Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๑๐. ทุติยปมาทาทิวคฺควณฺณนา
10. Dutiyapamādādivaggavaṇṇanā
๙๘-๑๑๕. ทสเม วเคฺค อชฺฌตฺตสนฺตาเน ภวํ อชฺฌตฺติกํฯ อชฺฌตฺตสนฺตานโต พหิทฺธา ภวํ พาหิรํฯ วุตฺตปฎิปกฺขนเยนาติ ‘‘อวินาสายา’’ติ เอวมาทินา อโตฺถ คเหตโพฺพฯ จตุโกฺกฎิเกติ ‘‘อนุโยโค อกุสลานํ , อนนุโยโค กุสลานํ, อนุโยโค กุสลานํ, อนนุโยโค อกุสลาน’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๙๖) เอวํ ปริโยสานสุเตฺต อาคตนยํ คเหตฺวา ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อญฺญํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๑.๑๑) อาคตสุตฺตานํ สมญฺญา ชาตาฯ
98-115. Dasame vagge ajjhattasantāne bhavaṃ ajjhattikaṃ. Ajjhattasantānato bahiddhā bhavaṃ bāhiraṃ. Vuttapaṭipakkhanayenāti ‘‘avināsāyā’’ti evamādinā attho gahetabbo. Catukkoṭiketi ‘‘anuyogo akusalānaṃ , ananuyogo kusalānaṃ, anuyogo kusalānaṃ, ananuyogo akusalāna’’nti (a. ni. 1.96) evaṃ pariyosānasutte āgatanayaṃ gahetvā ‘‘nāhaṃ, bhikkhave, aññaṃ ekadhammampi samanupassāmī’’tiādinā (a. ni. 1.11) āgatasuttānaṃ samaññā jātā.
๑๓๐. สุตฺตนฺตนเย ยถาโจทนา สํกิเลสธมฺมานํ วิปริเยสนํ, ตํตํธมฺมโกฎฺฐาสานญฺจ อูนโต อธิกโต จ ปเวทนํ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีปนํฯ เตสํเยว ปน อวิปรีตโต อนูนาธิกโต จ ปเวทนํ ธมฺมํ ธโมฺมติ ทีปนํฯ เอวํ วินยปฺปฎิปตฺติยา อยถาวิธิปฺปเวทนํ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีปนํฯ ยถาวิธิปฺปเวทนํ ธมฺมํ ธโมฺมติ ทีปนํฯ สุตฺตนฺตนเยน ปญฺจวิโธ สํวรวินโย ปหานวินโย จ วินโย, ตปฺปฎิปเกฺขน อวินโยฯ วินยนเยน วตฺถุสมฺปทาทินา ยถาวิธิปฺปฎิปตฺติ เอว วินโย, ตพฺพิปริยาเยน อวินโย เวทิตโพฺพฯ ติํส นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยาติ เอตฺถ อิติ-สโทฺท อาทฺยโตฺถฯ เตน เทฺวนวุติ ปาจิตฺติยา, จตฺตาโร ปาฎิเทสนิยา, สตฺต อธิกรณสมถาติ อิเมสํ สงฺคโหฯ เอกติํส นิสฺสคฺคิยาติ เอตฺถ ‘‘เตนวุติ ปาจิตฺติยา’’ติอาทินา วตฺตพฺพํฯ เสสเมตฺถ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
130. Suttantanaye yathācodanā saṃkilesadhammānaṃ vipariyesanaṃ, taṃtaṃdhammakoṭṭhāsānañca ūnato adhikato ca pavedanaṃ adhammaṃ dhammoti dīpanaṃ. Tesaṃyeva pana aviparītato anūnādhikato ca pavedanaṃ dhammaṃ dhammoti dīpanaṃ. Evaṃ vinayappaṭipattiyā ayathāvidhippavedanaṃ adhammaṃ dhammoti dīpanaṃ. Yathāvidhippavedanaṃ dhammaṃ dhammoti dīpanaṃ. Suttantanayena pañcavidho saṃvaravinayo pahānavinayo ca vinayo, tappaṭipakkhena avinayo. Vinayanayena vatthusampadādinā yathāvidhippaṭipatti eva vinayo, tabbipariyāyena avinayo veditabbo. Tiṃsa nissaggiyā pācittiyāti ettha iti-saddo ādyattho. Tena dvenavuti pācittiyā, cattāro pāṭidesaniyā, satta adhikaraṇasamathāti imesaṃ saṅgaho. Ekatiṃsa nissaggiyāti ettha ‘‘tenavuti pācittiyā’’tiādinā vattabbaṃ. Sesamettha suviññeyyameva.
อธิคนฺตพฺพโต อธิคโม, มคฺคผลานิฯ นิพฺพานํ ปน อนฺตรธานาภาวโต อิธ น คยฺหติฯ ปฎิปชฺชนํ ปฎิปตฺติ, สิกฺขตฺตยสมาโยโคฯ ปฎิปชฺชิตพฺพโต วา ปฎิปตฺติฯ ปริยาปุณิตพฺพโต ปริยตฺติ, ปิฎกตฺตยํฯ มคฺคคฺคหเณน คหิตาปิ ตติยวิชฺชาฉฎฺฐาภิญฺญา วิชฺชาภิญฺญาสามญฺญโต ‘‘ติโสฺส วิชฺชา ฉ อภิญฺญา’’ติ ปุนปิ คหิตาฯ ตโต ปรํ ฉ อภิญฺญาติ วสฺสสหสฺสโต ปรํ ฉ อภิญฺญา นิพฺพเตฺตตุํ สโกฺกนฺติ, น ปฎิสมฺภิทาติ อธิปฺปาโยฯ ตโตติ อภิญฺญากาลโต ปจฺฉาฯ ตาติ อภิญฺญาโยฯ ปุพฺพภาเค ฌานสิเนหาภาเวน เกวลาย วิปสฺสนาย ฐตฺวา อคฺคผลปฺปตฺตา สุกฺขวิปสฺสกา นาม, มคฺคกฺขเณ ปน ‘‘ฌานสิเนโห นตฺถี’’ติ น วตฺตโพฺพ ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗๐) วจนโตฯ ปจฺฉิมกสฺสาติ สพฺพปจฺฉิมสฺสฯ กิญฺจาปิ อริโย อปริหานธโมฺม , โสตาปนฺนสฺส ปน อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อธิคตธโมฺม อุปฺปโนฺน นาม นตฺถิ, ปจฺจยสามคฺคิยา อสติ ยาว อุปริวิเสสํ นิพฺพเตฺตตุํ น สโกฺกนฺติ, ตาว อธิคมสฺส อสมฺภโว เอวาติ อาห – ‘‘โสตาปนฺนสฺส…เป.… นาม โหตี’’ติฯ ตสฺสิทํ มนุสฺสโลกวเสน วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Adhigantabbato adhigamo, maggaphalāni. Nibbānaṃ pana antaradhānābhāvato idha na gayhati. Paṭipajjanaṃ paṭipatti, sikkhattayasamāyogo. Paṭipajjitabbato vā paṭipatti. Pariyāpuṇitabbato pariyatti, piṭakattayaṃ. Maggaggahaṇena gahitāpi tatiyavijjāchaṭṭhābhiññā vijjābhiññāsāmaññato ‘‘tisso vijjā cha abhiññā’’ti punapi gahitā. Tato paraṃ cha abhiññāti vassasahassato paraṃ cha abhiññā nibbattetuṃ sakkonti, na paṭisambhidāti adhippāyo. Tatoti abhiññākālato pacchā. Tāti abhiññāyo. Pubbabhāge jhānasinehābhāvena kevalāya vipassanāya ṭhatvā aggaphalappattā sukkhavipassakā nāma, maggakkhaṇe pana ‘‘jhānasineho natthī’’ti na vattabbo ‘‘samathavipassanaṃ yuganaddhaṃ bhāvetī’’ti (a. ni. 4.170) vacanato. Pacchimakassāti sabbapacchimassa. Kiñcāpi ariyo aparihānadhammo , sotāpannassa pana uddhaṃ jīvitapariyādānā adhigatadhammo uppanno nāma natthi, paccayasāmaggiyā asati yāva uparivisesaṃ nibbattetuṃ na sakkonti, tāva adhigamassa asambhavo evāti āha – ‘‘sotāpannassa…pe… nāma hotī’’ti. Tassidaṃ manussalokavasena vuttanti daṭṭhabbaṃ.
น โจเทนฺตีติ อญฺญมญฺญสฺมิํ วิชฺชมานํ โทสํ ชานนฺตาปิ น โจเทนฺติ น สาเรนฺติฯ อกุกฺกุจฺจกา โหนฺตีติ กุกฺกุจฺจํ น อุปฺปาเทนฺติฯ ‘‘อสกฺกจฺจการิโน โหนฺตี’’ติ จ ปฐนฺติ, สาถลิกตาย สิกฺขาสุ อสกฺกจฺจการิโน โหนฺตีติ อโตฺถฯ ภิกฺขูนํ สเตปิ สหเสฺสปิ ธรมาเนติ อิทํ พาหุลฺลวเสน วุตฺตํฯ อนฺติมวตฺถุอนชฺฌาปเนฺนสุ กติปยมเตฺตสุปิ ภิกฺขูสุ ธรเนฺตสุ, เอกสฺมิํ วา ธรเนฺต ปฎิปตฺติ อนนฺตรหิตา เอว นาม โหติฯ เตเนวาห – ‘‘ปจฺฉิมกสฺส…เป.… อนฺตรหิตา โหตี’’ติฯ
Na codentīti aññamaññasmiṃ vijjamānaṃ dosaṃ jānantāpi na codenti na sārenti. Akukkuccakā hontīti kukkuccaṃ na uppādenti. ‘‘Asakkaccakārino hontī’’ti ca paṭhanti, sāthalikatāya sikkhāsu asakkaccakārino hontīti attho. Bhikkhūnaṃ satepi sahassepi dharamāneti idaṃ bāhullavasena vuttaṃ. Antimavatthuanajjhāpannesu katipayamattesupi bhikkhūsu dharantesu, ekasmiṃ vā dharante paṭipatti anantarahitā eva nāma hoti. Tenevāha – ‘‘pacchimakassa…pe… antarahitā hotī’’ti.
อเนฺตวาสิเก คเหตุนฺติ อเนฺตวาสิเก สงฺคเหตุํฯ อตฺถวเสนาติ อฎฺฐกถาวเสนฯ มตฺถกโต ปฎฺฐายาติ อุปริโต ปฎฺฐายฯ อุโปสถกฺขนฺธกมตฺตนฺติ วินยมาติกาปาฬิมาหฯ อาฬวกปญฺหาทีนํ วิย เทเวสุ ปริยตฺติยา ปวตฺติ อปฺปมาณนฺติ อาห – ‘‘มนุเสฺสสู’’ติฯ
Antevāsike gahetunti antevāsike saṅgahetuṃ. Atthavasenāti aṭṭhakathāvasena. Matthakato paṭṭhāyāti uparito paṭṭhāya. Uposathakkhandhakamattanti vinayamātikāpāḷimāha. Āḷavakapañhādīnaṃ viya devesu pariyattiyā pavatti appamāṇanti āha – ‘‘manussesū’’ti.
โอฎฺฐฎฺฐิวณฺณนฺติ โอฎฺฐานํ อฎฺฐิวณฺณํ, ทนฺตกสาวํ เอกํ วา เทฺว วา วาเร รชิตฺวา ทนฺตวณฺณํ กตฺวา ธาเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ เกเสสุ วา อลฺลียาเปนฺตีติ เตน กาสาวขเณฺฑน เกเส พนฺธนฺตา อลฺลียาเปนฺติฯ ภิกฺขุโคตฺตสฺส อภิภวนโต วินาสนโต โคตฺรภุโนฯ อถ วา โคตฺตํ วุจฺจติ สาธารณํ นามํ, มตฺตสโทฺท ลุตฺตนิทฺทิโฎฺฐ, ตสฺมา ‘‘สมณา’’ติ โคตฺตมตฺตํ อนุภวนฺติ ธาเรนฺตีติ โคตฺรภุโน, นามมตฺตสมณาติ อโตฺถฯ กาสาวคตกณฺฐตาย, กาสาวคฺคหณเหตุอุปฺปชฺชนกโสกตาย วา กาสาวกณฺฐาฯ สงฺฆคตนฺติ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนตฺตา สงฺฆคตํฯ ตํ สรีรนฺติ ตํ ธาตุสรีรํฯ
Oṭṭhaṭṭhivaṇṇanti oṭṭhānaṃ aṭṭhivaṇṇaṃ, dantakasāvaṃ ekaṃ vā dve vā vāre rajitvā dantavaṇṇaṃ katvā dhārentīti vuttaṃ hoti. Kesesu vā allīyāpentīti tena kāsāvakhaṇḍena kese bandhantā allīyāpenti. Bhikkhugottassa abhibhavanato vināsanato gotrabhuno. Atha vā gottaṃ vuccati sādhāraṇaṃ nāmaṃ, mattasaddo luttaniddiṭṭho, tasmā ‘‘samaṇā’’ti gottamattaṃ anubhavanti dhārentīti gotrabhuno, nāmamattasamaṇāti attho. Kāsāvagatakaṇṭhatāya, kāsāvaggahaṇahetuuppajjanakasokatāya vā kāsāvakaṇṭhā. Saṅghagatanti saṅghaṃ uddissa dinnattā saṅghagataṃ. Taṃ sarīranti taṃ dhātusarīraṃ.
เตเนวาติ ปริยตฺติอนฺตรธานมูลกตฺตา เอว อิตรอนฺตรธานสฺสฯ สโกฺก เทวราชา ฉาตกภเย ปรตีรคมนาย ภิกฺขู อุสฺสุกฺกมกาสีติ อธิปฺปาโยฯ เนติ อุภเยปิ ปํสุกูลิกเตฺถเร ธมฺมกถิกเตฺถเร จฯ เถราติ ตตฺถ ฐิตา สกฺขิภูตา เถราฯ ธมฺมกถิกเตฺถรา ‘‘ยาว ติฎฺฐนฺติ สุตฺตนฺตา…เป.… โยคเกฺขมา น ธํสตี’’ติ อิทํ สุตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘สุตฺตเนฺต รกฺขิเต สเนฺต, ปฎิปตฺติ โหติ รกฺขิตา’’ติ อิมินา วจเนน ปํสุกูลิกเตฺถเร อปฺปฎิภาเน อกํสุ ฯ อิทานิ ปริยตฺติยา อนนฺตรธานเมว อิตเรสํ อนนฺตรธานเหตูติ อิมมตฺถํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ อุปมาหิ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Tenevāti pariyattiantaradhānamūlakattā eva itaraantaradhānassa. Sakko devarājā chātakabhaye paratīragamanāya bhikkhū ussukkamakāsīti adhippāyo. Neti ubhayepi paṃsukūlikatthere dhammakathikatthere ca. Therāti tattha ṭhitā sakkhibhūtā therā. Dhammakathikattherā ‘‘yāva tiṭṭhantisuttantā…pe… yogakkhemā na dhaṃsatī’’ti idaṃ suttaṃ āharitvā ‘‘suttante rakkhite sante, paṭipatti hoti rakkhitā’’ti iminā vacanena paṃsukūlikatthere appaṭibhāne akaṃsu . Idāni pariyattiyā anantaradhānameva itaresaṃ anantaradhānahetūti imamatthaṃ byatirekato anvayato ca upamāhi vibhāvetuṃ ‘‘yathā hī’’tiādi vuttaṃ. Taṃ suviññeyyameva.
ทุติยปมาทาทิวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyapamādādivaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
๑๔๐-๑๕๐. เอกาทสมทฺวาทสมวคฺคา สุวิเญฺญยฺยา เอวฯ
140-150. Ekādasamadvādasamavaggā suviññeyyā eva.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya
๑๐. ทุติยปมาทาทิวโคฺค • 10. Dutiyapamādādivaggo
๑๑. อธมฺมวโคฺค • 11. Adhammavaggo
๑๒. อนาปตฺติวโคฺค • 12. Anāpattivaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)
๑๐. ทุติยปมาทาทิวคฺควณฺณนา • 10. Dutiyapamādādivaggavaṇṇanā
๑๑. อธมฺมวคฺควณฺณนา • 11. Adhammavaggavaṇṇanā
๑๒. อนาปตฺติวคฺควณฺณนา • 12. Anāpattivaggavaṇṇanā