Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๘. ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา
8. Dutiyagaddulabaddhasuttavaṇṇanā
๑๐๐. ทิฎฺฐิคทฺทุลนิสฺสิตายาติ สหชาตาทิปจฺจยวเสน ทิฎฺฐิคทฺทุลนิสฺสิตาย นิสฺสาเยว ปวตฺตติ ตโต อตฺตานํ วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตาฯ จิตฺตสํกิเลเสเนวาติ ทสวิธกิเลสวตฺถุวเสน จิตฺตสฺส สํกิลิฎฺฐภาเวนฯ อริยมคฺคาธิคมเนน จิตฺตสฺส โวทานตฺตา โวทายนฺติ วิสุชฺฌนฺติฯ
100.Diṭṭhigaddulanissitāyāti sahajātādipaccayavasena diṭṭhigaddulanissitāya nissāyeva pavattati tato attānaṃ vivecetuṃ asakkuṇeyyattā. Cittasaṃkilesenevāti dasavidhakilesavatthuvasena cittassa saṃkiliṭṭhabhāvena. Ariyamaggādhigamanena cittassa vodānattā vodāyanti visujjhanti.
วิจรณจิตฺตนฺติ คเหตฺวา วิจรณวเสน วิจรณจิตฺตํฯ สงฺขานามาติ เอวํนามกาฯ พฺราหฺมณปาสณฺฑิกาติ ชาติยา พฺราหฺมณา, ฉนฺนวุติยา ปาสเณฺฑสุ ตํ สงฺขาสญฺญิตํ ปาสณฺฑํ ปคฺคยฺห วิจรณกาฯ ปฎโกฎฺฐกนฺติ ทุสฺสาปณกํฯ ทเสฺสนฺตาติ ยถาคติกมฺมวิปากจิตฺตตํ ทเสฺสนฺตา ฯ ตํ จิตฺตนฺติ ตํ ปฎโกฎฺฐกจิตฺตํ คเหตฺวา วิจรนฺติฯ จิเนฺตตฺวา กตตฺตาติ ‘‘อิมสฺส รูปสฺส เอวํ หตฺถปาทา, เอวํ มุขํ ลิขิตพฺพํ, เอวํ อาการวตฺถคฺคหณานิ, เอวํ กิริยาวิเสสา, เอวํ กิริยาวิภาคํ, สตฺตวิเสสานํ วิภาคํ กาตพฺพ’’นฺติ ตสฺส อุพฺพตฺตนขิปนปวตฺตนาทิปโยชนญฺจาติ สพฺพเมตํ ตถา จิเนฺตตฺวา กตตฺตา จิเตฺตน มนสา จินฺติตํ นามฯ อุปายปริเยสนจิตฺตนฺติ ‘‘หตฺถปาทา เอวํ ลิขิตพฺพา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตอุปายสฺส เจว ปุเพฺพ ปวตฺตสฺส ภูมิปริกมฺมวณฺณธาตุสมฺมาโยชนุปายสฺส จ วเสน ปวตฺตํ จิตฺตํฯ ตโตปิ จิตฺตตรนฺติ ตโต จิตฺตกมฺมโตปิ จิตฺตตรํ จิตฺตกาเรน จินฺติตปฺปการานํ สเพฺพสํเยว จิตฺตกเมฺม อนิปฺผชฺชนโตฯ กมฺมจิเตฺตนาติ กมฺมวิญฺญาเณนฯ กมฺมจิเตฺตนาติ วา กมฺมสฺส จิตฺตภาเวนฯ โส กมฺมสฺส วิจิตฺตภาโว ตณฺหาวเสน ชายตีติ เวทิตโพฺพฯ สฺวายมโตฺถ อฎฺฐสาลินีฎีกายํ วิภาวิโตฯ เอวํ จิตฺตาติ เอวํ จิตฺตรูปวิเสสาฯ โยนิํ อุปเนตีติ ตํ ตํ อณฺฑชาทิเภทํ โยนิวิเสสํ ปาเปติ วณฺณวิเสโส วิย ผลิกมณิกํฯ น หิ วิเสสา หิตวิจิตฺตสามตฺถิยกมฺมํ โยนิํ อุปเนติ, ตสฺส ตสฺส วิปากุปฺปตฺติยา ปจฺจโย โหติฯ โยนิมูลโก เตสํ จิตฺตภาโวติ ยํ ยํ โยนิํ กมฺมํ สเตฺต อุปเนติ, ตํตํโยนิมูลโก เตสํ สตฺตานํ จิตฺตวิจิตฺตภาโวฯ เตนาห ‘‘โยนิอุปคตา’’ติอาทิฯ สทิสจิตฺตาว สทิสจิตฺตภาวา เอวฯ อิตีติอาทิ วุตฺตเสฺสว อตฺถสฺส อุปฺปฎิปาฎิยา นิคมนํฯ
Vicaraṇacittanti gahetvā vicaraṇavasena vicaraṇacittaṃ. Saṅkhānāmāti evaṃnāmakā. Brāhmaṇapāsaṇḍikāti jātiyā brāhmaṇā, channavutiyā pāsaṇḍesu taṃ saṅkhāsaññitaṃ pāsaṇḍaṃ paggayha vicaraṇakā. Paṭakoṭṭhakanti dussāpaṇakaṃ. Dassentāti yathāgatikammavipākacittataṃ dassentā . Taṃ cittanti taṃ paṭakoṭṭhakacittaṃ gahetvā vicaranti. Cintetvā katattāti ‘‘imassa rūpassa evaṃ hatthapādā, evaṃ mukhaṃ likhitabbaṃ, evaṃ ākāravatthaggahaṇāni, evaṃ kiriyāvisesā, evaṃ kiriyāvibhāgaṃ, sattavisesānaṃ vibhāgaṃ kātabba’’nti tassa ubbattanakhipanapavattanādipayojanañcāti sabbametaṃ tathā cintetvā katattā cittena manasā cintitaṃ nāma. Upāyapariyesanacittanti ‘‘hatthapādā evaṃ likhitabbā’’tiādinā yathāvuttaupāyassa ceva pubbe pavattassa bhūmiparikammavaṇṇadhātusammāyojanupāyassa ca vasena pavattaṃ cittaṃ. Tatopi cittataranti tato cittakammatopi cittataraṃ cittakārena cintitappakārānaṃ sabbesaṃyeva cittakamme anipphajjanato. Kammacittenāti kammaviññāṇena. Kammacittenāti vā kammassa cittabhāvena. So kammassa vicittabhāvo taṇhāvasena jāyatīti veditabbo. Svāyamattho aṭṭhasālinīṭīkāyaṃ vibhāvito. Evaṃ cittāti evaṃ cittarūpavisesā. Yoniṃ upanetīti taṃ taṃ aṇḍajādibhedaṃ yonivisesaṃ pāpeti vaṇṇaviseso viya phalikamaṇikaṃ. Na hi visesā hitavicittasāmatthiyakammaṃ yoniṃ upaneti, tassa tassa vipākuppattiyā paccayo hoti. Yonimūlako tesaṃ cittabhāvoti yaṃ yaṃ yoniṃ kammaṃ satte upaneti, taṃtaṃyonimūlako tesaṃ sattānaṃ cittavicittabhāvo. Tenāha ‘‘yoniupagatā’’tiādi. Sadisacittāva sadisacittabhāvā eva. Itītiādi vuttasseva atthassa uppaṭipāṭiyā nigamanaṃ.
ติรจฺฉานคตจิตฺตภาวโต จิตฺตเสฺสว สวิเสสํ จิตฺตภาวกรณํ ทเสฺสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ จิตฺตํ นาเมตํ จิตฺตตรเมว เวทิตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ สหชาตธมฺมจิตฺตตายาติ ราคาทิสทฺธาทิธมฺมวิจิตฺตภาเวนฯ ภูมิจิตฺตตายาติ อธิฎฺฐานจิตฺตตายฯ กมฺมนานตฺตํ มูลํ การณํ เอเตสนฺติ กมฺมนานตฺตมูลกา, เตสํฯ ลิงฺคนานตฺตํ อิตฺถิลิงฺคาทินานตฺตวเสน เจว ตํตํสณฺฐานนานตฺตวเสน จ เวทิตพฺพํฯ สญฺญานานตฺตํ อิตฺถิปุริสเทวมนุสฺสาทิสญฺญานานตฺตวเสน ฯ โวหารนานตฺตํ ติโสฺสติอาทิโวหารนานตฺตวเสนฯ จิตฺตานํ วิจิตฺตานํฯ ตํตํโวหารนานตฺตมฺปิ จิเตฺตเนว ปญฺญปียติฯ รงฺคชาตรูปสมุฎฺฐาปนาทินา วตฺถํ รญฺชยตีติ รชโก, วณฺณกาโรฯ ปุถุชฺชนสฺส อตฺตภาวสญฺญิตรูปสมุฎฺฐาปนตา นิยตา เอกนฺติกาติ ปุถุชฺชนคฺคหณํฯ ‘‘อภิรูปํ รูปํ สมุฎฺฐาเปตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพโนฺธฯ
Tiracchānagatacittabhāvato cittasseva savisesaṃ cittabhāvakaraṇaṃ dassetuṃ ‘‘apicā’’tiādi vuttaṃ. Tattha cittaṃ nāmetaṃ cittatarameva veditabbanti sambandho. Sahajātadhammacittatāyāti rāgādisaddhādidhammavicittabhāvena. Bhūmicittatāyāti adhiṭṭhānacittatāya. Kammanānattaṃ mūlaṃ kāraṇaṃ etesanti kammanānattamūlakā, tesaṃ. Liṅganānattaṃ itthiliṅgādinānattavasena ceva taṃtaṃsaṇṭhānanānattavasena ca veditabbaṃ. Saññānānattaṃ itthipurisadevamanussādisaññānānattavasena . Vohāranānattaṃ tissotiādivohāranānattavasena. Cittānaṃ vicittānaṃ. Taṃtaṃvohāranānattampi citteneva paññapīyati. Raṅgajātarūpasamuṭṭhāpanādinā vatthaṃ rañjayatīti rajako, vaṇṇakāro. Puthujjanassa attabhāvasaññitarūpasamuṭṭhāpanatā niyatā ekantikāti puthujjanaggahaṇaṃ. ‘‘Abhirūpaṃ rūpaṃ samuṭṭhāpetī’’ti ānetvā sambandho.
ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyagaddulabaddhasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๘. ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตํ • 8. Dutiyagaddulabaddhasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา • 8. Dutiyagaddulabaddhasuttavaṇṇanā