Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi |
๕. ทุติยนานาติตฺถิยสุตฺตํ
5. Dutiyanānātitthiyasuttaṃ
๕๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา นานาติตฺถิยสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา สาวตฺถิยํ ปฎิวสนฺติ นานาทิฎฺฐิกา นานาขนฺติกา นานารุจิกา นานาทิฎฺฐินิสฺสยนิสฺสิตาฯ
55. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena sambahulā nānātitthiyasamaṇabrāhmaṇaparibbājakā sāvatthiyaṃ paṭivasanti nānādiṭṭhikā nānākhantikā nānārucikā nānādiṭṭhinissayanissitā.
สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘สสฺสโต จ อสสฺสโต จ 1 อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘เนว สสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘สยํกโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘ปรํกโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘สยํกโต จ ปรํกโต จ 2 อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘อสยํกาโร อปรํกาโร 3 อธิจฺจสมุปฺปโนฺน อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘สสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘อสสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘สสฺสตญฺจ อสสฺสตญฺจ 4 สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘เนว สสฺสตํ นาสสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘สยํกตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวทิฎฺฐิโน – ‘‘ปรํกตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘สยํกตญฺจ ปรํกตญฺจ 5 สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘‘อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติฯ
Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘sassato attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santi paneke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘asassato attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘sassato ca asassato ca 6 attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santi paneke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘neva sassato nāsassato attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘sayaṃkato attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santi paneke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘paraṃkato attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘sayaṃkato ca paraṃkato ca 7 attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santi paneke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘asayaṃkāro aparaṃkāro 8 adhiccasamuppanno attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘sassataṃ sukhadukkhaṃ attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santi paneke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘asassataṃ sukhadukkhaṃ attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘sassatañca asassatañca 9 sukhadukkhaṃ attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santi paneke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘neva sassataṃ nāsassataṃ sukhadukkhaṃ attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘sayaṃkataṃ sukhadukkhaṃ attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santi paneke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evadiṭṭhino – ‘‘paraṃkataṃ sukhadukkhaṃ attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘sayaṃkatañca paraṃkatañca 10 sukhadukkhaṃ attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti. Santi paneke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘‘asayaṃkāraṃ aparaṃkāraṃ adhiccasamuppannaṃ sukhadukkhaṃ attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’’nti.
เต ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘‘เอทิโส ธโมฺม, เนทิโส ธโมฺม; เนทิโส ธโมฺม, เอทิโส ธโมฺม’’ติฯ
Te bhaṇḍanajātā kalahajātā vivādāpannā aññamaññaṃ mukhasattīhi vitudantā viharanti – ‘‘ediso dhammo, nediso dhammo; nediso dhammo, ediso dhammo’’ti.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิํสุฯ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
Atha kho sambahulā bhikkhū pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya sāvatthiṃ piṇḍāya pāvisiṃsu. Sāvatthiyaṃ piṇḍāya caritvā pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho te bhikkhū bhagavantaṃ etadavocuṃ –
‘‘อิธ, ภเนฺต, สมฺพหุลา นานาติตฺถิยสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา สาวตฺถิยํ ปฎิวสนฺติ นานาทิฎฺฐิกา นานาขนฺติกา นานารุจิกา นานาทิฎฺฐินิสฺสยนิสฺสิตาฯ
‘‘Idha, bhante, sambahulā nānātitthiyasamaṇabrāhmaṇaparibbājakā sāvatthiyaṃ paṭivasanti nānādiṭṭhikā nānākhantikā nānārucikā nānādiṭṭhinissayanissitā.
‘‘สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’นฺติ…เป.… เต ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธโมฺม, เนทิโส ธโมฺม; เนทิโส ธโมฺม, เอทิโส ธโมฺม’’’ติฯ
‘‘Santeke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘sassato attā ca loko ca, idameva saccaṃ moghamañña’nti…pe… te bhaṇḍanajātā kalahajātā vivādāpannā aññamaññaṃ mukhasattīhi vitudantā viharanti – ‘ediso dhammo, nediso dhammo; nediso dhammo, ediso dhammo’’’ti.
‘‘อญฺญติตฺถิยา, ภิกฺขเว, ปริพฺพาชกา อนฺธา อจกฺขุกา; อตฺถํ น ชานนฺติ อนตฺถํ น ชานนฺติ, ธมฺมํ น ชานนฺติ อธมฺมํ น ชานนฺติฯ เต อตฺถํ อชานนฺตา อนตฺถํ อชานนฺตา, ธมฺมํ อชานนฺตา อธมฺมํ อชานนฺตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธโมฺม, เนทิโส ธโมฺม; เนทิโส ธโมฺม, เอทิโส ธโมฺม’’’ติฯ
‘‘Aññatitthiyā, bhikkhave, paribbājakā andhā acakkhukā; atthaṃ na jānanti anatthaṃ na jānanti, dhammaṃ na jānanti adhammaṃ na jānanti. Te atthaṃ ajānantā anatthaṃ ajānantā, dhammaṃ ajānantā adhammaṃ ajānantā bhaṇḍanajātā kalahajātā vivādāpannā aññamaññaṃ mukhasattīhi vitudantā viharanti – ‘ediso dhammo, nediso dhammo; nediso dhammo, ediso dhammo’’’ti.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
Atha kho bhagavā etamatthaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imaṃ udānaṃ udānesi –
‘‘อิเมสุ กิร สชฺชนฺติ, เอเก สมณพฺราหฺมณา;
‘‘Imesu kira sajjanti, eke samaṇabrāhmaṇā;
อนฺตราว วิสีทนฺติ, อปฺปตฺวาว ตโมคธ’’นฺติฯ ปญฺจมํ;
Antarāva visīdanti, appatvāva tamogadha’’nti. pañcamaṃ;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā / ๕. ทุติยนานาติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา • 5. Dutiyanānātitthiyasuttavaṇṇanā