Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๓. ทุกฺขสุตฺตวณฺณนา
3. Dukkhasuttavaṇṇanā
๔๓. สมุทยนํ สมุทโย, สมุเทติ เอตมฺหาติ สมุทโย, เอวํ อุภินฺนํ สมุทยานมตฺถโตปิ เภโท เวทิตโพฺพฯ ปจฺจยาว ปจฺจยสมุทโยฯ อารทฺธวิปสฺสโก ‘‘อิมญฺจ อิมญฺจ ปจฺจยสามคฺคิํ ปฎิจฺจ อิเม ธมฺมา ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ปสฺสโนฺต ‘‘ปจฺจยสมุทยํ ปสฺสโนฺตปิ ภิกฺขุ ขณิกสมุทยํ ปสฺสตี’’ติ วุโตฺต ปจฺจยทสฺสนมุเขน นิพฺพตฺติกฺขณสฺส ทสฺสนโตฯ โส ปน ขเณ ขเณ สงฺขารานํ นิพฺพตฺติํ ปสฺสิตุํ อารโทฺธ ‘‘อิเมหิ นาม ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺตตี’’ติ ปสฺสติฯ ‘‘โส ขณิกสมุทยํ ปสฺสโนฺต ปจฺจยํ ปสฺสตี’’ติ วทนฺติฯ ยสฺมา ปน ปจฺจยโต สงฺขารานํ อุทยํ ปสฺสโนฺต ขณโต เตสํ อุทยทสฺสนํ โหติ, ขณโต เอเตสํ อุทยํ ปสฺสโต ปเคว ปจฺจยานํ สุคฺคหิตตฺตา ปจฺจยโต ทสฺสนํ สุเขน อิชฺฌติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปจฺจยสมุทยํ ปสฺสโนฺตปี’’ติอาทิฯ อตฺถงฺคมทสฺสเนปิ เอเสว นโยฯ อจฺจนฺตตฺถงฺคโมติ อปฺปวตฺติ นิโรโธ นิพฺพานนฺติฯ เภทตฺถงฺคโมติ ขณิกนิโรโธฯ ตทุภยํ ปุพฺพภาเค อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน ปสฺสโนฺต อญฺญตรสฺส ทสฺสเน อิตรทสฺสนมฺปิ สิทฺธเมว โหติ, ปุพฺพภาเค จ อารมฺมณวเสน ขยโต วยสมฺมสนาทิกาเล เภทตฺถงฺคมํ ปสฺสโนฺต อติเรกวเสน อนุสฺสวาทิโต อจฺจนฺตํ อตฺถงฺคมํ ปสฺสติฯ มคฺคกฺขเณ ปนารมฺมณโต อจฺจนฺตอตฺถงฺคมํ ปสฺสติ, อสโมฺมหโต อิตรมฺปิ ปสฺสติฯ ตํ สนฺธายาห ‘‘อจฺจนฺตตฺถงฺคมํ ปสฺสโนฺตปี’’ติอาทิฯ สมุทยตฺถงฺคมํ นิพฺพตฺติเภทนฺติ สมุทยสงฺขาตํ นิพฺพตฺติํ อตฺถงฺคมสงฺขาตํ เภทญฺจฯ นิสฺสยวเสนาติ จกฺขุสฺส สนฺนิสฺสยวเสน ปจฺจยํ กตฺวาฯ อารมฺมณวเสนาติ รูเป อารมฺมณํ กตฺวาฯ ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มธุปิณฺฑิกสุตฺตฎีกายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํฯ ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺสติ ‘‘จกฺขุ รูปานิ วิญฺญาณ’’นฺติ อิเมสํ ติณฺณํ สงฺคติ สมาคเม นิพฺพตฺติ ผโสฺสติ วุโตฺตติ อาห ‘‘ติณฺณํ สงฺคติยา ผโสฺส’’ติฯ ติณฺณนฺติ จ ปากฎปจฺจยวเสน วุตฺตํ, ตทเญฺญปิ ปน มนสิการาทโย ผสฺสปจฺจยา โหนฺติเยวฯ เอวนฺติ ตณฺหาทีนํ อเสสวิราคนิโรธกฺกเมนฯ ภินฺนํ โหตีติ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺธํ โหติฯ เตนาห ‘‘อปฺปฎิสนฺธิย’’นฺติฯ
43. Samudayanaṃ samudayo, samudeti etamhāti samudayo, evaṃ ubhinnaṃ samudayānamatthatopi bhedo veditabbo. Paccayāva paccayasamudayo. Āraddhavipassako ‘‘imañca imañca paccayasāmaggiṃ paṭicca ime dhammā khaṇe khaṇe uppajjantī’’ti passanto ‘‘paccayasamudayaṃ passantopi bhikkhu khaṇikasamudayaṃ passatī’’ti vutto paccayadassanamukhena nibbattikkhaṇassa dassanato. So pana khaṇe khaṇe saṅkhārānaṃ nibbattiṃ passituṃ āraddho ‘‘imehi nāma paccayehi nibbattatī’’ti passati. ‘‘So khaṇikasamudayaṃ passanto paccayaṃ passatī’’ti vadanti. Yasmā pana paccayato saṅkhārānaṃ udayaṃ passanto khaṇato tesaṃ udayadassanaṃ hoti, khaṇato etesaṃ udayaṃ passato pageva paccayānaṃ suggahitattā paccayato dassanaṃ sukhena ijjhati, tasmā vuttaṃ ‘‘paccayasamudayaṃ passantopī’’tiādi. Atthaṅgamadassanepi eseva nayo. Accantatthaṅgamoti appavatti nirodho nibbānanti. Bhedatthaṅgamoti khaṇikanirodho. Tadubhayaṃ pubbabhāge uggahaparipucchādivasena passanto aññatarassa dassane itaradassanampi siddhameva hoti, pubbabhāge ca ārammaṇavasena khayato vayasammasanādikāle bhedatthaṅgamaṃ passanto atirekavasena anussavādito accantaṃ atthaṅgamaṃ passati. Maggakkhaṇe panārammaṇato accantaatthaṅgamaṃ passati, asammohato itarampi passati. Taṃ sandhāyāha ‘‘accantatthaṅgamaṃ passantopī’’tiādi. Samudayatthaṅgamaṃ nibbattibhedanti samudayasaṅkhātaṃ nibbattiṃ atthaṅgamasaṅkhātaṃ bhedañca. Nissayavasenāti cakkhussa sannissayavasena paccayaṃ katvā. Ārammaṇavasenāti rūpe ārammaṇaṃ katvā. Yaṃ panettha vattabbaṃ, taṃ madhupiṇḍikasuttaṭīkāyaṃ vuttanayena veditabbaṃ. Tiṇṇaṃ saṅgati phassoti ‘‘cakkhu rūpāni viññāṇa’’nti imesaṃ tiṇṇaṃ saṅgati samāgame nibbatti phassoti vuttoti āha ‘‘tiṇṇaṃ saṅgatiyā phasso’’ti. Tiṇṇanti ca pākaṭapaccayavasena vuttaṃ, tadaññepi pana manasikārādayo phassapaccayā hontiyeva. Evanti taṇhādīnaṃ asesavirāganirodhakkamena. Bhinnaṃ hotīti anuppādanirodhena niruddhaṃ hoti. Tenāha ‘‘appaṭisandhiya’’nti.
ทุกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dukkhasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. ทุกฺขสุตฺตํ • 3. Dukkhasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. ทุกฺขสุตฺตวณฺณนา • 3. Dukkhasuttavaṇṇanā