Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā

    ๗. ทุติยนาวาวิมานวณฺณนา

    7. Dutiyanāvāvimānavaṇṇanā

    สุวณฺณจฺฉทนํ นาวนฺติ ทุติยนาวาวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ สาวตฺถิยํ วิหรเนฺต อญฺญตโร ขีณาสวเตฺถโร อุปกฎฺฐาย วสฺสูปนายิกาย คามกาวาเส วสฺสํ อุปคนฺตุกาโม สาวตฺถิโต ตํ คามํ อุทฺทิสฺส ปจฺฉาภตฺตํ อทฺธานมคฺคปฎิปโนฺน, มคฺคปริสฺสเมน กิลโนฺต ตสิโต อนฺตรามเคฺค อญฺญตรํ คามํ สมฺปโตฺต, พหิคาเม ตาทิสํ ฉายูทกสมฺปนฺนฎฺฐานํ อปสฺสโนฺต ปริสฺสเมน จ อภิภุยฺยมาโน จีวรํ ปารุปิตฺวา คามํ ปวิสิตฺวา ธุรเคหเสฺสว ทฺวาเร อฎฺฐาสิฯ ตตฺถ อญฺญตรา อิตฺถี เถรํ ปสฺสิตฺวา ‘‘กุโต, ภเนฺต, อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา มคฺคปริสฺสมํ ปิปาสิตภาวญฺจ ญตฺวา ‘‘เอถ, ภเนฺต’’ติ เคหํ ปเวเสตฺวา ‘‘อิธ นิสีทถา’’ติ อาสนํ ปญฺญาเปตฺวา อทาสิฯ ตตฺถ นิสิเนฺน ปาโททกํ ปาทพฺภญฺชนเตลญฺจ ทตฺวา ตาลวณฺฎํ คเหตฺวา พีชิฯ ปริฬาเห วูปสเนฺต มธุรํ สีตลํ สุคนฺธํ ปานกํ โยเชตฺวา อทาสิฯ เถโร ตํ ปิวิตฺวา ปฎิปฺปสฺสทฺธกิลมโถ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิฯ สา อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวติํสภวเน นิพฺพตฺตีติ สพฺพํ อนนฺตรวิมานสทิสนฺติ เวทิตพฺพํฯ คาถาสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิฯ เตน วุตฺตํ –

    Suvaṇṇacchadanaṃnāvanti dutiyanāvāvimānaṃ. Tassa kā uppatti? Bhagavati sāvatthiyaṃ viharante aññataro khīṇāsavatthero upakaṭṭhāya vassūpanāyikāya gāmakāvāse vassaṃ upagantukāmo sāvatthito taṃ gāmaṃ uddissa pacchābhattaṃ addhānamaggapaṭipanno, maggaparissamena kilanto tasito antarāmagge aññataraṃ gāmaṃ sampatto, bahigāme tādisaṃ chāyūdakasampannaṭṭhānaṃ apassanto parissamena ca abhibhuyyamāno cīvaraṃ pārupitvā gāmaṃ pavisitvā dhuragehasseva dvāre aṭṭhāsi. Tattha aññatarā itthī theraṃ passitvā ‘‘kuto, bhante, āgatatthā’’ti pucchitvā maggaparissamaṃ pipāsitabhāvañca ñatvā ‘‘etha, bhante’’ti gehaṃ pavesetvā ‘‘idha nisīdathā’’ti āsanaṃ paññāpetvā adāsi. Tattha nisinne pādodakaṃ pādabbhañjanatelañca datvā tālavaṇṭaṃ gahetvā bīji. Pariḷāhe vūpasante madhuraṃ sītalaṃ sugandhaṃ pānakaṃ yojetvā adāsi. Thero taṃ pivitvā paṭippassaddhakilamatho anumodanaṃ katvā pakkāmi. Sā aparabhāge kālaṃ katvā tāvatiṃsabhavane nibbattīti sabbaṃ anantaravimānasadisanti veditabbaṃ. Gāthāsupi apubbaṃ natthi. Tena vuttaṃ –

    ๕๓.

    53.

    ‘‘สุวณฺณจฺฉทนํ นาวํ, นาริ อารุยฺห ติฎฺฐสิ;

    ‘‘Suvaṇṇacchadanaṃ nāvaṃ, nāri āruyha tiṭṭhasi;

    โอคาหสิ โปกฺขรณิํ, ปทฺมํ ฉินฺทสิ ปาณินาฯ

    Ogāhasi pokkharaṇiṃ, padmaṃ chindasi pāṇinā.

    ๕๔.

    54.

    ‘‘เกน เตตาทิโส วโณฺณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

    ‘‘Kena tetādiso vaṇṇo, kena te idha mijjhati;

    อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ

    Uppajjanti ca te bhogā, ye keci manaso piyā.

    ๕๕.

    55.

    ‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;

    ‘‘Pucchāmi taṃ devi mahānubhāve, manussabhūtā kimakāsi puññaṃ;

    เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วโณฺณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ

    Kenāsi evaṃ jalitānubhāvā, vaṇṇo ca te sabbadisā pabhāsatī’’ti.

    ๕๖.

    56.

    ‘‘สา เทวตา อตฺตมนา, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิตา;

    ‘‘Sā devatā attamanā, moggallānena pucchitā;

    ปญฺหํ ปุฎฺฐา วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’ฯ

    Pañhaṃ puṭṭhā viyākāsi, yassa kammassidaṃ phalaṃ’’.

    ๕๗.

    57.

    ‘‘อหํ มนุเสฺสสุ มนุสฺสภูตา, ปุริมาย ชาติยา มนุสฺสโลเก;

    ‘‘Ahaṃ manussesu manussabhūtā, purimāya jātiyā manussaloke;

    ทิสฺวาน ภิกฺขุํ ตสิตํ กิลนฺตํ, อุฎฺฐาย ปาตุํ อุทกํ อทาสิํฯ

    Disvāna bhikkhuṃ tasitaṃ kilantaṃ, uṭṭhāya pātuṃ udakaṃ adāsiṃ.

    ๕๘.

    58.

    ‘‘โย เว กิลนฺตสฺส ปิปาสิตสฺส, ฎฺฐาย ปาตุํ อุทกํ ททาติ;

    ‘‘Yo ve kilantassa pipāsitassa, ṭṭhāya pātuṃ udakaṃ dadāti;

    สีโตทกา ตสฺส ภวนฺติ นโชฺช, ปหูตมลฺยา พหุปุณฺฑรีกาฯ

    Sītodakā tassa bhavanti najjo, pahūtamalyā bahupuṇḍarīkā.

    ๕๙.

    59.

    ‘‘ตํ อาปคา อนุปริยนฺติ สพฺพทา, สีโตทกา วาลุกสนฺถตา นที;

    ‘‘Taṃ āpagā anupariyanti sabbadā, sītodakā vālukasanthatā nadī;

    อมฺพา จ สาลา ติลกา จ ชมฺพุโย, อุทฺทาลกา ปาฎลิโย จ ผุลฺลาฯ

    Ambā ca sālā tilakā ca jambuyo, uddālakā pāṭaliyo ca phullā.

    ๖๐.

    60.

    ‘‘ตํภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ, วิมานเสฎฺฐํ ภุส โสภมานํ;

    ‘‘Taṃbhūmibhāgehi upetarūpaṃ, vimānaseṭṭhaṃ bhusa sobhamānaṃ;

    ตสฺสีธ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, เอตาทิสํ ปุญฺญกตา ลภนฺติฯ

    Tassīdha kammassa ayaṃ vipāko, etādisaṃ puññakatā labhanti.

    ๖๑.

    61.

    ‘‘เตน เมตาทิโส วโณฺณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;

    ‘‘Tena metādiso vaṇṇo, tena me idha mijjhati;

    อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ

    Uppajjanti ca me bhogā, ye keci manaso piyā.

    ๖๒.

    62.

    ‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูตา ยมกาสิ ปุญฺญํ;

    ‘‘Akkhāmi te bhikkhu mahānubhāva, manussabhūtā yamakāsi puññaṃ;

    เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วโณฺณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ

    Tenamhi evaṃ jalitānubhāvā, vaṇṇo ca me sabbadisā pabhāsatī’’ti.

    อตฺถวณฺณนาสุปิ อิธ เอโกว เถโรติ อปุพฺพํ นตฺถิฯ

    Atthavaṇṇanāsupi idha ekova theroti apubbaṃ natthi.

    ทุติยนาวาวิมานวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dutiyanāvāvimānavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi / ๗. ทุติยนาวาวิมานวตฺถุ • 7. Dutiyanāvāvimānavatthu


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact