Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā |
๕. ทุติยนานาติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา
5. Dutiyanānātitthiyasuttavaṇṇanā
๕๕. ปญฺจเม สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติ รูปาทีสุ อญฺญตรํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คเหตฺวา ตํ สสฺสตํ นิจฺจนฺติ อเญฺญปิ จ ตถา คาเหนฺตา โวหรนฺติฯ ยถาห –
55. Pañcame sassato attā ca loko cāti rūpādīsu aññataraṃ attāti ca lokoti ca gahetvā taṃ sassataṃ niccanti aññepi ca tathā gāhentā voharanti. Yathāha –
‘‘รูปํ อตฺตา เจว โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานญฺจ โลกญฺจ ปญฺญเปนฺติฯ เวทนํ… สญฺญํ… สงฺขาเร… วิญฺญาณํ อตฺตา จ โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานญฺจ โลกญฺจ ปญฺญเปนฺตี’’ติฯ
‘‘Rūpaṃ attā ceva loko ca sassato cāti attānañca lokañca paññapenti. Vedanaṃ… saññaṃ… saṅkhāre… viññāṇaṃ attā ca loko ca sassato cāti attānañca lokañca paññapentī’’ti.
อถ วา อตฺตาติ อหงฺการวตฺถุ, โลโกติ มมงฺการวตฺถุ, ยํ ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ วุจฺจติฯ อตฺตาติ วา สยํ, โลโกติ ปโรฯ อตฺตาติ วา ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ เอโก ขโนฺธ, อิตโร โลโก ฯ อตฺตาติ วา สวิญฺญาณโก ขนฺธสนฺตาโน, อวิญฺญาณโก โลโกฯ เอวํ ตํ ตํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ ยถาทสฺสนํ ทฺวิธา คเหตฺวา ตทุภยํ ‘‘นิโจฺจ ธุโว สสฺสโต’’ติ อภินิวิสฺส โวหรนฺติฯ เอเตน จตฺตาโร สสฺสตวาทา ทสฺสิตาฯ อสสฺสโตติ สตฺตปิ อุเจฺฉทวาทา ทสฺสิตาฯ สสฺสโต จ อสสฺสโต จาติ เอกโจฺจ อตฺตา จ โลโก จ สสฺสโต, เอกโจฺจ อสสฺสโตติ เอวํ สสฺสโต จ อสสฺสโต จาติ อโตฺถฯ อถ วา เสฺวว อตฺตา จ โลโก จ อตฺตคติทิฎฺฐิกานํ วิย สสฺสโต จ อสสฺสโต จ, สิยา สสฺสโตติ เอวเมตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ สพฺพถาปิ อิมินา เอกจฺจสสฺสตวาโท ทสฺสิโตฯ เนว สสฺสโต นาสสฺสโตติ อิมินา อมราวิเกฺขปวาโท ทสฺสิโตฯ เต หิ สสฺสตวาเท อสสฺสตวาเท จ โทสํ ทิสฺวา ‘‘เนว สสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติ วิเกฺขปํ กโรนฺตา วิวทนฺติฯ
Atha vā attāti ahaṅkāravatthu, lokoti mamaṅkāravatthu, yaṃ ‘‘attaniya’’nti vuccati. Attāti vā sayaṃ, lokoti paro. Attāti vā pañcasu upādānakkhandhesu eko khandho, itaro loko. Attāti vā saviññāṇako khandhasantāno, aviññāṇako loko. Evaṃ taṃ taṃ attāti ca lokoti ca yathādassanaṃ dvidhā gahetvā tadubhayaṃ ‘‘nicco dhuvo sassato’’ti abhinivissa voharanti. Etena cattāro sassatavādā dassitā. Asassatoti sattapi ucchedavādā dassitā. Sassato ca asassato cāti ekacco attā ca loko ca sassato, ekacco asassatoti evaṃ sassato ca asassato cāti attho. Atha vā sveva attā ca loko ca attagatidiṭṭhikānaṃ viya sassato ca asassato ca, siyā sassatoti evamettha attho veditabbo. Sabbathāpi iminā ekaccasassatavādo dassito. Neva sassato nāsassatoti iminā amarāvikkhepavādo dassito. Te hi sassatavāde asassatavāde ca dosaṃ disvā ‘‘neva sassato nāsassato attā ca loko cā’’ti vikkhepaṃ karontā vivadanti.
สยํกโตติ อตฺตนา กโตฯ ยถา หิ เตสํ เตสํ สตฺตานํ อตฺตา จ อตฺตโน ธมฺมานุธมฺมํ กตฺวา สุขทุกฺขานิ ปฎิสํเวเทติ, เอวํ อตฺตาว อตฺตานํ ตสฺส จ อุปโภคภูตํ กิญฺจนํ ปลิโพธสงฺขาตํ โลกญฺจ กโรติ, อภินิมฺมินาตีติ อตฺตลทฺธิ วิย อยมฺปิ เตสํ ลทฺธิฯ ปรํกโตติ ปเรน กโต, อตฺตโต ปเรน อิสฺสเรน วา ปุริเสน วา ปชาปตินา วา กาเลน วา ปกติยา วา อตฺตา จ โลโก จ กโต , นิมฺมิโตติ อโตฺถฯ สยํกโต จ ปรํกโต จาติ ยสฺมา อตฺตานญฺจ โลกญฺจ นิมฺมินนฺตา อิสฺสราทโย น เกวลํ สยเมว นิมฺมินนฺติ, อถ โข เตสํ เตสํ สตฺตานํ ธมฺมาธมฺมานํ สหการีการณํ ลภิตฺวาว, ตสฺมา สยํกโต จ ปรํกโต จ อตฺตา จ โลโก จาติ เอกจฺจานํ ลทฺธิฯ อสยํกาโร อปรํกาโรติ นตฺถิ เอตสฺส สยํกาโรติ อสยํกาโร, นตฺถิ เอตสฺส ปรกาโรติ อปรกาโรฯ อนุนาสิกาคมํ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อปรํกาโร’’ติฯ อยํ อุภยตฺถ โทสํ ทิสฺวา อุภยํ ปฎิกฺขิปติฯ อถ กถํ อุปฺปโนฺนติ อาห – อธิจฺจสมุปฺปโนฺนติ ยทิจฺฉาย สมุปฺปโนฺน เกนจิ การเณน วินา อุปฺปโนฺนติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนวาโท ทสฺสิโตฯ เตน จ อเหตุกวาโทปิ สงฺคหิโต โหติฯ
Sayaṃkatoti attanā kato. Yathā hi tesaṃ tesaṃ sattānaṃ attā ca attano dhammānudhammaṃ katvā sukhadukkhāni paṭisaṃvedeti, evaṃ attāva attānaṃ tassa ca upabhogabhūtaṃ kiñcanaṃ palibodhasaṅkhātaṃ lokañca karoti, abhinimminātīti attaladdhi viya ayampi tesaṃ laddhi. Paraṃkatoti parena kato, attato parena issarena vā purisena vā pajāpatinā vā kālena vā pakatiyā vā attā ca loko ca kato , nimmitoti attho. Sayaṃkato ca paraṃkato cāti yasmā attānañca lokañca nimminantā issarādayo na kevalaṃ sayameva nimminanti, atha kho tesaṃ tesaṃ sattānaṃ dhammādhammānaṃ sahakārīkāraṇaṃ labhitvāva, tasmā sayaṃkato ca paraṃkato ca attā ca loko cāti ekaccānaṃ laddhi. Asayaṃkāro aparaṃkāroti natthi etassa sayaṃkāroti asayaṃkāro, natthi etassa parakāroti aparakāro. Anunāsikāgamaṃ katvā vuttaṃ ‘‘aparaṃkāro’’ti. Ayaṃ ubhayattha dosaṃ disvā ubhayaṃ paṭikkhipati. Atha kathaṃ uppannoti āha – adhiccasamuppannoti yadicchāya samuppanno kenaci kāraṇena vinā uppannoti adhiccasamuppannavādo dassito. Tena ca ahetukavādopi saṅgahito hoti.
อิทานิ เย ทิฎฺฐิคติกา อตฺตานํ วิย สุขทุกฺขมฺปิ ตสฺส คุณภูตํ กิญฺจนภูตํ วา สสฺสตาทิวเสน อภินิวิสฺส โวหรนฺติ, เตสํ ตํ วาทํ ทเสฺสตุํ ‘‘สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตํ วุตฺตนยเมวฯ
Idāni ye diṭṭhigatikā attānaṃ viya sukhadukkhampi tassa guṇabhūtaṃ kiñcanabhūtaṃ vā sassatādivasena abhinivissa voharanti, tesaṃ taṃ vādaṃ dassetuṃ ‘‘santeke samaṇabrāhmaṇā’’tiādi vuttaṃ. Taṃ vuttanayameva.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตฺถ ปน อิธ ชจฺจนฺธูปมาย อนาคตตฺตา ตํ หิตฺวา เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว อโตฺถ โยเชตโพฺพ, ตถา คาถายฯ
Etamatthaṃ viditvāti ettha pana idha jaccandhūpamāya anāgatattā taṃ hitvā heṭṭhā vuttanayeneva attho yojetabbo, tathā gāthāya.
ตตฺถ อนฺตราว วิสีทนฺติ, อปตฺวาว ตโมคธนฺติ อยํ วิเสโสฯ ตสฺสโตฺถ – เอวํ ทิฎฺฐิคเตสุ ทิฎฺฐินิสฺสเยสุ อาสชฺชมานา ทิฎฺฐิคติกา กาโมฆาทีนํ จตุนฺนํ โอฆานํ, สํสารมโหฆเสฺสว วา อนฺตราว เวมเชฺฌ เอว ยํ เตสํ ปารภาเวน ปติฎฺฐเฎฺฐน วา โอคธสงฺขาตํ นิพฺพานํ ตทธิคมูปาโย วา อริยมโคฺค ตํ อปฺปตฺวาว อนธิคนฺตฺวาว วิสีทนฺติ สํสีทนฺติฯ โอคาธนฺติ ปติฎฺฐหนฺติ เอเตน, เอตฺถ วาติ โอคาโธ, อริยมโคฺค นิพฺพานญฺจฯ โอคาธเมเวตฺถ รสฺสตฺตํ กตฺวา โอคธนฺติ วุตฺตํฯ ตํ โอคธํ ตโมคธนฺติ ปทวิภาโคฯ
Tattha antarāva visīdanti, apatvāva tamogadhanti ayaṃ viseso. Tassattho – evaṃ diṭṭhigatesu diṭṭhinissayesu āsajjamānā diṭṭhigatikā kāmoghādīnaṃ catunnaṃ oghānaṃ, saṃsāramahoghasseva vā antarāva vemajjhe eva yaṃ tesaṃ pārabhāvena patiṭṭhaṭṭhena vā ogadhasaṅkhātaṃ nibbānaṃ tadadhigamūpāyo vā ariyamaggo taṃ appatvāva anadhigantvāva visīdanti saṃsīdanti. Ogādhanti patiṭṭhahanti etena, ettha vāti ogādho, ariyamaggo nibbānañca. Ogādhamevettha rassattaṃ katvā ogadhanti vuttaṃ. Taṃ ogadhaṃ tamogadhanti padavibhāgo.
ปญฺจมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pañcamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๕. ทุติยนานาติตฺถิยสุตฺตํ • 5. Dutiyanānātitthiyasuttaṃ