Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๘. ทุติยจตุมหาราชสุตฺตํ
8. Dutiyacatumahārājasuttaṃ
๓๘. ‘‘ภูตปุพฺพํ , ภิกฺขเว, สโกฺก เทวานมิโนฺท เทเว ตาวติํเส อนุนยมาโน ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –
38. ‘‘Bhūtapubbaṃ , bhikkhave, sakko devānamindo deve tāvatiṃse anunayamāno tāyaṃ velāyaṃ imaṃ gāthaṃ abhāsi –
‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฎฺฐมี;
‘‘Cātuddasiṃ pañcadasiṃ, yā ca pakkhassa aṭṭhamī;
ปาฎิหาริยปกฺขญฺจ, อฎฺฐงฺคสุสมาคตํ;
Pāṭihāriyapakkhañca, aṭṭhaṅgasusamāgataṃ;
อุโปสถํ อุปวเสยฺย, โยปิสฺส มาทิโส นโร’’ติฯ
Uposathaṃ upavaseyya, yopissa mādiso naro’’ti.
‘‘สา โข ปเนสา, ภิกฺขเว, สเกฺกน เทวานมิเนฺทน คาถา ทุคฺคีตา น สุคีตา ทุพฺภาสิตา น สุภาสิตาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? สโกฺก หิ, ภิกฺขเว, เทวานมิโนฺท อปริมุโตฺต ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุเกฺขหิ โทมนเสฺสหิ อุปายาเสหิ, อปริมุโตฺต ทุกฺขสฺมาติ วทามิฯ
‘‘Sā kho panesā, bhikkhave, sakkena devānamindena gāthā duggītā na sugītā dubbhāsitā na subhāsitā. Taṃ kissa hetu? Sakko hi, bhikkhave, devānamindo aparimutto jātiyā jarāya maraṇena sokehi paridevehi dukkhehi domanassehi upāyāsehi, aparimutto dukkhasmāti vadāmi.
‘‘โย จ โข โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺต, ตสฺส โข เอตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กลฺลํ วจนาย –
‘‘Yo ca kho so, bhikkhave, bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññā vimutto, tassa kho etaṃ, bhikkhave, bhikkhuno kallaṃ vacanāya –
‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฎฺฐมี;
‘‘Cātuddasiṃ pañcadasiṃ, yā ca pakkhassa aṭṭhamī;
ปาฎิหาริยปกฺขญฺจ, อฎฺฐงฺคสุสมาคตํ;
Pāṭihāriyapakkhañca, aṭṭhaṅgasusamāgataṃ;
อุโปสถํ อุปวเสยฺย, โยปิสฺส มาทิโส นโร’’ติฯ
Uposathaṃ upavaseyya, yopissa mādiso naro’’ti.
‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? โส หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปริมุโตฺต ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุเกฺขหิ โทมนเสฺสหิ อุปายาเสหิ, ปริมุโตฺต ทุกฺขสฺมาติ วทามี’’ติฯ อฎฺฐมํฯ
‘‘Taṃ kissa hetu? So hi, bhikkhave, bhikkhu parimutto jātiyā jarāya maraṇena sokehi paridevehi dukkhehi domanassehi upāyāsehi, parimutto dukkhasmāti vadāmī’’ti. Aṭṭhamaṃ.