Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๗. ทุกฺกรสุตฺตวณฺณนา
7. Dukkarasuttavaṇṇanā
๑๗. สตฺตเม ทุตฺติติกฺขนฺติ ทุกฺขมํ ทุอธิวาสิยํฯ อพฺยเตฺตนาติ พาเลนฯ สามญฺญนฺติ สมณธโมฺมฯ อิมินา เทวตา อิทํ ทเสฺสติ – ยํ ปณฺฑิตา กุลปุตฺตา ทสปิ วสฺสานิ วีสติปิ สฎฺฐิปิ วสฺสานิ ทเนฺต อภิทนฺตมาธาย ชิวฺหาย ตาลุํ อาหจฺจปิ เจตสา จิตฺตํ อภินิคฺคณฺหิตฺวาปิ เอกาสนํ เอกภตฺตํ ปฎิเสวมานา อาปาณโกฎิกํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตา สามญฺญํ กโรนฺติฯ ตํ ภควา พาโล อพฺยโตฺต กาตุํ น สโกฺกตีติฯ พหู หิ ตตฺถ สมฺพาธาติ ตสฺมิํ สามญฺญสงฺขาเต อริยมเคฺค พหู สมฺพาธา มคฺคาธิคมาย ปฎิปนฺนสฺส ปุพฺพภาเค พหู ปริสฺสยาติ ทเสฺสติฯ
17. Sattame duttitikkhanti dukkhamaṃ duadhivāsiyaṃ. Abyattenāti bālena. Sāmaññanti samaṇadhammo. Iminā devatā idaṃ dasseti – yaṃ paṇḍitā kulaputtā dasapi vassāni vīsatipi saṭṭhipi vassāni dante abhidantamādhāya jivhāya tāluṃ āhaccapi cetasā cittaṃ abhiniggaṇhitvāpi ekāsanaṃ ekabhattaṃ paṭisevamānā āpāṇakoṭikaṃ brahmacariyaṃ carantā sāmaññaṃ karonti. Taṃ bhagavā bālo abyatto kātuṃ na sakkotīti. Bahū hi tattha sambādhāti tasmiṃ sāmaññasaṅkhāte ariyamagge bahū sambādhā maggādhigamāya paṭipannassa pubbabhāge bahū parissayāti dasseti.
จิตฺตเญฺจ น นิวารเยติ ยทิ อโยนิโส อุปฺปนฺนํ จิตฺตํ น นิวาเรยฺย, กติ อหานิ สามญฺญํ จเรยฺย? เอกทิวสมฺปิ น จเรยฺยฯ จิตฺตวสิโก หิ สมณธมฺมํ กาตุํ น สโกฺกติฯ ปเท ปเทติ อารมฺมเณ อารมฺมเณฯ อารมฺมณญฺหิ อิธ ปทนฺติ อธิเปฺปตํฯ ยสฺมิํ ยสฺมิํ หิ อารมฺมเณ กิเลโส อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตตฺถ พาโล วิสีทติ นามฯ อิริยาปถปทมฺปิ วฎฺฎติฯ คมนาทีสุ หิ ยตฺถ ยตฺถ กิเลโส อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตเตฺถว วิสีทติ นามฯ สงฺกปฺปานนฺติ กามสงฺกปฺปาทีนํฯ
Cittañce na nivārayeti yadi ayoniso uppannaṃ cittaṃ na nivāreyya, kati ahāni sāmaññaṃ careyya? Ekadivasampi na careyya. Cittavasiko hi samaṇadhammaṃ kātuṃ na sakkoti. Pade padeti ārammaṇe ārammaṇe. Ārammaṇañhi idha padanti adhippetaṃ. Yasmiṃ yasmiṃ hi ārammaṇe kileso uppajjati, tattha tattha bālo visīdati nāma. Iriyāpathapadampi vaṭṭati. Gamanādīsu hi yattha yattha kileso uppajjati, tattha tattheva visīdati nāma. Saṅkappānanti kāmasaṅkappādīnaṃ.
กุโมฺม วาติ กจฺฉโป วิยฯ องฺคานีติ คีวปญฺจมานิ องฺคานิฯ สโมทหนฺติ สโมทหโนฺต, สโมทหิตฺวา วาฯ มโนวิตเกฺกติ มนมฺหิ อุปฺปนฺนวิตเกฺกฯ เอตฺตาวตา อิทํ ทเสฺสติ – ยถา กุโมฺม โสณฺฑิปญฺจมานิ องฺคานิ สเก กปาเล สโมทหโนฺต สิงฺคาลสฺส โอตารํ น เทติ, สโมทหิตฺวา จสฺส อปฺปสยฺหตํ อาปชฺชติ, เอวเมวํ ภิกฺขุ มนมฺหิ อุปฺปนฺนวิตเกฺก สเก อารมฺมณกปาเล สโมทหํ มารสฺส โอตารํ น เทติ, สโมทหิตฺวา จสฺส อปฺปสยฺหตํ อาปชฺชตีติฯ อนิสฺสิโตติ ตณฺหาทิฎฺฐินิสฺสเยหิ อนิสฺสิโต หุตฺวาฯ อเหฐยาโนติ อวิหิํสมาโนฯ ปรินิพฺพุโตติ กิเลสนิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโตฯ นูปวเทยฺย กญฺจีติ ยํกิญฺจิ ปุคฺคลํ อาจารวิปตฺติอาทีสุ ยาย กายจิ มงฺกุํ กาตุกาโม หุตฺวา น วเทยฺย, ‘‘กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลนา’’ติอาทโย ปน ปญฺจ ธเมฺม อชฺฌตฺตํ อุปฎฺฐเปตฺวา อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺฐิเตน จิเตฺตน การุญฺญตํ ปฎิจฺจ วเทยฺยาติฯ
Kummo vāti kacchapo viya. Aṅgānīti gīvapañcamāni aṅgāni. Samodahanti samodahanto, samodahitvā vā. Manovitakketi manamhi uppannavitakke. Ettāvatā idaṃ dasseti – yathā kummo soṇḍipañcamāni aṅgāni sake kapāle samodahanto siṅgālassa otāraṃ na deti, samodahitvā cassa appasayhataṃ āpajjati, evamevaṃ bhikkhu manamhi uppannavitakke sake ārammaṇakapāle samodahaṃ mārassa otāraṃ na deti, samodahitvā cassa appasayhataṃ āpajjatīti. Anissitoti taṇhādiṭṭhinissayehi anissito hutvā. Aheṭhayānoti avihiṃsamāno. Parinibbutoti kilesanibbānena parinibbuto. Nūpavadeyya kañcīti yaṃkiñci puggalaṃ ācāravipattiādīsu yāya kāyaci maṅkuṃ kātukāmo hutvā na vadeyya, ‘‘kālena vakkhāmi no akālenā’’tiādayo pana pañca dhamme ajjhattaṃ upaṭṭhapetvā ullumpanasabhāvasaṇṭhitena cittena kāruññataṃ paṭicca vadeyyāti.
ทุกฺกรสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dukkarasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๗. ทุกฺกรสุตฺตํ • 7. Dukkarasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๗. ทุกฺกรสุตฺตวณฺณนา • 7. Dukkarasuttavaṇṇanā