Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๕. ทุติยมารปาสสุตฺตวณฺณนา
5. Dutiyamārapāsasuttavaṇṇanā
๑๔๑. ปญฺจเม มุตฺตาหนฺติ มุโตฺต อหํฯ ปุริมํ สุตฺตํ อโนฺตวเสฺส วุตฺตํ, อิทํ ปน ปวาเรตฺวา วุฎฺฐวสฺสกาเลฯ จาริกนฺติ อนุปุพฺพคมนจาริกํฯ (ปวาเรตฺวา) ทิวเส ทิวเส โยชนปรมํ คจฺฉนฺตา จรถาติ วทติฯ มา เอเกน เทฺวติ เอกมเคฺคน เทฺว ชนา มา อคมิตฺถฯ เอวญฺหิ คเตสุ เอกสฺมิํ ธมฺมํ เทเสเนฺต, เอเกน ตุณฺหีภูเตน ฐาตพฺพํ โหติฯ ตสฺมา เอวมาหฯ
141. Pañcame muttāhanti mutto ahaṃ. Purimaṃ suttaṃ antovasse vuttaṃ, idaṃ pana pavāretvā vuṭṭhavassakāle. Cārikanti anupubbagamanacārikaṃ. (Pavāretvā) divase divase yojanaparamaṃ gacchantā carathāti vadati. Mā ekena dveti ekamaggena dve janā mā agamittha. Evañhi gatesu ekasmiṃ dhammaṃ desente, ekena tuṇhībhūtena ṭhātabbaṃ hoti. Tasmā evamāha.
อาทิกลฺยาณนฺติ อาทิมฺหิ กลฺยาณํ สุนฺทรํ ภทฺทกํฯ ตถา มชฺฌปริโยสาเนสุฯ อาทิมชฺฌปริโยสานญฺจ นาเมตํ สาสนสฺส จ เทสนาย จ วเสน ทุวิธํฯ ตตฺถ สาสนสฺส สีลํ อาทิ, สมถวิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํฯ สีลสมาธโย วา อาทิ , วิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํฯ สีลสมาธิวิปสฺสนา วา อาทิ, มโคฺค มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํฯ เทสนาย ปน จตุปฺปทิกาย คาถาย ตาว ปฐมปาโท อาทิ, ทุติยตติยา มชฺฌํ, จตุโตฺถ ปริโยสานํฯ ปญฺจปทฉปฺปทานํ ปฐมปาโท อาทิ, อวสานปาโท ปริโยสานํ, อวเสสา มชฺฌํฯ เอกานุสนฺธิกสุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, ‘‘อิทมโวจา’’ติ ปริโยสานํ, เสสํ มชฺฌํฯ อเนกานุสนฺธิกสฺส มเชฺฌ พหูปิ อนุสนฺธิ มชฺฌเมว, นิทานํ อาทิ, ‘‘อิทมโวจา’’ติ ปริโยสานํฯ
Ādikalyāṇanti ādimhi kalyāṇaṃ sundaraṃ bhaddakaṃ. Tathā majjhapariyosānesu. Ādimajjhapariyosānañca nāmetaṃ sāsanassa ca desanāya ca vasena duvidhaṃ. Tattha sāsanassa sīlaṃ ādi, samathavipassanāmaggā majjhaṃ, phalanibbānāni pariyosānaṃ. Sīlasamādhayo vā ādi , vipassanāmaggā majjhaṃ, phalanibbānāni pariyosānaṃ. Sīlasamādhivipassanā vā ādi, maggo majjhaṃ, phalanibbānāni pariyosānaṃ. Desanāya pana catuppadikāya gāthāya tāva paṭhamapādo ādi, dutiyatatiyā majjhaṃ, catuttho pariyosānaṃ. Pañcapadachappadānaṃ paṭhamapādo ādi, avasānapādo pariyosānaṃ, avasesā majjhaṃ. Ekānusandhikasuttassa nidānaṃ ādi, ‘‘idamavocā’’ti pariyosānaṃ, sesaṃ majjhaṃ. Anekānusandhikassa majjhe bahūpi anusandhi majjhameva, nidānaṃ ādi, ‘‘idamavocā’’ti pariyosānaṃ.
สาตฺถนฺติ สาตฺถกํ กตฺวา เทเสถฯ สพฺยญฺชนนฺติ พฺยญฺชเนหิ เจว ปเทหิ จ ปริปูรํ กตฺวา เทเสถฯ เกวลปริปุณฺณนฺติ สกลปริปุณฺณํฯ ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํฯ พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนพฺรหฺมจริยํฯ ปกาเสถาติ อาวิกโรถฯ
Sātthanti sātthakaṃ katvā desetha. Sabyañjananti byañjanehi ceva padehi ca paripūraṃ katvā desetha. Kevalaparipuṇṇanti sakalaparipuṇṇaṃ. Parisuddhanti nirupakkilesaṃ. Brahmacariyanti sikkhattayasaṅgahaṃ sāsanabrahmacariyaṃ. Pakāsethāti āvikarotha.
อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปญฺญาจกฺขุมฺหิ อปฺปกิเลสรชสภาวา, ทุกูลสาณิยา ปฎิจฺฉนฺนา วิย จตุปฺปทิกคาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปตฺตุํ สมตฺถา สนฺตีติ อโตฺถฯ อสฺสวนตาติ อสฺสวนตายฯ ปริหายนฺตีติ อลาภปริหานิยา ธมฺมโต ปริหายนฺติฯ เสนานิคโมติ ปฐมกปฺปิกานํ เสนาย นิวิโฎฺฐกาเส ปติฎฺฐิตคาโม, สุชาตาย วา ปิตุ เสนานี นาม นิคโมฯ เตนุปสงฺกมิสฺสามีติ นาหํ ตุเมฺห อุโยฺยเชตฺวา ปริเวณาทีนิ กาเรตฺวา อุปฎฺฐากาทีหิ ปริจริยมาโน วิหริสฺสามิ, ติณฺณํ ปน ชฎิลานํ อฑฺฒุฑฺฒานิ ปาฎิหาริยสหสฺสานิ ทเสฺสตฺวา ธมฺมเมว เทเสตุํ อุปสงฺกมิสฺสามีติฯ เตนุปสงฺกมีติ, ‘‘อยํ สมโณ โคตโม มหายุทฺธํ วิจาเรโนฺต วิย, ‘มา เอเกน เทฺว อคมิตฺถ, ธมฺมํ เทเสถา’ติ สฎฺฐิ ชเน อุโยฺยเชติ, อิมสฺมิํ ปน เอกสฺมิมฺปิ ธมฺมํ เทเสเนฺต มยฺหํ จิตฺตสฺสาทํ นตฺถิ, เอวํ พหูสุ เทเสเนฺตสุ กุโต ภวิสฺสติ, ปฎิพาหามิ น’’นฺติ จิเนฺตตฺวา อุปสงฺกมิฯ ปญฺจมํฯ
Apparajakkhajātikāti paññācakkhumhi appakilesarajasabhāvā, dukūlasāṇiyā paṭicchannā viya catuppadikagāthāpariyosāne arahattaṃ pattuṃ samatthā santīti attho. Assavanatāti assavanatāya. Parihāyantīti alābhaparihāniyā dhammato parihāyanti. Senānigamoti paṭhamakappikānaṃ senāya niviṭṭhokāse patiṭṭhitagāmo, sujātāya vā pitu senānī nāma nigamo. Tenupasaṅkamissāmīti nāhaṃ tumhe uyyojetvā pariveṇādīni kāretvā upaṭṭhākādīhi paricariyamāno viharissāmi, tiṇṇaṃ pana jaṭilānaṃ aḍḍhuḍḍhāni pāṭihāriyasahassāni dassetvā dhammameva desetuṃ upasaṅkamissāmīti. Tenupasaṅkamīti, ‘‘ayaṃ samaṇo gotamo mahāyuddhaṃ vicārento viya, ‘mā ekena dve agamittha, dhammaṃ desethā’ti saṭṭhi jane uyyojeti, imasmiṃ pana ekasmimpi dhammaṃ desente mayhaṃ cittassādaṃ natthi, evaṃ bahūsu desentesu kuto bhavissati, paṭibāhāmi na’’nti cintetvā upasaṅkami. Pañcamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๕. ทุติยมารปาสสุตฺตํ • 5. Dutiyamārapāsasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. ทุติยมารปาสสุตฺตวณฺณนา • 5. Dutiyamārapāsasuttavaṇṇanā