Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
๑๘๓. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ (๑)
183. ‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇā appaṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti; dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi. (1)
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน , อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ (๒)
Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇā paṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena , adhammena samodhānaparivāsaṃ deti; dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi. (2)
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ (๓)
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇā paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti; dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi. (3)
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ, เอกนามมฺปิ นานานามมฺปิ, สภาคมฺปิ วิสภาคมฺปิ, ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติ ฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ อปริมาณา อปฺปฎิจฺฉนฺนาโย…เป.… อปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโย…เป.… อปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิ…เป.… ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ (๔-๗)
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi, ekanāmampi nānānāmampi, sabhāgampi visabhāgampi, vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti . So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati aparimāṇā appaṭicchannāyo…pe… aparimāṇā paṭicchannāyo…pe… aparimāṇā paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi…pe… parimāṇāyopi aparimāṇāyopi appaṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti; dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi. (4-7)
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ, ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ (๘)
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti, dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi. (8)
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ (๙)
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti; dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi. (9)
ทุติยนวกํ นิฎฺฐิตํฯ
Dutiyanavakaṃ niṭṭhitaṃ.
Footnotes: