaddavaniddese na mudubhāvo amudutā. Amaddavākāro amaddavatā. Kakkhaḷabhāvo kakkhaḷiyaṃ. Maddavakarassa sinehassa abhāvato pharusabhāvo phārusiyaṃ. Anīcavuttitāya ujukameva ṭhitacittabhāvo ujucittatā. Puna amudutāgahaṇaṃ tassā visesanatthaṃ ‘amudutāsaṅkhātā ujucittatā, na ajjavasaṅkhātā ujucittatā’ti.

    ๙๐๓. อกฺขนฺตินิเทฺทสาทโย ขนฺตินิเทฺทสาทิปฎิปกฺขโต เวทิตพฺพาฯ

    903. Akkhantiniddesādayo khantiniddesādipaṭipakkhato veditabbā.

    ๙๐๘. สํโยชนนิเทฺทเส อชฺฌตฺตนฺติ กามภโวฯ พหิทฺธาติ รูปารูปภโวฯ กิญฺจาปิ หิ สตฺตา กามภเว อปฺปํ กาลํ วสนฺติ กปฺปสฺส จตุตฺถเมว โกฎฺฐาสํ, อิตเรสุ ตีสุ โกฎฺฐาเสสุ กามภโว สุโญฺญ โหติ ตุโจฺฉ, รูปารูปภเว พหุํ กาลํ วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ ยสฺมา กามภเว จุติปฎิสนฺธิโย พหุกา โหนฺติ, อปฺปา รูปารูปภเวสุ, ยตฺถ จ จุติปฎิสนฺธิโย พหุกา ตตฺถ อาลโยปิ ปตฺถนาปิ อภิลาโสปิ พหุ โหติ, ยตฺถ อปฺปา ตตฺถ อโปฺป, ตสฺมา กามภโว อชฺฌตฺตํ นาม ชาโต, รูปารูปภวา พหิทฺธา นามฯ อิติ อชฺฌตฺตสงฺขาเต กามภเว พนฺธนํ อชฺฌตฺตสํโยชนํ นาม, พหิทฺธาสงฺขาเตสุ รูปารูปภเวสุ พนฺธนํ พหิทฺธาสํโยชนํ นามฯ ตตฺถ เอเกกํ ปญฺจปญฺจวิธํ โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ปโญฺจรมฺภาคิยานิ ปญฺจุทฺธมฺภาคิยานี’’ติฯ ตตฺรายํ วจนโตฺถ – โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิฯ อุทฺธํ วุจฺจติ รูปารูปธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ อุทฺธํ ภชนฺตีติ อุทฺธมฺภาคิยานีติฯ

    908. Saṃyojananiddese ajjhattanti kāmabhavo. Bahiddhāti rūpārūpabhavo. Kiñcāpi hi sattā kāmabhave appaṃ kālaṃ vasanti kappassa catutthameva koṭṭhāsaṃ, itaresu tīsu koṭṭhāsesu kāmabhavo suñño hoti tuccho, rūpārūpabhave bahuṃ kālaṃ vasanti, tathāpi nesaṃ yasmā kāmabhave cutipaṭisandhiyo bahukā honti, appā rūpārūpabhavesu, yattha ca cutipaṭisandhiyo bahukā tattha ālayopi patthanāpi abhilāsopi bahu hoti, yattha appā tattha appo, tasmā kāmabhavo ajjhattaṃ nāma jāto, rūpārūpabhavā bahiddhā nāma. Iti ajjhattasaṅkhāte kāmabhave bandhanaṃ ajjhattasaṃyojanaṃ nāma, bahiddhāsaṅkhātesu rūpārūpabhavesu bandhanaṃ bahiddhāsaṃyojanaṃ nāma. Tattha ekekaṃ pañcapañcavidhaṃ hoti. Tena vuttaṃ ‘‘pañcorambhāgiyāni pañcuddhambhāgiyānī’’ti. Tatrāyaṃ vacanattho – oraṃ vuccati kāmadhātu, tattha upapattinipphādanato taṃ oraṃ bhajantīti orambhāgiyāni. Uddhaṃ vuccati rūpārūpadhātu, tattha upapattinipphādanato taṃ uddhaṃ bhajantīti uddhambhāgiyānīti.

    ทุกนิเทฺทสวณฺณนาฯ

    Dukaniddesavaṇṇanā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact