Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๑๐. ทุติยปพฺพตูปมสุตฺตํ
10. Dutiyapabbatūpamasuttaṃ
๑๑๓๐. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, หิมวา ปพฺพตราชา ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คเจฺฉยฺย, ฐเปตฺวา สตฺต สาสปมตฺติโย ปาสาณสกฺขราฯ ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข พหุตรํ – ยํ วา หิมวโต ปพฺพตราชสฺส ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ, ยา วา สตฺต สาสปมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อวสิฎฺฐา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภเนฺต, พหุตรํ หิมวโต ปพฺพตราชสฺส ยทิทํ ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ; อปฺปมตฺติกา สตฺต สาสปมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อวสิฎฺฐาฯ สงฺขมฺปิ น อุเปนฺติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปนฺติ, กลภาคมฺปิ น อุเปนฺติ หิมวโต ปพฺพตราชสฺส ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ อุปนิธาย สตฺต สาสปมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อวสิฎฺฐา’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ทิฎฺฐิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส อภิสเมตาวิโน เอตเทว พหุตรํ ทุกฺขํ ยทิทํ ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ; อปฺปมตฺตกํ อวสิฎฺฐํฯ สงฺขมฺปิ น อุเปติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปติ, กลภาคมฺปิ น อุเปติ ปุริมํ ทุกฺขกฺขนฺธํ ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ อุปนิธาย ยทิทํ สตฺตกฺขตฺตุปรมตา; โย ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ’’ฯ
1130. ‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, himavā pabbatarājā parikkhayaṃ pariyādānaṃ gaccheyya, ṭhapetvā satta sāsapamattiyo pāsāṇasakkharā. Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, katamaṃ nu kho bahutaraṃ – yaṃ vā himavato pabbatarājassa parikkhīṇaṃ pariyādinnaṃ, yā vā satta sāsapamattiyo pāsāṇasakkharā avasiṭṭhā’’ti? ‘‘Etadeva, bhante, bahutaraṃ himavato pabbatarājassa yadidaṃ parikkhīṇaṃ pariyādinnaṃ; appamattikā satta sāsapamattiyo pāsāṇasakkharā avasiṭṭhā. Saṅkhampi na upenti, upanidhampi na upenti, kalabhāgampi na upenti himavato pabbatarājassa parikkhīṇaṃ pariyādinnaṃ upanidhāya satta sāsapamattiyo pāsāṇasakkharā avasiṭṭhā’’ti. ‘‘Evameva kho, bhikkhave, ariyasāvakassa diṭṭhisampannassa puggalassa abhisametāvino etadeva bahutaraṃ dukkhaṃ yadidaṃ parikkhīṇaṃ pariyādinnaṃ; appamattakaṃ avasiṭṭhaṃ. Saṅkhampi na upeti, upanidhampi na upeti, kalabhāgampi na upeti purimaṃ dukkhakkhandhaṃ parikkhīṇaṃ pariyādinnaṃ upanidhāya yadidaṃ sattakkhattuparamatā; yo ‘idaṃ dukkha’nti yathābhūtaṃ pajānāti…pe… ‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’ti yathābhūtaṃ pajānāti’’.
‘‘ตสฺมาติห , ภิกฺขเว, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยโค กรณีโย…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’ติ โยโค กรณีโย’’ติฯ ทสมํฯ
‘‘Tasmātiha , bhikkhave, ‘idaṃ dukkha’nti yogo karaṇīyo…pe… ‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’ti yogo karaṇīyo’’ti. Dasamaṃ.
อภิสมยวโคฺค ฉโฎฺฐฯ
Abhisamayavaggo chaṭṭho.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
นขสิขา โปกฺขรณี, สํเภชฺช อปเร ทุเว;
Nakhasikhā pokkharaṇī, saṃbhejja apare duve;
ปถวี เทฺว สมุทฺทา เทฺว, เทฺวมา จ ปพฺพตูปมาติฯ
Pathavī dve samuddā dve, dvemā ca pabbatūpamāti.