Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๓. ทุกฺขปฺปหานวายมปโญฺห
3. Dukkhappahānavāyamapañho
๓. ราชา อาห ‘‘ภเนฺต นาคเสน, กิํ ตุเมฺห อตีตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, ภเนฺต, อนาคตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘ยทิ ตุเมฺห น อตีตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, น อนาคตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, น ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, อถ กิมตฺถาย วายมถา’’ติฯ เถโร อาห ‘กินฺติ, มหาราช, อิทญฺจ ทุกฺขํ นิรุเชฺฌยฺย, อญฺญญฺจ ทุกฺขํ นุปฺปเชฺชยฺยา’ติ เอตทตฺถาย วายมามา’’ติฯ
3. Rājā āha ‘‘bhante nāgasena, kiṃ tumhe atītassa dukkhassa pahānāya vāyamathā’’ti? ‘‘Na hi, mahārājā’’ti. ‘‘Kiṃ pana, bhante, anāgatassa dukkhassa pahānāya vāyamathā’’ti? ‘‘Na hi, mahārājā’’ti. ‘‘Kiṃ pana paccuppannassa dukkhassa pahānāya vāyamathā’’ti? ‘‘Na hi, mahārājā’’ti. ‘‘Yadi tumhe na atītassa dukkhassa pahānāya vāyamatha, na anāgatassa dukkhassa pahānāya vāyamatha, na paccuppannassa dukkhassa pahānāya vāyamatha, atha kimatthāya vāyamathā’’ti. Thero āha ‘kinti, mahārāja, idañca dukkhaṃ nirujjheyya, aññañca dukkhaṃ nuppajjeyyā’ti etadatthāya vāyamāmā’’ti.
‘‘อตฺถิ ปน เต, ภเนฺต นาคเสน, อนาคตํ ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ 1, มหาราชา’’ติ ‘‘ตุเมฺห โข, ภเนฺต นาคเสน, อติปณฺฑิตา, เย ตุเมฺห อสนฺตานํ อนาคตานํ ทุกฺขานํ ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘อตฺถิ ปน เต, มหาราช, เกจิ ปฎิราชาโน ปจฺจตฺถิกา ปจฺจามิตฺตา ปจฺจุปฎฺฐิตา โหนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภเนฺต, อตฺถี’’ติฯ ‘‘กิํนุ โข, มหาราช, ตทา ตุเมฺห ปริขํ ขณาเปยฺยาถ, ปาการํ จินาเปยฺยาถ โคปุรํ การาเปยฺยาถ, อฎฺฎาลกํ การาเปยฺยาถ, ธญฺญํ อติหราเปยฺยาถา’’ติ? ‘‘น หิ, ภเนฺต, ปฎิกเจฺจว ตํ ปฎิยตฺตํ โหตี’’ติฯ ‘‘กิํ ตุเมฺห, มหาราช, ตทา หตฺถิสฺมิํ สิเกฺขยฺยาถ, อสฺสสฺมิํ สิเกฺขยฺยาถ, รถสฺมิํ สิเกฺขยฺยาถ, ธนุสฺมิํ สิเกฺขยฺยาถ, ถรุสฺมิํ สิเกฺขยฺยาถา’’ติ? ‘‘น หิ, ภเนฺต, ปฎิกเจฺจว ตํ สิกฺขิตํ โหตี’’ติฯ ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ? ‘‘อนาคตานํ, ภเนฺต, ภยานํ ปฎิพาหนตฺถายา’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, มหาราช, อตฺถิ อนาคตํ ภย’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ, ภเนฺต’’ติ ฯ ‘‘ตุเมฺห จ โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา, เย ตุเมฺห อสนฺตานํ อนาคตานํ ภยานํ ปฎิพาหนตฺถาย ปฎิยาเทถา’’ติฯ
‘‘Atthi pana te, bhante nāgasena, anāgataṃ dukkha’’nti? ‘‘Natthi 2, mahārājā’’ti ‘‘tumhe kho, bhante nāgasena, atipaṇḍitā, ye tumhe asantānaṃ anāgatānaṃ dukkhānaṃ pahānāya vāyamathā’’ti? ‘‘Atthi pana te, mahārāja, keci paṭirājāno paccatthikā paccāmittā paccupaṭṭhitā hontī’’ti? ‘‘Āma, bhante, atthī’’ti. ‘‘Kiṃnu kho, mahārāja, tadā tumhe parikhaṃ khaṇāpeyyātha, pākāraṃ cināpeyyātha gopuraṃ kārāpeyyātha, aṭṭālakaṃ kārāpeyyātha, dhaññaṃ atiharāpeyyāthā’’ti? ‘‘Na hi, bhante, paṭikacceva taṃ paṭiyattaṃ hotī’’ti. ‘‘Kiṃ tumhe, mahārāja, tadā hatthismiṃ sikkheyyātha, assasmiṃ sikkheyyātha, rathasmiṃ sikkheyyātha, dhanusmiṃ sikkheyyātha, tharusmiṃ sikkheyyāthā’’ti? ‘‘Na hi, bhante, paṭikacceva taṃ sikkhitaṃ hotī’’ti. ‘‘Kissatthāyā’’ti? ‘‘Anāgatānaṃ, bhante, bhayānaṃ paṭibāhanatthāyā’’ti. ‘‘Kiṃ nu kho, mahārāja, atthi anāgataṃ bhaya’’nti? ‘‘Natthi, bhante’’ti . ‘‘Tumhe ca kho, mahārāja, atipaṇḍitā, ye tumhe asantānaṃ anāgatānaṃ bhayānaṃ paṭibāhanatthāya paṭiyādethā’’ti.
‘‘ภิโยฺย โอปมฺมํ กโรหีติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ ปิปาสิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ อุทปานํ ขณาเปยฺยาสิ, โปกฺขรณิํ ขณาเปยฺยาสิ, ตฬากํ ขณาเปยฺยาสิ ‘ปานียํ ปิวิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภเนฺต, ปฎิกเจฺจว ตํ ปฎิยตฺตํ โหตี’’ติฯ ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ? ‘‘อนาคตานํ, ภเนฺต, ปิปาสานํ ปฎิพาหนตฺถาย ปฎิยตฺตํ โหตี’’ติฯ ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, อนาคตา ปิปาสา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ตุเมฺห โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา , เย ตุเมฺห อสนฺตานํ อนาคตานํ ปิปาสานํ ปฎิพาหนตฺถาย ตํ ปฎิยาเทถา’’ติฯ
‘‘Bhiyyo opammaṃ karohīti. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, mahārāja, yadā tvaṃ pipāsito bhaveyyāsi, tadā tvaṃ udapānaṃ khaṇāpeyyāsi, pokkharaṇiṃ khaṇāpeyyāsi, taḷākaṃ khaṇāpeyyāsi ‘pānīyaṃ pivissāmī’’’ti? ‘‘Na hi, bhante, paṭikacceva taṃ paṭiyattaṃ hotī’’ti. ‘‘Kissatthāyā’’ti? ‘‘Anāgatānaṃ, bhante, pipāsānaṃ paṭibāhanatthāya paṭiyattaṃ hotī’’ti. ‘‘Atthi pana, mahārāja, anāgatā pipāsā’’ti? ‘‘Natthi, bhante’’ti. ‘‘Tumhe kho, mahārāja, atipaṇḍitā , ye tumhe asantānaṃ anāgatānaṃ pipāsānaṃ paṭibāhanatthāya taṃ paṭiyādethā’’ti.
‘‘ภิโยฺย โอปมฺมํ กโรหี’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ พุภุกฺขิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ เขตฺตํ กสาเปยฺยาสิ, สาลิํ วปาเปยฺยาสิ ‘ภตฺตํ ภุญฺชิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภเนฺต, ปฎิกเจฺจว ตํ ปฎิยตฺตํ โหตี’’ติฯ ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติฯ ‘‘อนาคตานํ, ภเนฺต, พุภุกฺขานํ ปฎิพาหนตฺถายา’’ติฯ ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, อนาคตา พุภุกฺขา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ตุเมฺห โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา, เย ตุเมฺห อสนฺตานํ อนาคตานํ พุภุกฺขานํ ปฎิพาหนตฺถาย ปฎิยาเทถา’’ติฯ
‘‘Bhiyyo opammaṃ karohī’’ti. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, mahārāja, yadā tvaṃ bubhukkhito bhaveyyāsi, tadā tvaṃ khettaṃ kasāpeyyāsi, sāliṃ vapāpeyyāsi ‘bhattaṃ bhuñjissāmī’’’ti? ‘‘Na hi, bhante, paṭikacceva taṃ paṭiyattaṃ hotī’’ti. ‘‘Kissatthāyā’’ti. ‘‘Anāgatānaṃ, bhante, bubhukkhānaṃ paṭibāhanatthāyā’’ti. ‘‘Atthi pana, mahārāja, anāgatā bubhukkhā’’ti? ‘‘Natthi, bhante’’ti. ‘‘Tumhe kho, mahārāja, atipaṇḍitā, ye tumhe asantānaṃ anāgatānaṃ bubhukkhānaṃ paṭibāhanatthāya paṭiyādethā’’ti.
‘‘กโลฺลสิ, ภเนฺต นาคเสนา’’ติฯ
‘‘Kallosi, bhante nāgasenā’’ti.
ทุกฺขปฺปหานวายมปโญฺห ตติโยฯ
Dukkhappahānavāyamapañho tatiyo.
Footnotes: