Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๖. ทุติยกามภูสุตฺตํ

    6. Dutiyakāmabhūsuttaṃ

    ๓๔๘. เอกํ สมยํ อายสฺมา กามภู มจฺฉิกาสเณฺฑ วิหรติ อมฺพาฎกวเนฯ อถ โข จิโตฺต คหปติ เยนายสฺมา กามภู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข จิโตฺต คหปติ อายสฺมนฺตํ กามภุํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, สงฺขารา’’ติ? ‘‘ตโย โข, คหปติ, สงฺขารา – กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภเนฺต’’ติ โข จิโตฺต คหปติ อายสฺมโต กามภุสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ กามภุํ อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กตโม ปน, ภเนฺต, กายสงฺขาโร, กตโม วจีสงฺขาโร, กตโม จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, คหปติ, กายสงฺขาโร, วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร, สญฺญา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติฯ

    348. Ekaṃ samayaṃ āyasmā kāmabhū macchikāsaṇḍe viharati ambāṭakavane. Atha kho citto gahapati yenāyasmā kāmabhū tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho citto gahapati āyasmantaṃ kāmabhuṃ etadavoca – ‘‘kati nu kho, bhante, saṅkhārā’’ti? ‘‘Tayo kho, gahapati, saṅkhārā – kāyasaṅkhāro, vacīsaṅkhāro, cittasaṅkhāro’’ti. ‘‘Sādhu, bhante’’ti kho citto gahapati āyasmato kāmabhussa bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā āyasmantaṃ kāmabhuṃ uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘katamo pana, bhante, kāyasaṅkhāro, katamo vacīsaṅkhāro, katamo cittasaṅkhāro’’ti? ‘‘Assāsapassāsā kho, gahapati, kāyasaṅkhāro, vitakkavicārā vacīsaṅkhāro, saññā ca vedanā ca cittasaṅkhāro’’ti.

    ‘‘สาธุ, ภเนฺต’’ติ โข จิโตฺต คหปติ…เป.… อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กสฺมา ปน, ภเนฺต, อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร, กสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร, กสฺมา สญฺญา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, คหปติ, กายิกาฯ เอเต ธมฺมา กายปฺปฎิพทฺธา, ตสฺมา อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโรฯ ปุเพฺพ โข, คหปติ, วิตเกฺกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทติ, ตสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโรฯ สญฺญา จ เวทนา จ เจตสิกาฯ เอเต ธมฺมา จิตฺตปฺปฎิพทฺธา, ตสฺมา สญฺญา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติฯ

    ‘‘Sādhu, bhante’’ti kho citto gahapati…pe… uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘kasmā pana, bhante, assāsapassāsā kāyasaṅkhāro, kasmā vitakkavicārā vacīsaṅkhāro, kasmā saññā ca vedanā ca cittasaṅkhāro’’ti? ‘‘Assāsapassāsā kho, gahapati, kāyikā. Ete dhammā kāyappaṭibaddhā, tasmā assāsapassāsā kāyasaṅkhāro. Pubbe kho, gahapati, vitakketvā vicāretvā pacchā vācaṃ bhindati, tasmā vitakkavicārā vacīsaṅkhāro. Saññā ca vedanā ca cetasikā. Ete dhammā cittappaṭibaddhā, tasmā saññā ca vedanā ca cittasaṅkhāro’’ti.

    สาธุ…เป.… อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กถํ ปน, ภเนฺต, สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ โหตี’’ติ? ‘‘น โข, คหปติ, สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชิสฺส’นฺติ วา ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปโนฺน’ติ วา ฯ อถ ขฺวสฺส ปุเพฺพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตี’’ติฯ

    Sādhu…pe… uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘kathaṃ pana, bhante, saññāvedayitanirodhasamāpatti hotī’’ti? ‘‘Na kho, gahapati, saññāvedayitanirodhaṃ samāpajjantassa bhikkhuno evaṃ hoti – ‘ahaṃ saññāvedayitanirodhaṃ samāpajjissa’nti vā ‘ahaṃ saññāvedayitanirodhaṃ samāpajjāmī’ti vā ‘ahaṃ saññāvedayitanirodhaṃ samāpanno’ti vā . Atha khvassa pubbeva tathā cittaṃ bhāvitaṃ hoti yaṃ taṃ tathattāya upanetī’’ti.

    สาธุ …เป.… อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส ปน, ภเนฺต , ภิกฺขุโน กตเม ธมฺมา ปฐมํ นิรุชฺฌนฺติ, ยทิ วา กายสงฺขาโร, ยทิ วา วจีสงฺขาโร, ยทิ วา จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส โข, คหปติ, ภิกฺขุโน วจีสงฺขาโร ปฐมํ นิรุชฺฌติ, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติฯ

    Sādhu …pe… uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘saññāvedayitanirodhaṃ samāpajjantassa pana, bhante , bhikkhuno katame dhammā paṭhamaṃ nirujjhanti, yadi vā kāyasaṅkhāro, yadi vā vacīsaṅkhāro, yadi vā cittasaṅkhāro’’ti? ‘‘Saññāvedayitanirodhaṃ samāpajjantassa kho, gahapati, bhikkhuno vacīsaṅkhāro paṭhamaṃ nirujjhati, tato kāyasaṅkhāro, tato cittasaṅkhāro’’ti.

    สาธุ…เป.… อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘ยฺวายํ, ภเนฺต, มโต กาลงฺกโต, โย จายํ ภิกฺขุ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปโนฺน, อิเมสํ กิํ นานากรณ’’นฺติ? ‘‘ยฺวายํ คหปติ, มโต กาลงฺกโต ตสฺส กายสงฺขาโร นิรุโทฺธ ปฎิปฺปสฺสโทฺธ, วจีสงฺขาโร นิรุโทฺธ ปฎิปฺปสฺสโทฺธ, จิตฺตสงฺขาโร นิรุโทฺธ ปฎิปฺปสฺสโทฺธ, อายุ ปริกฺขีโณ, อุสฺมา วูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ วิปริภินฺนานิฯ โย จ ขฺวายํ, คหปติ, ภิกฺขุ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปโนฺน, ตสฺสปิ กายสงฺขาโร นิรุโทฺธ ปฎิปฺปสฺสโทฺธ, วจีสงฺขาโร นิรุโทฺธ ปฎิปฺปสฺสโทฺธ, จิตฺตสงฺขาโร นิรุโทฺธ ปฎิปฺปสฺสโทฺธ, อายุ อปริกฺขีโณ, อุสฺมา อวูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานิฯ ยฺวายํ, คหปติ, มโต กาลงฺกโต, โย จายํ ภิกฺขุ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปโนฺน, อิทํ เนสํ นานากรณ’’นฺติฯ

    Sādhu…pe… uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘yvāyaṃ, bhante, mato kālaṅkato, yo cāyaṃ bhikkhu saññāvedayitanirodhaṃ samāpanno, imesaṃ kiṃ nānākaraṇa’’nti? ‘‘Yvāyaṃ gahapati, mato kālaṅkato tassa kāyasaṅkhāro niruddho paṭippassaddho, vacīsaṅkhāro niruddho paṭippassaddho, cittasaṅkhāro niruddho paṭippassaddho, āyu parikkhīṇo, usmā vūpasantā, indriyāni viparibhinnāni. Yo ca khvāyaṃ, gahapati, bhikkhu saññāvedayitanirodhaṃ samāpanno, tassapi kāyasaṅkhāro niruddho paṭippassaddho, vacīsaṅkhāro niruddho paṭippassaddho, cittasaṅkhāro niruddho paṭippassaddho, āyu aparikkhīṇo, usmā avūpasantā, indriyāni vippasannāni. Yvāyaṃ, gahapati, mato kālaṅkato, yo cāyaṃ bhikkhu saññāvedayitanirodhaṃ samāpanno, idaṃ nesaṃ nānākaraṇa’’nti.

    สาธุ…เป.… อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กถํ ปน, ภเนฺต, สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐานํ โหตี’’ติ? ‘‘น โข, คหปติ, สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐหนฺตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐหิสฺส’นฺติ วา ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐหามี’ติ วา ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐิโต’ติ วาฯ อถ ขฺวสฺส ปุเพฺพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ, ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตี’’ติฯ

    Sādhu…pe… uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘kathaṃ pana, bhante, saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhānaṃ hotī’’ti? ‘‘Na kho, gahapati, saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhahantassa bhikkhuno evaṃ hoti – ‘ahaṃ saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhahissa’nti vā ‘ahaṃ saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhahāmī’ti vā ‘ahaṃ saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhito’ti vā. Atha khvassa pubbeva tathā cittaṃ bhāvitaṃ hoti, yaṃ taṃ tathattāya upanetī’’ti.

    สาธุ , ภเนฺต…เป.… อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐหนฺตสฺส ปน, ภเนฺต, ภิกฺขุโน กตเม ธมฺมา ปฐมํ อุปฺปชฺชนฺติ, ยทิ วา กายสงฺขาโร, ยทิ วา วจีสงฺขาโร, ยทิ วา จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐหนฺตสฺส, คหปติ, ภิกฺขุโน จิตฺตสงฺขาโร ปฐมํ อุปฺปชฺชติ, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต วจีสงฺขาโร’’ติฯ

    Sādhu , bhante…pe… uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhahantassa pana, bhante, bhikkhuno katame dhammā paṭhamaṃ uppajjanti, yadi vā kāyasaṅkhāro, yadi vā vacīsaṅkhāro, yadi vā cittasaṅkhāro’’ti? ‘‘Saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhahantassa, gahapati, bhikkhuno cittasaṅkhāro paṭhamaṃ uppajjati, tato kāyasaṅkhāro, tato vacīsaṅkhāro’’ti.

    สาธุ…เป.… อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐิตํ ปน, ภเนฺต , ภิกฺขุํ กติ ผสฺสา ผุสนฺติ’’? ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐิตํ โข, คหปติ, ภิกฺขุํ ตโย ผสฺสา ผุสนฺติ – สุญฺญโต ผโสฺส, อนิมิโตฺต ผโสฺส, อปฺปณิหิโต ผโสฺส’’ติฯ

    Sādhu…pe… uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhitaṃ pana, bhante , bhikkhuṃ kati phassā phusanti’’? ‘‘Saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhitaṃ kho, gahapati, bhikkhuṃ tayo phassā phusanti – suññato phasso, animitto phasso, appaṇihito phasso’’ti.

    สาธุ…เป.… อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐิตสฺส ปน, ภเนฺต, ภิกฺขุโน กิํนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, กิํโปณํ, กิํปพฺภาร’’นฺติ? ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฎฺฐิตสฺส โข, คหปติ, ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภาร’’นฺติฯ

    Sādhu…pe… uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhitassa pana, bhante, bhikkhuno kiṃninnaṃ cittaṃ hoti, kiṃpoṇaṃ, kiṃpabbhāra’’nti? ‘‘Saññāvedayitanirodhasamāpattiyā vuṭṭhitassa kho, gahapati, bhikkhuno vivekaninnaṃ cittaṃ hoti vivekapoṇaṃ vivekapabbhāra’’nti.

    ‘‘สาธุ, ภเนฺต’’ติ โข จิโตฺต คหปติ อายสฺมโต กามภุสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ กามภุํ อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา ปน, ภเนฺต, กติ ธมฺมา พหูปการา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข ตฺวํ, คหปติ, ยํ ปฐมํ ปุจฺฉิตพฺพํ ตํ ปุจฺฉสิฯ อปิ จ ตฺยาหํ พฺยากริสฺสามิฯ สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา โข, คหปติ, เทฺว ธมฺมา พหูปการา – สมโถ จ วิปสฺสนา จา’’ติฯ ฉฎฺฐํฯ

    ‘‘Sādhu, bhante’’ti kho citto gahapati āyasmato kāmabhussa bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā āyasmantaṃ kāmabhuṃ uttariṃ pañhaṃ apucchi – ‘‘saññāvedayitanirodhasamāpattiyā pana, bhante, kati dhammā bahūpakārā’’ti? ‘‘Addhā kho tvaṃ, gahapati, yaṃ paṭhamaṃ pucchitabbaṃ taṃ pucchasi. Api ca tyāhaṃ byākarissāmi. Saññāvedayitanirodhasamāpattiyā kho, gahapati, dve dhammā bahūpakārā – samatho ca vipassanā cā’’ti. Chaṭṭhaṃ.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๖. ทุติยกามภูสุตฺตวณฺณนา • 6. Dutiyakāmabhūsuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๖. ทุติยกามภูสุตฺตวณฺณนา • 6. Dutiyakāmabhūsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact