Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๘. ทุติยมหาปญฺหาสุตฺตํ
8. Dutiyamahāpañhāsuttaṃ
๒๘. เอกํ สมยํ ภควา กชงฺคลายํ วิหรติ เวฬุวเนฯ อถ โข สมฺพหุลา กชงฺคลกา อุปาสกา เยน กชงฺคลิกา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา กชงฺคลิกํ ภิกฺขุนิํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข กชงฺคลกา อุปาสกา กชงฺคลิกํ ภิกฺขุนิํ เอตทโวจุํ –
28. Ekaṃ samayaṃ bhagavā kajaṅgalāyaṃ viharati veḷuvane. Atha kho sambahulā kajaṅgalakā upāsakā yena kajaṅgalikā bhikkhunī tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā kajaṅgalikaṃ bhikkhuniṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho kajaṅgalakā upāsakā kajaṅgalikaṃ bhikkhuniṃ etadavocuṃ –
‘‘วุตฺตมิทํ, อเยฺย, ภควตา มหาปเญฺหสุ – ‘เอโก ปโญฺห เอโก อุเทฺทโส เอกํ เวยฺยากรณํ, เทฺว ปญฺหา เทฺว อุเทฺทสา เทฺว เวยฺยากรณานิ, ตโย ปญฺหา ตโย อุเทฺทสา ตีณิ เวยฺยากรณานิ, จตฺตาโร ปญฺหา จตฺตาโร อุเทฺทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานิ, ปญฺจ ปญฺหา ปญฺจุเทฺทสา ปญฺจ เวยฺยากรณานิ, ฉ ปญฺหา ฉ อุเทฺทสา ฉ เวยฺยากรณานิ, สตฺต ปญฺหา สตฺตุเทฺทสา สตฺต เวยฺยากรณานิ, อฎฺฐ ปญฺหา อฎฺฐุเทฺทสา อฎฺฐ เวยฺยากรณานิ, นว ปญฺหา นวุเทฺทสา นว เวยฺยากรณานิ, ทส ปญฺหา ทสุเทฺทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติฯ อิมสฺส นุ โข, อเยฺย, ภควตา สํขิเตฺตน ภาสิตสฺส กถํ วิตฺถาเรน อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพ’’ติ?
‘‘Vuttamidaṃ, ayye, bhagavatā mahāpañhesu – ‘eko pañho eko uddeso ekaṃ veyyākaraṇaṃ, dve pañhā dve uddesā dve veyyākaraṇāni, tayo pañhā tayo uddesā tīṇi veyyākaraṇāni, cattāro pañhā cattāro uddesā cattāri veyyākaraṇāni, pañca pañhā pañcuddesā pañca veyyākaraṇāni, cha pañhā cha uddesā cha veyyākaraṇāni, satta pañhā sattuddesā satta veyyākaraṇāni, aṭṭha pañhā aṭṭhuddesā aṭṭha veyyākaraṇāni, nava pañhā navuddesā nava veyyākaraṇāni, dasa pañhā dasuddesā dasa veyyākaraṇānī’ti. Imassa nu kho, ayye, bhagavatā saṃkhittena bhāsitassa kathaṃ vitthārena attho daṭṭhabbo’’ti?
‘‘น โข ปเนตํ, อาวุโส, ภควโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ, นปิ มโนภาวนียานํ ภิกฺขูนํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ; อปิ จ, ยถา เมตฺถ ขายติ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, อเยฺย’’ติ, โข กชงฺคลกา อุปาสกา กชงฺคลิกาย ภิกฺขุนิยา ปจฺจโสฺสสุํฯ กชงฺคลิกา ภิกฺขุนี เอตทโวจ –
‘‘Na kho panetaṃ, āvuso, bhagavato sammukhā sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ, napi manobhāvanīyānaṃ bhikkhūnaṃ sammukhā sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ; api ca, yathā mettha khāyati taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha, bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, ayye’’ti, kho kajaṅgalakā upāsakā kajaṅgalikāya bhikkhuniyā paccassosuṃ. Kajaṅgalikā bhikkhunī etadavoca –
‘‘‘เอโก ปโญฺห เอโก อุเทฺทโส เอกํ เวยฺยากรณ’นฺติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตาฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? เอกธเมฺม, อาวุโส, ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ กตมสฺมิํ เอกธเมฺม? สเพฺพ สตฺตา อาหารฎฺฐิติกา – อิมสฺมิํ โข, อาวุโส, เอกธเมฺม ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ ‘เอโก ปโญฺห เอโก อุเทฺทโส เอกํ เวยฺยากรณนฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ
‘‘‘Eko pañho eko uddeso ekaṃ veyyākaraṇa’nti, iti kho panetaṃ vuttaṃ bhagavatā. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Ekadhamme, āvuso, bhikkhu sammā nibbindamāno sammā virajjamāno sammā vimuccamāno sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. Katamasmiṃ ekadhamme? Sabbe sattā āhāraṭṭhitikā – imasmiṃ kho, āvuso, ekadhamme bhikkhu sammā nibbindamāno sammā virajjamāno sammā vimuccamāno sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. ‘Eko pañho eko uddeso ekaṃ veyyākaraṇanti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ bhagavatā idametaṃ paṭicca vuttaṃ.
‘‘‘เทฺว ปญฺหา เทฺว อุเทฺทสา เทฺว เวยฺยากรณานี’ติ อิติ, โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตาฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? ทฺวีสุ, อาวุโส, ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ กตเมสุ ทฺวีสุ? นาเม จ รูเป จ…เป.… กตเมสุ ตีสุ? ตีสุ เวทนาสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, ตีสุ ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ ‘ตโย ปญฺหา ตโย อุเทฺทสา ตีณิ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ
‘‘‘Dve pañhā dve uddesā dve veyyākaraṇānī’ti iti, kho panetaṃ vuttaṃ bhagavatā. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Dvīsu, āvuso, dhammesu bhikkhu sammā nibbindamāno sammā virajjamāno sammā vimuccamāno sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. Katamesu dvīsu? Nāme ca rūpe ca…pe… katamesu tīsu? Tīsu vedanāsu – imesu kho, āvuso, tīsu dhammesu bhikkhu sammā nibbindamāno sammā virajjamāno sammā vimuccamāno sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. ‘Tayo pañhā tayo uddesā tīṇi veyyākaraṇānī’ti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ bhagavatā idametaṃ paṭicca vuttaṃ.
‘‘‘จตฺตาโร ปญฺหา จตฺตาโร อุเทฺทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตาฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? จตูสุ, อาวุโส, ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิโตฺต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ กตเมสุ จตูสุ? จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, จตูสุ ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิโตฺต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ ‘จตฺตาโร ปญฺหา จตฺตาโร อุเทฺทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ
‘‘‘Cattāro pañhā cattāro uddesā cattāri veyyākaraṇānī’ti, iti kho panetaṃ vuttaṃ bhagavatā. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Catūsu, āvuso, dhammesu bhikkhu sammā subhāvitacitto sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. Katamesu catūsu? Catūsu satipaṭṭhānesu – imesu kho, āvuso, catūsu dhammesu bhikkhu sammā subhāvitacitto sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. ‘Cattāro pañhā cattāro uddesā cattāri veyyākaraṇānī’ti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ bhagavatā idametaṃ paṭicca vuttaṃ.
‘‘‘ปญฺจ ปญฺหา ปญฺจุเทฺทสา ปญฺจ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตาฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? ปญฺจสุ, อาวุโส, ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิโตฺต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ กตเมสุ ปญฺจสุ? ปญฺจสุ อินฺทฺริเยสุ…เป.… กตเมสุ ฉสุ? ฉสุ นิสฺสรณียาสุ ธาตูสุ…เป.… กตเมสุ สตฺตสุ? สตฺตสุ โพชฺฌเงฺคสุ…เป.… กตเมสุ อฎฺฐสุ? อฎฺฐสุ อริยอฎฺฐงฺคิกมเคฺคสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, อฎฺฐสุ ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิโตฺต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ ‘อฎฺฐ ปญฺหา อฎฺฐุเทฺทสา อฎฺฐ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ
‘‘‘Pañca pañhā pañcuddesā pañca veyyākaraṇānī’ti, iti kho panetaṃ vuttaṃ bhagavatā. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Pañcasu, āvuso, dhammesu bhikkhu sammā subhāvitacitto sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. Katamesu pañcasu? Pañcasu indriyesu…pe… katamesu chasu? Chasu nissaraṇīyāsu dhātūsu…pe… katamesu sattasu? Sattasu bojjhaṅgesu…pe… katamesu aṭṭhasu? Aṭṭhasu ariyaaṭṭhaṅgikamaggesu – imesu kho, āvuso, aṭṭhasu dhammesu bhikkhu sammā subhāvitacitto sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. ‘Aṭṭha pañhā aṭṭhuddesā aṭṭha veyyākaraṇānī’ti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ bhagavatā idametaṃ paṭicca vuttaṃ.
‘‘‘นว ปญฺหา นวุเทฺทสา นว เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตาฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? นวสุ, อาวุโส, ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ กตเมสุ นวสุ? นวสุ สตฺตาวาเสสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, นวสุ ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ ‘นว ปญฺหา นวุเทฺทสา นว เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ
‘‘‘Nava pañhā navuddesā nava veyyākaraṇānī’ti, iti kho panetaṃ vuttaṃ bhagavatā. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Navasu, āvuso, dhammesu bhikkhu sammā nibbindamāno sammā virajjamāno sammā vimuccamāno sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. Katamesu navasu? Navasu sattāvāsesu – imesu kho, āvuso, navasu dhammesu bhikkhu sammā nibbindamāno sammā virajjamāno sammā vimuccamāno sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. ‘Nava pañhā navuddesā nava veyyākaraṇānī’ti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ bhagavatā idametaṃ paṭicca vuttaṃ.
‘‘‘ทส ปญฺหา ทสุเทฺทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตาฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? ทสสุ, อาวุโส, ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิโตฺต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ กตเมสุ ทสสุ? ทสสุ กุสเลสุ กมฺมปเถสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, ทสสุ ธเมฺมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิโตฺต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติฯ ‘ทส ปญฺหา ทสุเทฺทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ
‘‘‘Dasa pañhā dasuddesā dasa veyyākaraṇānī’ti, iti kho panetaṃ vuttaṃ bhagavatā. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Dasasu, āvuso, dhammesu bhikkhu sammā subhāvitacitto sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. Katamesu dasasu? Dasasu kusalesu kammapathesu – imesu kho, āvuso, dasasu dhammesu bhikkhu sammā subhāvitacitto sammā pariyantadassāvī sammadatthaṃ abhisamecca diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hoti. ‘Dasa pañhā dasuddesā dasa veyyākaraṇānī’ti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ bhagavatā idametaṃ paṭicca vuttaṃ.
‘‘อิติ โข, อาวุโส, ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา สํขิเตฺตน ภาสิตาสุ มหาปญฺหาสุ – ‘เอโก ปโญฺห เอโก อุเทฺทโส เอกํ เวยฺยากรณํ…เป.… ทส ปญฺหา ทสุเทฺทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ, อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิเตฺตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิฯ อากงฺขมานา จ ปน ตุเมฺห, อาวุโส, ภควนฺตเญฺญว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฎิปุเจฺฉยฺยาถฯ ยถา โว 1 ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติฯ ‘‘เอวํ, อเยฺย’’ติ โข กชงฺคลกา อุปาสกา กชงฺคลิกาย โข ภิกฺขุนิยา ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา กชงฺคลิกํ ภิกฺขุนิํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข กชงฺคลกา อุปาสกา ยาวตโก อโหสิ กชงฺคลิกาย ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสุํฯ
‘‘Iti kho, āvuso, yaṃ taṃ vuttaṃ bhagavatā saṃkhittena bhāsitāsu mahāpañhāsu – ‘eko pañho eko uddeso ekaṃ veyyākaraṇaṃ…pe… dasa pañhā dasuddesā dasa veyyākaraṇānī’ti, imassa kho ahaṃ, āvuso, bhagavatā saṃkhittena bhāsitassa evaṃ vitthārena atthaṃ ājānāmi. Ākaṅkhamānā ca pana tumhe, āvuso, bhagavantaññeva upasaṅkamitvā etamatthaṃ paṭipuccheyyātha. Yathā vo 2 bhagavā byākaroti tathā naṃ dhāreyyāthā’’ti. ‘‘Evaṃ, ayye’’ti kho kajaṅgalakā upāsakā kajaṅgalikāya kho bhikkhuniyā bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā uṭṭhāyāsanā kajaṅgalikaṃ bhikkhuniṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho kajaṅgalakā upāsakā yāvatako ahosi kajaṅgalikāya bhikkhuniyā saddhiṃ kathāsallāpo, taṃ sabbaṃ bhagavato ārocesuṃ.
‘‘สาธุ สาธุ, คหปตโย! ปณฺฑิตา, คหปตโย, กชงฺคลิกา ภิกฺขุนีฯ มหาปญฺญา, คหปตโย, กชงฺคลิกา ภิกฺขุนีฯ มเญฺจปิ ตุเมฺห, คหปตโย, อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฎิปุเจฺฉยฺยาถ, อหมฺปิ เจตํ เอวเมวํ 3 พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ กชงฺคลิกาย ภิกฺขุนิยา พฺยากตํฯ เอโส เจว ตสฺส 4 อโตฺถฯ เอวญฺจ นํ ธาเรยฺยาถา’’ติฯ อฎฺฐมํฯ
‘‘Sādhu sādhu, gahapatayo! Paṇḍitā, gahapatayo, kajaṅgalikā bhikkhunī. Mahāpaññā, gahapatayo, kajaṅgalikā bhikkhunī. Mañcepi tumhe, gahapatayo, upasaṅkamitvā etamatthaṃ paṭipuccheyyātha, ahampi cetaṃ evamevaṃ 5 byākareyyaṃ yathā taṃ kajaṅgalikāya bhikkhuniyā byākataṃ. Eso ceva tassa 6 attho. Evañca naṃ dhāreyyāthā’’ti. Aṭṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๘. ทุติยมหาปญฺหสุตฺตวณฺณนา • 8. Dutiyamahāpañhasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๘-๙. ทุติยมหาปญฺหสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-9. Dutiyamahāpañhasuttādivaṇṇanā