Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
๙. ทุติยทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Dutiyaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā
๓๙๑. นวเม ทิสฺวาติ อชิกาย วิปฺปฎิปชฺชนฺตํ ฉคลกํ ทิสฺวาฯ เมตฺติยํ ภิกฺขุนินฺติ ตสฺสา ภิกฺขุนิกาลํ คเหตฺวา ภูตปุพฺพโวหาเรน โวหรนฺติฯ เวฬุวเนเยวาติ เถรสฺส ภิกฺขาจารเวลํ อคฺคเหตฺวา เตหิ วุตฺตภตฺตุเทฺทสเวลํเยว สนฺธาย วุตฺตํฯ กจฺจิ โนติ กจฺจิ นุฯ เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ อญฺญภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กญฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทาย ปาราชิเกน ธเมฺมน อนุทฺธํสิตภาวํ อาโรเจสุํฯ
391. Navame disvāti ajikāya vippaṭipajjantaṃ chagalakaṃ disvā. Mettiyaṃ bhikkhuninti tassā bhikkhunikālaṃ gahetvā bhūtapubbavohārena voharanti. Veḷuvaneyevāti therassa bhikkhācāravelaṃ aggahetvā tehi vuttabhattuddesavelaṃyeva sandhāya vuttaṃ. Kacci noti kacci nu. Etamatthaṃ ārocesunti aññabhāgiyassa adhikaraṇassa kañcidesaṃ lesamattaṃ upādāya pārājikena dhammena anuddhaṃsitabhāvaṃ ārocesuṃ.
อญฺญภาคสฺสาติ อญฺญโกฎฺฐาสสฺส, เถรสฺส มนุสฺสชาติภิกฺขุภาวโต อญฺญสฺส ติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาตสฺส โกฎฺฐาสสฺสาติ วุตฺตํ โหติฯ อิทนฺติ สามญฺญโต นปุํสกนิเทฺทเสน ฉคลกํ นิทฺทิสติ, อิทํ ฉคลกชาตนฺติ อโตฺถ, อยํ ฉคลโกติ วุตฺตํ โหติฯ อธิกรณสทฺทาเปโกฺข วา นปุํสกนิเทฺทโส, อิทํ ฉคลกสงฺขาตํ อธิกรณนฺติ วุตฺตํ โหติฯ อญฺญภาโคติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาโต อญฺญภาโค, อญฺญโกฎฺฐาโสติ อโตฺถฯ อสฺสาติ ฉคลกสฺสฯ ‘‘อญฺญภาคสมฺพนฺธี อญฺญภาคิย’’นฺติ ปฐมวิคฺคหสฺส อโตฺถ, ‘‘อญฺญภาควนฺตํ อญฺญภาคิย’’นฺติ ทุติยวิคฺคหสฺสฯ ทฺวีหิปิ วิคฺคเหหิ อญฺญภาคิยนฺติ ฉคลโกว วุโตฺตฯ ติรจฺฉานชาติฉคลกภาวญฺจ ฐเปตฺวา ปรมตฺถโต วิสุํ ฉคลเก อสติปิ ‘‘ปฎิมาย สรีร’’นฺติอาทีสุ วิย อเภเทปิ เภทกปฺปนาย ปวตฺตโลกโวหารวเสน ‘‘อญฺญภาคสฺส อิทํ, อญฺญภาโค วา อสฺส อตฺถี’’ติ วุตฺตํฯ
Aññabhāgassāti aññakoṭṭhāsassa, therassa manussajātibhikkhubhāvato aññassa tiracchānajātichagalakabhāvasaṅkhātassa koṭṭhāsassāti vuttaṃ hoti. Idanti sāmaññato napuṃsakaniddesena chagalakaṃ niddisati, idaṃ chagalakajātanti attho, ayaṃ chagalakoti vuttaṃ hoti. Adhikaraṇasaddāpekkho vā napuṃsakaniddeso, idaṃ chagalakasaṅkhātaṃ adhikaraṇanti vuttaṃ hoti. Aññabhāgoti yathāvuttatiracchānajātichagalakabhāvasaṅkhāto aññabhāgo, aññakoṭṭhāsoti attho. Assāti chagalakassa. ‘‘Aññabhāgasambandhī aññabhāgiya’’nti paṭhamaviggahassa attho, ‘‘aññabhāgavantaṃ aññabhāgiya’’nti dutiyaviggahassa. Dvīhipi viggahehi aññabhāgiyanti chagalakova vutto. Tiracchānajātichagalakabhāvañca ṭhapetvā paramatthato visuṃ chagalake asatipi ‘‘paṭimāya sarīra’’ntiādīsu viya abhedepi bhedakappanāya pavattalokavohāravasena ‘‘aññabhāgassa idaṃ, aññabhāgo vā assa atthī’’ti vuttaṃ.
อิทานิ ทฺวีหิปิ วิคฺคเหหิ วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘โย หิ โส’’ติอาทิมาหฯ โสติ โส ฉคลโกฯ ตสฺส ‘‘โหตี’’ติ อิมินา สมฺพโนฺธฯ ตโตติ ตโต มนุสฺสชาติโต ภิกฺขุภาวโต จฯ โส วา อญฺญภาโคติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาโต อญฺญภาโคฯ อสฺสาติ ฉคลกสฺสฯ โส ฉคลโก อญฺญภาคิยสงฺขาตํ ลภตีติ โยเชตพฺพํฯ ‘‘อธิกรณนฺติ อาธาโร, วตฺถุ อธิฎฺฐาน’’นฺติ เหฎฺฐา วุตฺตมตฺถํ สรูปโต ทเสฺสตุํ ‘‘ยสฺมา จา’’ติอาทิมาหฯ เตสนฺติ เมตฺติยภูมชกานํฯ อิมนฺติ ฉคลกํฯ นามกรณสญฺญายาติ นามกรณสงฺขาตาย สญฺญาย โส ฉคลโก อธิกรณนฺติ เวทิตโพฺพติ โยเชตพฺพํฯ ตญฺหิ สนฺธายาติ ‘‘อวสฺสํ ตุเมฺหหิ เลโส โอฑฺฑิโต, กิํ วทถ, กิํ ปสฺสิตฺถา’’ติ อนุยุเตฺตหิ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘ฉคลกสฺส วิปฺปฎิปตฺติํ ทิสฺวา ทพฺพสฺส นามํ ตสฺส กริมฺหา’’ติ วุตฺตตฺตา ตสฺส นามกรณสญฺญาย อธิฎฺฐานภูตํ ตํ ฉคลกํ สนฺธายฯ เต ภิกฺขูติ เต อนุยุญฺชกา ภิกฺขูฯ อาปตฺติเลสมฺปิ ปุคฺคลสฺมิํเยว อาโรเปตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘ปุคฺคลานํเยว เลสา’’ติ วุตฺตํฯ ปทภาชเน ปน…เป.… เวทิตพฺพนฺติ อิมินา นามกรณสญฺญาย อาธารภูตสฺส ฉคลกสงฺขาตสฺส อธิกรณสฺส อวจเน การณํ วุตฺตํฯ
Idāni dvīhipi viggahehi vuttamatthaṃ vitthāretvā dassento ‘‘yo hi so’’tiādimāha. Soti so chagalako. Tassa ‘‘hotī’’ti iminā sambandho. Tatoti tato manussajātito bhikkhubhāvato ca. So vā aññabhāgoti yathāvuttatiracchānajātichagalakabhāvasaṅkhāto aññabhāgo. Assāti chagalakassa. So chagalako aññabhāgiyasaṅkhātaṃ labhatīti yojetabbaṃ. ‘‘Adhikaraṇanti ādhāro, vatthu adhiṭṭhāna’’nti heṭṭhā vuttamatthaṃ sarūpato dassetuṃ ‘‘yasmā cā’’tiādimāha. Tesanti mettiyabhūmajakānaṃ. Imanti chagalakaṃ. Nāmakaraṇasaññāyāti nāmakaraṇasaṅkhātāya saññāya so chagalako adhikaraṇanti veditabboti yojetabbaṃ. Tañhi sandhāyāti ‘‘avassaṃ tumhehi leso oḍḍito, kiṃ vadatha, kiṃ passitthā’’ti anuyuttehi tehi bhikkhūhi ‘‘chagalakassa vippaṭipattiṃ disvā dabbassa nāmaṃ tassa karimhā’’ti vuttattā tassa nāmakaraṇasaññāya adhiṭṭhānabhūtaṃ taṃ chagalakaṃ sandhāya. Te bhikkhūti te anuyuñjakā bhikkhū. Āpattilesampi puggalasmiṃyeva āropetvā vuttattā ‘‘puggalānaṃyeva lesā’’ti vuttaṃ. Padabhājane pana…pe… veditabbanti iminā nāmakaraṇasaññāya ādhārabhūtassa chagalakasaṅkhātassa adhikaraṇassa avacane kāraṇaṃ vuttaṃ.
๓๙๓. ‘‘อญฺญภาคิยสฺส อธิกรณสฺสา’’ติ เอตฺถ ปาฬิอาคตอธิกรณสทฺทปติรูปกํ อญฺญํ อธิกรณสทฺทํ ปาฬิอาคตตทญฺญสาธารณตาย อุภยปทตฺถํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานี’’ติ วุตฺตํฯ อตฺถุทฺธารวเสน หิ อตฺถํ ทเสฺสเนฺตน ปาฬิยํ อาคตสทฺทปติรูปโก อโญฺญ สโทฺท อุภยปทโตฺถ อุทฺธริตโพฺพ, น จ อญฺญํ อุทฺธริตฺวา อญฺญสฺส อโตฺถ วตฺตโพฺพ, ตสฺมา ปาฬิอาคตอธิกรณสทฺทปติรูปโก อโญฺญเยว อุภยปทตฺถสาธารโณ อธิกรณสโทฺท อุทฺธโฎติ ทฎฺฐพฺพํฯ เตเนวาห ‘‘อธิกรณนฺติ วจนสามญฺญโต อตฺถุทฺธารวเสน ปวตฺตานิ จตฺตาริ อธิกรณานี’’ติฯ ยา จ สา อวสาเน…เป.… โจทนา วุตฺตาติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชโนฺต ทิโฎฺฐ โหติ, สงฺฆาทิเสเส สงฺฆาทิเสสทิฎฺฐี โหติ, ตเญฺจ ปาราชิเกน โจเทตีติอาทิโจทนํ สนฺธาย วทติฯ
393. ‘‘Aññabhāgiyassa adhikaraṇassā’’ti ettha pāḷiāgataadhikaraṇasaddapatirūpakaṃ aññaṃ adhikaraṇasaddaṃ pāḷiāgatatadaññasādhāraṇatāya ubhayapadatthaṃ uddharitvā ‘‘adhikaraṇaṃ nāma cattāri adhikaraṇānī’’ti vuttaṃ. Atthuddhāravasena hi atthaṃ dassentena pāḷiyaṃ āgatasaddapatirūpako añño saddo ubhayapadattho uddharitabbo, na ca aññaṃ uddharitvā aññassa attho vattabbo, tasmā pāḷiāgataadhikaraṇasaddapatirūpako aññoyeva ubhayapadatthasādhāraṇo adhikaraṇasaddo uddhaṭoti daṭṭhabbaṃ. Tenevāha ‘‘adhikaraṇanti vacanasāmaññato atthuddhāravasena pavattāni cattāri adhikaraṇānī’’ti. Yā ca sā avasāne…pe… codanā vuttāti bhikkhu saṅghādisesaṃ ajjhāpajjanto diṭṭho hoti, saṅghādisese saṅghādisesadiṭṭhī hoti, tañce pārājikena codetītiādicodanaṃ sandhāya vadati.
เมถุนวีติกฺกมาปตฺติโย วตฺถุโต สภาคา, อิตราสํ ปน อทินฺนาทานาทิอาปตฺตีนํ สมาเนปิ ปาราชิกาปตฺติภาเว วตฺถุโต วิสภาคาติ อาห ‘‘สภาควิสภาควตฺถุโต’’ติฯ สภาวสริกฺขาสริกฺขโตติ สภาเวน สทิสาสทิสภาวโตฯ ปฐมปาราชิกญฺหิ ปฐมปาราชิกาปตฺติยา เมถุนราเคน สภาวโต สทิสํ, โทสสมฺปยุตฺตมนุสฺสวิคฺคเหน อสทิสํฯ นนุ จ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สิยา ตพฺภาคิยํ, สิยา อญฺญภาคิย’’นฺติ วุตฺตตฺตา อุเทฺทสานุกฺกเมน ตพฺภาคิยตํ อนิทฺทิสิตฺวา อญฺญภาคิยตา ปฐมํ กสฺมา นิทฺทิฎฺฐาติ อาห ‘‘อาทิโต ปฎฺฐายา’’ติอาทิฯ วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘สภาควิสภาควตฺถุโต’’ติอาทินา วุตฺตนเยนฯ
Methunavītikkamāpattiyo vatthuto sabhāgā, itarāsaṃ pana adinnādānādiāpattīnaṃ samānepi pārājikāpattibhāve vatthuto visabhāgāti āha ‘‘sabhāgavisabhāgavatthuto’’ti. Sabhāvasarikkhāsarikkhatoti sabhāvena sadisāsadisabhāvato. Paṭhamapārājikañhi paṭhamapārājikāpattiyā methunarāgena sabhāvato sadisaṃ, dosasampayuttamanussaviggahena asadisaṃ. Nanu ca ‘‘āpattādhikaraṇaṃ āpattādhikaraṇassa siyā tabbhāgiyaṃ, siyā aññabhāgiya’’nti vuttattā uddesānukkamena tabbhāgiyataṃ aniddisitvā aññabhāgiyatā paṭhamaṃ kasmā niddiṭṭhāti āha ‘‘ādito paṭṭhāyā’’tiādi. Vuttanayenevāti ‘‘sabhāgavisabhāgavatthuto’’tiādinā vuttanayena.
‘‘สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตตฺตา สงฺฆกมฺมโต กิจฺจาธิกรณํ วิสุํ วิย ทิสฺสตีติ อาห ‘‘กิํ ปนา’’ติอาทิฯ ‘‘กิจฺจเมว กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจน’’นฺติ วุตฺตํฯ ยทิ เอวํ ‘‘สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอวํ สเนฺตปี’’ติอาทิฯ ตสฺส ตสฺส สงฺฆกมฺมสฺส ภควตา วุตฺตํ อิติกตฺตพฺพตาลกฺขณํเยว ตโต สงฺฆกมฺมสฺส นิปฺผชฺชนโต ผลูปจาเรน สงฺฆกมฺมนฺติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ อาห ‘‘ยํ กมฺมลกฺขณํ มนสิ กโรติ, ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต’’ติฯ ปริวาสาทิสงฺฆกมฺมํ นิสฺสาย มานตฺตาทีนํ อุปฺปชฺชนโต อุเกฺขปนียกมฺมสีมาสมฺมุติกมฺมาทีนิ อิสฺสาย โอสารณสีมาสมูหนนาทิกมฺมานํ อุปฺปชฺชนโต จ ‘‘ปุริมํ ปุริมํ สงฺฆกมฺม’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ
‘‘Saṅghakammāni nissāya uppanna’’nti vuttattā saṅghakammato kiccādhikaraṇaṃ visuṃ viya dissatīti āha ‘‘kiṃ panā’’tiādi. ‘‘Kiccameva kiccādhikaraṇa’’nti vuttattā ‘‘saṅghakammānamevetaṃ adhivacana’’nti vuttaṃ. Yadi evaṃ ‘‘saṅghakammāni nissāya uppanna’’nti kasmā vuttanti āha ‘‘evaṃ santepī’’tiādi. Tassa tassa saṅghakammassa bhagavatā vuttaṃ itikattabbatālakkhaṇaṃyeva tato saṅghakammassa nipphajjanato phalūpacārena saṅghakammanti vattabbataṃ arahatīti āha ‘‘yaṃ kammalakkhaṇaṃ manasi karoti, taṃ nissāya uppajjanato’’ti. Parivāsādisaṅghakammaṃ nissāya mānattādīnaṃ uppajjanato ukkhepanīyakammasīmāsammutikammādīni issāya osāraṇasīmāsamūhananādikammānaṃ uppajjanato ca ‘‘purimaṃ purimaṃ saṅghakamma’’ntiādi vuttaṃ.
๓๙๕-๔๐๐. สวตฺถุกํ กตฺวาติ ปุคฺคลาธิฎฺฐานํ กตฺวาฯ ทีฆาทิโนติ ทีฆรสฺสกาฬโอทาตาทิโนฯ ทิฎฺฐาทิโนติ ทิฎฺฐสุตาทิโนฯ โลหปตฺตสทิโสติ อโยปตฺตสทิโสฯ องฺคานิ ปฐมทุฎฺฐโทเส วุตฺตสทิสานิ, อิธ ปน กญฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยนา อธิกาฯ
395-400.Savatthukaṃ katvāti puggalādhiṭṭhānaṃ katvā. Dīghādinoti dīgharassakāḷaodātādino. Diṭṭhādinoti diṭṭhasutādino. Lohapattasadisoti ayopattasadiso. Aṅgāni paṭhamaduṭṭhadose vuttasadisāni, idha pana kañcidesaṃ lesamattaṃ upādiyanā adhikā.
ทุติยทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๙. ทุติยทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทํ • 9. Dutiyaduṭṭhadosasikkhāpadaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๙. ทุติยทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Dutiyaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๙. ทุติยทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Dutiyaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๙. ทุติยทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Dutiyaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā