Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา

    2. Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā

    ๔๕๒. ‘‘น ลภติ มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย…เป.… นิสชฺชํ กเปฺปตุ’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ มาตุคาเมนา’’ติอาทินา วุตฺตตฺตา ‘‘เอโก’’ติ ปจฺจตฺตปทํ ปฎิกฺขิตฺตปเทน น สเมติ, ‘‘เอกสฺสา’’ติ วตฺตโพฺพติ สาเธโนฺต อาห ‘‘อิตรถา หี’’ติอาทิฯ

    452. ‘‘Na labhati mātugāmena saddhiṃ eko ekāya…pe… nisajjaṃ kappetu’’nti avatvā ‘‘paṭikkhittaṃ mātugāmenā’’tiādinā vuttattā ‘‘eko’’ti paccattapadaṃ paṭikkhittapadena na sameti, ‘‘ekassā’’ti vattabboti sādhento āha ‘‘itarathā hī’’tiādi.

    ๔๕๓. ปริเวณงฺคณาทีติ ปริเวณสฺส มาฬกํฯ อาทิ-สเทฺทน ปาการาทิปริกฺขิตฺตํ เจติยมาฬกาทิํ สงฺคณฺหาติฯ อโนฺตคธนฺติ อปฺปฎิจฺฉนฺนฎฺฐาเน เอว ปริยาปนฺนํฯ อิธ อิตฺถีปิ อนาปตฺติํ กโรตีติ สมฺพโนฺธฯ กสฺมา ปน อิตฺถี อิเธว อนาปตฺติํ กโรติ, น ปุริมสิกฺขาปเทติ? อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส เมถุนํ วินา ทุฎฺฐุลฺลวาจาย วเสน อาคตตฺตาฯ เมถุนเมว หิ อิตฺถิโย อญฺญมญฺญํ ปฎิจฺฉาเทนฺติ มหาวเน ทฺวารํ วิวริตฺวา นิทฺทูปคตมฺหิ ภิกฺขุมฺหิ วิยฯ ทุฎฺฐุลฺลํ ปน น ปฎิจฺฉาเทนฺติ, เตเนว ทุฎฺฐุลฺลวาจาสิกฺขาปเท ‘‘ยา ตา อิตฺถิโย หิริมนา, ตา นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขู อุชฺฌาเปสุ’’นฺติ (ปารา. ๒๘๓) วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘อิตฺถีปิ อนาปตฺติํ กโรตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อปฺปฎิจฺฉนฺนฎฺฐานตฺตา’’ติปิ การณํ วทนฺติฯ

    453.Pariveṇaṅgaṇādīti pariveṇassa māḷakaṃ. Ādi-saddena pākārādiparikkhittaṃ cetiyamāḷakādiṃ saṅgaṇhāti. Antogadhanti appaṭicchannaṭṭhāne eva pariyāpannaṃ. Idha itthīpi anāpattiṃ karotīti sambandho. Kasmā pana itthī idheva anāpattiṃ karoti, na purimasikkhāpadeti? Imassa sikkhāpadassa methunaṃ vinā duṭṭhullavācāya vasena āgatattā. Methunameva hi itthiyo aññamaññaṃ paṭicchādenti mahāvane dvāraṃ vivaritvā niddūpagatamhi bhikkhumhi viya. Duṭṭhullaṃ pana na paṭicchādenti, teneva duṭṭhullavācāsikkhāpade ‘‘yā tā itthiyo hirimanā, tā nikkhamitvā bhikkhū ujjhāpesu’’nti (pārā. 283) vuttaṃ, tasmā ‘‘itthīpi anāpattiṃ karotī’’ti vuttaṃ, ‘‘appaṭicchannaṭṭhānattā’’tipi kāraṇaṃ vadanti.

    กาเยนาปิ ทุฎฺฐุโลฺลภาสสมฺภวโต อิมสฺมิํ สิกฺขาปเท จกฺขุสฺส รโห, โสตสฺส รโห จ อธิเปฺปโตติ อาห ‘‘อนโนฺธ อพธิโร’’ติอาทิฯ เกจิ ปน วิภเงฺค ‘‘นาลํ กมฺมนิยนฺติ น สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตุ’นฺติ (ปารา. ๔๕๔) เอตฺตกเมว วตฺวา ‘น สกฺกา โหติ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุ’นฺติ อวุตฺตตฺตา อปฺปฎิจฺฉเนฺนปิ ฐาเน รโห อเญฺญสํ อภาวํ ทิสฺวา เอกาย อิตฺถิยา กายสํสโคฺคปิ สกฺกา อาปชฺชิตุนฺติ อโนฺตทฺวาทสหเตฺถ สวนูปจาเร ฐิโต อพธิโรปิ อโนฺธ กายสํสคฺคสฺสาปิ สพฺภาวาภาวํ น ชานาตีติ กาเยน ทุฎฺฐุโลฺลภาสนสพฺภาวํ อมนสิกตฺวาปิ กายสํสคฺคาปตฺติยาปิ ปริหาราย อนโนฺธ อพธิโรติอาทิ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติฯ ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ ‘‘กายสํสคฺควเสน อนโนฺธ วุโตฺต’’ติ (สารตฺถ. ฎี. ๒.๔๕๓) วุตฺตํ, ตํ ปน กาเยน ทุฎฺฐุโลฺลภาสนสมฺภวํ อมนสิกตฺวา วุตฺตํ, กายสํสคฺควเสนาปีติ คเหตพฺพํฯ เตเนว ‘‘อิมสฺมิํ สิกฺขาปเท โสตสฺส รโห เอว อธิเปฺปโต…เป.… เกนจิ ปน ‘เทฺวปิ รหา อิธ อธิเปฺปตา’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ ยํ ปน จกฺขุสฺส รหาภาวสาธนตฺถํ ‘‘น หิ อปฺปฎิจฺฉเนฺน โอกาเส จกฺขุสฺส รโห สมฺภวตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ อติทูรตเร ฐิตสฺส กาเยน โอภาสนมฺปิ หตฺถคฺคาหาทีนิปิ สลฺลเกฺขตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตาฯ เตเนว ปาฬิยํ ‘‘จกฺขุสฺส รโห’’ติ วุตฺตํ, อฎฺฐกถายํ อปฺปฎิกฺขิตฺตํฯ น เกวลญฺจ อปฺปฎิกฺขิตฺตํ, อถ โข ‘‘อนโนฺธ พธิโรติ จ อโนฺธ วา อพธิโรปิ น กโรตี’’ติ จ วุตฺตํ, ตสฺมา เทฺวปิ รหา อิธ คเหตพฺพาฯ ‘‘อโนฺตทฺวาทสหเตฺถ’’ติอิมินา โสตสฺส รโห ทฺวาทสหเตฺถน ปริจฺฉิโนฺนติ อิทํ ทเสฺสติฯ จกฺขุสฺส รโห ปน ยตฺถ ฐิตสฺส กายวิการาทโย น ปญฺญายนฺติ, เตน ปริจฺฉินฺทิตโพฺพติ ทฎฺฐพฺพํฯ พธิโร ปน จกฺขุมาปีติ ทุฎฺฐุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ทุฎฺฐุลฺลาปตฺติ วุตฺตาติ ปุริมสิกฺขาปเท วุเตฺตหิ อธิกวเสน ทุฎฺฐุลฺลาปตฺติ จ วุตฺตาติ เอวมโตฺถ คเหตโพฺพ, น ปน ทุฎฺฐุลฺลาปตฺติ เอวาติ กายสํสคฺคสฺสาปิ อิธ คเหตพฺพโตฯ เตเนว ‘‘ปาราชิกาปตฺติญฺจ ปริหาเปตฺวา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, อิตรถา ‘‘กายสํสคฺคญฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺยฯ

    Kāyenāpi duṭṭhullobhāsasambhavato imasmiṃ sikkhāpade cakkhussa raho, sotassa raho ca adhippetoti āha ‘‘anandho abadhiro’’tiādi. Keci pana vibhaṅge ‘‘nālaṃ kammaniyanti na sakkā hoti methunaṃ dhammaṃ paṭisevitu’nti (pārā. 454) ettakameva vatvā ‘na sakkā hoti kāyasaṃsaggaṃ samāpajjitu’nti avuttattā appaṭicchannepi ṭhāne raho aññesaṃ abhāvaṃ disvā ekāya itthiyā kāyasaṃsaggopi sakkā āpajjitunti antodvādasahatthe savanūpacāre ṭhito abadhiropi andho kāyasaṃsaggassāpi sabbhāvābhāvaṃ na jānātīti kāyena duṭṭhullobhāsanasabbhāvaṃ amanasikatvāpi kāyasaṃsaggāpattiyāpi parihārāya anandho abadhirotiādi vutta’’nti vadanti. Yaṃ pana sāratthadīpaniyaṃ ‘‘kāyasaṃsaggavasena anandho vutto’’ti (sārattha. ṭī. 2.453) vuttaṃ, taṃ pana kāyena duṭṭhullobhāsanasambhavaṃ amanasikatvā vuttaṃ, kāyasaṃsaggavasenāpīti gahetabbaṃ. Teneva ‘‘imasmiṃ sikkhāpade sotassa raho eva adhippeto…pe… kenaci pana ‘dvepi rahā idha adhippetā’ti vuttaṃ, taṃ na gahetabba’’nti vuttaṃ. Yaṃ pana cakkhussa rahābhāvasādhanatthaṃ ‘‘na hi appaṭicchanne okāse cakkhussa raho sambhavatī’’tiādi vuttaṃ, taṃ na yuttaṃ atidūratare ṭhitassa kāyena obhāsanampi hatthaggāhādīnipi sallakkhetuṃ asakkuṇeyyattā. Teneva pāḷiyaṃ ‘‘cakkhussa raho’’ti vuttaṃ, aṭṭhakathāyaṃ appaṭikkhittaṃ. Na kevalañca appaṭikkhittaṃ, atha kho ‘‘anandho badhiroti ca andho vā abadhiropi na karotī’’ti ca vuttaṃ, tasmā dvepi rahā idha gahetabbā. ‘‘Antodvādasahatthe’’tiiminā sotassa raho dvādasahatthena paricchinnoti idaṃ dasseti. Cakkhussa raho pana yattha ṭhitassa kāyavikārādayo na paññāyanti, tena paricchinditabboti daṭṭhabbaṃ. Badhiro pana cakkhumāpīti duṭṭhullavācāsaṅghādisesaṃ sandhāya vuttaṃ. Duṭṭhullāpatti vuttāti purimasikkhāpade vuttehi adhikavasena duṭṭhullāpatti ca vuttāti evamattho gahetabbo, na pana duṭṭhullāpatti evāti kāyasaṃsaggassāpi idha gahetabbato. Teneva ‘‘pārājikāpattiñca parihāpetvā’’ti ettakameva vuttaṃ, itarathā ‘‘kāyasaṃsaggañcā’’ti vattabbaṃ bhaveyya.

    ติสมุฎฺฐานนฺติอาทิ ปน ปุริมสิกฺขาปเท อาคเตหิ อธิกสฺส ทุฎฺฐุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสสฺส วเสน วุตฺตํ กายสํสคฺคาทีนมฺปิ ปุริมสิกฺขาปเท เอว วุตฺตตฺตา, อิธ ปน น วุตฺตนฺติปิ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํฯ

    Tisamuṭṭhānantiādi pana purimasikkhāpade āgatehi adhikassa duṭṭhullavācāsaṅghādisesassa vasena vuttaṃ kāyasaṃsaggādīnampi purimasikkhāpade eva vuttattā, idha pana na vuttantipi vadanti, vīmaṃsitvā gahetabbaṃ.

    ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    นิฎฺฐิโต อนิยตวณฺณนานโยฯ

    Niṭṭhito aniyatavaṇṇanānayo.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทํ • 2. Dutiyaaniyatasikkhāpadaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact