Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga |
๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทํ
2. Dutiyaaniyatasikkhāpadaṃ
๔๕๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุทายี – ‘‘ภควตา ปฎิกฺขิตฺตํ มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชํ กเปฺปตุ’’นฺติ ตสฺสาเยว กุมาริกาย สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสิ กาลยุตฺตํ สมุลฺลปโนฺต กาลยุตฺตํ ธมฺมํ ภณโนฺตฯ ทุติยมฺปิ โข วิสาขา มิคารมาตา นิมนฺติตา ตํ กุลํ อคมาสิฯ อทฺทสา โข วิสาขา มิคารมาตา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ ตสฺสาเยว กุมาริกาย สทฺธิํ เอกํ เอกาย รโห นิสินฺนํฯ ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ภเนฺต, นจฺฉนฺนํ นปฺปติรูปํ ยํ อโยฺย มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปติฯ กิญฺจาปิ, ภเนฺต, อโยฺย อนตฺถิโก เตน ธเมฺมน, อปิจ ทุสฺสทฺธาปยา อปฺปสนฺนา มนุสฺสา’’ติฯ เอวมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี วิสาขาย มิคารมาตุยา วุจฺจมาโน นาทิยิฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุทายี มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสฺสตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ …เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุทายิ, มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
452. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā udāyī – ‘‘bhagavatā paṭikkhittaṃ mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisajjaṃ kappetu’’nti tassāyeva kumārikāya saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappesi kālayuttaṃ samullapanto kālayuttaṃ dhammaṃ bhaṇanto. Dutiyampi kho visākhā migāramātā nimantitā taṃ kulaṃ agamāsi. Addasā kho visākhā migāramātā āyasmantaṃ udāyiṃ tassāyeva kumārikāya saddhiṃ ekaṃ ekāya raho nisinnaṃ. Disvāna āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘idaṃ, bhante, nacchannaṃ nappatirūpaṃ yaṃ ayyo mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappeti. Kiñcāpi, bhante, ayyo anatthiko tena dhammena, apica dussaddhāpayā appasannā manussā’’ti. Evampi kho āyasmā udāyī visākhāya migāramātuyā vuccamāno nādiyi. Atha kho visākhā migāramātā nikkhamitvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā udāyī mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappessatī’’ti! Atha kho te bhikkhū āyasmantaṃ udāyiṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ …pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, udāyi, mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappesī’’ti? ‘‘Saccaṃ bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappessasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๔๕๓. ‘‘น เหว โข ปน ปฎิจฺฉนฺนํ อาสนํ โหติ นาลํ กมฺมนิยํ, อลญฺจ โข โหติ มาตุคามํ ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุํฯ โย ปน ภิกฺขุ ตถารูเป อาสเน มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปยฺย, ตเมนํ สเทฺธยฺยวจสา อุปาสิกา ทิสฺวา ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อญฺญตเรน วเทยฺย – สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วาฯ นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฎิชานมาโน ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อญฺญตเรน กาเรตโพฺพ – สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วาฯ เยน วา สา สเทฺธยฺยวจสา อุปาสิกา วเทยฺย เตน โส ภิกฺขุ กาเรตโพฺพฯ อยมฺปิ ธโมฺม อนิยโต’’ติฯ
453.‘‘Na heva kho pana paṭicchannaṃ āsanaṃ hoti nālaṃ kammaniyaṃ, alañca kho hoti mātugāmaṃ duṭṭhullāhi vācāhi obhāsituṃ. Yo pana bhikkhu tathārūpe āsane mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappeyya, tamenaṃ saddheyyavacasā upāsikā disvā dvinnaṃ dhammānaṃ aññatarena vadeyya – saṅghādisesena vā pācittiyena vā. Nisajjaṃ bhikkhu paṭijānamāno dvinnaṃ dhammānaṃ aññatarena kāretabbo – saṅghādisesena vā pācittiyena vā. Yena vā sāsaddheyyavacasā upāsikā vadeyya tena so bhikkhu kāretabbo. Ayampi dhammo aniyato’’ti.
๔๕๔. น เหว โข ปน ปฎิจฺฉนฺนํ อาสนํ โหตีติ อปฺปฎิจฺฉนฺนํ โหติ กุเฎฺฎน วา กวาเฎน วา กิลเญฺชน วา สาณิปากาเรน วา รุเกฺขน วา ถเมฺภน วา โกตฺถฬิยา วา เยน เกนจิ อปฺปฎิจฺฉนฺนํ โหติฯ
454.Na hevakho pana paṭicchannaṃ āsanaṃ hotīti appaṭicchannaṃ hoti kuṭṭena vā kavāṭena vā kilañjena vā sāṇipākārena vā rukkhena vā thambhena vā kotthaḷiyā vā yena kenaci appaṭicchannaṃ hoti.
นาลํ กมฺมนิยนฺติ น สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตุํฯ
Nālaṃkammaniyanti na sakkā hoti methunaṃ dhammaṃ paṭisevituṃ.
อลญฺจ โข โหติ มาตุคามํ ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุนฺติ สกฺกา โหติ มาตุคามํ ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุํฯ
Alañca kho hoti mātugāmaṃ duṭṭhullāhi vācāhi obhāsitunti sakkā hoti mātugāmaṃ duṭṭhullāhi vācāhi obhāsituṃ.
โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
Yopanāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
ตถารูเป อาสเนติ เอวรูเป อาสเนฯ
Tathārūpe āsaneti evarūpe āsane.
มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี น เปตี น ติรจฺฉานคตา, วิญฺญู ปฎิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฎฺฐุลฺลาทุฎฺฐุลฺลํ อาชานิตุํฯ
Mātugāmo nāma manussitthī, na yakkhī na petī na tiracchānagatā, viññū paṭibalā subhāsitadubbhāsitaṃ duṭṭhullāduṭṭhullaṃ ājānituṃ.
สทฺธินฺติ เอกโตฯ
Saddhinti ekato.
เอโก เอกายาติ ภิกฺขุ เจว โหติ มาตุคาโม จฯ
Eko ekāyāti bhikkhu ceva hoti mātugāmo ca.
รโห นาม จกฺขุสฺส รโห, โสตสฺส รโหฯ จกฺขุสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ อกฺขิํ วา นิขณียมาเน ภมุกํ วา อุกฺขิปียมาเน สีสํ วา อุกฺขิปียมาเน ปสฺสิตุํฯ โสตสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ ปกติกถา โสตุํฯ
Raho nāma cakkhussa raho, sotassa raho. Cakkhussa raho nāma na sakkā hoti akkhiṃ vā nikhaṇīyamāne bhamukaṃ vā ukkhipīyamāne sīsaṃ vā ukkhipīyamāne passituṃ. Sotassa raho nāma na sakkā hoti pakatikathā sotuṃ.
นิสชฺชํ กเปฺปยฺยาติ มาตุคาเม นิสิเนฺน ภิกฺขุ อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วาฯ ภิกฺขุ นิสิเนฺน มาตุคาโม อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วาฯ อุโภ วา นิสินฺนา โหนฺติ อุโภ วา นิปนฺนาฯ
Nisajjaṃ kappeyyāti mātugāme nisinne bhikkhu upanisinno vā hoti upanipanno vā. Bhikkhu nisinne mātugāmo upanisinno vā hoti upanipanno vā. Ubho vā nisinnā honti ubho vā nipannā.
สเทฺธยฺยวจสา นาม อาคตผลา อภิสเมตาวินี วิญฺญาตสาสนาฯ
Saddheyyavacasā nāma āgataphalā abhisametāvinī viññātasāsanā.
อุปาสิกา นาม พุทฺธํ สรณํ คตา, ธมฺมํ สรณํ คตา, สงฺฆํ สรณํ คตาฯ
Upāsikā nāma buddhaṃ saraṇaṃ gatā, dhammaṃ saraṇaṃ gatā, saṅghaṃ saraṇaṃ gatā.
ทิสฺวาติ ปสฺสิตฺวาฯ
Disvāti passitvā.
ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อญฺญตเรน วเทยฺย สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วาฯ นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฎิชานมาโน ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อญฺญตเรน กาเรตโพฺพ – สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วาฯ เยน วา สา สเทฺธยฺยวจสา อุปาสิกา วเทยฺย, เตน โส ภิกฺขุ กาเรตโพฺพฯ
Dvinnaṃ dhammānaṃ aññatarena vadeyya saṅghādisesena vā pācittiyena vā. Nisajjaṃ bhikkhu paṭijānamāno dvinnaṃ dhammānaṃ aññatarena kāretabbo – saṅghādisesena vā pācittiyena vā. Yena vā sā saddheyyavacasā upāsikā vadeyya, tena so bhikkhu kāretabbo.
๔๕๕. สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิสิโนฺน มาตุคาเมน สทฺธิํ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชโนฺต’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิสิโนฺน มาตุคาเมน สทฺธิํ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชโนฺต’’ติ, โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘สจฺจาหํ นิสิโนฺน, โน จ โข กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิ’’นฺติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน, อปิจ โข นิปโนฺนติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
455. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nisinno mātugāmena saddhiṃ kāyasaṃsaggaṃ samāpajjanto’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nisinno mātugāmena saddhiṃ kāyasaṃsaggaṃ samāpajjanto’’ti, so ce evaṃ vadeyya – ‘‘saccāhaṃ nisinno, no ca kho kāyasaṃsaggaṃ samāpajji’’nti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno, apica kho nipannoti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิปโนฺน มาตุคาเมน สทฺธิํ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชโนฺต’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพ…เป.… สจฺจาหํ นิปโนฺน, โน จ โข กายสํสคฺคํ สมาปชฺชินฺติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข นิสิโนฺนติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ …เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nipanno mātugāmena saddhiṃ kāyasaṃsaggaṃ samāpajjanto’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo…pe… saccāhaṃ nipanno, no ca kho kāyasaṃsaggaṃ samāpajjinti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho nisinnoti, nisajjāya kāretabbo …pe… nāhaṃ nipanno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อยฺยสฺส มยา สุตํ นิสินฺนสฺส มาตุคามํ ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสนฺตสฺสา’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อยฺยสฺส มยา สุตํ นิสินฺนสฺส มาตุคามํ ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสนฺตสฺสา’’ติ, โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘สจฺจาหํ นิสิโนฺน, โน จ โข ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิ’’นฺติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน, อปิจ โข นิปโนฺนติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyassa mayā sutaṃ nisinnassa mātugāmaṃ duṭṭhullāhi vācāhi obhāsantassā’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyassa mayā sutaṃ nisinnassa mātugāmaṃ duṭṭhullāhi vācāhi obhāsantassā’’ti, so ce evaṃ vadeyya – ‘‘saccāhaṃ nisinno, no ca kho duṭṭhullāhi vācāhi obhāsi’’nti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno, apica kho nipannoti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อยฺยสฺส มยา สุตํ นิปนฺนสฺส มาตุคามํ ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสนฺตสฺสา’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพ…เป.… สจฺจาหํ นิปโนฺน โน จ โข ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสินฺติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข นิสิโนฺนติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyassa mayā sutaṃ nipannassa mātugāmaṃ duṭṭhullāhi vācāhi obhāsantassā’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo…pe… saccāhaṃ nipanno no ca kho duṭṭhullāhi vācāhi obhāsinti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho nisinnoti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
๔๕๖. สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสิโนฺน’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน, อปิจ โข นิปโนฺนติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
456. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisinno’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno, apica kho nipannoti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิปโนฺน’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข นิสิโนฺนติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nipanno’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho nisinnoti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
อยมฺปีติ ปุริมํ อุปาทาย วุจฺจติฯ
Ayampīti purimaṃ upādāya vuccati.
อนิยโตติ น นิยโต, สงฺฆาทิเสโส วา ปาจิตฺติยํ วาฯ
Aniyatoti na niyato, saṅghādiseso vā pācittiyaṃ vā.
๔๕๗. คมนํ ปฎิชานาติ นิสชฺชํ ปฎิชานาติ อาปตฺติํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ คมนํ ปฎิชานาติ นิสชฺชํ น ปฎิชานาติ อาปตฺติํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ คมนํ ปฎิชานาติ นิสชฺชํ ปฎิชานาติ อาปตฺติํ น ปฎิชานาติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพฯ คมนํ ปฎิชานาติ นิสชฺชํ น ปฎิชานาติ อาปตฺติํ น ปฎิชานาติ, น กาเรตโพฺพฯ
457. Gamanaṃ paṭijānāti nisajjaṃ paṭijānāti āpattiṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Gamanaṃ paṭijānāti nisajjaṃ na paṭijānāti āpattiṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Gamanaṃ paṭijānāti nisajjaṃ paṭijānāti āpattiṃ na paṭijānāti, nisajjāya kāretabbo. Gamanaṃ paṭijānāti nisajjaṃ na paṭijānāti āpattiṃ na paṭijānāti, na kāretabbo.
คมนํ น ปฎิชานาติ นิสชฺชํ ปฎิชานาติ อาปตฺติํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ คมนํ น ปฎิชานาติ นิสชฺชํ น ปฎิชานาติ อาปตฺติํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ คมนํ น ปฎิชานาติ นิสชฺชํ ปฎิชานาติ อาปตฺติํ น ปฎิชานาติ , นิสชฺชาย กาเรตโพฺพฯ คมนํ น ปฎิชานาติ นิสชฺชํ น ปฎิชานาติ อาปตฺติํ น ปฎิชานาติ, น กาเรตโพฺพติฯ
Gamanaṃ na paṭijānāti nisajjaṃ paṭijānāti āpattiṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Gamanaṃ na paṭijānāti nisajjaṃ na paṭijānāti āpattiṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Gamanaṃ na paṭijānāti nisajjaṃ paṭijānāti āpattiṃ na paṭijānāti , nisajjāya kāretabbo. Gamanaṃ na paṭijānāti nisajjaṃ na paṭijānāti āpattiṃ na paṭijānāti, na kāretabboti.
ทุติโย อนิยโต นิฎฺฐิโตฯ
Dutiyo aniyato niṭṭhito.
๔๕๘. อุทฺทิฎฺฐา โข อายสฺมโนฺต เทฺว อนิยตา ธมฺมาฯ ตตฺถายสฺมเนฺต ปุจฺฉามิ – ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา’’? ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ – ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา’’? ตติยมฺปิ ปุจฺฉามิ – ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา’’? ปริสุเทฺธตฺถายสฺมโนฺต; ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามีติฯ
458. Uddiṭṭhā kho āyasmanto dve aniyatā dhammā. Tatthāyasmante pucchāmi – ‘‘kaccittha parisuddhā’’? Dutiyampi pucchāmi – ‘‘kaccittha parisuddhā’’? Tatiyampi pucchāmi – ‘‘kaccittha parisuddhā’’? Parisuddhetthāyasmanto; tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmīti.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
อลํ กมฺมนิยเญฺจว, ตเถว จ นเหว โข;
Alaṃ kammaniyañceva, tatheva ca naheva kho;
อนิยตา สุปญฺญตฺตา, พุทฺธเสเฎฺฐน ตาทินาติฯ
Aniyatā supaññattā, buddhaseṭṭhena tādināti.
อนิยตกณฺฑํ นิฎฺฐิตํฯ
Aniyatakaṇḍaṃ niṭṭhitaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā